รบกวนสอบถามผู้มีคอนโดให้เช่าหน่อยครับ

ผมรบกวนสอบถามและขอคำแนะนำดังนี้ครับ ผมรับดูแลคอนโดให้เช่าของเพื่อนผมซึ่งไปอยู่ต่างประเทศ

1) ถ้าผู้เช่าอยู่ครบสัญญาหนึ่งปีแล้ว ต้องทำสัญญาเซ็นต์กันใหม่หรือปล่าวครับ

2) ถ้าผู้เช่าต้องการให้เข้าไปซ่อมแซมพวกอ่างล้างหน้า ลูกบิดประตู ล้างแอร์สามเครื่อง ถอดม่านซัก ก่อนต่อสัญญา

พวกซ่อมแซมอ่างล้างหน้า ลูกบิด อย่างนี้ผมสามารถซ่อมให้ได้ครับ แต่ถอดม่านซัก ล้างแอร์ นี่คิดว่ายังไงครับ คือไม่ได้มีระบุในสัญญา แต่ลูกค้าเป็นลูกค้าชั้นดีจ่ายตรงตลอดผมก็อยากทำให้เขา แต่ไม่รู้ว่าเพื่อนผมเขาจะคิดยังไง ผมอยากรักษาลูกค้าดีๆไว้นั่นเองครับ

ส่วนตัวผมเคยเช่าคอนโดอยู่เหมือนกัน แต่เรื่องจุกจิกผมไม่เคยรบกวนเจ้าของห้อง ทุกอย่างที่ลูกค้าขอมาที่ว่าข้างบนผมจัดการของผมเองครับ

ตอนนี้ส่งเมล์ไปบอกเพื่อนผมแล้ว แต่อยากฟังความเห็นของสมาชิกชายคาครับ ขอบคุณมากๆครับ

7 thoughts on “รบกวนสอบถามผู้มีคอนโดให้เช่าหน่อยครับ

  1. เจ้าหนูจอมมึน

    ข้อที่หนึ่ง  ควรทำนะค่ะปีต่อปีไป  เพราะเราเคยมีประสบการณ์ในการฟ้องร้อง  คือถ้าเราไม่ได้ทำสัญญาตัวใหม่  แต่ผู้เช่ายังเช่าอยู่  พอผู้เช่ามีปัญหามารื้อสัญญากันดูมันเหมือนว่า  เราไม่ได้ต่อสัญญานะ  เค้าก็อ้างโน้นนี่นั้นได้  ฉะนั้นทำไปเถอะค่ะ  

    ข้อสอง  เราบริการหมดนะพวกซ่อม ๆ ให้เนี่ย  แต่กรณีซักม่านนิ  แบบว่าไม่เคยทำให้จ้า  แบบประมาณว่าอะไรทำเองได้ก็ทำ  ไม่อยากวุ่นวายกับเจ้าของ  เคยเช่าเหมือนกันนะ  แต่แบบลูกค้าดี ๆ ถ้าเป็นเรา  เราก็อาจจะบริการเต็มที่นะแต่ยังไม่เจอลูกค้าดี ๆ อิอิ

  2. papa mama love u

    ทำปีต่อปีค่ะ หมดรอบก็เอาสัญญาไปเปลี่ยนใหม่ เรื่องล้างแอร์ จะให้ช่างไปล้างทุก 6 เดือนเป็นปกติ เรื่องม่าน เวลาลูกค้าย้ายออกก็จะซักทุกครั้ง ถ้าลูกค้าขอก็ทำให้ค่ะ

