"กับข้าวมาแล้วครับกับข้าว ๆๆๆๆ $%#@ " ไอ้พวกรถขายกับข้าว บางทีก็ขายผลไม้ กระถางต้นไม้ เดี่ยวนี้มันใช้เครื่องขยายเสียงดังมาก และบางคันมาแต่เช้า 6 โมง ผมและลูกๆต้องตื่นเพราะเสียงเครื่องขยายเสียงประกาศขายกับข้าวของรถเร่ขายกับข้าวมาจอดและประกาศเรียกลูกค้าหลายครั้ง
น่าจะมีหน่วยงานมาดูแล ห้ามส่งเสียง ก่อน 7 โมงก็ยังดี และก็ให้เสียงเบาๆหน่อย และห้ามส่งเสียงในช่วงกลางคืนด้วย แถวบ้านมีวิ่งอยู่หลายคัน บางวัน 3 ทุ่มแล้วยังมีเสียงพวกนี้มาอีก เยอะมาก น่ารำคาญจริงๆ " กับข้าวมาแล้วครับกับ ข้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ$#@$%
อย่ารำคาญเค้าเลยค่ะ เค้าก็ทำมาหากินของเค้าแบบสุจริต ตื่นมาตีสามสี่ไปซื้อของที่ตลาดสด
เพื่อมามาขายให้กับคนที่อยากทำกับข้าวทานเองแต่ไม่มีรถออกไปข้างนอก แม่ลูกอ่อนที่ไม่สามารถไปตลาดได้
มองอะไรที่ ++ เราก็มีความสุข
เมื่อก่อนเราเลี้ยงลูกเล็กอยู่ในบ้าน ก็ตะหงิดใจกลัวลูกตื่นค่ะ หลัง ๆ เข้าก็ต้องปรับเวลานอนลูก
เปลี่ยนที่เราจะดีกว่าเปลี่ยนที่เค้านะคะ อย่าคิดมากเลย
ถูกต้อง
เห็นด้วย
อยากให้ที่บ้านมีแบบนี้บ้างจัง
จะได้ไม่ต้องไปหาซื้อไกล
หมู่บ้านเขาไม่ให้เข้า
555 เป็นเหมือนกัน
แถวบ้านเรา รถขายผัก+ผลไม้ 5ทุ่มเที่ยงคืน จะนอนแล้วยังได้ยิน
แต่ก็เถอะ สมัยนี้ คนทำงานแต่เช้า กลับบ้านดึก ๆ
ตลาดที่ไหนจะเปิด แถวบ้านมีแค่ตลาดนัดบ่าย 2 ถึง 2ทุ่ม
จะซื้อเขากิน เป็นจาน ๆ มันก็แพงอยู่
ส่วนรถคันนี้คงวิ่งไปทั่ว มาบรรจบที่บ้านเราตอนเที่ยงคืนพอดี
กำลังนอน ได้ยินรถขายของ ท้องก็เลยร้องอีกที 555
ถ้ารถกับข้าว รถขายของ พวกนี้เราไม่รำคาญนะคะ เพราะเห็นว่าทำมาหากินสุจริต มาแป๊ปๆ เดี๋ยวก็ไปแล้ว
เรารำคาญพวกบ้านใกล้เคียงที่เปิดเพลงเสียงดังมากกว่า
ถ้าเป็นหมู่บ้าน เราสามารถกำหนดเวลาได้ครับ จะให้เข้ามาเวลาไหน หรือจะไม่ให้ก็ได้
ถ้ารำคาญเสียง ก็ให้เขาบีบแตรตลอดทางแทน เอ๊ยไม่ใช่ ให้เปิดเพลงที่ฟังก็รู้ว่ากับข้าวมาแล้ว เหมือนพวกรถไอศกรีมน่ะครับ
คนที่เขาต้องการก็ยังมีครับ หรือไม่ก็ลงมติเสียงส่วนใหญ่ไปเลย
