มาบอกประสบกรณ์หาบ้านมือสอง( แชร์คนมีงบน้อย และไม่มีที่ปรึกษา)

เข้ามาห้องชายคานี้ก็นานพอควร   เกือบ 3 ปี  มั่งค่ะ    มาตอนนี้เรากับสามี
เพิ่งจะมีบ้านเป็นของตัวเอง  ได้แค่ 15  วัน แต่ก็เห็นหลายๆคนมองหาบ้านหรืออนาตคคนที่อยากมีบ้าน    ได้มาอ่านน่าจะมีข้อมูลให้ได้ประโยชน์กันบ้าง

เข้าเรื่องกันเลยเนอะ   เรากับสามีต่างคนต่างไม่มีที่ปรึกษาแล้วค่ะคือ
พ่อและแม่ของเราทั้งสองคนเสียชีวิตกันหมดแล้วค่ะ  เลยไม่มีใครให้สอบถาม
เมื่อต้นปี  49  เราสองคนลาออกจากพนักงานประจำมาทำอาชีพ " ฟรีเลนซ์"
เราเริ่มจากหาเช่าเป็นบ้านเดียวเพื่อเอาพื้นที่ไว้ทำงานค่ะ  ราคาค่าเช่า 9,000/ เดือน
อยู่โชคชัย 4 ค่ะ  เหตุที่เราเลือกโซนนี้ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
คิดว่า…..เออไหนๆก็เสียเงินเช่าบ้านแล้วก็อยู่ในเมืองละกันเดินทางง่ายดี…..
อีกอย่างงานแบบเรา   ลูกค้าอยู่แต่ย่านธุระกิจทั้งนั้นรถราก็มีเยอะ

ตั้งแต่ก้าวแรกที่เราเดินเข้ามาอยู่บ้านเช่า    เราก็เริ่มคิดแล้วว่า
"…..ฉันต้องหาซื้อบ้านของฉันให้ได้ …"    บอกตรงๆว่าพอคิดแบบนี้มัน
สร้างแรงกดดันให้ตัวเองเอามากๆ   เพราะพอเราหาแล้วสามีเงียบ
ก็จะพานทะเลาะกัน   เพราะด้วยความอยากได้ของเราแต่เขาก็จะมีเหตุผลมา
ล้มล้างความคิดเราเสมอ

23 thoughts on “มาบอกประสบกรณ์หาบ้านมือสอง( แชร์คนมีงบน้อย และไม่มีที่ปรึกษา)

  1. วัช (huh)

    ปีแรกๆค่อนข้างลำบาก   หากใครจำได้ว่ามีเหตุการณ์ปฏิวัติยึดอำนาจช่วง
    19  พย. 49  เราสองคนก็โดนผลกระทบไปด้วย   คืองานน้อยลงรายจ่ายเท่าเดิม
    เงินเก็บที่มีก็ต้อเอาออกมาใช้   ตอนนี้เราแทบไม่ได้มองบ้านเลย  
    มาผ่านวิกฤตมาได้สักครึ่งปี    เราก็เริ่มต้นหาบ้านกันใหม่  โดยมากเราจะเป็นคนหามากกว่า    เพราะสามีไม่เล่นเนทค่ะ

    ความต้องการตอนแรกที่สามีเขาอยากได้คือ  บ้านแบบที่เช่าอยู่คือ
    บ้านเดี่ยวชั้นเดียว  มีเนื้อที่  โจทย์ยากมาก    แต่เราสองคนไม่เคยมองบ้าน
    มือหนึ่งค่ะ    เพราะความที่อาชีพเป็นแบบนี้เลยไม่คิด
    บอกตรงๆว่าตอนที่หาบ้านในเนท  
    ในใจก็คิดนะค่ะว่า   ……น้ำหน้าอย่างเรามันจะมีปัญญาซื้อบ้านหรอ……
    ดูถูกตัวเอาไว้ก่อน   เราเริ่มจากการถามคนพื้นที่แถวบ้านเช่า   ว่าแถวไหน
    มีบ้านประกาศขายบ้าง    วินมอไซค์ค่ะพอดีแอบจีบๆเอาไว้ใช้งาน
    เวลาน้องเขาเจอที่ไหนก็จะขี่รถมาบอกเรา    เราว่างก็จะไปดูทำแบบนี้ด้วย
    ดูทางเนท   ตอนที่ดูทางเนทก็กลัวนะเพราะว่ากลัวว่าไปดูไม่เอาแล้วเขาจะว่าเอา

    ระยะเวลาเกือบๆ 3 ปีเราเจอะเหตุที่เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดมาทั้งคู่เมื่อกลางปี51
    เราโดนรถชนกันมาเลยต้องเอาเงินมารักษาตัวอีก   หนักเข้าไปใหญ่พอเริ่มจะดีขึ้น
    เราก็คุยกันว่าไม่ได้ละต้องทำอะไรให้จริงจังซะที    
    เริ่มจากการทำบัญชีค่ะ    เป็นฟรีเลนซ์โดยมาเวลารับเงินจะใช้สำเนาบัตรประชาชนรับ
    เราก็แบ่งค่ะ    งานนี้สามีรับ  งานนี้เรารับ  เฉลี่ยให้มีรายได้สองคนทุกๆเดือน
    ที่นี้เราก็ว่างแผนเก็บเงิน   วิธีเก็บเงินของเราคือ  เปิดบัญชีใหม่ซะ
    แล้วก็แบ่งไปเลยว่าบัญชีไหนเอาไว้ใช้    อันไหนเอาไว้เก็บ

    ที่นี้เราก็มาคิดอีกว่า    ทำไงให้เงินมันงอกเงยละรอดอกเบี้ยคงไม่ไหว
    เลยเริ่มเอาเงินเก็บแบ่งไปซื้อฉลากออมสิน   และธกส  แบ่งนะค่ะไม่ใช่ทั้งหมด
    เก็บไปเก็บมาทยอยซื้อเอาค่ะ  เป็นหมื่นบ้าง   เป็นพันบ้าง  ดุว่าได้เงินมาเยอะมั้ย
    เอาแบบไม่ลำบากตัวเรา  เงินเก็บก็ยังแบ่งเก็บอยู่   ที่นี้มาเรื่องภาษีตั้งแต่เรา
    ลาออกมาจากบริษัทเราก็ยังคงส่งภาษี  ภงด 91 เองค่ะ  เพราะเงินที่เขาหักไปจากเรานั้นได้คืนแน่ๆ

    เอกสารทุกอย่างเราเก็บไว้หมด   เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้เอามาใช้
    มาเรื่องบ้านอีกทีนะค่ะ    

    เดี๋ยวมาเล่าใหม่นะค่ะ

  2. banarm

    เป็นวิธีที่ดีมากเลยครับอยากให้คนที่กำลังจะซื้อบ้านได้ทำกันครับ
    คือต้องวางแผนระบบการเงิน รายได้เพื่อแสดงให้ธนาคารเห็น

  3. อายุเป็นเพียงตัวเลข (nok_ken)

    ขอนั่งรอด้วยคน นะค่ะ

  4. boublekao

    เยี่ยมมากๆ เลยค่ะ ดีใจด้วยนะค่ะฝันเป็นจริงแล้ว

    แยกบัญชีเป็นระบบและลงทุนในกลุ่มไม่เสี่ยง
    และ ยังเก็บหลักฐานรายได้อย่างดี
    ควรแล้วที่คุณยืนได้ด้วยขาและพลังของตัวเอง

    บางท่านทำแต่ไม่เก็บ พอจะใช้ละวุ่นวาย

  5. m299

    เป็นกำลังใจให้ครับ มีความสุขกับบ้านใหม่ด้วยนะครับ

  6. aristocats

    เอาใจช่วยเจ้าของกระทู้ค่ะ
    เคยเป็นฟรีแลนซ์เหมือนกัน
    เห็นการเก็บเงินแล้ว ได้บ้านใหม่แน่ ๆ ค่ะ

