ช่างขอเบิกเงินเกินโดยบอกว่ามีปัญหาทางบ้านต้องการใช้เงินด่วน เมื่อเราให้เงินไปแล้ว ช่างหยุดงานโดยไม่แจ้ง เมื่อโทรถามบอกว่าญาติเข้าโรงพยาบาลต้องไปเฝ้าไข้อีก 2-3 วันจะกลับมาทำงาน ตอนนี้ผ่านไปกว่า 1 อาทิตย์แล้ว เมื่อโทรถามอีกก็บอกว่าต้องดูอาการก่อนยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะกลับมาทำงานที่บ้านได้เมื่อไร หากพร้อมจะโทรมาแจ้งเจ้าของบ้าน
สภาพบ้านตอนนี้โดนช่างรื้อทุบของเดิมไปหมด ช่างทำเสร็จแต่โครงหลังคา ปูกระเบื้องหลังคาไปได้แค่ครึ่ง ระบบไฟได้แต่รอ้ยท่อยังไม่ต่อเข้าตู้เมน ระบบประปายังไม่ได้เดินเลย ตอนรับงานบอก 3 เดือนเสร็จประมาณปลายพ.ย. เมื่อรับงานแล้วขอเลื่อนส่งงานสิ้นปี ตอนนี้ญาติไม่สบายไม่เข้างาน แล้วไม่รู้งานจะเสร็จเมื่อไหร่
ถามความเห็นเพื่อนๆ ว่าเราควรตัดใจทำบุญให้ช่างไป แล้วหาช่างใหม่มาทำต่อดีหรือเปล่า (เราให้ช่างเบิกเกินไปประมาณ 50000 บาท) อุปกรณ์ของช่าง เช่นตู้เชื่อม เลื่อยต่างๆ ประมาณ 3-4 อย่างยังคงอยู่ที่บ้านเราค่ะ แล้วถ้าเราจะรอช่างควรให้เขาหยุดประมาณอีกวันคะ เพราะตอนนี้ใกล้สิ้นปีแล้ว ถ้าหาช่างใหม่ก็คงลำบากพอควร แล้วงานเก็บเรากลัวโดนช่างใหม่โขกราคาด้วยค่ะ
บอกได้อย่างเดียวครับ "ต้องทำใจ" เตรียมหาช่างใหม่ได้เลยครับ แต่ช่วงนี้ใกล้ปีใหม่อาจหายากหน่อย… ถ้ายังโทรติดต่อได้ก็ ยื่นคำขาดบอกว่า ถ้า ภายใน….กำหนด ยังไม่กลับมาเราก็ต้องหาช่างใหม่มาทำแล้ว เพราะงานรอไม่ได้….(เรื่องเงินเบิกล่วงหน้า ก็คงต้องทำใจอ่ะ)
ใจอ่อนให้เบิกเงินเกิน ก็ลำบากเช่นนี้ครับ
ถ้าหาช่างใหม่เข้ามา อาจขอเบิกเงินเกินซ้ำรอยเดิม ไม่ให้ก็หาว่า ๒ มาตรฐาน
เครื่องมือทำมาหากินยังทิ้งไว้ที่หน้างาน อย่างน้อยก็บ่งบอกได้ว่าจะกลับมา
หากจะโทรไปถามสักนิดว่า ให้ช่วยเหลืออะไรไหม จะดูเป็นคนจิตใจดีมากไหม
จะได้ตะล่อมถามได้ว่า ญาติเป็นไร ก็จะประมาณเวลาได้
หากขนเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ ไปก็น่าจะพอตัดใจทำบุญได้
เจตนาสำคัญมาก คิดไว้ก่อนเป็นเรื่องดี บางสิ่งเราคงจะเข้าใจดีสุด
หากยังโทรติดแสดงว่าเขายังไม่มีเจตนา ทิ้งงาน และยังมีเครื่องมืออยู่ก็ยังมีแววว่าจะมาทำต่อค่ะ
คิดได้ทั้ง 2 ทางนะคะ ดูยังไม่ตั้งใจหนีงานจริงจัง ลองถามช่างมั๊ยคะว่าญาติป่วยเป็นอะไร อยู่โรงพยาบาลไหนจะได้ไปเยี่ยมและหาทางช่วยเหลือ แล้วลองเช็คดูถ้ามีคนป่วยจริงเราจะได้สบายใจ เราไปเยี่ยมช่างจะได้เกรงใจเราด้วย แต่ถ้าไม่มีคงต้องหาทางหนีทีไล่จัดการกับช่างอีกทีและเตรียมหาช่างใหม่ได้เลยค่ะ
ปกติแล้ว ไม่มีใครเค้าจะแช่ง ญาติพี่น้องตัวเองให้เข้า รพ หรอกนะครับ ถ้าเค้าให้เหตุผลอย่างนั้น ก็คิดแง่ดีว่าเป็นความจริง แล้วช่วยให้ญาติเค้าหายป่วยเร็วๆ
ว่าแต่ช่างเค้ามีคนเดียวรึครับ ถ้ามีงานทุบมากขนาดนี้ น่าจะมีหลายคนอยู่ คนอื่นก็น่าจะมาทำงานได้
พ่อแม่นอนพะงาบๆ ช่างบางคนยังปล่อยแบบนั้นเลย
นี่แค่ญาติ ถึงกับเฝ้าไข้ ผมว่ามันไปเฝ้าบ้านหลังอื่นมากกว่า
เตรียมหาผู้รับเหมาคนใหม่ได้เลย
ผมก็เคยโดนมาแล้ว พอรู้จักกันมาบ้างซะด้วย
ผมเจอข้ออ้างสุดคลาสิค
"ไปเกี่ยวข้าว"
ธรรมดามากครับเรื่องญาติป่วย..ญาติเสีย บ้านผมสร้างมาครบหนึ่งปีแล้วยังไม่ได้เข้าอยู่ เจอหยุดงานทุกเทศกาลต้นปียันปลายปี น้ำท่วมยันฝนแล้ง จนเหลือแค่ติดหน้าต่างครัวสองบาน ญาติแกมาเสียหายไปอีกสามอาทิตย์….