รถกับข้าวเป็นการสนองตอบความต้องการของคนที่ทำกับข้าวกินเอง แต่ไม่มีเวลาไปจ่ายตลาดครับ สำหรับผมกับบ้านผมนะ นี่ครับ คือ เสียงสวรรค์ เพราะจะได้ไปซื้อมะนาว ปลาทู หัวไชเท้า ผักกาดหอมของโปรดมาทำกินครับ
พ่อค้าแม่ค้าเขาอัธยาศัยดีนะครับ อย่าคิดมากเลยครับ
ก็แล้วแต่คัน บางคันเกรงใจ เปิดลำโพงไม่ดังเท่าไหร่
บางคันเปิดดังมาก แถมพูดถี่
มองบวกเข้าไว้ครับ จะได้ไม่เครียด ว่าง ๆ ก็ลองไปซื้อเค้าดู แล้วบอกให้ช่วยเบาลำโพงหน่อยก็ดีนะ จะได้มาอุดหนุนอีก อิอิ
บางทีมันก็น่ารำคาญเหมือนกันนะครับ มาไม่เป็นเวลา เสียงดัง ไม่เกรงใจ
แถวบ้านผมมีร้านประจำหมู่บ้านอยู่แล้ว ไปซื้อก็สะดวก อุดหนุนคนในหมู่บ้านเดียวกันดีกว่า ขาดเหลืออะไรเดินไปซื้อได้อย่างสะดวกใจ ร้านหมู่บ้านนิสัยดีฝากซื้อของอย่างอื่นได้ด้วย บางทีอยากได้ผักแปลก ๆ หรืออะไรที่พิเศษ วานเค้าเค้าก็เต็มใจซื้อให้
สมมติซื้อของจากรถแล้วขาดเหลือ ผมไม่กล้าไปร้านในหมู่บ้านหรอก ละอายใจ
รถพวกนี้เข้ามาขายตัดหน้า ภาษีก็ไม่เสีย ค่าเช่าไม่เสีย รับเนื้อ ๆ ไม่ได้ให้อะไรคืนกับหมู่บ้านหรือสังคมเลย
นึกจะจอดหน้าบ้านเราก็จอด เปิดลำโพงเสียงดัง (จอดแล้วช่วนลดเสียงลงก็จะดี)
ของก็ใช่ว่าจะถูก ..แถมวิ่งรถทั้งวัน ของสดหรือไม่สดก็คงจะรู้กัน
รถพวกนี้เป็นทางเลือกสำหรับบางพื้นที่ ที่ตลาด ร้านเข้าไปไม่ถึงเช่น Siteงานก่อสร้าง หมู่บ้านไกล ๆ ……แล้วแต่ความสะดวกของแต่ล่ะคนครับ แต่ส่วนตัวผมไม่อุดหนุน….
คคห. ส่วนตัวล้วน ๆ
แถวหอผม วันไหนพิเศษๆ จะมีเพลงลุกทุ่ง สตริง เกาหลี มาให้ฟังตอน เช้าๆ หลังจากนั้นจะมีลุงแก่ๆมาเล่าว่าวันนี้วันอะไร มีความพิเศษยังไง มีกิจกรรมอะไรบ้าง ตอนแรกก็รำคาญแต่ไปๆมาๆก็ขำลุงแกดี ฟังเพลงทุกแนวเลย 55555
จริงค่ะ อย่าไปรำคาญเลยนะ บางทีเราก็อุดหนุนรถกับข้าวนะ คนทำมาหากินสุจริต อุดหนุนเถอะ ของในครัวขาดอย่าง 2 อย่าง ดีกว่าไปตลาดตั้งเยอะ
ได้ยินเสียงเพลิน ๆ ค่ะ
แถวบ้านแม่เราที่สระบุรี จะมาเป็นเวลาค่ะ ประมาณ 8 โมง โดยประมาณ โดยมีเสียงเพลงนำมาก่อน เป็นเสียงเพลงลูกทุ่งแหล่ะ
ชาวบ้านก็มารุมล้อมซื้อกับข้าวกับปลา