  7. วัช (huh)

    ขอบคุณทุกคนที่แวะมานะค่ะ
    มาต่อเรื่องบ้านดีกว่าเนอะ   พอเรามองหาบ้านใน concept ของสามีได้
    แต่มันไม่ได้อยู่ในเมือง  ก็เลยมานั่งคิดว่า  เอะ…..หรือเราจะลองหาทาวน์เฮาส์เล็กๆดูบ้างละ  

    แต่พอได้ไปดูทาวน์เฮาส์อย่างที่บอก   สิ่งแรกที่เห็นคือมันเล็กมากๆๆค่ะ
    เอาง่ายๆนะค่ะ    ตอนเราเด็กๆเราก็อยู่ตึกแถวค้าขาย   แต่มันไม่ได้เล็กเหมือนทาวน์เฮาส์พวกนี้เลย

    เราสองคนเริ่มท้อ…..แบบบางที่ถ้าเราท้อมากๆเราก็หยุดนะค่ะเลิกเล่นเนท
    ไปพักหนึ่ง    พอความอยากได้บ้านมันกลับมาเราก็เปิดเครื่องใหม่
    เกือบๆ 3 ปี  ที่ผ่านมาไปดูบ้านเป็นสิบๆหลัง  
    แต่บ้านเขาเลือกคนอยู่ค่ะ   ถ้าเขาไม่อยากให้เราอยู่ทำยังไงก็ไม่ได้

    สิ่งที่เราสรุปโดยรวมเวลาเราตั้งเป้าหมายในการหาบ้าน

    – บ้านต้องอยู่ในเมือง หรือเดินทางสะดวกไม่ไกลเกิน    เพราะเราไม่มีรถ
    อยู่กรุงเทพเราไม่กลัวเพราะรถโดยสารรับจ้างเยอะ  

    –  หาของกินง่าย   ไม่เปลี่ยว  เป็นที่ชุมชน  แต่ไม่ใช่สลัม

    –  หมู่บ้านเก่าหน่อยไม่เป็นไร   อย่าให้มีทางลัดหรือเป็นทางผ่านมากนัก
    เพราะพวกมิจฉาชีพ  จะรู้ทางหนีทีไร่มากกว่าเราเยอะ

    –  เนื้อที่ของบ้านกว้างขวาง  เข้าไปแล้วไม่อึดอัด  ตัวบ้านตั้งแต่แรก
    ถ้ามีปัญหากับข้างบ้านไม่มากก็ยังพอไหว  

    เหตุที่เน้นบ้านมือสองนะค่ะ   อีกอย่างคือยังไงซะเราได้เห็นคนที่อยู่ก่อนเรา
    อยู่แล้วว่าเขาอยู่แบบไหนอาชีพอะไร   ไม่ใช่เราไปอยู่แล้วมีมาเปิดอู่ซ่อมรถ
    ที่นี้แย่เลยหนีไม่ได้แล้ว   บ้านต้องอยู่อีกชั่วชีวิตค่ะ

    นี้คือหลักของเราในการหาบ้าน  แล้วสุดท้ายเราก็ได้เจอบ้านที่เราอยากได้
    เราเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า   บ้านเขารอคนที่จะไปเป็นเจ้าของจริงๆมาอยู่นะ
    บ้านที่เราได้มีเนื้อที่  41.6 ตรว.  เป็นบ้านชั้นเดียวค่ะ  ตัวบ้านไม่ทรุดแต่เก่าตามอายุบ้านค่ะ