  3. PantipMinus

    ข้อ 1 ต้องขึ้นอยู่กับสัญญาค่ะ ว่ามีการระบุไว้หรือไม่ ส่วนตัวมีระบุไว้ค่ะ

    เมื่อผู้เช่าได้เช่าห้องเช่าจนครบกำหนดเวลาในสัญญาข้อ ๑ แล้ว หากผู้เช่ามิได้แจ้งยกเลิกการเช่า ให้ถือว่าสัญญาฉบับนี้มีผลบังคับต่อไปจนกว่าผู้เช่าจะบอกเลิกการเช่า และในระหว่างที่ผู้เช่าเช่าต่อไปนั้น ถ้าหากผู้เช่าประสงค์จะบอกเลิกการเช่า ผู้เช่าต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบล่วงหน้า ๖๐ วัน (หกสิบวัน) ถ้าผู้เช่ามิได้แจ้ง ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าคิดค่าเช่าเพิ่มอีก ๒ เดือน (สองเดือน)

    ข้อ 2 เค้าขอมา เราก็จัดให้ค่ะ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้เช่าด้วย

  4. SWEET TOFFY

    ตามกฎหมาย   ถ้าไม่ได้ทำสัญญาใหม่แต่ยังอยู่ต่อโดยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย    ถือว่าการเช่ามีผลอยู่ตามสัญญาเดิม   แต่เป็นการเช่าแบบไม่ระบุระยะเวลา   ซึ่งคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายหากต้องการยกเลิกการเช่าต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบล่วงหน้าค่ะ  (กี่วันจำไม่ได้แระ)

    ส่วนเรื่องซักม่านกับล้างแอร์   ถ้าเป็นเรามีผู้เช่าดีๆอยู่ในมือเราทำให้นะคะ   มันก็ไม่ได้ลำบากจนเกินไป  (ถึงจะจุกจิกไปหน่อย)    เพราะผู้เช่าดีๆหายากกว่าการซักม่านและล้างแอร์เยอะเลยค่ะ

  5. สาวกุมภ์

    คห.1

    ถ้าเราไม่ได้ทำสัญญาตัวใหม่  แต่ผู้เช่ายังเช่าอยู่  พอผู้เช่ามีปัญหามารื้อสัญญากันดูมันเหมือนว่า  เราไม่ได้ต่อสัญญานะ  เค้าก็อ้างโน้นนี่นั้นได้  ฉะนั้นทำไปเถอะค่ะ  

    >>>  ครบกำหนดเวลาตามสัญญาเช่าแล้ว ผู้เช่ายังอยู่ต่อและผู้ให้เช่าก็มิได้ทักท้วง กรณีเช่นนี้จะถือว่าเป็นการทำสัญญาเช่ากันใหม่ต่อไปแบบไม่มีกำหนดระยะเวลา

    ซึ่งมีผลให้  ถือตามข้อตกลงในสัญญาเดิมทุกประการ

    แต่มีข้อต่างที่ว่า  ไม่มีระยะเวลา(สัญญาเช่า)  จึงมีผลเป็นการอยู่ต่อไปอีก 1 เดือนเรื่อยๆๆ เช่นนี้จนกว่าจะมีฝ่ายใดบอกเลิกสัญญาในช่วงเวลากำหนดชำระค่าเช่า  ซึ่งเมื่อบอกเลิกการเช่าในช่วงกำหนดชำระค่าเช่าแล้ว  ก็ให้มีผลสัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลานี้สิ้นสุดลงเมื่อครบรอบบิลการเช่า

    ปล.  เรื่องนี้มีกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจน  
    รูปแบบนี้ ไม่ใช่ว่าไม่มีกฎหมายกำหนด  กฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว

    ดังนั้น  คุณจะต่อสัญญา เป็นอีก 1 ปี หรือใช้รูปแบบกฎหมายสัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลานั้น ที่ต่อสัญญาไปเรื่อยๆ จนกว่าบอกเลิกนั้น  จะรูปแบบไหนก็ต้องดูที่จุดประสงค์ของคุณคะ  

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    คห.3
    ผู้เช่าต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบล่วงหน้า ๖๐ วัน (หกสิบวัน) ถ้าผู้เช่ามิได้แจ้ง ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าคิดค่าเช่าเพิ่มอีก ๒ เดือน (สองเดือน)

