กำลังจะซื้อบ้านแต่คิดไม่ออก ผู้รู้ช่วยทีนะครับ

27 thoughts on “กำลังจะซื้อบ้านแต่คิดไม่ออก ผู้รู้ช่วยทีนะครับ

  1. Tome@w

    สภาพแดดตอนบ่ายโมง ถึง บ่ายสามของบ้านเบอร์ 1

  2. Tome@w (Tome@w)

    แดดเข้าห้องนอนตอนบ่ายประมาณ 45 องศา

  3. banarm (banarm)

    ถ้าหมู่บ้านไม่ใหญ่มากเลือกอยู่ในๆดีมากเลยสงบไม่วุ่นวาย เพราะด้านหน้าคนเข้าออกตลอดเวลา แต่ด้านในมีคนเข้าไปเฉพาะคนที่มีบ้านอยู่เลยสงบ

  4. Tome@w (Tome@w)

    รูปแดดที่เข้าห้องนอนชั้น 2 และ 3 ตอนบ่ายโมงถึงบ่ายสาม

  5. umibozu

    เบอร์ 2 น่าสน
    เลยจากเดิมมาไม่ไกล
    เป็นซอยย่อยไม่ลึกมาก
    รถเข้าออกคงมีเฉพาะคนในซอยนี้
    ตีแบดฯหน้าบ้านได้ไม่ต้องหลบรถบ่อยๆ
    ถนนเมนรถผ่านไปมาเยอะ วุ่นวาย

    ส่วนเรื่องแบกอะไรนั่น
    แล้วเบอร์ 1 ไม่แบกหนักกว่าเหรอครับ
    ข้างละ 3 หลัง เชียวนะ เยอะกว่าอีก

    ถ้ามีคนทักอีกก็บอกว่า
    ดูดวงมาแล้ว หลังนี้ดีสุด

    เบอร์ 3 ไกลไปหน่อย

  6. Q (QDora)

    เบอร์ 2
    >> เป็นบ้านหลังกลางเกินไปต้องแบกด้านซ้ายและขวา คนจีนเขาถือกัน

    ต่างไง กับเบอร์ 1
    ก็กลางเหมือนกัน ?

  7. nuinonthaburi

    ผมก็ยังเลือกเบอร์ 1. เหมือนเดิม คนจีนเค้าชอบให้บ้านหันทิศใต้ไม่ใช่หรือ แดดส่องตอนบ่ายแก้ง่ายมากๆ ดีซะอีก แดดจะได้ช่วยฆ่าเชื้อโรค

  8. โสดจัง

    บ้านกลางเมือง เออร์บาเนี่ยน สินะครับเนี่ย

    หลังนี่ ดีสุดใน 3 หลังแล้วครับ

    หน้าบ้านทิศใต้ แดดบ่ายจะมีก็ช่วงหน้านี้เท่านั้นแหละครับ

    สัก ปลายๆ ตค. – กพ.

    แล้ว ช่วงที่เหลือของปี หน้าบ้าน จะไม่มีแดดบ่ายสาดเข้ามากวนใจอีกเลย

    ::::::::::::::::

    หลังที่ 3 ไกลไป ส่วนหลังที่ 2 ก็ดี… แต่ไม่รู้สิ ผมไม่ชอบเข้าซอย

  9. Nopparat_r1

    ก็ ปลูกต้นไม้
    ตีไม้ระแนง
    ลดความร้อน ซะสิครับ

  10. umibozu

    #10 AP เหรอครับเนี่ย ทาวน์เฮ้าส์เดี๋ยวนี้ แพงจัง

    วันก่อนไปดู "บ้านเดี่ยว" โครงการเล็กๆ
    เข้าซอยจากถนนเกษตร-นวมินทร์มาหน่อย (ซอยทะลุไปถึงเสนาฯได้ด้วย)
    ชื่ออะไรจำไม่ได้มีป้ายอยู่ก่อนถึงแยกไฟแดงลาดปลาเค้า หน่อยนึง
    ทั้งโครงการมี 9 หลัง ทางเข้าโครงการมีประตูรีโมท
    ให้ลูกบ้าน 9 หลัง เข้าออก ตัวบ้านเสร็จแล้วเกือบ 100 %
    ราคาถูกกว่า ทาวน์เฮ้า อีก ถ้าชอบสังคมเล็กๆ

