เป็นบ้านเดี่ยวมือ 2 อายุบ้าน 30 ปี (ชั้นล่างเป็นปูน ชั้น 2 เป็นก่ออิฐที่ผนังด้านนอกแต่ภายในเป็นไม้) สภาพบ้านภายในโดนปลวกกัดทำลายเยอะมาก ตั้งแต่โครงหลังคา เสา พื้น วงกบประตูหน้าต่าง พื้นห้องน้ำชั้น 2 ก็รั่วซึม สรุปว่าต้องซ่อมเกือบทั้งหลัง โดยมีรายการซ่อมดังนี้ ….
1. รื้อโครงหลังคาเก่าออกแล้วทำใหม่ เป็นโครงเหล็กโดยใช้แบบเดิม สเปคกระเบื้องมุงหลังคาก็เหมือนของเดิม
2. ถอนเสาต้นที่โดนปลวกกิน แล้วหล่อเสาขึ้นมาใหม่
3. ซ่อมพื้นไม้ชั้น 2 (ไม่ได้เปลี่ยน)
4. เดิมมีห้องนอนชั้น 2 อยู่ 2 ห้องกั้นฝาไม้ ทุบออกให้เหลือห้องนอนใหญ่ห้องเดียว ที่เหลือปล่อยเป็นโถงโล่ง
5. เปลี่ยนประตู หน้าต่าง ใหม่หมด จากกรอบไม้เป็นกรอบอลูมิเนียม
6. ผนังบางด้านเอาหน้าต่างออกแล้วก่ออิฐให้เป็นผนังทึบ
7. ซ่อมพื้นห้องน้ำ และเปลี่ยนสุขภัณฑ์ใหม่หมด
*** ทั้งนี้ทั้งนั้น ขนาดของบ้านยังคงเท่าเดิม แปลนของบ้าน (นอกจากเอาห้องนอนออกเสีย 1 ห้อง) ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม และไม่ได้ต่อเติมเพิ่มจากของเดิมที่มีอยู่ ***
*** คำถามก็คือ ***
1. การซ่อมแซมโดยไม่ได้ต่อเติม ต้องขออนุญาตเทศบาลก่อนหรือไม่? (เพราะบ้านเข้าอยู่ไม่ได้เลยค่ะ มีสิทธิ์พังได้ หากไม่ซ่อมซะก่อน)
2. กรณีอย่างไรถึงเข้าข่ายต่อเติม เพราะเราใช้แปลนเดิม และขนาดพื้นทีใช้สอยไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม
3. หากกระทำการซ่อมแซมโดยไม่ได้ขออนุญาต มีบทลงโทษอย่างไร แล้วเค้าเอาอะไรมาเป็นตัวตัดสินค่าปรับ
ข้อหลังนี่ถามไว้เผื่อโดนรีดไถนะคะ ใกล้สิ้นปีแล้ว กลัวเค้าจะขยัน make money น่ะ
คำค้นหา:
- ซ่อมบ้านเก่า
- ซ่อมแซมบ้านเก่า
ลองอ่านดูครับ อันที่น่าจะเข้าข่ายการต่อเติมใด ๆ ก็ตาม หากต้องมีการลงเสา ขึ้นคาน หมายความว่าต้องใช้เสาเพิ่ม และวางคานเพิ่ม ล้วนต้องขออนุญาต โดยพื้นฐานคือไปขออนุญาตที่สำนักงานโยธาเขต
การเปลี่ยนโครงสร้างของอาคารโดยใช้วัสดุขนาด จำนวน และชนิดเดียวกับของเดิม เว้นแต่การเปลี่ยนโครงสร้างของอาคารที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก คอนกรีตอัดแรง หรือเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ
ข้อนี้หมายถึงสิ่งที่เราเรียกกันว่าโครงสร้างของอาคาร อาทิ เสา คาน ตงที่เป็นไม้ เป็นต้น หากโครงสร้างอาคารเหล่านี้มีอาการชำรุด เช่นปลวกขึ้น ทำให้ไม้ผุ เราจำเป็นต้องเปลี่ยนโครงสร้างเหล่านั้นใหม่ การใช้ไม้เช่นเดิม จำนวนและขนาดเท่าเดิมก็ไม่ถือเป็นการดัดแปลงอาคาร แต่หากโครงสร้างเหล่านี้เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก คอนกรีตอัดแรง หรือเหล็กโครงสร้างรูปพรรณเกิดเป็นสนิมผุกร่อน ถ้าต้องเปลี่ยนใหม่ก็ต้องขออนุญาตก่อนครับ แม้จะใช้วัสดุอุปกรณ์ ขนาด จำนวนเท่ากันก็ตาม
