banarm (banarm) December 28, 2010 at 2:16 am ถ้าหมู่บ้านไม่ใหญ่มากเลือกอยู่ในๆดีมากเลยสงบไม่วุ่นวาย เพราะด้านหน้าคนเข้าออกตลอดเวลา แต่ด้านในมีคนเข้าไปเฉพาะคนที่มีบ้านอยู่เลยสงบ
umibozu December 28, 2010 at 2:16 am เบอร์ 2 น่าสนเลยจากเดิมมาไม่ไกลเป็นซอยย่อยไม่ลึกมากรถเข้าออกคงมีเฉพาะคนในซอยนี้ตีแบดฯหน้าบ้านได้ไม่ต้องหลบรถบ่อยๆถนนเมนรถผ่านไปมาเยอะ วุ่นวาย ส่วนเรื่องแบกอะไรนั่นแล้วเบอร์ 1 ไม่แบกหนักกว่าเหรอครับข้างละ 3 หลัง เชียวนะ เยอะกว่าอีก ถ้ามีคนทักอีกก็บอกว่าดูดวงมาแล้ว หลังนี้ดีสุด เบอร์ 3 ไกลไปหน่อย
Q (QDora) December 28, 2010 at 2:16 am เบอร์ 2>> เป็นบ้านหลังกลางเกินไปต้องแบกด้านซ้ายและขวา คนจีนเขาถือกัน ต่างไง กับเบอร์ 1ก็กลางเหมือนกัน ?
nuinonthaburi December 28, 2010 at 2:16 am ผมก็ยังเลือกเบอร์ 1. เหมือนเดิม คนจีนเค้าชอบให้บ้านหันทิศใต้ไม่ใช่หรือ แดดส่องตอนบ่ายแก้ง่ายมากๆ ดีซะอีก แดดจะได้ช่วยฆ่าเชื้อโรค
โสดจัง December 28, 2010 at 2:16 am บ้านกลางเมือง เออร์บาเนี่ยน สินะครับเนี่ย หลังนี่ ดีสุดใน 3 หลังแล้วครับ หน้าบ้านทิศใต้ แดดบ่ายจะมีก็ช่วงหน้านี้เท่านั้นแหละครับ สัก ปลายๆ ตค. – กพ. แล้ว ช่วงที่เหลือของปี หน้าบ้าน จะไม่มีแดดบ่ายสาดเข้ามากวนใจอีกเลย :::::::::::::::: หลังที่ 3 ไกลไป ส่วนหลังที่ 2 ก็ดี… แต่ไม่รู้สิ ผมไม่ชอบเข้าซอย
umibozu December 28, 2010 at 2:16 am #10 AP เหรอครับเนี่ย ทาวน์เฮ้าส์เดี๋ยวนี้ แพงจัง วันก่อนไปดู "บ้านเดี่ยว" โครงการเล็กๆ เข้าซอยจากถนนเกษตร-นวมินทร์มาหน่อย (ซอยทะลุไปถึงเสนาฯได้ด้วย)ชื่ออะไรจำไม่ได้มีป้ายอยู่ก่อนถึงแยกไฟแดงลาดปลาเค้า หน่อยนึงทั้งโครงการมี 9 หลัง ทางเข้าโครงการมีประตูรีโมทให้ลูกบ้าน 9 หลัง เข้าออก ตัวบ้านเสร็จแล้วเกือบ 100 %ราคาถูกกว่า ทาวน์เฮ้า อีก ถ้าชอบสังคมเล็กๆ โครงการเล็กไม่แพง แต่ดูดีก็มีนะ ถ้าหาดีๆ
โสดจัง December 28, 2010 at 2:16 am #น่าจะใช่ AP นะครับ รอเจ้าของยืนยัน แต่หน้าตาแบบนี้ไม่น่าผิด โครงการที่ว่ามี 9 หลัง ค่าส่วนกลางไม่อาเจียนแตก เหรอครับ
Tome@w (Tome@w) December 28, 2010 at 2:16 am เป็นบ้านกลางเมือง AP ครับ ลาดพร้าวเสนา แต่ขอโทดด้วยครับที่ทำให้สับสนเนื่องจากผมลงตำแหน่งของบ้านเบอร์ 1 ผิด อันที่ถูกต้องเป็น block ถัดไปที่มีกันอยู่ 3 หลัง โดยเป็นหลังตรงกลาง ตามเส้นสีดำครับ ขอบคุณครับ -คุณ umibozu,Q (QDora) ขอโทษที่ลงข้อมูลผิด ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ -คุณโสดจัง แต่ผมยังสงสัยว่าปัจจุบันบ้านผมหันทางทิศใต้มันโดนแดดประมาณ 8 เดือนเลยอ่ะคับ อีกอย่างนึงทางโครงการไม่อนุญาตให้ต่อเติมใดๆหน้าบ้านชั้น 1 นอกจากใช้กันสาดของโครงการที่เป็นผ้าใบแบบพับเก็บได้เท่านั้น ส่วนการปลูกต้นไม่คาดว่าจะติดกันสาดตอนกางออกมาแน่นอนครับ
Abarica December 28, 2010 at 2:16 am เบอร์หนึ่งดีสุด หันทางทิศไต้เวลาหน้าร้อนจะเห็นคุณค่า หน้าหนาวหน้าบ้านร้อนหน่อย