    ณ.ตอนนี้เรากำลังซ่อมแซมบ้านหลังแรกในชีวิตของเราอยู่   ซึ่งถามว่าเงิน
    เก็บที่เราจ่ายส่วนต่างไปแล้วนั้นมีพอมั้ย   บอกได้เลยว่าไม่พอค่ะ
    แต่เราคุยกับ  ผรม.ค่ะว่าเรามีเท่านี้จริงๆถ้าไงงวดต่อไปคงต้องผ่อนจ่าย
    เราโชคดีค่ะที่เขาให้โอกาสเรา   แล้วก็โชคดีอีกที่แบงค์ให้โอกาสเราได้เป็นหนี้
    เราถามเขาว่า "…..พี่ค่ะหนูมีสิทธ์หรือค่ะ …."
    คำแรกที่เขาตอบเราคือ…..ประวัติเราไม่มีตัวแดงเลย   ตัวเลขสวย
    เราแอบภูมิใจมากๆเพราะสิ่งที่เรามีวินัยทางการเงิน   มันส่งผลกับเราวันนี้เอง
    เราเคยถามสามีว่า…เราจะแบ่งส่งค่าบัตรที่เขาส่งบิลมาเรียกเก็บดีมั้ย
    แต่เขาบอกว่าอย่าเลย   เดี๋ยวประวัติเสียอันนี้เลยต้องยกผลประโยชน์ให้เขา
    ที่ตอนนั้นคิดจะส่งขั้นต่ำเพราะ   เราเอาเงินไปรักษาตัวตอนโดนรถชนกันค่ะ

    แต่ก็โชคดีที่เราพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง     หวังว่าสิ่งที่เราเล่าให้ท่านทั้งหลายฟัง
    จะมีประโยชน์กับท่านบ้างไม่มากก็น้อยนะค่ะ
    ฝากไว้ว่า  " จงอย่าเดินตามคนอื่น   ในขนาดที่เรายังไม่รู้ว่าจะเป็นอะไร "
    อีกอย่างคือ  วินัยในตนเอง  อันนี้ใช้ได้กับทุกๆเรื่องในชีวิตค่ะ

  8. primploy

    สุดยอดเลยค่ะ

    ส่วนตัวกำลังดูบ้านมือสองหลังหนึ่งอยู่เหมือนกัน แต่้ก็กังวลใจว่าจะกู้แบงค์ไม่ผ่าน
    เราก็ทำบัญชีเหมือน จขกท ค่ะ ลำบาก และอึดอัดมากในช้วงแรก เพราะว่าสามีเราเป็นคนที่ใช้เงินมั่วไปหมด…คือว่าเขาไม่สามารถแบ่งเป็นส่วนๆ หรือมีวินัยทางการเงินไม่ดีพอค่ะ ช่วงแรกทะเลาะกันพอสมควร จนเราต้องขอร้องเพื่ออนาคตของพวกเรา….เราฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่ต้องใหญ่ แต่ว่าเป็นที่ๆเราอยู่แล้วสบายใจ อยากกลับบ้าน…..ชอบอยู่บ้านค่ะ

    ยินดีกับ จขกท ที่ทำฝันเป็นจริง

    เราก็หวังว่าฝันเราจะมาถึงเร็วๆนี้

  9. วัช (huh)

    ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะที่เข้ามาอ่าน
    คุณ  bigabyte555   อยากเห็นบ้านไปดูในบล็อคนะค่ะมีตั้งแต่ตอนไปดูจนตอนนี้กำลังขึ้นโครงหลังคาค่ะ

  10. วัช (huh)

    มาบอกรายละเอียดที่เรายื่นเอกสารกับแบงค์ไปให้ทราบเผื่อใครกำลังจะยื่น

    1 บัญชีเงินฝากที่มีทุกแบงค์  เราย้อนหลังปีกว่าเลยค่ะ   ด้วยเพราะว่าเรารู้สึกว่า
    เราไม่มีเงินเดือน  ดังนั้นการที่เราอดทนเก็บเงินมา 2 ปีกว่ามันน่าจะใช้ได้หน่า

    2   เงินออมค่ะพวกฉลากออมสิน   ต่างๆถ่ายหมดทั้งหน้าและหลัง

    3   ใบหักภาษี ทวิ 50 ค่ะ  เราถ่ายย้อนหลัง 2 ปีค่ะ เพื่อความชัวร์
        และเรามั่นใจว่าเขาน่าจะอยากเห็นค่ะ  ก็อย่างที่รู้ว่าไม่มีเงินเดือนเนอะ