การเปลี่ยนส่วนต่างๆของอาคารที่ไม่เป็นโครงสร้างของอาคาร โดยใช้วัสดุชนิดเดียวกับของเดิมหรือวัสดุชนิดอื่น ซึ่งเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้แก่โครงสร้างของอาคารเดิมส่วนหนึ่งส่วนใดเกินร้อยละสิบ
ข้อนี้หมายถึงส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้างอาคาร เช่น พื้น ผนัง เป็นต้น ที่เคยเป็นพื้นปาร์เก้ อยากเปลี่ยนเป็นพื้นหินอ่อน หินแกรนิต อย่างนี้ก็ต้องคำนวณน้ำหนักดูด้วยว่าเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเกินร้อยละสิบหรือไม่ ไม่เกินก็ไม่เป็นไร แต่หากเกินก็ต้องยื่นขออนุญาต ปัญหาอยู่ที่ว่าถ้าคำนวณน้ำหนักด้วยตนเองไม่เป็น ก็ควรให้วิศวกรเป็นผู้คำนวณให้ เพราะหากน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากก็จะทำให้โครงสร้างอาคารต้องรับน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
การเปลี่ยนแปลง การต่อเติม การเพิ่ม การลด หรือการขยายซึ่งลักษณะขอบเขต แบบ รูปทรง สัดส่วน น้ำหนัก เนื้อที่ส่วนต่างๆของอาคารที่ไม่เป็นโครงสร้างของอาคาร ซึ่งไม่เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับโครงสร้างของอาคารเดิมส่วนหนึ่งส่วนใดเกินร้อยละสิบ
ข้อนี้ไม่แตกต่างจากข้อสองมากนัก เพราะเป็นการเปลี่ยนแบบ เปลี่ยนสไตล์ของพื้นที่เล็กๆน้อยๆภายในบ้านและไม่ก่อให้เกิดน้ำหนักเพิ่มแต่ประการใด อาทิ การเปลี่ยนแบบประตู หน้าต่าง เปลี่ยนลายกระเบื้อง ฝ้า เพดาน กรณีนี้ไม่ต้องยื่นขออนุญาต หรือหากการเปลี่ยนอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ไม่เกินร้อยละสิบของน้ำหนักเดิมก็ไม่จำเป็นต้องยื่นขออนุญาตแต่อย่างใด เปลี่ยนอย่างนี้ไม่ผิดกฎหมายครับ
ไม่ทราบว่า ที่ตั้งอยู่ที่ไดครับ สนใจหลังไมค์ได้ครับ
การปลูกสร้างโดยต่อเติม หรือดัดแปลงอาคาร ซึ่งจำต้องได้รับอนุญาตนั้นมีกำหนด ดังต่อไปนี้
– ขยายพื้นชั้นหนึ่งชั้นใดตั้งแต่ 5 ตารางเมตร
– เปลี่ยนหลังคา หรือขยายหลังคาให้ปกคลุมเนื้อที่มากขึ้นกว่าเดิม
– เพิ่ม ลดจำนวน หรือเปลี่ยนเสา คาน บันได และผนัง
สรุป ต้องขออนุญาตครับ ควรหาจ้างผู้รับเหมา ให้เขาไปจัดการเรื่องเอกสารให้ด้วย เพราะต้องมีวิศวกรควบคุมงานด้วย
ถ้าไม่ขอเราว่าโดนแน่นอน ไม่เรื่องตั้งกองทรายไว้หน้าบ้าน หรืออื่น ๆ พวกนี้เค้ามีทีมงานหากินรอลับมีดอยู่แล้ว จะมากจะน้อยอยู่ที่เค้าจะเรียก
ส่วนใหญ่เจ้าของบ้านที่โดนมักจะจบที่ใต้โต๊ะค่ะ