เผอิญบ้านเราไม่ได้อยู่ติดถนน เลยไม่มีผลกระทบทางเสียงค่ะ
และที่สำคัญเราว่าดีค่ะ มีตลาดมาถึงหน้าบ้านแบบนี้
แต่แถวบ้านเราที่กรุงเทพ เค้าจะมาจอดรอเรียงกัน ไม่มีเสียงรบกวนอีกเช่นกัน
แต่สมัยอยู่หอสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่ลาดกระบัง จะมีรถมาขายซาลาเปา ขนมจีบในหมู่บ้าน
เสียงจะมาก่อนเลย "ซาลาเปา ซาลาเปา ขนมจีบ"
พอได้ยินเสียง บางวันหิวกะจะออกมาซื้อซักหน่อย แต่ชะเง้อมองไม่เห็นรถซักที
จนเพื่อนๆแอบเรียกว่า ซาลาเปาผีสิง
ที่หมู่บ้านผมมีรถขายกับข้าวอยู่ 2 คัน รอบเช้าหกโมงครึ่ง
ตอนเย็นห้าโมง เค้าจะเปิดเพลงลูกทุ่งเบาๆ
ส่วนรถขายโอ่งหรืออื่นๆ มติกรรมการหมู่บ้านห้ามเข้าครับ
แถวบ้านผม ไม่มีเสียงเลยเดี๋ยวนี้ 7 โมงเป็นอันรู้ว่าเขามาแล้ว จอดที่ประจำ
แม่ผมไม่ต้องนั่งสองแถวไปตลาด
ลูกชายผม พูดเป็นประโยคคำแรกคือ "กับข้าววววว มาแล้วครับ กับข้าว"
ถัดจากนั้น เปลี่ยนคำใหม่เป็น "เตี๋ยวไก่ ยำแหนมมมม มาแล้วจ้าาาาาาา"
คนทำมาค้าขายอาชีพสุจริต ควรสนับสนุนครับ บางวันก็ได้รถกับข้าวนี่แหละทำให้หายหิว
พวกรถซาเล้งเก็บขยะ น่ากลัวกว่าเยอะ ขนาดถังขยะ มันยังเอา
ผมก็เคยรำคาญนะ..
แต่วันหนึ่งผมล้มเจ็บด้วยไข้หวัดใหญ่…
ก็ได้อาศัยของรถเร่ขายนี่แหละประทังชีวิต…
ตั้งแต่นั้นเลยเลิกรำคาญ…
ทำมาค้าขาย กับ ความเกรงใจ มันคนละเรื่องกัน
น่าเห็นใจทั้งสองฝ่าย อีกคนก็ทำมาหากิน
อีกคนทำงานมาเหนื่อยๆ ต้องมาสะดุ้งตื่นแต่เช้า ทุกวัน วันละหลายรอบ
น่าจะมีการพบกันครึ่งทางได้
ถ้าเป็นในหมู่บ้าน ก็ให้กรรมการหมู่บ้าน บอกยามไว้
ว่าให้บอกคนขายกับข้าวว่า มาเป็นเวลาช่วงกี่โมง และลดความดังเสียงลงหน่อย
คนที่ซื้อประจำเขารู้เวลา เดี๋ยวเขาก็มาซื้อ จะได้ไม่ต้องส่งเสียงเรียกแขกดังเกิน
ไม่ได้ห้ามไม่ให้ขาย ครับ แต่น่าจะใช้เสียงให้เบาลง และ เช้าๆ กับ ตอนค่ำ ไม่น่าจะใช้เครื่องขยายเสียง การทำมาหากิน สุจริต ก็ไม่ควรทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ด้วย
ของหมู่บ้านผม เขามาเงียบๆ คือคนเขารู้ว่าเขาจะมากี่โมงครับ ไม่เคยมีปัญหาเครื่องขยายเสียงเลยครับ