    4   ที่นี้ก็ไปปริ้ท์ใบเสร็จการยื่นภาษีกับรายการการส่งภาษีย้อนหลัง 2 ปี
        ต้องไปเอาในเวป  http://rdserver.rd.go.th/publish/index.php  
        ถ้าคนที่ส่งภาษีทางเนทจะทำง่ายค่ะ  แต่ถ้าส่งกับเจ้าหน้าที่ต้อง
         ของคัดลอกที่กรมสรรพากรพื้นที่นั้นๆค่ะ

    5   ผลงานที่เราทำเน้นเลยนะค่ะ   ต้องมีรูปหน้าเราอยู่ด้วยจะดีมากๆ
        อันนี้ไรท์แผ่นส่งให้ดุทุกแบงค์เลยค่ะ

    6  แล้วถ้ามีคู่ครองทะเบียนสมรสค่ะ  แล้วก็บัตรประชาชนถ่ายสำเนาทั้ง 2      อย่างเลยค่ะ

    ที่สำคัญนะค่ะ  ใครที่คิดว่าจะทำบัญชีโดยเอาเงินคนนี้มาโอนใส่ให้ในบัญชี
    บอกตรงๆว่าอย่าทำเลยค่ะ   พยายามเก็บเองจะดีกว่าเพราะแบงค์เขาดูรู้หมด
    ค่ะว่าเงินมาจากไหน   เราเองถือศีล 5  เราเลยไม่โกหกและพยายามบอกแบงค์ได้เท่าที่จะบอกได้    
    เพราะตอนที่เราอยากได้บ้านเราเองก็หาข้อมูลมานาน
    หลายปีเห็นมาหลายคนแล้วที่โกหก   แล้วสุดท้ายไม่มีเงินส่งมันก็เป็นบาป
    ที่เราสร้างเองนี้ละค่ะ   อยากบอกว่าค่อยเก็บช้าหน่อยไม่เป็นไร  อย่าเอาเวลามากดดันตัวเองเลยค่ะ   ว่าต้องมีตอนนี้อายุเท่านี้ บางที่ของบางอย่าง
    มันยังไม่ถึงเวลาเราก็ต้องคืนเขาไปถูกมั้ยค่ะ

  11. วัช (huh)

    ส่วนงบประมาณที่เราตั้งไว้ไม่เกิน 1.5 ล้าน ค่ะ  เพราะคิดว่าราคาประมาณนี้
    เราสองคนน่าจะผ่อนไหว   รายได้เราสองคนถ้าคิดแบบเฉลี่ยๆนคะ
    รายได้เราต่อเดือน 30,000 บาท ของสามี 20,000 บาท
    อันนี้ก็ผลมาจากที่เราแบ่งกันรับเวลายื่นเอกสารกับลูกค้าค่ะ  เพราะงานแต่ละงาน
    ราคาค่าแรงจะไม่เท่ากันค่ะ   บางเดือนเช็คออกมาร่วมๆแสนก็มี  บางเดือนออกมาแค่ 15,000 บาทก็มี  แต่เราเฉลี่ยกันรับเงินไงค่ะ

    เราเคยไปดูบ้านนะเป็นทาวน์เฮาส์สามชั้น  บ้านก็โอหรอกแต่สิ่งแวดล้อมไม่น่าอยู่เลย  
    มีแต่พม่า   บ้านข้างๆก็ร้างไม่มีคนอยู่ส่วนมากจะเอาบ้านมาเป็นโรงงาน
    ดูๆไปแล้วถ้าขืนเอานี้มีหวัง  ปวดหมองแน่ๆเข้าไปเจอคนงานเอา
    ผ้าหม่คุมโปง   อยู่ดีๆลุกขึ้นมาเราใจตกแทบแย่……ฮะๆๆตกใจเนอะ

