ขอความรู้เรื่องการเจาะบ่อน้ำบาดาล ระดับความลึกที่เพียงพอต่อการใช้น้ำค่ะ

รบกวนถามผู้รู้ในห้องนี้ค่ะ เราเจาะบ่อบาดาลลึก 104 เมตร ช่างบอกว่าได้ตาน้ำระดับที่ 6 ลูกบาศก์ ซม. แล้ว เพียงพอกับการใช้น้ำสำหรับสวนลำไย 10 ไร่ได้สบาย พอสั่งซับเมิร์สมาลง ปรากฎว่าต้องหย่อนลงไปถึง 92 เมตร ถึงจะได้น้ำ ถือว่าได้น้ำน้อยไปใช่ไหมคะ พอดีรถเจาะก็ไม่ค่อยดีและช่างก็บอกว่าตาน้ำระดับเท่านี้ OK แล้ว แต่ทำไมหย่อนลงไปลึกจัง กลัวน้ำไม่พอใช้ในระยะยาวค่ะ พอดีข้างสวน ก็มีบ่อบาดาลระดับ 90 เมตร และ 120 เมตรอยู่ด้วย ช่างเจาะบอกว่า ระดับของเราที่ 104 เมตร จะได้ไม่ต้องแย่งตาน้ำใช้ร่วมกับใคร ปริมาณน้ำก็มีเยอะแล้ว

แล้วเราจะเสียเวลาเปล่าหรือเปล่าคะ ต้องแก้ไขยังไงได้บ้าง ตอนนี้เจาะและลงซับเมิร์สไปเรียบร้อยแล้ว ซับเมิร์ส 2 แรงม้า 19 ใบพัด มอเตอร์ของแฟรงกริ้นค่ะ

ขอบคุณทุกคำแนะนำนะคะ

คำค้นหา:

  • ซับเมิส
  • การเจาะบ่อบาดาล
  • เครื่องสูบน้ําบาดาล ซับเมิส
  • เจาะบ่อบาดาลแบบชาวบ้าน
  • ซัมเมิส คือ

5 thoughts on “ขอความรู้เรื่องการเจาะบ่อน้ำบาดาล ระดับความลึกที่เพียงพอต่อการใช้น้ำค่ะ

  1. life is computer

    เคยทำ website เจาะบ่อบาดาลให้เพื่อน mittarebadal ถ้าน้ำ 6 คิว

    (6 ลูกบาศเมตรต่อชั่วโมง)เห็นเพื่อนบอกว่า 6000 ลิตรต่อชั่วโมง

    ซึ่งน่าจะเพียงพอส่วนใหญ่การประกันว่าจะได้น้ำเท่าไหร่แล้วแต่สถานที่ของ

    เพื่อนผมประกันอยู่ที่ขั้นต่ำ2คิว

    ถ้าอยากทราบรายละเอียดเรื่องบาดาลมากกว่านี้ลองเข้าlinkนี้เลย

    http://www.dgr.go.th/water/waterforlife2_1.htm

    ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลครับผมก็เข้ามาหาข้อมูลในนี้ก่อนเขียนwebsite

  2. Waterman (LN106)

    ระดับน้ำใต้ดินของน้ำบาดาลจะมีค่าอยู่ระดับนึง ครับ

    เมื่อเริ่มมีการสูบน้ำในบ่อ ระดับน้ำในบ่อจะลดลง รวมถึงระดับน้ำที่อยู่รอบๆ บ่อบาดาลด้วย เส้นโค้งของระดับน้ำนี้เรียกว่า Draw Down มีลักษณะเป็นโค้งพาราโบลาตะแคง

    ซึ่งเมื่อน้ำในบ่อถูกสูบ ระดับน้ำในบ่อก็จะลดลง ทำให้น้ำภายนอกบ่อไหลเข้ามา และเมื่ออัตราการสูบของปั๊มมากกว่าอัตราการไหลเข้าของน้ำในบ่อระดับน้ำในบ่อก็จะค่อยๆ ต่ำลง น้ำก็จะไหลเข้าบ่อเร็วขึ้น ในขณะที่อัตราการสูบของปั๊มมีค่าลดลงเพราะต้องยกน้ำสูงขึ้น จนเมื่อถึงจุดสมดุล คือ อัตราการสูบออกเท่ากับอัตราการไหลเข้าระดับก็จะคงที่

