กลางท้องทะเลและสายลม October 12, 2010 at 9:28 am ไม่ได้เป็น interior นะครับ แต่เป็น สถาปนิก ขอตอบในฐานะผู้ออกแบบด้วยกัน ว่าไม่มีคำว่ายากครับ ผู้ออกกแบบที่ดีต้องทำได้ทุก สไตล์ ยิ่งมีข้อจำกัดมากยิ่งสนุก และ ท้าทาย เพราะพวกเราจบมาเพื่อทำงานบริการครับ แต่ถามว่าแบบไหนอึดอัดใจที่สุดดีกว่า แบบที่ไม่ใช่เจ้าของบ้าน เดินถือเข็มทิศไปมา แล้วมาบอกว่าตรงนี้ ไม่ถูกชโลก ประตูนี้ขัดโชคลาบ น้ำตก ส้มตำ อะไรก็แล้วแต่ แล้วก็ไม่บอกว่าให้ทำแบบไหน ต้องรื้ออย่างเดียว ถึงจะเฮง หรือทำเสร็จงานแล้วเพื่ง ลงมาจากสวรรค์ แล้วท่านเจ้าขอบ้านก็พร้อมจะเชื่อ นี้ละครับ ว่าแล้วก็เศร้า ……. ก็ท่องไว้ว่า ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจผู้นอน
เจ้าของบ้าน October 12, 2010 at 9:34 am ถามต่ออีกหน่อย… interior ชอบบอกว่า interior ที่ดีต้องออกแบบได้ทุกสไตล์ แต่จริงๆแล้วคนเรามันน่าจะมีสไตล์ที่ตัวเองถนัดที่สุดใช่มั๊ยแล้วถ้าต้องออกแบบในสไตล์ที่ไม่ถนัดมากที่สุด ยังจะทำงานออกมาได้ดีมั๊ยคะ ตอบแบบจริงๆไม่อิงนิยายนะเออ…
กลางท้องทะเลและสายลม October 12, 2010 at 9:49 am ถูกครับ เรามี สไตล์ ที่ชอบ พอชอบเรามักจะฝึกฝน ฝึกมากมันเลยถนัดแต่ยกตัวอย่าง มีน้องคนนึงครับ จบ สถาปัตย์ไทย ชอบงานไทย ทำวัด วิหาร มีครั้งนึงต้องออกแบบงาน แบบพวก บาโรก คนนั้นก็นั่งอ่านหนังสือ ศึกษาข้อมูลก่อนมาออกแบบ งานก็ออกมาดี อาจจะไม่ดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด เพราะคนที่ศึกษาด้านออกแบบมักจะมี scene ด้านความงามอยู่กับตัวครับ หรือผมเอง ชอบทำบ้าน ชอบงานเล็กๆ สีสันจัดจ้าน แต่ถ้าไปทำงาน นิ่งๆ มินิมอล ๆ ก็เคยทำมาแล้วครับ
กลางท้องทะเลและสายลม October 12, 2010 at 9:54 am ขอแค่เจ้า ของบ้านเข้าใจ ความคิดเรา แต่อย่าเชื่อสะหมดนะครับ ไม่ใช่ทุกคน เพราะบัวยังมีหลายประเภท แล้วคนจะไม่มีหลายแบบเลยเชียวหรือ
INPLUS October 12, 2010 at 10:09 am ไม่มีผู้ออกแบบท่านไหนที่เก่งไปทุกสไตล์หรอกครับขนาดในออฟฟิศยังแบ่งผู้ออกแบบออกตามแต่ความถนัดของแต่ละท่าน ใครถนัดสไตล์ไหน โปรเจคก็จะแบ่งไปตามนั้น น้อยมากครับที่ผู้ออกแบบท่านเดียวจะทำได้ทุกสไตล์แล้วออกมาดี ของอย่างงี้มันอยู่ที่ตัวผู้ออกแบบเป็นหลักครับถ้าผู้ออกแบบทำงานในสไตล์นั้นมาจนชำนาญและที่สำคัญ มีความชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วหละก็งานก็จะออกมาดีแน่นอน (แถมงานแต่ละงานจะมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัว) แต่ถ้าตรงกันข้าม งานก็จะออกมาดูธรรมดา-เหลวไม่เป็นท่า แล้วในจุดตรงนี้เองที่ทำให้ผู้ออกแบบไม่กล้ารับงานที่ตัวเองไม่ชำนาญ เพราะผลเสียที่ตามมามีเยอะมาก ทั้งด้านชื่อเสียงของผู้ออกแบบเอง ปัญหาหน้างาน ปัญหากับช่าง ยืดเยื้อไปถึงเรื่องของเวลา และแน่นอนที่สุด ปัญหากับเจ้าของบ้าน ตย.ให้ช่างปูนไปเรื่อยไม้ ให้ช่างไม้ไปฉาบปูนอย่าเพียงแค่คิดว่าเขาเป็นช่าง แล้วจะทำได้ทุกอย่าง ***เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล รอคนข้างล่างมาต่อ***