umibozu December 28, 2010 at 2:16 am #14 เท่าที่คุยกับเซล ลูกบ้านมีแค่ 9 หลังค่าส่วนกลางเก็บไว้ให้ก้อนหนึ่งตอนแรกหลังจากลูกบ้านครบก็ยกให้เป็นหน้าที่ของลูกบ้านทั้งหมด โครงการไม่ได้ไม่อะไรให้เยอะหรอกครับถนนหน้าบ้านร่วม ไฟถนนประตูรีโมทสำหรับทางเข้าโครงการถ้าใครมาหาจะมี intercom หน้าประตูให้แขกกดหาบ้านนั้นออกมากดรีโมทเปิดประตูโครงการให้แขกผู้มาเยือนกล้อง CCTV ตลอดถนน(ซึ่งสั้นมาก)และหลังบ้านแต่ละหลังส่วนกลางมีเท่านี้ เป็นสังคมแบบ เล็กมากถึงมากที่สุด ครับแต่ผมชอบนะ
Susisiri December 28, 2010 at 2:17 am 1 บ้านหันหน้าไปทางทิศใต้ ลมจะได้พัดผ่านตอนหน้าร้อน ถูกต้องเรื่องทิศทางลมค่ะ 2 บ้านทาวน์เฮ้าจำเป็นต้องตากผ้าหน้าบ้าน จะได้แดดตากผ้า เพราะหลังบ้านมักจะต่อเติมเป็นครัว ปิดทึบ 3 ทำเลที่ใกล้ที่สุด ย่นระยะทางการเดินทาง ซึ่งในอนาคตที่แน่นอนคือ การจอดรถฝั่งใดฝั่งหนึ่งยึดผิวการจราจรไปแล้ว ทาวน์เฮ้าอยู่แล้วต้องทำใจในความแออัดจากสิ่งของที่มักจะล้นออกมาจากบ้านมาอยู่บริเวณถนนหน้าบ้านค่ะ 4 แสงแดดจะเปลี่ยนทิศทางราวเดือนนี้ค่ะ สังเกตจากต้องย้ายราวตากผ้าตามค่ะที่บ้านหันหน้าไปทางทิศใต้ตามต้องการ ต้องหาแสงแดตากผ้าที่สนามหน้าบ้าน ถึงจะเป็นบ้านเดี่ยวก็เถอะ พอแดดร่มลมตกพัดเข้าทางหน้าบ้าน รื่นรมย์ดีมากค่ะ อย่าไปถือนั่น นี่มากนักค่ะ
Kingdom of Heaven December 28, 2010 at 2:17 am แดดที่เห็นส่องมา 45 องศานั่นมันเป็นเฉพาะช่วงเดือนตุลาคมถีงมกราคมของทุกปี ซึ่งก็คือหน้าหนาว ดวงอาทิตย์มันโคจรค่อนมาทางใต้ จึงเห็นทำมุม 45 องศานั่นแหละ แต่นอกช่วงเวลาดังกล่าว แดดจะไม่ส่องทิศใต้ แต่จะไปส่องด้านซ้ายขวาของบ้าน และไปส่องหลังบ้านซึ่งเป็นทิศเหนือ 45 องศาแทน ช่วงเวลาอื่นของปีจึงไม่มีแดดส่องหน้าบ้านอีก บ้านหันหน้าทิศใต้ก็เป็นแบบนี้ดังนั้น ให้ยืนตามที่เลือกไว้เดิมดีกว่า
oio December 28, 2010 at 2:17 am ถ้าเป็นผม เบอร์หนึ่ง ดีที่สุดแล้วทิศใต้ บ้านสดใส ไม่อับชื้นถึงไม่มีเรื่องทิศมาเกี่ยวข้องก็เลือกเบอร์หนึ่งอยู่ดีตามแปลนโครงการ มันจะวุ่นวายน้อยกว่าซอยเล็กๆ แคบๆ ที่มีรถจอด ทั้งหัวมุม ทั้งในซอย
อมริสสา December 28, 2010 at 2:17 am เห้นด้วยกับ ความเห็นที่ 20 ค่ะ เพราะปัจจุบันบ้านเราหันหน้าทางทิศเหนือ เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม แดดจะเริ่มส่องเข้าบ้านเค้าตั้งแต่ต้นเดือนตุลา และจะส่องเอียงเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนกุมภาพันธุ์แล้วถึงจะเริ่มถอยกลับ แต่พอเข้าฤดูร้อนลมจะพัดเข้าหลังบ้านเรา คือพัดเข้าหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามเรา ตลอดหน้าร้อน บ้านตรงข้ามเราจะรับลมตลอด แต่เราต้องเปิดประตูหลังบ้านลมถีงจะเข้า ข้อดีของบ้านที่หันทางทิศเหนือคือ หน้าบ้านจะไม่เคยโดนแดดส่องเข้าภายในบ้าน ตลอดทั้งปี จะส่องแค่ชายคาบ้านเท่านั้น โดยเฉพาะหน้าหนาวหน้าบ้านจะร่มและรับลมเย็นสบาย
