เริ่มเลยนะครับ
1.ปกติบ้านเดี่ยวแสดงความเป็นกรรมสิทธิ์โดยโฉนด แล้วห้องชุดหรือคอนโดฯ เค้าแสดงกรรมสิทธิ์กันยังไงครับ ในเมื่อที่เราอยู่กลางอากาศทับกันหลายเจ้าของ
2.โดยปกติแล้วคอนโดที่ขายขาด เราสามารถดำเนินการขอมิเตอร์น้ำไฟแยกต่างหากจากส่วนกลางได้หรือไม่ครับ (แยกเป็นของเราเองส่วนตัว ชำระกับทางประปา หรือไฟฟ้าโดยตรง)
3.ราคาประเมินของคอนโดประเมิณกันแบบไหนครับ อิงตามพื้นที่หรือไม่ครับ (คอนโดที่ผมจะซื้ออยู๋ใน อ.เมืองขอนแก่น ขนาด 76.8 ตรม. ห่างจากถนนมิตรภาพ 500 เมตร) พอจะประมาณราคาประเมินคร่าวๆ ได้ไหมครับ
4.สมมุติว่าอีก 20 ปี ข้างหน้าคอนโดที่เราซื้อนั้นหมดสภาพ หรือหมดความแข็งแรงที่จะใช้ในการอยู่อาศัย หรือว่าอาคารถล่ม (สมมุติครับ) เราจะมีสิทธิอะไรเหลือในพื้นที่นั้นบ้างครับ
5.ค่าโอนคอนโดในพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น คิดอัตราเท่าไหร่ของราคาประเมินครับ
พี่โชคดีได้อยู่ที่ขอนแก่นจะไปซื้อคอนโดทำไมหละครับ ที่ทางออกเหลือเฟือซื้อบ้านมีที่ดินดีกว่าไม่ต้องห่วง 20 ปีข้างหน้าด้วยร้อยปีที่ดินก็ยังชื่อพี่อยู่ คิดว่าที่ขอนแก่น คอนโดก็ให้พวกฝรั่งที่ขอนแก่นเขาซื้อไปเถอะครับเพราะตามกฏหมายไทย ฝรั่งมันถือครองได้ 49% ของกรรมสิทธิ์มันก็คงอยากมีโฉนดเป็นชื่อตัวมังครับ นอกจากนี้ผมไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรกับตึกสูงในที่ที่พี่ว่า แล้วพี่ไม่กลัวแผ่นดินไหวกับมาตราฐานการก่อสร้างบ้างหรือครับ
1.หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดครับ หน้าตาคล้ายโฉนด เปลี่ยนจากผังรูปที่ดินเป็นผังห้อง และเข้าใจว่าจะระบุอัตราส่วนกรรมสิทธิ์ของทรัพย์ส่วนกลางด้วย(ไม่แน่ใจ)
http://maramarod.wordpress.com/
2.มิเตอร์ไฟฟ้า ปกติการไฟฟ้าแยกให้อยู่แล้วครับ
ส่วนมิเตอร์ประปา มีปัจจัยเรื่องแรงดันน้ำ และขนาดท่อเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วแต่คอนโดครับ ถ้าเป็นแบบระบบถังพักน้ำรวม แล้วโครงการค่อยจ่ายน้ำไปตามห้อง แบบนี้ การประปาไม่แยกให้ครับ จ่ายค่าน้ำกับนิติบุคคลเอง
แต่ถ้าคอนโดนั้นส่วนใหญ่สามารถเดินท่อเข้าสู่ห้องชุดได้ โดยตรงโดยไม่ผ่านระบบน้ำรวม จะสามารถแยกมิเตอร์เองได้ครับ (น่าจะมีน้อยมาก)
3.สอบถามจาก สนง.ที่ดินในพื้นที่ได้ครับ หรือที่เว็ปกรมที่ดิน
http://www.dol.go.th
4.ทรัพย์ที่เหลือได้แก่ ที่ดิน สาธารณูปโภคส่วนกลาง เงินเอาประกันภัย
ฯลฯ ซึ่งจะแบ่งกันตามอัตรส่วนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ส่วนกลางครับ
เช่น สมมติ ห้องมี พท 50 ตรม ทั้งอาคารมี 1000 ตรม(เฉพาำะ พท ห้องชุด)
อัตราส่วนในทรัพย์ส่วนกลาง = 50/1000 = 5 % ครับ เมื่อก่อนคำนวณจากราคา แต่ปัจจุบันใช้เกณฑ์พื้นที่ครับ
5. เหมือนข้อ 3.ครับ
ขออภัยครับ
ข้างบนลืมบอกไปว่า
http://maramarod.wordpress.com/
เป็นเครดิตของพี่หมาร่า
สมาชิกห้องนี้ครับ
เขาแบ่งเป็นส่วน ๆ ครับ
ดูในโฉนดเราจะมี สิทธิ์กี่ส่วน กี่ส่วนครับ
1. มีโฉนดห้อง คล้ายๆ แปลนห้องเปล่าๆ มีขนาดความกว้างยาวของแต่ละด้าน (เหมือนโฉนดที่ดินแหละค่ะ) ในโฉนดจะบอกว่าห้องมีเนื้อที่เท่าไหร่ และกรรมสิทธิ์ส่วนกลางเท่าไหร่