ม.ผมเข้าไม่ได้ แต่บ้านผมติดรั้วหมู่บ้าน TT_TT
ผมชอบนะ วันธรรมดาเหมือนนาฬิกาปลุก
แต่เสาร์อาทิตย์ก็รำคาญนิดหน่อย
ทำมาหากินแบบสุจริต
ความสะดวกสบายในการซื้ออาหารสดใกล้บ้าน
การใช้สิทธิเกินส่วนใช้เสียงดังมากในยามวิกาล
จริงๆ ๓ เรื่องข้างบนน่าจะเป็นคนละเรื่องเดียวกันนะคะ น่าจะแยกกันพิจารณาไม่เอามาปะปนกัน
(ขอเพิ่มเติมค่ะ)ที่บอกว่ายามวิกาลก็เพราะแถวบ้านมาตั้งแต่ตีห้าเลยค่ะ ฟ้้ายังมืดสนิท ดีที่เข้ามาในหมู่บ้านที่อยู่ไม่ได้ ได้ยินแต่เสียงลอยลมมาแต่ไกลตอนที่พาสุนัขเดินออกกำลัง ยังนึกสงสารคนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของหมู่บ้านซึ่งอยู่ติดกับบริเวณที่เขามาขาย กำลังหลับสบายแท้ๆเลย
บางคนหลงประเด็น
เรื่องทำมาหากินก็ส่วนเรื่องทำมาหากิน
เรื่องสะดวกสบายเรื่องกับข้าวกับปลาก็อีกเรื่อง
คำว่าหากินโดยสุจริตของพวกท่าน หมายความว่า "ไม่ได้ขายของผิดกฏหมาย ของเถื่อน หรือไปปล้นจี้ใครใช่หรือไม่"
การทำมาหากินสุจริต จะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่นด้วย
การเปิดเครื่องเข้าไปในหมู่บ้านในเวลา ที่คนกำลังพักผ่อนหลับนอนอยู่
เป็นการสร้างความเดือดร้อน ต้องเข้าใจว่า ทุกคนไม่ได้นอนแต่หัวค่ำ ตื่นเช้าๆทุกคน จะได้รีบลุกมาซื้อกับข้าวจากรถพวกนี้ ยังมีหลายๆท่านที่ทำงานเป็นกะ นอนดึกตีสองตีสาม ก็คงต้องการพักผ่อนเต็มที่
การขายอาหารเร่ เป็นการทำมาหากินโดยขายของอย่างสุจริตก็จริง แต่มันไม่ชอบธรรม ผิดมารยาท เป็นการละเมิดสิทธิ์ของคนอื่น
ไม่ต่างจาก การยึดเอา ทางเท้าสาธารณะมาตั้งขายของ พวกก็อ้างหากินโดยสุจริต แต่มันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ที่ต้องใช้ทางเดิน
แยกคำว่าการทำมาหากิน กับการละเมิดคนอื่นให้ออกก่อนครับ
การกระทำไดๆ แม้จะมองว่าไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร แต่ถ้าทำให้คนอื่นเดือดร้อน ผมถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สุจริตด้วย
จริงๆแล้ว พวกรถขยายเสียงมีกฎหมายควบคุมอยู่ ต้องขออนุญาตก่อน
และการเปิดเสียง อึกกระทึกครึกโครม ในที่สาธารณะก็มีความผิด