    โครงการเล็กไม่แพง แต่ดูดีก็มีนะ ถ้าหาดีๆ

  11. โสดจัง

    #น่าจะใช่ AP นะครับ รอเจ้าของยืนยัน แต่หน้าตาแบบนี้ไม่น่าผิด

    โครงการที่ว่ามี 9 หลัง ค่าส่วนกลางไม่อาเจียนแตก เหรอครับ

  12. Tome@w (Tome@w)

    เป็นบ้านกลางเมือง AP ครับ ลาดพร้าวเสนา แต่ขอโทดด้วยครับที่ทำให้สับสนเนื่องจากผมลงตำแหน่งของบ้านเบอร์ 1 ผิด อันที่ถูกต้องเป็น block ถัดไปที่มีกันอยู่ 3 หลัง โดยเป็นหลังตรงกลาง ตามเส้นสีดำครับ ขอบคุณครับ

    -คุณ umibozu,Q (QDora) ขอโทษที่ลงข้อมูลผิด ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ

    -คุณโสดจัง แต่ผมยังสงสัยว่าปัจจุบันบ้านผมหันทางทิศใต้มันโดนแดดประมาณ 8 เดือนเลยอ่ะคับ

    อีกอย่างนึงทางโครงการไม่อนุญาตให้ต่อเติมใดๆหน้าบ้านชั้น 1 นอกจากใช้กันสาดของโครงการที่เป็นผ้าใบแบบพับเก็บได้เท่านั้น ส่วนการปลูกต้นไม่คาดว่าจะติดกันสาดตอนกางออกมาแน่นอนครับ

  13. Abarica

    เบอร์หนึ่งดีสุด

    หันทางทิศไต้เวลาหน้าร้อนจะเห็นคุณค่า

    หน้าหนาวหน้าบ้านร้อนหน่อย

  14. umibozu

    #14
    เท่าที่คุยกับเซล ลูกบ้านมีแค่ 9 หลัง
    ค่าส่วนกลางเก็บไว้ให้ก้อนหนึ่งตอนแรก
    หลังจากลูกบ้านครบก็ยกให้เป็นหน้าที่ของลูกบ้านทั้งหมด

    โครงการไม่ได้ไม่อะไรให้เยอะหรอกครับ
    ถนนหน้าบ้านร่วม ไฟถนน
    ประตูรีโมทสำหรับทางเข้าโครงการ
    ถ้าใครมาหาจะมี intercom หน้าประตูให้แขกกดหาบ้านนั้น
    ออกมากดรีโมทเปิดประตูโครงการให้แขกผู้มาเยือน
    กล้อง CCTV ตลอดถนน(ซึ่งสั้นมาก)และหลังบ้านแต่ละหลัง
    ส่วนกลางมีเท่านี้

    เป็นสังคมแบบ เล็กมากถึงมากที่สุด ครับ
    แต่ผมชอบนะ

  15. โสดจัง

    ผมตามติดเบอร์ 1 ครับ

    คอนเฟิร์ม ว่า แดดใต้ไม่ถึง 8 เดือนครับ

  16. Susisiri

    1 บ้านหันหน้าไปทางทิศใต้ ลมจะได้พัดผ่านตอนหน้าร้อน ถูกต้องเรื่องทิศทางลมค่ะ

    2 บ้านทาวน์เฮ้าจำเป็นต้องตากผ้าหน้าบ้าน จะได้แดดตากผ้า เพราะหลังบ้านมักจะต่อเติมเป็นครัว ปิดทึบ

    3 ทำเลที่ใกล้ที่สุด ย่นระยะทางการเดินทาง ซึ่งในอนาคตที่แน่นอนคือ การจอดรถฝั่งใดฝั่งหนึ่งยึดผิวการจราจรไปแล้ว  ทาวน์เฮ้าอยู่แล้วต้องทำใจในความแออัดจากสิ่งของที่มักจะล้นออกมาจากบ้านมาอยู่บริเวณถนนหน้าบ้านค่ะ

    4 แสงแดดจะเปลี่ยนทิศทางราวเดือนนี้ค่ะ สังเกตจากต้องย้ายราวตากผ้าตามค่ะ
    ที่บ้านหันหน้าไปทางทิศใต้ตามต้องการ ต้องหาแสงแดตากผ้าที่สนามหน้าบ้าน ถึงจะเป็นบ้านเดี่ยวก็เถอะ พอแดดร่มลมตกพัดเข้าทางหน้าบ้าน รื่นรมย์ดีมากค่ะ