เจ December 28, 2010 at 2:17 am เอาในแง่ของตำแหน่งที่ตั้งก่อนนะครับ แปลงที่ 1 จะดีกว่าแปลงอื่นตรงที่ ทำเลอยู่บนถนนโครงการหลักและการเข้าถึงง่ายที่สุด แปลงที่ 2 รองลงมา ส่วนแปลงที่ 3 อยู่ลึกสุด ก็เข้าถึงยากสุด แต่ประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวและความสงบแปลงที่ 1 จะแย่สุด แปลงที่ 2 รองลงมา แปลงที่ 3 จะดีสุด สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงตามมาคือ การคาดการณ์ความหนาแน่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จริงอยู่ ณ ปัจจุบัน การอยู่อาศัยไม่เต็มจำนวน แต่ถ้าเริ่มมีการอยู่อาศัยจริงมากขึ้น คุณสามารถรับสภาพที่จะเกิดขึ้นได้ไหม แปลงแรก จำนวนยูนิตในฝั่งเดียวกับคุณและฝั่งตรงข้าม 15 ยูนิต แปลงที่ 2 10 ยูนิต แปลงที่ 3 6 ยูนิต ความหนาแน่นต่างกันแน่นอน ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง คือ ขนาดความกว้างของถนนด้านหน้าในแต่ละแปลง เพราะดูจากรูป ตัวบ้านน่าจะจอดรถได้ประมาณ 1 คัน หรือ 2 คัน ถ้าเป็นรถเล็ก ซึ่งการจอดรถหน้าบ้านก็จะเป็นเรื่องเหมือนจะปกติไปแล้ว คุณต้องลองจินตนาการตามที่เหลือหล่ะครับ ว่าถ้าจอด หน้าบ้านทั้งสองฝั่ง แล้วตรงกลางเหลือช่องจราจรเท่าไหร่ แปลงไหนจะเกิดปัยหาที่ว่าน้อยกว่ากัน ประเด็นต่อมา คือ เรื่องที่ดินข้างเคียง ทุกแปลงติดที่ดินข้างเคียงหมด ยกเว้นแปลงที่ 2 ที่ติดบางส่วน เรื่องความปลอดภัยคงไม่ต่างกันมาก เนื่องจากทุกแปลงมีด้านที่ติดที่ดินข้างเคียงหมด แต่ ณ ตอนนี้ควรดูสภาพการใช้ที่ดินของที่ดินข้างเคียงว่าเป็นอะไร สภาพแวดล้อมรับได้ไหม การคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับที่ดินข้างเคียงในอนาคต ประเด็นต่อมา เรื่องการจัดวางอาคาร อยากบอกว่า ดูแค่ว่าบ้านหันหน้าไปทางทิศไหนอย่างเดียวมันค่อนข้างหยาบไปหน่อยหน่ะครับ สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงเลยคือ ผังบ้านว่าเป็นอย่างไร ปกติเรามีความเชื่อฝังหัวกันมาว่า ลมมาจากตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งก็จริงเพราะเป็นลมประจำฤดู ซึ่งหลักๆ ก็เป็นแบบนั้น แต่เอาเข้าจริงทุกวันนี้ ลมมันมาทุกทิศทางหล่ะครับ เพราะสภาพแวดล้อมมันเปลี่ยน มีปัจจัยอื่นๆ เยอะแยะที่ทำให้ทิศทางลมมันจะเข้าบ้านหรือไม่เข้า อันนี้ต้องดูจากสถานที่จริงครับ บางทีใช่ว่าหันหน้าทิศใต้ลมจะเข้าเสมอไป เนื่องจากฝั่งตรงข้ามก็เป็นอาคารเหมือนกัน ซึ่งหมายถึงเป็นแนวบังลมอย่างดี ลมจะเข้าหรือไม่เข้าบ้านคุณ มันจะสัมพันธ์กับขนาดและความสูงของอาคารแปลงที่บังทิศทางลมธรรมชาติ และถนนด้านหน้าแปลงว่ามีความกว้างขนาดไหน พอมีระยะให้ลมตกลงมาบ้างได้เท่าไหร้ ซึ่งถ้าว่ากันตามนี้ แปลงที่ 2 โอกาสลมธรรมชาติจะเข้าน้อยที่สุด ส่วนแปลงที่ 1 กับแปลงที่ 3 คาดว่าแปลงที่ 3 มีโอกาสรับลมธรรมชาติสูงกว่า เพียงแต่ว่า ลมจะเข้าจากทางหลังบ้าน เนื่องจากคุณบอกว่า ที่ดินด้านข้างเป็นบ้านจัดสรร ซึ่งความสูงอาคารคงไม่เกิน 2 ชั้น และรั้ว โครงการ 4 เมตร เมื่อเทียบกับแปลงที่ 1 ที่มีอาคารสูง 3 ชั้นเป็นแนวกำบังลม โอกาสที่ลมจะเข้ามีสูงกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับที่บอกไปหล่ะครับ ว่าถนนโครงการกว้างมากน้อยขนาดไหน ถ้ากว้างมากระยะให้ลมธรรมชาติม้วนลงมาพัดก็พอมี ซึ่งตรงนี้ก็จะสัมพันธ์กับสิ่งที่บอกคุณไปแต่แรกว่า ผังบ้านเป็นอย่างไร function ภายในเป็นอย่างไร คุณต้องการให้ห้องไหนสามารถรับลมธรรมชาติได้บ้าง อยากให้เข้าหน้าบ้านหรือหลังบ้าน ประเด็นต่อมาคือ เรื่องเส้นทางโคจรของดวงอาทิตย์ ทุกแปลงเป็นแปลงกลางหมด จึงตัดเรื่องความร้อนที่เกิดขึ้นจากการมีผนังรับแดดไป เส้นทางโคจรของดวงอาทิตย์ในบ้านเราส่วนใหญ่จะอ้อมใต้มีเพียงประมาณ 4 เดือนที่วกขึ้นไปอ้อมเหนือ เดือนธันวาเนี่ยหล่ะ จะเป็นเดือนที่ ดวงอาทิตย์ทำมุมเอียงกับพื้นโลกทางทิศใต้ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจแดดจะเข้าบ้านเยอะที่สุดและจะค่อยๆ ทำองศาเอียงมากๆขึ้น ไปจนเอียงด้านทิศเหนือมากสุดในเดือนมิถุนายน ซึ่งตอนนั้นแดดจะเข้ามาทางทิศเหนือ แต่จะไม่ทะลุทะลวงเท่าเนื่องจากองศาไม่มาก ดังนั้นผลที่จะเกิดกับอาคารก็มีตรงที่ แปลงที่ 2 จะเป็นแปลงที่รับแดด เช้า และแดด บ่ายอย่างชั่วนาตาปี เพราะช่องเปิดจะไปอยู่ในแนวนั้นพอดี คืออยู่แนวตะวันออก ตะวันตก ซึ่งคุณน่าจะทนทุกข์กับแดดทั้งช่วงครึ่งเช้าด้านหน้าบ้านและแดดครึ่งบ่ายด้านหลังบ้าน สำหรับแปลงนี้ ละได้ก็ละครับส่วนแปลงที่ 1 กับแปลงที่ 3 รูปแบบจะเหมือนกันเพียงแต่ต่างกันตรงที่แดดเข้าหน้าบ้านกับหลังบ้านเท่านั้น แต่แปลงที่ 1 จะดูรุนแรงมากกว่าแปลงที่ 3 ตรงที่ ช่วงเดือนที่ดวงอาทิตย์อ้อมใต้ แดดจะเข้าทางหน้าบ้านตลอด ซึ่งในทางกลับกัน แปลงที่ 3 จะเข้าทางหลังบ้านตลอดเช่นกัน ส่วนเดือนที่ดวงอาทิตย์อ้อมเหนือ แปลงที่ 1 แดดจะเข้าหลังบ้าน ส่วนแปลงที่ 3 จะเข้าหน้าบ้าน ซึ่งก็จะต้องถามถึงผังบ้านหล่ะครับ ว่าผังเป็นแบบไหน ห้องไหนอยู่หน้าหลังบ้าง ห้องน้ำ ครัว ห้องนอน โถงบันไดอยู่ตรงไหน และถามใจคุณว่า คุณต้องการให้พื้นที่ไหน รับแดด และไม่โดนแดดบ้าง เพราะพื้นที่อยู่อาศัยจริงเช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ไม่ควรโดนแดดโดยตรง แต่ควรมีแสงสว่างเข้ามาเพียงพอ เพราะถ้าพื้นที่โดนแดดจะเกิดการสะสมความร้อนในตัวอาคาร และจะเป็นภาระในการทำความเย็น ซึ่งคุณก็คงต้องติดแอร์เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งมันก็จะเป็นภาระไม่จบสิ้นในอนาคตครับ ผมคงไม่สามารถเชียร์ให้เลือกแปลงไหนได้นะครับ เพราะผมยังไม่เห็นผังอาคาร เอาว่า จขกท ถ้ามีเวลาลองเอาข้อมูลที่บอกไป ลองไปดูรายละเอียดอีกที่ครับ แล้วค่อยตัดสินใจ
กระต่ายหลังยาว December 28, 2010 at 2:17 am เคยจะจองอีกฝั่ง หลังมุมวิวสนามไดฟ์ แต่สู้ราคาไม่ไหวเชียร์ 1 ทิศใต้ครับ
Don Julio December 28, 2010 at 2:17 am 2 กับ 3 โอเค กว่าในแง่ของความสงบ การเลือกที่พักอาศัยผมให้น้ำหนักกับความสงบ(ไม่มีรถวิ่งผ่านไปมาทั้งวัน) และทิศทางของแดดทิศตะวันตก(ช่วงบ่าย)ที่มีผลต่ออุณหภูมิภายในบ้านครับ และถ้ามีลมโชยผ่านแบบเย็นสบายๆด้วยก็ยิ่งสุดยอดเลยครับ(ไม่เปลืองไฟค่าแอร์)