    >>
    กฎหมายไม่ได้กำหนด 60 วันนะคะ  แก้ความเข้าใจใหม่นะคะ

    กฎหมายกำหนดว่า  ชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่ง เป็นอย่างน้อย แต่ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่า 2 เดือน  

    ซึ่งคำว่า 60 วัน(2 เดือน) นี้  คุณน่าจะนำผิด  เพราะตรงส่วนนี้ ความหมายคือ  ถ้าหากกำหนดชำระค่าเช่าคือ  มากกว่า 60 วัน เช่น จ่ายค่าเช่าทุกๆ  3 เดือนนั้น  การแจ้งบอกเลิกก็ไม่ต้องรอถึง 3 เดือน แ่ต่ให้สามารถแจ้งบอกเลิกล่วงหน้าเป็นเวลา 60 วัน(2เดือน) ก็พอแล้ว

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ตัวอย่าง นาย ก. เช่าบ้านนาย ข. อยู่ มีกำหนดชำระค่าเช่าภายในวันที่ 1 ของทุกๆเดือน เมื่อวันที่ 31 มิถุนายน 2544 นาย ก. ต้องการบอกเลิกสัญญาเช่า จึงนำค่าเช่าไปชำระให้แก่นาย ข. ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2544 และบอกเลิกสัญญาเช่ากับนาย ข. ในวันนั้น การบอกเลิกสัญญาของนาย ก. นี้จะยังไม่มีผลทันที แต่จะมีผลเป็นอันเลิกกันก็คือวันที่ 1 สิงหาคม 2544 ถ้าพูดง่ายๆก็คือต้องบอกเลิกสัญญาล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    อ้างอิง ปพพ.มาตรา 566

    ปล.  ขออภัยที่ตอบข้อความยาว แล้วไม่ได้จัดข้อความ  เพราะรีบออกไปข้างนอก  
    แต่เห็นกระทู้นี้แล้วอดตอบไม่ได้  เพราะรู้สึกข้อความของแต่ละความคิดเห็น  มันแปลกๆๆ พิกล

    ปล.  สาวกุมภ์ไม่ได้คิดจะต้มมาม่าในกระทู้นี้นะคะ  แต่ที่เจาะจงความคิดเห็นแต่ละท่านไปเพราะรู้สึกว่าในแต่ละความคิดเห็นนั้น  มีข้อความส่วนที่เพี้ยนๆๆ ผิดไปจากกฎหมายอยู่  จึงอยากแก้ความเข้าใจให้ใหม่

  6. robertwang

    ก่อนอื่นผมใคร่ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่เข้ามาตอบและให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฏหมายด้วยมากครับ

    เพื่อนผมตอบเมล์มาแล้วให้ผมทำสัญญาใหม่ ขอขึ้นค่าเช่าอีกหนึ่งพัน แล้วจะเข้าไปจัดการสิ่งที่เขาขอให้ แต่สัญญาใหม่ปี 54 ให้ผมเพิ่มข้อความ"หากผู้เช่าต้องการล้างแอร์ หรือซักผ้าม่าน ให้ผู้เช่าดำเนินการโดยเป็นค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง ส่วนการซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสียหายผู้ให้เช่าจะซ่อมแซมให้ตามความเหมาะสม"

    ตรงส่วนของการซ่อมแซมนี่ผมว่าก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไร จะระบุอย่างไรถึงจะแฟร์ทั้งสองฝ่ายครับ ถ้ายังไม่เบื่อก็ผมก็ขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยครับ

    ขอขอบคุณมากๆอีกครั้งครับ

  7. นั้นแหละ ตามนั้น (phch)

    โหดเหมือนกันนะ เพื่อนคุณ
    น่าจะเขียนสัญญาว่า ล้างแอร์ ให้ปีละ 2 ครั้ง ซักผ้าม่าน ให้ปีละ 1 ครั้ง อะไรทำนองนี้

Comments are closed.