    อย่าไปถือนั่น นี่มากนักค่ะ

  17. Kingdom of Heaven

    แดดที่เห็นส่องมา 45 องศานั่นมันเป็นเฉพาะช่วงเดือนตุลาคมถีงมกราคมของทุกปี ซึ่งก็คือหน้าหนาว ดวงอาทิตย์มันโคจรค่อนมาทางใต้ จึงเห็นทำมุม 45 องศานั่นแหละ แต่นอกช่วงเวลาดังกล่าว แดดจะไม่ส่องทิศใต้ แต่จะไปส่องด้านซ้ายขวาของบ้าน และไปส่องหลังบ้านซึ่งเป็นทิศเหนือ 45 องศาแทน ช่วงเวลาอื่นของปีจึงไม่มีแดดส่องหน้าบ้านอีก บ้านหันหน้าทิศใต้ก็เป็นแบบนี้
    ดังนั้น ให้ยืนตามที่เลือกไว้เดิมดีกว่า

  18. oio

    ถ้าเป็นผม เบอร์หนึ่ง ดีที่สุดแล้ว
    ทิศใต้ บ้านสดใส ไม่อับชื้น
    ถึงไม่มีเรื่องทิศมาเกี่ยวข้องก็เลือกเบอร์หนึ่งอยู่ดี
    ตามแปลนโครงการ มันจะวุ่นวายน้อยกว่าซอยเล็กๆ แคบๆ ที่มีรถจอด ทั้งหัวมุม ทั้งในซอย

  19. อมริสสา

    เห้นด้วยกับ ความเห็นที่ 20 ค่ะ เพราะปัจจุบันบ้านเราหันหน้าทางทิศเหนือ เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม แดดจะเริ่มส่องเข้าบ้านเค้าตั้งแต่ต้นเดือนตุลา และจะส่องเอียงเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนกุมภาพันธุ์แล้วถึงจะเริ่มถอยกลับ แต่พอเข้าฤดูร้อนลมจะพัดเข้าหลังบ้านเรา คือพัดเข้าหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามเรา ตลอดหน้าร้อน บ้านตรงข้ามเราจะรับลมตลอด แต่เราต้องเปิดประตูหลังบ้านลมถีงจะเข้า  ข้อดีของบ้านที่หันทางทิศเหนือคือ หน้าบ้านจะไม่เคยโดนแดดส่องเข้าภายในบ้าน ตลอดทั้งปี จะส่องแค่ชายคาบ้านเท่านั้น โดยเฉพาะหน้าหนาวหน้าบ้านจะร่มและรับลมเย็นสบาย

  20. เจ

    เอาในแง่ของตำแหน่งที่ตั้งก่อนนะครับ แปลงที่ 1 จะดีกว่าแปลงอื่นตรงที่ ทำเลอยู่บนถนนโครงการหลักและการเข้าถึงง่ายที่สุด แปลงที่ 2 รองลงมา ส่วนแปลงที่ 3 อยู่ลึกสุด ก็เข้าถึงยากสุด แต่ประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวและความสงบแปลงที่ 1 จะแย่สุด แปลงที่ 2 รองลงมา แปลงที่ 3 จะดีสุด สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงตามมาคือ การคาดการณ์ความหนาแน่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จริงอยู่ ณ ปัจจุบัน การอยู่อาศัยไม่เต็มจำนวน แต่ถ้าเริ่มมีการอยู่อาศัยจริงมากขึ้น คุณสามารถรับสภาพที่จะเกิดขึ้นได้ไหม แปลงแรก จำนวนยูนิตในฝั่งเดียวกับคุณและฝั่งตรงข้าม 15 ยูนิต แปลงที่ 2 10 ยูนิต แปลงที่ 3 6 ยูนิต ความหนาแน่นต่างกันแน่นอน ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง คือ ขนาดความกว้างของถนนด้านหน้าในแต่ละแปลง เพราะดูจากรูป ตัวบ้านน่าจะจอดรถได้ประมาณ 1 คัน หรือ 2 คัน ถ้าเป็นรถเล็ก ซึ่งการจอดรถหน้าบ้านก็จะเป็นเรื่องเหมือนจะปกติไปแล้ว คุณต้องลองจินตนาการตามที่เหลือหล่ะครับ ว่าถ้าจอด หน้าบ้านทั้งสองฝั่ง แล้วตรงกลางเหลือช่องจราจรเท่าไหร่ แปลงไหนจะเกิดปัยหาที่ว่าน้อยกว่ากัน