jamjung December 28, 2010 at 2:17 am เป็นผมซื้อหลังที่ 3 ครับ ขอราคาที่ถูกที่สุด เพราะจากมุมมองของผม อยู่หลัง3มีเพื่อนบ้านหกหลัง รถไม่วุ่นวายปัญหาน่าน้อยสุดและสงบสุดนะ เพราะทางเข้าแค่ประมาณ 300 เมตรเดินยังไม่เหนื่อยเลย
สภาพแดดตอนบ่ายโมง ถึง บ่ายสามของบ้านเบอร์ 1
รูปแดดบ้านที่ 1 ไม่ขึ้นอ่ะ
แดดเข้าห้องนอนตอนบ่ายประมาณ 45 องศา
ถ้าหมู่บ้านไม่ใหญ่มากเลือกอยู่ในๆดีมากเลยสงบไม่วุ่นวาย เพราะด้านหน้าคนเข้าออกตลอดเวลา แต่ด้านในมีคนเข้าไปเฉพาะคนที่มีบ้านอยู่เลยสงบ
รูปแดดที่เข้าห้องนอนชั้น 2 และ 3 ตอนบ่ายโมงถึงบ่ายสาม
เบอร์ 2 น่าสน
เลยจากเดิมมาไม่ไกล
เป็นซอยย่อยไม่ลึกมาก
รถเข้าออกคงมีเฉพาะคนในซอยนี้
ตีแบดฯหน้าบ้านได้ไม่ต้องหลบรถบ่อยๆ
ถนนเมนรถผ่านไปมาเยอะ วุ่นวาย
ส่วนเรื่องแบกอะไรนั่น
แล้วเบอร์ 1 ไม่แบกหนักกว่าเหรอครับ
ข้างละ 3 หลัง เชียวนะ เยอะกว่าอีก
ถ้ามีคนทักอีกก็บอกว่า
ดูดวงมาแล้ว หลังนี้ดีสุด
เบอร์ 3 ไกลไปหน่อย
เบอร์ 3 ครับ
เบอร์ 2
>> เป็นบ้านหลังกลางเกินไปต้องแบกด้านซ้ายและขวา คนจีนเขาถือกัน
ต่างไง กับเบอร์ 1
ก็กลางเหมือนกัน ?
ผมก็ยังเลือกเบอร์ 1. เหมือนเดิม คนจีนเค้าชอบให้บ้านหันทิศใต้ไม่ใช่หรือ แดดส่องตอนบ่ายแก้ง่ายมากๆ ดีซะอีก แดดจะได้ช่วยฆ่าเชื้อโรค
บ้านกลางเมือง เออร์บาเนี่ยน สินะครับเนี่ย
หลังนี่ ดีสุดใน 3 หลังแล้วครับ
หน้าบ้านทิศใต้ แดดบ่ายจะมีก็ช่วงหน้านี้เท่านั้นแหละครับ
สัก ปลายๆ ตค. – กพ.
แล้ว ช่วงที่เหลือของปี หน้าบ้าน จะไม่มีแดดบ่ายสาดเข้ามากวนใจอีกเลย
::::::::::::::::
หลังที่ 3 ไกลไป ส่วนหลังที่ 2 ก็ดี… แต่ไม่รู้สิ ผมไม่ชอบเข้าซอย
1 ดีแล้วค่า
ก็ ปลูกต้นไม้
ตีไม้ระแนง
ลดความร้อน ซะสิครับ
#10 AP เหรอครับเนี่ย ทาวน์เฮ้าส์เดี๋ยวนี้ แพงจัง
วันก่อนไปดู "บ้านเดี่ยว" โครงการเล็กๆ
เข้าซอยจากถนนเกษตร-นวมินทร์มาหน่อย (ซอยทะลุไปถึงเสนาฯได้ด้วย)
ชื่ออะไรจำไม่ได้มีป้ายอยู่ก่อนถึงแยกไฟแดงลาดปลาเค้า หน่อยนึง
ทั้งโครงการมี 9 หลัง ทางเข้าโครงการมีประตูรีโมท
ให้ลูกบ้าน 9 หลัง เข้าออก ตัวบ้านเสร็จแล้วเกือบ 100 %
ราคาถูกกว่า ทาวน์เฮ้า อีก ถ้าชอบสังคมเล็กๆ
โครงการเล็กไม่แพง แต่ดูดีก็มีนะ ถ้าหาดีๆ
#น่าจะใช่ AP นะครับ รอเจ้าของยืนยัน แต่หน้าตาแบบนี้ไม่น่าผิด
โครงการที่ว่ามี 9 หลัง ค่าส่วนกลางไม่อาเจียนแตก เหรอครับ
เป็นบ้านกลางเมือง AP ครับ ลาดพร้าวเสนา แต่ขอโทดด้วยครับที่ทำให้สับสนเนื่องจากผมลงตำแหน่งของบ้านเบอร์ 1 ผิด อันที่ถูกต้องเป็น block ถัดไปที่มีกันอยู่ 3 หลัง โดยเป็นหลังตรงกลาง ตามเส้นสีดำครับ ขอบคุณครับ
-คุณ umibozu,Q (QDora) ขอโทษที่ลงข้อมูลผิด ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ
-คุณโสดจัง แต่ผมยังสงสัยว่าปัจจุบันบ้านผมหันทางทิศใต้มันโดนแดดประมาณ 8 เดือนเลยอ่ะคับ
อีกอย่างนึงทางโครงการไม่อนุญาตให้ต่อเติมใดๆหน้าบ้านชั้น 1 นอกจากใช้กันสาดของโครงการที่เป็นผ้าใบแบบพับเก็บได้เท่านั้น ส่วนการปลูกต้นไม่คาดว่าจะติดกันสาดตอนกางออกมาแน่นอนครับ
เบอร์หนึ่งดีสุด
หันทางทิศไต้เวลาหน้าร้อนจะเห็นคุณค่า