    ดังนั้นในบ่อๆ นึงจะมีอัตราการไหลได้หลายค่า ขึ้นอยู่ว่าน้ำไหลเข้าทันหรือไม่ ซึ่งหากมีความรู้ รู้ค่าการซึมของดิน ก็จะสามารถหาอัตราการไหลสูงสุดของบ่อจากการสูบน้ำในบ่อแล้ววัดระดับน้ำที่ลดลงไป (อัตราการไหลสูงสุด คือ ระดับน้ำที่ต่างมากที่สุดระหว่างผิวน้ำในบ่อกับระดับน้ำบาดาลปกติ ที่ปั๊มยังสูบได้โดยไม่ดูดอากาศเข้าปั๊ม)

    ส่วนที่หย่อนให้ปั๊มลงลึกนั้นก็เพื่อเป็นการป้องกัน เพื่อไม่ให้ปั๊มเสียหาย เพราะหากวางปั๊มตื้น อัตราการสูบยังมากกว่าอัตราการไหลเข้าบ่อ น้ำก็จะลดลงจนถึงตัวปั๊ม และจะเกิด Vortex Tube หรือตาไก่ ที่จะดูดอากาศเข้าไปในปั๊ม ซึ่งอาจทำให้ใบพัดถูกกัดกร่อนเร็วกว่าปกติ

    จากข้อมูลที่ให้มา หากอัตราการสูบที่ 6 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโฒง หรือ 1.33 ลิตร/วินาที มอเตอร์ขนาด 2 แรงม้าหรือ 1.5 Kw. เมื่อคิดประสิทธิภาพที่ 70% (ซึ่งค่อนข้างสูง) และหัก Loss ในระบบท่อกับปั๊มราวๆ 5 ม. ระดับผิวน้ำในบ่อต้องมีระดับต่างจากปลายท่อออกไม่เกิน 75 เมตร หากเกินกว่านี้ อัตราการสูบจะน้อยกว่า 6 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง

  3. น้าพร

    ไร่อยู่ที่ไหนครับ

    บ่ออื่นห่าง จาก ไร่ของ จขกท กี่เมตร

    ปล. ไม่ต้องตอบคำถามของผม
    หาก ไม่ต้องการความเห็นของผม

  4. ทำอะไรตามใจคือไทยแท้ (ทำอะไรตามใจคือไทยแท้)

    ไม่รู้ว่าเจาะลึกขนาดนี้ พ่อ เพิ่งเจาะ แต่บอกว่าลึกแค่ สิบกว่าเมตรเอง  แต่ที่บ้านเจาะไว้เอามารดน้ำต้นไม้เฉยๆ

  5. พิมพ์เสน่ห์

    โอ ขอโทษจริงๆ ค่ะ เน็ตที่บ้านเข้าไม่ได้ตั้งแต่ตั้งกระทู้ เลยเพิ่งแวะมาดูค่ะ

    ขอบคุณทุกๆ ท่านที่กรุณามาให้ข้อมูลค่ะ ขอโทษน้าพรด้วยนะคะ

    ไร่ของหนูอยู่ที่ดอยใน จ.เชียงใหม่ค่ะ มีบ่อของประปาหมู่บ้านห่างไปสัก 20 เมตร ระดับน้ำที่เค้าเจาะ 90 เมตร และยังมีบ่อบาดาลของชาวบ้านห่างไปอีกประมาณ 500 เมตร ลึกประมาณ 120 เมตร และอีกบ่อลึก 200 เมตรค่ะ

    ช่างเจาะบอกว่าเจอตาน้ำระดับที่ 104 เมตร ได้ปริมาณน้ำเยอะแล้วเลยให้หยุด จะได้ไม่ไปแย่งตาน้ำของใคร ไม่ทราบว่าจริงเท็จอย่างไร

    ตอนนี้ก็ได้น้ำมาเก็บที่บ่อพักน้ำเยอะแล้วค่ะ

Comments are closed.