5 thoughts on “จะซื้อ projector”

1. ผีแดงแดนสยาม December 29, 2010 at 4:42 am

   1.) ความละเอียด
    – งบน้อย , ใช้ฉายภาพจากวีดีโอ – ทีวี – power point ธรรมดา ก็เลือกที่ความละเอียดระดับ SVGA ( 800 x 600 ) , งบเยอะหน่อยให้เลือกความละเอียดเยอะขึ้นคือ XGA ( 1024 x 768 ) หรือ WXGA ( 1280 x 800 ) ความละเอียดยิ่งเยอะตัวอักษร/ลายเส้นก็จะดูคมขึ้น แต่ราคาก็จะแพงขึ้น

   2.) ความสว่าง
   – งบเยอะ ก็ให้เลือกความสว่างเยอะไว้ก่อน หน่วยเป็น Ansi Lumens ปัจจุบันมาตรฐานเริ่มที่ 2500 Ansi Lumens ขึ้นไปครับ , สว่างไว้ก่อน ไปฉายในห้องเราเปิดไฟในห้อง เพื่อเขียนหนังสือได้ หรือ ฉายภาพใหญ่ๆ แสงก็จะยังเข้ม ทำให้ภาพยังดูคมชัดครับ

   3.) ยี่ห้อ
   – ดูของญี่ปุ่นเช่้น Epson , Pana , Sony , Sanyo , Canon หรือจะเป็น Acer , Samsung พวกนี้ก็โอเคครับ ไม่หนีกัน
2. Nopparat_r1 December 29, 2010 at 4:42 am

   ปัจจุบันที่ใช้อยู่ นะครับ

   1 ดูอายุของหลอดภาพ
   2 ดูราคาของหลอดภาพ

   เครื่องแรกที่บริษัท ซื้อ LCD ของ SHARP  6 หมื่น ตอนนี้พังไปแล้ว
   ซื้อใหม่ไป Epson น่าจะเป็นแบบ DLP นะ ราคา 23500 บาท ดีกว่า Sharp อีก

   แต่ถ้า จะเอาไปใช้ข้างนอก ด้วย ก็เลือกเบาๆ เล็กๆหน่อยครับ
3. ผีแดงแดนสยาม December 29, 2010 at 4:42 am

   อายุหลอดภาพ ปกติแต่ละยี่ห้อจะบอกว่าทำได้ 4-6 พันชั่วโมงแล้วครับ แต่เวลาใช้งานจริงๆ ไม่ถึงหรอกครับ เพราะเราใช้จริงๆแค่ไม่กี่ชั่วโมง แล้วก็ปิด การเปิด-ปิดบ่อย ทางบริษัทมักจะอ้างได้ว่าทำให้อายุการใช้งานสั้นขึ้น

    ปัจจุบันผมว่า ถ้าใช้โปรเจคเตอร์ ได้2 ปี ก็ถือว่าโอแล้วครับ 3 ปีขึ้นยิ่งเป็นกำไร ถ้าหลอดภาพหมดอายุ ก็แนะนำซื้อเครื่องใหม่ดีกว่าครับ เพราะเทคโนโลยีไปไวมาก เหมือนคอมพิวเตอร์แหละครับ ชัดขึ้น สว่างขึ้น แต่ถูกลงครับ…  ( อ้อ อย่าลืมเลือกยี่ห้อที่มีศูนย์ซ่อม-ศูนย์บริการ และมีบริษัทเป็นตัวเป็นตนนำเ้ข้านะครับ เดี๋ยวไปเอายี่ห้อแปลกๆ เวลาเสีย หาอะไหล่ไม่ได้จะช้ำเอาครับ .. )
4. vpramote010 (vpramote010) December 29, 2010 at 4:42 am

   ขอบคุณมากครับ
5. บ้าแล๋น December 29, 2010 at 4:42 am

   ลองดูตัวนี้ไว้เป็นทางเลือกดูครับ  ดูแล้วน่าสนใจดี

   
   

   
   

Comments are closed.