    เสพยาอะ…มองปร๊าดเดียวรู้เลย   เลยคิดว่าแถวนี้ไม่น่าอยู่เลยอะ
    เลยมะเอาดีก่า  

    พอวันที่เราจะไปดูบ้านหลังที่เราจะได้เป็นเจ้าของ   เราก็ดูผ่านเวปซึ่งเป็นโบรกเกอร์ขายบ้านค่ะ
    ตอนแรกสามีก็ว่าจะไม่ไปเราเองเห็นในรูปก็ไม่อยากตัดสิ้นใจอย่างเดียว
    ต้องไปดูด้วยตาตัวเองจะได้รู้ว่าอะไรตรงไหนดีมันไม่ดีอย่างไร
    เพื่อนบ้านเป็นยังไง   สิ่งแวดล้อมแย่มั้ย  
    อีกอย่างราคาที่เขาตั้งไว้ค่อนข้างสูงกว่าที่เราคิดไว้   แต่เราก็คิดเองว่า
    เอาน่าไหนๆก็ไม่มีอะไรจะเสียละ   ลองไปดูสิถ้าชอบก็ต่อถ้าไม่ก็ออก

    ไปถึงหน้าบ้านโดยที่โบรกเกอร์ยังไม่มา   เราก็เริ่มถามๆคนแถวนั้นแต่ก็มอง
    ไปมองมาไม่เห็นใครเลย  เห็นยายบ้านตรงข้ามเลยถามแก
    แกก็บอกว่าเจ้าของอยู่บ้านข้างๆแกนี้ละ   อะโชคเข้าข้างเราละ
    เราเลยไปทักทายแล้วก็เริ่มสนทนากันไป   แต่ก่อนที่จะไปเชิญเจ้าของบ้านมา
    สามีเราก็สำรวจบ้านโดยรอบแล้วละ   เพราะรั่วบ้านไม่ได้ล็อคค่ะเลยถือวิสาสะ
    เดินเข้าไปเอง   เข้าเรื่องตอนคุยกับเจ้าของเลยดีก่า  

    เจ้าของบ้านเป็นชายแก่ดูมีอายุแต่สุขภาพดีมั๊กๆ    เราเองก็คนไม่มีฟรอม์
    ยืนคุยแบบไม่มีกั๊ก   เรามีเงินแค่ไหนเราก็บอกไปว่ามีไม่เยอะแต่ก็ไม่ได้บอกจำนวนที่แน่นอน
    แต่จากที่เรายืนคุยสักพักเราเริ่มตีวงล้อมให้กระชับขึ้น   เพื่อจะถามว่าจะลดได้อีกมั้ย
    พี่เขาก็ตรงๆ  ถามเลยน้องสู้ได้เท่าไร  เราเลยบอกว่า….
    …..หนูต่อครั้งเดียวเลยนะค่ะ   แบบว่าจะถีบหนูออกจากนี้เลยก็ได้…
    ( เราพูดแบบนี้จริงๆนะ 5555)   บ้านนะ 1.75ล้าน  เราบอกว่า 1.5  ล้าน
    ได้มั้ยค่ะครั้งเดียวเลยไม่ต่อแล้ว  พี่เขาเงียบไปพักหนึ่งแล้วบอกว่า…….

    ………อะ…ได้แต่ค่าโบรกเกอร์เราต้องออกให้เขานะ ….เป็นเงิน 45,000 บาท
    เราได้ยินงี้โห่……………..เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆบ้านจะเป็นของเราจริงๆเรอะว่ะ
    แต่….เราก็หยุดชงักความสุขแป๊ปหนึ่งอีกครั้ง   แล้วนึกในใจว่า
    เฮ้ย…แล้วถ้ายื่นกู้แบงค์ไม่ผ่านละ   นี้ละปัญหาตัวต่อไปเรามีเวลายื่นกู้ 1 เดือน