หน้าหนาวหน้าบ้านร้อนหน่อย
#14
เท่าที่คุยกับเซล ลูกบ้านมีแค่ 9 หลัง
ค่าส่วนกลางเก็บไว้ให้ก้อนหนึ่งตอนแรก
หลังจากลูกบ้านครบก็ยกให้เป็นหน้าที่ของลูกบ้านทั้งหมด
โครงการไม่ได้ไม่อะไรให้เยอะหรอกครับ
ถนนหน้าบ้านร่วม ไฟถนน
ประตูรีโมทสำหรับทางเข้าโครงการ
ถ้าใครมาหาจะมี intercom หน้าประตูให้แขกกดหาบ้านนั้น
ออกมากดรีโมทเปิดประตูโครงการให้แขกผู้มาเยือน
กล้อง CCTV ตลอดถนน(ซึ่งสั้นมาก)และหลังบ้านแต่ละหลัง
ส่วนกลางมีเท่านี้
เป็นสังคมแบบ เล็กมากถึงมากที่สุด ครับ
แต่ผมชอบนะ
ห่างกันแค่นี้
2 เหมือนเดิมครับ
ผมตามติดเบอร์ 1 ครับ
คอนเฟิร์ม ว่า แดดใต้ไม่ถึง 8 เดือนครับ
1 บ้านหันหน้าไปทางทิศใต้ ลมจะได้พัดผ่านตอนหน้าร้อน ถูกต้องเรื่องทิศทางลมค่ะ
2 บ้านทาวน์เฮ้าจำเป็นต้องตากผ้าหน้าบ้าน จะได้แดดตากผ้า เพราะหลังบ้านมักจะต่อเติมเป็นครัว ปิดทึบ
3 ทำเลที่ใกล้ที่สุด ย่นระยะทางการเดินทาง ซึ่งในอนาคตที่แน่นอนคือ การจอดรถฝั่งใดฝั่งหนึ่งยึดผิวการจราจรไปแล้ว ทาวน์เฮ้าอยู่แล้วต้องทำใจในความแออัดจากสิ่งของที่มักจะล้นออกมาจากบ้านมาอยู่บริเวณถนนหน้าบ้านค่ะ
4 แสงแดดจะเปลี่ยนทิศทางราวเดือนนี้ค่ะ สังเกตจากต้องย้ายราวตากผ้าตามค่ะ
ที่บ้านหันหน้าไปทางทิศใต้ตามต้องการ ต้องหาแสงแดตากผ้าที่สนามหน้าบ้าน ถึงจะเป็นบ้านเดี่ยวก็เถอะ พอแดดร่มลมตกพัดเข้าทางหน้าบ้าน รื่นรมย์ดีมากค่ะ
อย่าไปถือนั่น นี่มากนักค่ะ
แดดที่เห็นส่องมา 45 องศานั่นมันเป็นเฉพาะช่วงเดือนตุลาคมถีงมกราคมของทุกปี ซึ่งก็คือหน้าหนาว ดวงอาทิตย์มันโคจรค่อนมาทางใต้ จึงเห็นทำมุม 45 องศานั่นแหละ แต่นอกช่วงเวลาดังกล่าว แดดจะไม่ส่องทิศใต้ แต่จะไปส่องด้านซ้ายขวาของบ้าน และไปส่องหลังบ้านซึ่งเป็นทิศเหนือ 45 องศาแทน ช่วงเวลาอื่นของปีจึงไม่มีแดดส่องหน้าบ้านอีก บ้านหันหน้าทิศใต้ก็เป็นแบบนี้
ดังนั้น ให้ยืนตามที่เลือกไว้เดิมดีกว่า
ถ้าเป็นผม เบอร์หนึ่ง ดีที่สุดแล้ว
ทิศใต้ บ้านสดใส ไม่อับชื้น
ถึงไม่มีเรื่องทิศมาเกี่ยวข้องก็เลือกเบอร์หนึ่งอยู่ดี
ตามแปลนโครงการ มันจะวุ่นวายน้อยกว่าซอยเล็กๆ แคบๆ ที่มีรถจอด ทั้งหัวมุม ทั้งในซอย
เห้นด้วยกับ ความเห็นที่ 20 ค่ะ เพราะปัจจุบันบ้านเราหันหน้าทางทิศเหนือ เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม แดดจะเริ่มส่องเข้าบ้านเค้าตั้งแต่ต้นเดือนตุลา และจะส่องเอียงเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนกุมภาพันธุ์แล้วถึงจะเริ่มถอยกลับ แต่พอเข้าฤดูร้อนลมจะพัดเข้าหลังบ้านเรา คือพัดเข้าหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามเรา ตลอดหน้าร้อน บ้านตรงข้ามเราจะรับลมตลอด แต่เราต้องเปิดประตูหลังบ้านลมถีงจะเข้า ข้อดีของบ้านที่หันทางทิศเหนือคือ หน้าบ้านจะไม่เคยโดนแดดส่องเข้าภายในบ้าน ตลอดทั้งปี จะส่องแค่ชายคาบ้านเท่านั้น โดยเฉพาะหน้าหนาวหน้าบ้านจะร่มและรับลมเย็นสบาย