การก่อความเดือดร้นรำคาญแก่ผู้อื่นในที่สาธาณะ ก็มีความผิดตามลหุโทษ
อย่างนี้จะเรียกว่าสุจริตอีกหรือไม่
รำคาญนัก ขอแนะนำ ย้ายบ้าน ไปหาหมุ่บ้านแพงๆอยู่ รับรอง พวกขายของเข้าไปทำให้คุณรำคาญไม่ได้แน่นอน ซอยบ้านฉันมีรถเข้ามาขายประจำ รับซื้อของเก่า ผักผลไม้ราคาถูก ถูกจนสงสารชาวสวน ข้าวสาร ขนมจีบก๋วยเตี๊ยวหลอดร้อนๆ ปุ๋ย ดิน กระถาง ห่อหมกครับห่อหมก ลับมีลักกรรไกร รัยคัดหญ้า ตันเข้ากิ่งไม้ วนเวียนกันเข้ามาทุกวัน แต่ฉันไม่มีสิทธิรำคาญ เพราะเห็นใจในเพื่อนมนุษย์ที่เขาทำมาหากินโดยสุจริต เคยถามว่าเหนื่อยไหม เขาตอบว่าเหนื่อย บางครั้งก็ขายไม่ดี ขาดทุน น้ำมันแพง แต่ก็ต้องออกทุกวันเฉลี่ยกันไป ไม่ทำก็ไม่มีเงินส่งลูกเรียน เลี้ยงครบครัว เรามีบ้านอยู่สบาย มีเงินใช้ นอนหลับสบายในห้องแอร์ แล้วยังหงุดหงิดอีก จขกท ใจร้ายมาก น่าลองขับกระบะแบกกระถาง ดิน ปุ๋ย ต้นไม้ วิ่งขายบ้าง คงจะได้คำตอบอะไรบ้าง
คนจน จะทำอะไร จะละเมิดสิทธิ์ใครอย่างไร ก็ไม่ผิดครับ เพราะที่นี่ประเทศไทย
คห. 26 ครับ
สมมติเปลี่ยนจากคนจนขายของ มาเป็นรถบริษัท "ไก่ CP มาแล้วจ้า ไก่ CP มาแล้ว" คุณยังจะเห็นใจเขาอยู่ใหมครับ ในเมื่อเจ้าสัวเขาก็เป็นเพื่อนมนุษย์ที่ทำมาหากินโดยสุจริตเช่นกัน
ถ้าไม่เห็นใจ ความเห็นของคุณเขาเรียกว่า "สองมาตรฐาน" ครับ
โดนเหมือนกัน
ตาม # 25 ครับ ชัดเจนที่สุดแล้วครับ
การประกาศ ด้วยลำโพง ต้องขออนุญาต เจ้าพนักงานท้องถิ่นครับ
ซึ่ง จะอนุญาตให้เป็นครั้งคราว
ไม่อนุญาตพร่ำเพรื่อ
—————————————————–
ถ้าท่าน เคยทำงานเป็นกะ เช่น อยู่เฝ้า หน้าเตาไอน้ำ ของโรงไฟฟ้า
อยู่เวรดึกในโรงพยาบาล แล้ว กลับบ้านหกโมงเช้า
หวังว่าจะได้นอนให้สนิท ในบ้านของตน
แล้วมีเสียงประกาศ " โรงศพ มาแล้วครับ โรงศพ"
ทุกๆ วัน เวลา 10 โมงเช้า ที่หัวเตียงคุณ คุณจะเอาไหม
ผมเอง ก็โชคดี ที่มีข้าง บ้านตายไปคนหนึ่ง เวลา 9 โมง
วันนั้น เธออยู่ึคนเดียว จึงได้โบกรถ "โีรงศพ" มาบริการซะ
ช่าง เป็นการเืกื้อหนุน กระไรปานนั้น
อาชีพขายโรงศพ น่าเห็นใจครับ อย่างไร ก็ปล่อยๆ เขาไปนะครับ