เรื่องญาติป่วยนี่ก็เป็นเหตุผลสุดคลาสสิกเลยครับ
ถามว่าญาติป่วย ทำไมไม่มาทำงานจะได้เงินเพิ่มไปช่วยค่ารักษาญาติ
ฟันธงตามประสบการณ์ว่า ไปรับงานที่อื่นก่อนแล้วงานที่โน่นมันไม่เสร็จเลยอ้างโน่นอ้างนี่ แล้วที่ทิ้งของไว้ แปลว่าจะมาเก็บงานให้คุณทีหลัง ครับ
…
ลองทำแบบ คห. 5 ครับ
เบิก 50,000 บาท
(เงิน ห้าหมื่น เขียนแบบที่ผมเขียนข้างบนครับ)
ราคา ค่าเครื่องมือผม อย่างไร ก็ไม่เกิน 20,000 บาท
โอกาสทิ้งงานมีสูงมากครับ
ผมไม่เคยให้ช่างคนไหน เบิกเงินก่อน แม้ครั้งเดียว
เนื่องจากเคยโดนมาแล้ว เงินแค่ 10,000 บาท
เิบิกไป แ้ล้วเบี้ยว กว่าจะตาม ทวงได้คืน
ต้อง ตาม 20 ครั้ง ได้มาครั้งละ 500 บาท
และงานที่ทิ้งไป ก็ไม่มาทำอีกต่างหาก
กระทู้ ด้วยความอาลัย แด่ผู้จากไป(ผู้รับเหมา) และผู้ใจดี (เจ้าของบ้าน) จำไว้เลยเวลามันจะจากไปรูปแบบจะเหมือนกันแทบทุกรายเลยล่ะ ดังน้ันเตรียมติดต่อรายใหม่ได้เลยครับอย่ารอให้เสียเวลา
จากใจลูกหลานชาวนะคะ
เกี่ยวข้าว ไม่ใช่ข้ออ้างค่ะ
แต่เป็นวิถีที่ดำเนินมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย
ทุกวันนี้แรงงานหนุ่นสาว เข้าเมืองไปรับจ้าง
ช่วงเกี่ยวข้าว, งานบุญบั้งไฟ, บุญเดือนสาม (แล้วแต่ท้องถิ่น) จะเป็นช่วงที่ลูกหลานได้กลับมาเยี่ยมบ้านพบปะพี่น้องกันค่ะ
เอาใจช่วยให้…ช่างกลับมานะครับ
ผมเจอข้ออ้างสุดคลาสิค
"ไปเกี่ยวข้าว"
เห็นด้วยกับ คห.8 คับ กำลังโดนอยู่ชอบจริงๆเกี่ยวข้าว ตลอดกันทั้งปี เรากินทุกวัน ไม่รู้จะเถียงมันยังไง เฮ้อ
ณ.ปัจจุบัน บ้านผมหยุดการก่อสร้างมาร่วม 2 เดือน เพราะ ผรม.หาช่างเข้ามาทำไม่ได้ หามาได้ก็เป็นช่างห่วยๆ
ช่างคนสุดท้ายที่ ผรม.เอาเข้ามาทำให้ปั้นบัวขอบหน้าต่าง-ประตู ก็จะต้องมีการเจาะเสียบเหล็ก ของทุกอย่างผมเป็นคนซื้อครับ ผมก็ซื้ออีพ๊อกซี่(a+b)ยี่ห้อ ซิการ์ มาให้ใช้ ผมเห็นช่าง..มันนั่งอ่านที่ข้างกระป๋องอยู่พักนึง ผมก็คิดอยู่ในใจว่าคงจะใช้เป็น ผมก็เดินไปทำอย่างอื่น ผ่านไป 15 นาที เดินกลับมาดู….ช่าง…มัน…เอาเหล็กที่ตัดเตรียมไว้จิ้มลงที่กระป๋อง a ทีนึง แล้วก็จิ้มที่กระป๋อง b อีกทีนึง แล้วมันก็เอาไปเสียบใส่รูที่เจาะไว้ครับ
จี๊ดขึ้นสมองเลยครับ สั่งให้มันหยุดเดี๋ยวนั้นและไล่มันออกจากบ้านผมเดี๋ยวนั้นเลยเช่นกัน ทุกวันนี้ผมต้องหาช่างเข้ามาทำเอง เป็นงานงวดสุดท้ายครับ ส่วนเรื่องเงินเหลืออยู่ 219,000 บาท ผรม.เคยมาขอเบิกไปจ่ายค่าปูน-ค่าของ 70,000 บาท ผมไม่ให้เลยสักบาทเดียว และทุกวันนี้ ผรม.ไม่กล้าโทรหาผมอีกเลย เครื่องมือที่ยังอยู่บ้านผมคือ โม่ปูน ปั๊มลม และพวกจอบ-บุ๊งกี๋ไม่กี่อัน