เอาในแง่ของตำแหน่งที่ตั้งก่อนนะครับ แปลงที่ 1 จะดีกว่าแปลงอื่นตรงที่ ทำเลอยู่บนถนนโครงการหลักและการเข้าถึงง่ายที่สุด แปลงที่ 2 รองลงมา ส่วนแปลงที่ 3 อยู่ลึกสุด ก็เข้าถึงยากสุด แต่ประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวและความสงบแปลงที่ 1 จะแย่สุด แปลงที่ 2 รองลงมา แปลงที่ 3 จะดีสุด สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงตามมาคือ การคาดการณ์ความหนาแน่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จริงอยู่ ณ ปัจจุบัน การอยู่อาศัยไม่เต็มจำนวน แต่ถ้าเริ่มมีการอยู่อาศัยจริงมากขึ้น คุณสามารถรับสภาพที่จะเกิดขึ้นได้ไหม แปลงแรก จำนวนยูนิตในฝั่งเดียวกับคุณและฝั่งตรงข้าม 15 ยูนิต แปลงที่ 2 10 ยูนิต แปลงที่ 3 6 ยูนิต ความหนาแน่นต่างกันแน่นอน ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง คือ ขนาดความกว้างของถนนด้านหน้าในแต่ละแปลง เพราะดูจากรูป ตัวบ้านน่าจะจอดรถได้ประมาณ 1 คัน หรือ 2 คัน ถ้าเป็นรถเล็ก ซึ่งการจอดรถหน้าบ้านก็จะเป็นเรื่องเหมือนจะปกติไปแล้ว คุณต้องลองจินตนาการตามที่เหลือหล่ะครับ ว่าถ้าจอด หน้าบ้านทั้งสองฝั่ง แล้วตรงกลางเหลือช่องจราจรเท่าไหร่ แปลงไหนจะเกิดปัยหาที่ว่าน้อยกว่ากัน
ประเด็นต่อมา คือ เรื่องที่ดินข้างเคียง ทุกแปลงติดที่ดินข้างเคียงหมด ยกเว้นแปลงที่ 2 ที่ติดบางส่วน เรื่องความปลอดภัยคงไม่ต่างกันมาก เนื่องจากทุกแปลงมีด้านที่ติดที่ดินข้างเคียงหมด แต่ ณ ตอนนี้ควรดูสภาพการใช้ที่ดินของที่ดินข้างเคียงว่าเป็นอะไร สภาพแวดล้อมรับได้ไหม การคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับที่ดินข้างเคียงในอนาคต
ประเด็นต่อมา เรื่องการจัดวางอาคาร อยากบอกว่า ดูแค่ว่าบ้านหันหน้าไปทางทิศไหนอย่างเดียวมันค่อนข้างหยาบไปหน่อยหน่ะครับ สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงเลยคือ ผังบ้านว่าเป็นอย่างไร ปกติเรามีความเชื่อฝังหัวกันมาว่า ลมมาจากตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งก็จริงเพราะเป็นลมประจำฤดู ซึ่งหลักๆ ก็เป็นแบบนั้น แต่เอาเข้าจริงทุกวันนี้ ลมมันมาทุกทิศทางหล่ะครับ เพราะสภาพแวดล้อมมันเปลี่ยน มีปัจจัยอื่นๆ เยอะแยะที่ทำให้ทิศทางลมมันจะเข้าบ้านหรือไม่เข้า อันนี้ต้องดูจากสถานที่จริงครับ บางทีใช่ว่าหันหน้าทิศใต้ลมจะเข้าเสมอไป เนื่องจากฝั่งตรงข้ามก็เป็นอาคารเหมือนกัน ซึ่งหมายถึงเป็นแนวบังลมอย่างดี ลมจะเข้าหรือไม่เข้าบ้านคุณ มันจะสัมพันธ์กับขนาดและความสูงของอาคารแปลงที่บังทิศทางลมธรรมชาติ และถนนด้านหน้าแปลงว่ามีความกว้างขนาดไหน พอมีระยะให้ลมตกลงมาบ้างได้เท่าไหร้ ซึ่งถ้าว่ากันตามนี้ แปลงที่ 2 โอกาสลมธรรมชาติจะเข้าน้อยที่สุด ส่วนแปลงที่ 1 กับแปลงที่ 3 คาดว่าแปลงที่ 3 มีโอกาสรับลมธรรมชาติสูงกว่า เพียงแต่ว่า ลมจะเข้าจากทางหลังบ้าน เนื่องจากคุณบอกว่า ที่ดินด้านข้างเป็นบ้านจัดสรร ซึ่งความสูงอาคารคงไม่เกิน 2 ชั้น และรั้ว โครงการ 4 เมตร เมื่อเทียบกับแปลงที่ 1 ที่มีอาคารสูง 3 ชั้นเป็นแนวกำบังลม โอกาสที่ลมจะเข้ามีสูงกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับที่บอกไปหล่ะครับ ว่าถนนโครงการกว้างมากน้อยขนาดไหน ถ้ากว้างมากระยะให้ลมธรรมชาติม้วนลงมาพัดก็พอมี ซึ่งตรงนี้ก็จะสัมพันธ์กับสิ่งที่บอกคุณไปแต่แรกว่า ผังบ้านเป็นอย่างไร function ภายในเป็นอย่างไร คุณต้องการให้ห้องไหนสามารถรับลมธรรมชาติได้บ้าง อยากให้เข้าหน้าบ้านหรือหลังบ้าน