กลางท้องทะเลและสายลม October 12, 2010 at 10:35 am ใช่ครับ เพราะถ้าอยู่ บ.ท่านจะรู้ว่า 1 คน ก็รับไม่ต่ำกว่า 2 Project เขาไม่มีเวลามานั่ง หาข้อมูลหรอกครับ เขาเลยให้งานที่ใครถนัททำ คนที่ถนัดก็ได้ทำแต่แบบนั้น ซ้ำๆไม่เก่ง ไม่รู้ปัญหาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วครับ จริงหรือไม่ครับ แต่ จขกท ถามถึง สไตล์ สไตล์ เป็นแฟชั่นครับ เมื่อวาน มินิมอล วันนี้ ดีคอน พรุ่งนี้ กรีน อาร์คิเทค มันเปลียนไปเรื่อยๆครับ ถ้าทำได้แต่ มินิมอล วันนี้ก็ยังทำ มินิมอล พรุ่งนี้ก็ทำ มินิมอล ท่านก็จะไม่ได้ลองอะไรใหม่ๆเลยครับ ***เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล เช่นกัน รอคนข้างล่างมาต่อ***
interior on scale October 12, 2010 at 10:43 am คำว่ายาก สำหรับผมไม่ได้อยู่ที่เรื่องของ style หรือ theme ในการออกแบบครับ เพราะปัจุบันแหล่งมีข้อมูลมากมายให้ค้นคว้า รวมถึงข้อมูลเดิมที่สะสมไว้ ความยากจริงๆน่าจะอยู่ที่ การค้นหาstyleที่ลูกค้าชื่นชอบในกรณีที่ตัวลูกค้าเองก็ยังไม่ทราบหรือไม่แน่ใจว่า ตนเองชอบงานแนวไหนมากกว่าครับ
like_that October 12, 2010 at 10:54 am อย่าว่าแต่ทำได้ทุกแนวเลยครับแนวที่ตัวเองว่าถนัดแล้ว ยังไม่รู้ว่าคนอื่นเห็นเป็นยังไงเลยครับพี่น้องง
ชื่ออะไรดี October 12, 2010 at 12:03 pm ผมว่าคนที่เรียนทางด้านนี้เก่งนะ เพราะขนาดคนเราบางทีเป็นแฟนกัน10ปียังไม่รู้ใจกันเลย แต่อาชีพนี้ต้องสามารถรู้ได้ถึงความชอบของลูกค้าได้ ต้องเข้าใจในพฤติกรรมมนุษย์ได้พอสมควร ปล ถ้าีมีลูกจะให้เรียนสายนี้ละ
AR October 12, 2010 at 1:32 pm การออกแบบความงาม อันเกิดจากรูปลักษณ์ภายนอก นั้นไม่ยาก…..ใครๆก็ทำได้ !!! หาข้อมูลเยอะๆๆ ก็พอจะประมวลผล สรุปความต้องการของตัวเองได้ เรื่องสวยหรือไม่สวย (เถียงกันให้ตายก็ไม่จบ) มันแล้วแต่ข้อมูล + ประสบการณ์การรับรู้ ที่เรียกว่า "รสนิยม" ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน เรียน’ถาปัด ส่วนใหญ่ "เรียนแก้ปัญหา" …..ไม่ได้แค่ออกแบบ อย่างที่หลายคนเข้าใจ….!! 5 ปี เพียงพอที่จะรู้ว่า "สิ่งไหนที่สถาปนิกควรที่จะคาดหวัง" ในการออกแบบงานสถาปัตยกรรม "ที่ดี" !!! ซึ่งดิชั้นค้นพบว่าความสวยงาม ในงานสถาปัตยกรรมที่แท้จริง มันไม่ได้อยู่ที่เปลือกนอก แต่มันอยู่ตรงที่ …."การมีส่วนร่วมกันหลายฝ่าย" ตัวอย่างเช่น การจะออกแบบบ้านริมน้ำสักหลัง บริบทมันไม่ได้มีแค่ เจ้าของบ้านกับสถาปนิก แต่สถาปนิกเค้าคิดเผื่อไปถึงระดับชุมชน ระดับประเทศ การจะสร้างอะไรสักอย่างมัน impact ไปถึงวิถีชีวิตของคนแถวนั้น ซึ่งดิชั้นคิดว่า การสร้างสรรค์สิ่งนี้แหละที่ยากที่สุด ทำยังไงจะให้ win win กันทุกฝ่ายเพราะเราจะต้องอยู่ด้วยกันไปจนตาย…จริงไหม ………นี่ละคือความยาก !!! ของอาชีพสถาปนิก