    เหมือนโชคจะเข้าข้างเราอีกครั้ง   พอคุยกับพี่เขาไปด้พักหนึ่งพี่เขาชวนไปนั่ง
    ที่บ้านเขาฝั่งตรงข้าม แล้วก็รอโบรกเกอร์มาเพื่อเขียนสัญญาจะซื้อจะขายกัน
    ความจริงเวลาคนจะซื้อบ้านต้องวางมัดจำใช่มั้ยค่ะ   แต่พี่เขาไม่เอาค่ะ
    พี่เขาบอกว่าถ้าเรากู้ไม่ผ่านจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาเอาเงินเคืน  เจ๋งมั้ยล่า

    แล้วโบรกเกอร์เองก็เป็นใจ  ฟ้าฝนก็เป็นใจค่ะตกไม่ลืมหูลืมตาค่ะ
    อะนี้เราถือว่าโชคดีค่ะ   ได้ดูระบบระบายน้ำของหมู่บ้านนี้ด้วยค่ะว่าตกหนักขนาดนี้
    จะท่วมบ้างมั้ย   ไม่มีเลยค่ะจริงๆถ้าให้เราเลือกดูบ้านเราจะเน้นดูหน้าฝนค่ะ
    มันจะทำให้เราเห็นรอยรั้วของหลังคาและน้ำจะท่วมในหมู่บ้านมั้ย
    …####…….2  ปีกว่าๆเลยนะกว่าเราจะเจอบ้านของเรา…….#####

    ขอให้คนอยากมีบ้านได้บ้านสมใจนะค่ะ

  12. Pigfarm

    มารอ …

    เอะ สองคน รายได้ ก็โอเค นะครับ

    บ้านแถวไหน ได้ พื่นที่เยอะดีจัง

  13. วัช (huh)

    ลาดปลาเค้า 76  ค่ะเป็นหมู่บ้านเก่าแก่แล้วละค่ะ คุณ Pigfarm

  14. samr

    ชื่นใจกับบ้านหลังใหม่ด้วยนะครับ

    มีเมียมีวินัยทางการเงิน  มีแต่แฮปปี้ๆครับ

    ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

    ha ha ha

  15. SWEET TOFFY

    ยินดีด้วยนะคะ   มีบ้านนี่มีความสุขจริืงๆ ^_^

  16. Pigfarm

    ลาดปลาเค้า

    ไม่รู้จักครับ คิคิ

    ผมคน กทม แต่ไม่ค่อยได้ไปไหน

    ได้พื้นที่มากๆไว้ก่อน เผื่อลื้อสร้างใหม่ สบายๆ

  17. Fly away home

    คล้ายๆกับเราเลยค่ะ ของเราเลือกหมู่บ้านเล็กๆมีทางเข้าออกอยู่ทางเดียว และที่สำคัญจะรู้จักว่าบ้านนี้บ้านนั้นเป็นใคร เพราะเด็กๆก็จะเรียนรร.เดียวกันหรือใกล้กัน เวลามีปัญหาอะไรจะรู้หมดว่าลูกใคร อยู่ตรงไหนเสพยาหรือพวกแกงค์รึเปล่า ที่เราอยู่เป็นเมืองเล็กๆแต่มีครบทุกอย่างสำหรับความจำเป็นในการดำรงค์ชีวิต

    ก่อนมาซื้อบ้านหลังปัจจุบันเรามีเวลามาดูบ้านแค่หนึ่งอาทิตย์ (ย้ายรัฐ)
    เราไปดูมาทั้งบ้านใหม่ที่จัดบ้านตัวอย่างไว้สวยงามมากแต่แพงมากเช่นกัน และไปเจอบ้านมือสองหลังหนึ่งซึ่งเจ้าของตกแต่งไว้สวยสะอาดมาก
    เราเห็นปุ๊บชอบปั๊บแต่โบรกเกอร์บอกว่าวันรุ่งขึ้นจะมีการประมูลบ้านที่ถูกยึดในอีกหมู่บ้านหนึ่งให้รอก่อน เพราะบ้านหลังที่เราชอบถึงจะสวยแต่เล็ก และอยู่ในหมู่บ้านในระดับล่างลงไปนิดนึง (แอบกลัวพวกแกงค์ยาเสพติด)