ประเด็นต่อมาคือ เรื่องเส้นทางโคจรของดวงอาทิตย์ ทุกแปลงเป็นแปลงกลางหมด จึงตัดเรื่องความร้อนที่เกิดขึ้นจากการมีผนังรับแดดไป เส้นทางโคจรของดวงอาทิตย์ในบ้านเราส่วนใหญ่จะอ้อมใต้มีเพียงประมาณ 4 เดือนที่วกขึ้นไปอ้อมเหนือ เดือนธันวาเนี่ยหล่ะ จะเป็นเดือนที่ ดวงอาทิตย์ทำมุมเอียงกับพื้นโลกทางทิศใต้ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจแดดจะเข้าบ้านเยอะที่สุดและจะค่อยๆ ทำองศาเอียงมากๆขึ้น ไปจนเอียงด้านทิศเหนือมากสุดในเดือนมิถุนายน ซึ่งตอนนั้นแดดจะเข้ามาทางทิศเหนือ แต่จะไม่ทะลุทะลวงเท่าเนื่องจากองศาไม่มาก ดังนั้นผลที่จะเกิดกับอาคารก็มีตรงที่
แปลงที่ 2 จะเป็นแปลงที่รับแดด เช้า และแดด บ่ายอย่างชั่วนาตาปี เพราะช่องเปิดจะไปอยู่ในแนวนั้นพอดี คืออยู่แนวตะวันออก ตะวันตก ซึ่งคุณน่าจะทนทุกข์กับแดดทั้งช่วงครึ่งเช้าด้านหน้าบ้านและแดดครึ่งบ่ายด้านหลังบ้าน สำหรับแปลงนี้ ละได้ก็ละครับ
ส่วนแปลงที่ 1 กับแปลงที่ 3 รูปแบบจะเหมือนกันเพียงแต่ต่างกันตรงที่แดดเข้าหน้าบ้านกับหลังบ้านเท่านั้น แต่แปลงที่ 1 จะดูรุนแรงมากกว่าแปลงที่ 3 ตรงที่ ช่วงเดือนที่ดวงอาทิตย์อ้อมใต้ แดดจะเข้าทางหน้าบ้านตลอด ซึ่งในทางกลับกัน แปลงที่ 3 จะเข้าทางหลังบ้านตลอดเช่นกัน ส่วนเดือนที่ดวงอาทิตย์อ้อมเหนือ แปลงที่ 1 แดดจะเข้าหลังบ้าน ส่วนแปลงที่ 3 จะเข้าหน้าบ้าน ซึ่งก็จะต้องถามถึงผังบ้านหล่ะครับ ว่าผังเป็นแบบไหน ห้องไหนอยู่หน้าหลังบ้าง ห้องน้ำ ครัว ห้องนอน โถงบันไดอยู่ตรงไหน และถามใจคุณว่า คุณต้องการให้พื้นที่ไหน รับแดด และไม่โดนแดดบ้าง เพราะพื้นที่อยู่อาศัยจริงเช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ไม่ควรโดนแดดโดยตรง แต่ควรมีแสงสว่างเข้ามาเพียงพอ เพราะถ้าพื้นที่โดนแดดจะเกิดการสะสมความร้อนในตัวอาคาร และจะเป็นภาระในการทำความเย็น ซึ่งคุณก็คงต้องติดแอร์เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งมันก็จะเป็นภาระไม่จบสิ้นในอนาคตครับ
ผมคงไม่สามารถเชียร์ให้เลือกแปลงไหนได้นะครับ เพราะผมยังไม่เห็นผังอาคาร เอาว่า จขกท ถ้ามีเวลาลองเอาข้อมูลที่บอกไป ลองไปดูรายละเอียดอีกที่ครับ แล้วค่อยตัดสินใจ
เคยจะจองอีกฝั่ง หลังมุมวิวสนามไดฟ์ แต่สู้ราคาไม่ไหว
เชียร์ 1 ทิศใต้ครับ
2 กับ 3 โอเค กว่าในแง่ของความสงบ การเลือกที่พักอาศัยผมให้น้ำหนักกับความสงบ(ไม่มีรถวิ่งผ่านไปมาทั้งวัน) และทิศทางของแดดทิศตะวันตก(ช่วงบ่าย)ที่มีผลต่ออุณหภูมิภายในบ้านครับ และถ้ามีลมโชยผ่านแบบเย็นสบายๆด้วยก็ยิ่งสุดยอดเลยครับ(ไม่เปลืองไฟค่าแอร์)
เป็นผมซื้อหลังที่ 3 ครับ ขอราคาที่ถูกที่สุด เพราะจากมุมมองของผม อยู่หลัง3มีเพื่อนบ้านหกหลัง รถไม่วุ่นวายปัญหาน่าน้อยสุดและสงบสุดนะ เพราะทางเข้าแค่ประมาณ 300 เมตรเดินยังไม่เหนื่อยเลย