————————————————
เออ เอาอย่างที่่ว่านี้ ดีไหม
———————————————–
หรือว่า เราอยากให้ทุกคนอยู่ในกติกาของสังคม
แล้ว สังคม เรา ประชาชาติเรา จะสงบร่มเิย็นกว่านี้
คนพวกนี้เขาไม่ได้รับความรู้มากพอที่จะเข้าใจได้ว่าอะไร คือ การรบกวนชาวบ้าน
สิ่งที่เขาทำ ก็ทำมาตามที่เคยทำในอดีต ซึ่งวิถีชีวิตในอดีตส่วนใหญ่จะตื่นเช้ากันอยู่แล้ว เขาจึงมาบริการตั้งแต่ตอนเช้า จึงไม่เป็นการรบกวน
แต่เวลาผ่านไป วิถีชีวิตคนเปลี่ยนไป คนหลากหลายมากขึ้น ตระหนักเรื่องสิทธิและเสรีภาพของตัวเองมากขึ้น(แต่หน้าที่ไม่่ค่อยจะเพิ่มตามทันแฮะ)
แต่รถขายของก็เป็นเหมือนเดิม เพราะมีแต่คนอุดหนุน ไม่มีใครไปบอกว่าเขารบกวน
ดังนั้น ต้องบอกเขาครับ ว่าสิ่งที่เขาทำเป็นการรบกวน ให้เขาหาวิธีอื่นๆ เช่น การบอกลูกค้าของเขาว่าจะมีทุกวันเวลานี้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องประกาศ
ซึ่งถ้าเขาไม่ทำตาม คุณจึงร้องเรียนไปตามกฎหมาย
สมัยก่อนทุกวัน เราก็รอพวกพ่อค้าแม่ค้านี่แหละ ได้กินของอร่อยๆ ทำให้อิ่มได้ตลอด แต่พวกเขาไม่เคยใช้เครื่องขยายเสียงอะไร ตะโกนปากเปล่า บรรยากาศสมัยก่อน เป็นแบบชาวบ้านมากๆ ไม่มีรถยนต์ติดเครื่องเสียง มีแต่หาบ หรือรถเข็น ชอบมากบรรยากาศแบบนี้
"กับข้าวมาแล้วครับกับข้าว ๆๆๆๆ $%#@ " รำคาญเสียงไอ้พวกนี้จริงๆ
===
หัวกระทู้แบบนี้ สร้างทัศนคติแบ่งแยก ดูถูกผู้อื่นครับ
เสียงดัง กฎหมายกำหนดให้ได้ไม่เกินกี่เดซิเบล
ถ้ารถคันไหนใช้เสียงเกิน คุณแจ้งตำรวจได้นิครับ
แต่ถ้าเขาไม่ได้ใช้เสียงเกินที่กฎหมายกำหนด
ช่วงเวลาที่กฎหมายกำหนดห้าม
ให้ศาลตัดสินครับ
========
คนจน จะทำอะไร จะละเมิดสิทธิ์ใครอย่างไร ก็ไม่ผิดครับ เพราะที่นี่ประเทศไทย
จากคุณ : rp
ทัศนคติแบบนี้ก็ไม่ถูก
เพราะคนรวยก็ละเมิดสิทธิ์คนอื่น โดยไม่ผิดเหมือนกันได้มากมาย เพราะที่นี่ประเทศไทย
รวย รวย รวย มากๆ เนี่ยะ ทั้งกอบโกย ทั้งรุกราน ทั้งเอาชีวิต ฯลฯ มากมายเลยนะครับ ไม่ผิดเช่นกัน
มาม่า..มาแล้วครับ มาม่า…
หึ..หึ..ลองไปอยู่บ้านใกล้ๆมัสยิด หรือ วัดสักหน่อยดีมั้ย แล้ว มาตั้งกระทู้แบบนี้ใหม่อีกที..