    ประเด็นต่อมา คือ เรื่องที่ดินข้างเคียง ทุกแปลงติดที่ดินข้างเคียงหมด ยกเว้นแปลงที่ 2 ที่ติดบางส่วน เรื่องความปลอดภัยคงไม่ต่างกันมาก เนื่องจากทุกแปลงมีด้านที่ติดที่ดินข้างเคียงหมด แต่ ณ ตอนนี้ควรดูสภาพการใช้ที่ดินของที่ดินข้างเคียงว่าเป็นอะไร สภาพแวดล้อมรับได้ไหม การคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับที่ดินข้างเคียงในอนาคต

    ประเด็นต่อมา เรื่องการจัดวางอาคาร อยากบอกว่า ดูแค่ว่าบ้านหันหน้าไปทางทิศไหนอย่างเดียวมันค่อนข้างหยาบไปหน่อยหน่ะครับ สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงเลยคือ ผังบ้านว่าเป็นอย่างไร ปกติเรามีความเชื่อฝังหัวกันมาว่า ลมมาจากตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งก็จริงเพราะเป็นลมประจำฤดู ซึ่งหลักๆ ก็เป็นแบบนั้น แต่เอาเข้าจริงทุกวันนี้ ลมมันมาทุกทิศทางหล่ะครับ เพราะสภาพแวดล้อมมันเปลี่ยน มีปัจจัยอื่นๆ เยอะแยะที่ทำให้ทิศทางลมมันจะเข้าบ้านหรือไม่เข้า อันนี้ต้องดูจากสถานที่จริงครับ บางทีใช่ว่าหันหน้าทิศใต้ลมจะเข้าเสมอไป เนื่องจากฝั่งตรงข้ามก็เป็นอาคารเหมือนกัน ซึ่งหมายถึงเป็นแนวบังลมอย่างดี ลมจะเข้าหรือไม่เข้าบ้านคุณ มันจะสัมพันธ์กับขนาดและความสูงของอาคารแปลงที่บังทิศทางลมธรรมชาติ และถนนด้านหน้าแปลงว่ามีความกว้างขนาดไหน พอมีระยะให้ลมตกลงมาบ้างได้เท่าไหร้ ซึ่งถ้าว่ากันตามนี้ แปลงที่ 2 โอกาสลมธรรมชาติจะเข้าน้อยที่สุด ส่วนแปลงที่ 1 กับแปลงที่ 3 คาดว่าแปลงที่ 3 มีโอกาสรับลมธรรมชาติสูงกว่า เพียงแต่ว่า ลมจะเข้าจากทางหลังบ้าน เนื่องจากคุณบอกว่า ที่ดินด้านข้างเป็นบ้านจัดสรร ซึ่งความสูงอาคารคงไม่เกิน 2 ชั้น และรั้ว โครงการ 4 เมตร เมื่อเทียบกับแปลงที่ 1 ที่มีอาคารสูง 3 ชั้นเป็นแนวกำบังลม โอกาสที่ลมจะเข้ามีสูงกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับที่บอกไปหล่ะครับ ว่าถนนโครงการกว้างมากน้อยขนาดไหน ถ้ากว้างมากระยะให้ลมธรรมชาติม้วนลงมาพัดก็พอมี ซึ่งตรงนี้ก็จะสัมพันธ์กับสิ่งที่บอกคุณไปแต่แรกว่า ผังบ้านเป็นอย่างไร function ภายในเป็นอย่างไร คุณต้องการให้ห้องไหนสามารถรับลมธรรมชาติได้บ้าง อยากให้เข้าหน้าบ้านหรือหลังบ้าน

    ประเด็นต่อมาคือ เรื่องเส้นทางโคจรของดวงอาทิตย์ ทุกแปลงเป็นแปลงกลางหมด จึงตัดเรื่องความร้อนที่เกิดขึ้นจากการมีผนังรับแดดไป เส้นทางโคจรของดวงอาทิตย์ในบ้านเราส่วนใหญ่จะอ้อมใต้มีเพียงประมาณ 4 เดือนที่วกขึ้นไปอ้อมเหนือ เดือนธันวาเนี่ยหล่ะ จะเป็นเดือนที่ ดวงอาทิตย์ทำมุมเอียงกับพื้นโลกทางทิศใต้ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจแดดจะเข้าบ้านเยอะที่สุดและจะค่อยๆ ทำองศาเอียงมากๆขึ้น ไปจนเอียงด้านทิศเหนือมากสุดในเดือนมิถุนายน ซึ่งตอนนั้นแดดจะเข้ามาทางทิศเหนือ แต่จะไม่ทะลุทะลวงเท่าเนื่องจากองศาไม่มาก ดังนั้นผลที่จะเกิดกับอาคารก็มีตรงที่