    วันรุ่งขึ้นเราไปรอเข้าแถวประมูลบ้านอีกหมู่บ้านหนึ่งกะเขาด้วย ซึ่งหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่ดีที่สุดของเมืองนี้ในขณะนั้น บ้านค่อนข้างแพงแต่หลังที่เราจะประมูลนี่แบบขายทอดตลาดแล้วเลยถูกมาก คนมาดูและประมูลหลายคนเชียวค่ะ เสนอราคาเสร็จเราก็บินกลับมารอที่บ้าน ใจคิดว่าคงไม่ได้บ้านแล้วเพราะเราประมูลไว้ถูกมากไม่ต่างจากราคาที่เริ่มต้นซักเท่าไหร่ ได้แต่คิดว่าถ้าบ้านจะเป็นของเรายังไงก็เป็นของเรา

    ซักอาทิตย์หนึ่งต่อมาเราก็ได้รับโทรฯจากโบรกเกอร์ของเราว่า เราได้บ้านค่ะ เย้…และมารู้ทีหลังว่าที่จริงเราเสนอราคาไว้ถูกกว่าของคนอื่นๆ แต่ที่เราได้บ้านเพราะธ.ทางโน้นเห็นว่าประวัติทางการเงินทางเราดีมากเขาเลยอนุมัติให้เราได้บ้านค่ะ จึงอยากจะบอกว่าที่บางคนกลัวว่าจะซื้อบ้านไม่ได้เพราะเงินไม่มากนี่ ที่สำคัญคือประวัติทางการเงินและวินัยในการใช้เงินของคุณด้วยค่ะ

    ตัวเองมีเคล็ดสำหรับการซื้อบ้านมือสองอีกอย่างคือ (นอกจากที่คุณจขกท.ว่าไว้แล้ว) เราเลือกบ้านที่สภาพดีแต่เจ้าของไม่รู้จักดูแลปล่อยให้รกรุงรังบ้างหรือบ้านที่บอกขายมานานแต่ขายไม่ได้ เพราะเราจะซื้อบ้านได้ในราคาถูกค่ะ เสร็จแล้วพอเราซื้อมาตกแต่งเสียใหม่นี่มันก็เหมือนใหม่แหละค่ะ โชคดีที่บ้านสองหลังแรกที่ซื้อก็มือสองรวมหลังที่อยู่ตอนนี้สภาพดีมากไม่ต้องซ่อมเลย เพียงแต่เจ้าของไม่เอาใจใส่ปล่อยให้รกรุงรังเท่านั้นเอง เราจึงซื้อบ้านได้ถูกและเมื่อมาตบแต่งใหม่ตอนขายก็ได้กำไรค่ะ

    ว่าซะยาวเลย…..เฮ้อเหนื่อย อ้อลืมบอกคุณจขกท.ไปว่าดีใจกับบ้านหลังนี้ด้วยค่ะ

  18. วัช (huh)

    ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านประสบการณ์นะค่ะ
    @ คุณ Fly away home   มันน่าดีใจนะค่ะเวลาที่เรารู้ว่าเราจะได้เป้นเจ้าของ
    บ้านของเราเองซะที่

    @  Pigfarm   ไม่แปลกหรอกค่ะ   เราเองก็ไม่ได้เก่งเท่าไรกับการเดินทางในกทม   ขนาดอยู่มาตั้งแต่เด็กนะ 5555

    @   SWEET TOFFY   ขอบคุณนะค่ะแต่ถ้าจะสุขใจกว่านี้อยากย้าย
    ไปอยู่เร็วๆจัง

    @  primploy   ขอให้หาบ้านตัวเองจนเจอ  พอเวลาเราเจอมันจะรู้สึกเองว่าใช่ค่ะ   แต่ตอนที่เราเจอบ้านเราก็ยังหวั่นๆอยู่นะว่าจะได้มั้ยหน่อ

  19. khunpumpim

    ความอดทนย่อมได้มาซึ่งสิ่งที่คุ้มค่าเสมอค่ะ
    ดีใจด้วยจริงๆค่ะ

Comments are closed.