มีกระทู้แบบนี้ทำให้ผมคิดถึงบ้านที่ต่างจังหวัดมากๆเลย บรรยากาศถ้อยทีถ้อยอาศัย เริ่มจะหาไม่ได้แล้วที่กรุงเทพ
… เข้ามาดู
ถ้าถ้อยทีถ้อยอาศัย = ละเมิดสิทธิ์คนอื่น ผมก็ไม่เอาล่ะครับ
สังคมอยู่ได้ เพราะพึ่งพาอาศัยกันนะคะ แถวบ้านไม่มีค่ะ เพราอยู่ต่างจังหวัด อยู่สุดซอยเลย ก็เลยไม่มีใครเข้ามา
ก็แค่เปิดให้เบาลงหน่อย คนขายก็ขายได้ คนที่พักผ่อนก็ไม่เดือดร้อน
ใจเขาใจเรา แต่ละคนประสาทรับเสียงต่างกันไป บางคนเสียงดังๆก็หลับได้
บางคนดังหน่อยก็ตื่น
ในหมู่บ้านผม เค้าห้ามใช้เครื่องขยายเสียง
รถกับข้าวก็เลยใ้ช้บีบแตรเบาๆติดกัน3ครั้ง คนในหมู่บ้านเป็นอันรู้กัน
เค้าก็ขายของเค้าได้ แถมไม่เดือดร้อนคนที่หลับพักผ่อนด้วย
เข้าใจเจ้าของกระทู้ครับ สมัยอยู่บ้านเก่า วันหยุดช่วง6โมงกว่าๆยังหลับอยู่
มีรถกับข้าวเสียงดัง ทำเอาหงุดหงิดเหมือนกัน เปิดเบาหน่อยคนก็ได้ยินแล้ว
ยิ่ง3ทุ่มยังมาเปิดเสียงดังแบบนี้อีก เป็นผมก็รำคาญ
ทุกวันนี้สังคมไทยก็อยู่กันแบบเห็นใจกันอยู่แล้ว
แท๊กซี่(บางคัน) ก็ไม่เคารพกฎจราจร จอดรอรับผู้โดยสารตรงไหนก็ได้
จอดมันกลางป้ายรถเมล์ รถเมล์ก็จอดรับส่งคนเลนส์สอง
เดือดร้อนคนนอื่นไม่เป็นไร แต่จะว่าก็ไม่ได้เพราะทำมาหากินสุจริต
แม่ค้าขายของบนทางเท้า คนเดินก็ต้องลงมาเดินบนถนน เสี่ยงรถเฉี่ยวชนมากขึ้น ถ้าคุณโดนรถชน คนขับผิดไม่ก็คุณที่ไม่ระวัง? แม่ค้าไม่ผิดเพราะทำมาหากินสุจริต
ถ้าแบบนี้ไม่ว่ารวยหรือจน หรือทำมาหากินอะไร ก็มีเหตุผลคำว่าหากินสุจริต
ก็เลยทำอะไรก็ได้ กฏเกณฑ์ไม่สนใจ อะลุ่มอะล่วยกันไป พูดไปเหมือนว่าคนทำมาหากินอีก เฮ้อ
ผมว่านี่คือกระทู้ที่ตั้งโดยคนเมืองจริงๆ ความเอื้ออารีย์ ถ้อยทีถ้อยอาศัย ตามวิสัยแบบคนไทยมันเริ่มหดหายไปเรื่อยๆ ทุกอย่างเป็นสิทธิ์ เป็นความชอบธรรมตามกฎหมาย ถ้า รถขายของแบบนี้เค้ายังเข้ามาขายในหมู่บ้านอยู่เรื่อยๆ ก็แสดงว่าคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่เค้ายอมรับ ต่างฝ่ายต่างเอื้อประโยชน์ต่อกัน ถ้าเสียงมันดังนักก็แค่เดินไปบอกกัน พี่ครับ ลดความดังของลำโพงลงหน่อย แค่นี้มันคงจะไม่หนักหนาถึงขนาดยิงกันตายมังครับ คนมาค้าขายเค้าคงไม่อยากมีปัญหากับคนซื้อหรอก คนจนคือคนจนครับ ไม่ค่อยอยากมีปัญหากันคนรวยๆ อย่างคุณหรอกมั้ง
อยากให้ตัดประเด็นคนจน-คนรวยออกได้ไหมครับ ไม่เกี่ยวกันเลย ผมมองว่ามันเป็นแค่ข้ออ้างที่มีไว้ขอความเห็นใจจนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่ไม่ดีไปแล้วต่างหาก แถวบ้านผมก็ฐานะกลางๆเขาก็อยู่กันได้อย่างถนอมน้ำใจกัน
กฏหมายก็มีระบุไว้อยู่แล้วในเรื่องนี้ และไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดก็ต้องทำให้เท่าเทียมให้มากที่สุด แต่บางคร้งบ้านเมืองเราต้องการความสะดวกสบายจนบางครั้งก็ล้ำเส้นความมักง่ายเข้าไปเยอะเหมือนกัน