    แปลงที่ 2 จะเป็นแปลงที่รับแดด เช้า และแดด บ่ายอย่างชั่วนาตาปี เพราะช่องเปิดจะไปอยู่ในแนวนั้นพอดี คืออยู่แนวตะวันออก ตะวันตก ซึ่งคุณน่าจะทนทุกข์กับแดดทั้งช่วงครึ่งเช้าด้านหน้าบ้านและแดดครึ่งบ่ายด้านหลังบ้าน สำหรับแปลงนี้ ละได้ก็ละครับ
    ส่วนแปลงที่ 1 กับแปลงที่ 3 รูปแบบจะเหมือนกันเพียงแต่ต่างกันตรงที่แดดเข้าหน้าบ้านกับหลังบ้านเท่านั้น แต่แปลงที่ 1 จะดูรุนแรงมากกว่าแปลงที่ 3 ตรงที่ ช่วงเดือนที่ดวงอาทิตย์อ้อมใต้ แดดจะเข้าทางหน้าบ้านตลอด ซึ่งในทางกลับกัน แปลงที่ 3 จะเข้าทางหลังบ้านตลอดเช่นกัน ส่วนเดือนที่ดวงอาทิตย์อ้อมเหนือ แปลงที่ 1 แดดจะเข้าหลังบ้าน ส่วนแปลงที่ 3 จะเข้าหน้าบ้าน ซึ่งก็จะต้องถามถึงผังบ้านหล่ะครับ ว่าผังเป็นแบบไหน ห้องไหนอยู่หน้าหลังบ้าง ห้องน้ำ ครัว ห้องนอน โถงบันไดอยู่ตรงไหน และถามใจคุณว่า คุณต้องการให้พื้นที่ไหน รับแดด และไม่โดนแดดบ้าง เพราะพื้นที่อยู่อาศัยจริงเช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ไม่ควรโดนแดดโดยตรง แต่ควรมีแสงสว่างเข้ามาเพียงพอ เพราะถ้าพื้นที่โดนแดดจะเกิดการสะสมความร้อนในตัวอาคาร และจะเป็นภาระในการทำความเย็น ซึ่งคุณก็คงต้องติดแอร์เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งมันก็จะเป็นภาระไม่จบสิ้นในอนาคตครับ

    ผมคงไม่สามารถเชียร์ให้เลือกแปลงไหนได้นะครับ เพราะผมยังไม่เห็นผังอาคาร เอาว่า จขกท ถ้ามีเวลาลองเอาข้อมูลที่บอกไป ลองไปดูรายละเอียดอีกที่ครับ แล้วค่อยตัดสินใจ

  21. กระต่ายหลังยาว

    เคยจะจองอีกฝั่ง หลังมุมวิวสนามไดฟ์ แต่สู้ราคาไม่ไหว
    เชียร์ 1 ทิศใต้ครับ

  22. Don Julio

    2 กับ 3  โอเค กว่าในแง่ของความสงบ การเลือกที่พักอาศัยผมให้น้ำหนักกับความสงบ(ไม่มีรถวิ่งผ่านไปมาทั้งวัน) และทิศทางของแดดทิศตะวันตก(ช่วงบ่าย)ที่มีผลต่ออุณหภูมิภายในบ้านครับ และถ้ามีลมโชยผ่านแบบเย็นสบายๆด้วยก็ยิ่งสุดยอดเลยครับ(ไม่เปลืองไฟค่าแอร์)

  23. jamjung

    เป็นผมซื้อหลังที่ 3 ครับ ขอราคาที่ถูกที่สุด เพราะจากมุมมองของผม อยู่หลัง3มีเพื่อนบ้านหกหลัง รถไม่วุ่นวายปัญหาน่าน้อยสุดและสงบสุดนะ เพราะทางเข้าแค่ประมาณ 300 เมตรเดินยังไม่เหนื่อยเลย

Comments are closed.