2. คอนโดปัจจุบันส่วนมาก แยกแค่มิเตอร์ไฟฟ้า คือเราจ่ายค่าไฟตรงกับการไฟฟ้า ส่วนมิเตอร์น้ำยังเป็นของตึก ต้องจ่ายค่าน้ำกับนิติค่ะ (เพราะมีเรื่องการจัดการระบบน้ำ เช่น เครื่องปั๊มน้ำและถังพักน้ำ)
3. ราคาประเมินของแบงค์หรือของกรมค่ะ ถ้าของกรมดูได้ที่เวบนี้
http://www.treasury.go.th/internet/assessment/IndexAssessment.jsp?page=/internet/land/condo_ie/assess_condo.htm
ถ้าประเมินแบงค์ ไม่มีที่เช็คค่ะ คุณต้องให้แบงค์มาดูห้อง เขาจะประเมินจากสภาพห้องและสภาพแวดล้อม ซึ่งจะต้องเสียค่าประเมิน (แล้วแต่โปรโมชั่นแบงค์ บางแบงค์ ก็ประเมินฟรี บางแบงค์ก็เสียประมาณ 2,500-3,000 บาท)
4. ตาม คคห ที่ 2
5. รายละเอียดค่าโอนไปดูที่ blog เราตามนี้ค่ะ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=cordia&month=09-2010&date=30&group=1&gblog=6
อยู่ในกรุงเทพอาศัยคอนโดก็ไม่แปลก แต่เดี๋ยวนี้ตามต่างจังหวัดมีคอนโดขึ้นกันพอสมควร เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก และอีกหลายๆจังหวัดที่ผมไปเจอมา
สงสัยจริงๆว่า ชีวิตในต่างจังหวัดมันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรือที่จะต้องมาอุดอู้อยู่ในห้องคอนโด ที่ทางยังมีอีกเยอะแยะ การจราจรก็ไม่ได้ติดแบบเป็นชั่วโมงอย่างในกรุงเทพ
ถ้าอยู่คอนโด สิทธิของพื้นที่จะเรียกว่า เจ้าของร่วม เป็นเจ้าของกันหมดทุกห้อง ตามส่วน ถ้าตึกไม่โดนไฟไหม้ หรือ แผ่นดินไหวแล้วพัง ก็ไม่มีหมดอายุหรอกครับ เค้าก็ใช้กันไปเรื่อยๆ
คือความคิดที่จะซื้อคอนโดที่ขอนแก่น คืองี้ครับ
มันไม่ต้องดูแลมากนัก ดูแลแค่พื้นที่ที่เราอยู่ ส่วนกลางก็ให้คนดูแลไป
บ้านเดี่ยว หรือทาวเฮ้าส์มันราคาแพงกว่าคอนโด 2-3 เท่าในทำเลเดียวกัน
ตัวคนเดียว และเน้นความสะดวก เลยเลือกคอนโดครับ
อื้ออย่างนั้นขอให้มีความสุขครับ ผมเองก็ซื้อไว้บ้างเหมือนกันเข้าใจว่าขอนแก่นมีเขยฝรั่งเยอะพวกนี้หละครับทำราคาเฟ้อ ลองดูนะครับ ช่วงแรกที่กรรมสิทธิ์ฝรั่งถือครองได้ 49% ยังไม่เต็ม ราคาห้องก็จะสูงหน่อยเพราะมีฝรั่งมาช่วยปั่นเขาจะเก็งกำไรกันก็ตอนนี้ แต่วันไหนเต็มแล้วราคาตกครึ่งๆวันนั้นหละครับเตรียมช้อนได้เพราะเหลือแค่คนไทยด้วยกันเองแล้ว ลองพิจารณาดูนะครับ
ผมก็ไม่เห็นด้วยนะครับ ที่ซื้อคอนโดอยู่ค่างจังหวัดซื้อบ้านดีกว่าลองหาดู
อีกหน่อยนะครับ อยู่ต่างจังหวัดมันจะมีเวลาเหลือพอสมควรที่จะดูแลบ้าน
ปลูกต้นไม้ นั่งกินกาแฟหน้าบ้าน ผมว่ามีความสุขออก ชีวิตไม่ถึงกับรีบเร่งมาก
ยิ่งมีรถด้วยยิ่งดีใหญ่ บ้านน้าผมต้องขับรถ50โลไปกลับตัวเมืองเพื่อทำงาน
ท่านก็มีความสุขดี เสาร์อาทิตย์ อยู่กับครอบครัวบรรยากาศดีกว่ากันเยอะ
คอนโดอย่างไงมันก็ห้องสี่เหลี่ยม อยู่ๆไปมันจะอึดอัด ต้องมองอนาคตด้วย
ที่เขียนๆมาผมก็อยู่คอนโดนะครับขนาด55ต.ร.ม ที่กรุงเทพ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
ชีวิตผมทำงานในห้างครับ เลยคิดว่าเหมาะกับคอนโด
กว่าจะตื่น อาบน้ำเสร็จก็ไปทำงาน กลับมาถึงบ้านก็สี่ทุ่ม
ไม่มีเวลาดูแลพื้นที่รอบบ้านเลยครับ