เจ้าของบ้าน October 12, 2010 at 1:36 pm ที่ตั้งคำถามนี้เป็นเพราะ interior เค้าบอกว่าบ้านเราโจทย์ยากค่ะ ไม่ได้หมายความว่าเค้าทำไม่ได้นะคะ แต่คงหมายความว่าออกแบบยากมั๊ง [b]ก็เลยอยากรู้ว่า interior โดยทั่วไปมีโจทย์ยากแตกต่างกันไปหรือเปล่า..[/b] อ๋อ จขกท ไม่ได้เชื่อคนถือเข็มทิศอย่าง คห.1 นะคะ (ฮา) และ style ตัวเอง(คิดว่า)ชัดเจน พร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง งบประมาณก็คิดว่าไม่ขี้เหร่นะ
NN2704 October 12, 2010 at 2:30 pm ไม่ได้เป็นสถาปนิกกะเค้าหรอกจ้า แต่อยากแจมด้วย ขอตอบว่า ที่ยากน่าจะเป็นแนว ออกแบบบ้านอย่างไรให้เจ้าของบ้านที่ไม่รู้สไตล์ ไม่มีสไตล์ ชอบอ่ะ เพราะเราเป็นคนแนวนี้คือ ชอบแบบไหนยังไงยังไม่รู้เลย ๆ คิดว่าไปคุยกะคนออกแบบเค้าจะรู้เรื่องเรอะ อันนี้คิดเองนะเจ้าค่ะ
ailp_studio October 12, 2010 at 2:43 pm ออกแบบยากที่สุดคือ ออกแบบโดยไม่รู้ว่าเจ้าของชอบแบบไหนครับ ^^ ถ้าเจ้าของบ้านบอกความต้องการ บอกลักษณะบุคคลิก การใช้ชีวิตประจำวันของตัวเอง ให้แก่ผู้ออกแบบแล้ว จะค่อนข้างง่าย ตัวอย่างครับเคยออกแบบบ้านแล้วทำห้องน้ำที่มี shower สำหรับ 1 คน เจ้าของบ้านบอกว่าไม่ชอบห้องน้ำเลย กว่าจะรู้ว่าปกติเค้าอาบน้ำกับสามีเป็นประจำ แก้แบบเกือบตาย อันนี้เพราะเจ้าของบ้านอายที่จะบอกพฤติกรรมบางอย่างกับทางผู้ออกแบบครับ
ฮิปโปฟันผุ October 12, 2010 at 3:31 pm interior ของเราก็ออกแบบงานตามความต้องการเราค่ะ ทั้งที่ผลงานของเค้า ส่วนใหญ่จะออกแนว modern แต่เค้าก็ออกแบบมาให้ตามที่ต้องการได้ค่ะ แต่ก็ยังมีกลิ่น modern ติดมานิดๆ เราว่า interior ที่ดี ต้องตีโจทย์ลูกค้าให้ออกและนำประสบการณ์ การทำงานของตัว เข้ามาปรับใช้ในงานแต่ละชิ้น ให้ตรงโจทย์และสามารถใช้งานจริงได้มากที่สุดค่ะ
แบนแล้วแบนอีก จนแบนแต๊ดแต๋ October 13, 2010 at 3:27 am ถูกต้องตามคุณคห.1เลย อาชีพของเขา ๆก็อยากจะทำได้ทุกสไตล์ มันเหมือนกับเกมส์มันส์ๆอย่างนึง ที่มีโจทย์ท้าทายความสามารถ
ไม่ได้เป็น interior นะครับ แต่เป็น สถาปนิก ขอตอบในฐานะผู้ออกแบบด้วยกัน ว่าไม่มีคำว่ายากครับ ผู้ออกกแบบที่ดีต้องทำได้ทุก สไตล์ ยิ่งมีข้อจำกัดมากยิ่งสนุก และ ท้าทาย เพราะพวกเราจบมาเพื่อทำงานบริการครับ แต่ถามว่าแบบไหนอึดอัดใจที่สุดดีกว่า แบบที่ไม่ใช่เจ้าของบ้าน เดินถือเข็มทิศไปมา แล้วมาบอกว่าตรงนี้ ไม่ถูกชโลก ประตูนี้ขัดโชคลาบ น้ำตก ส้มตำ อะไรก็แล้วแต่ แล้วก็ไม่บอกว่าให้ทำแบบไหน ต้องรื้ออย่างเดียว ถึงจะเฮง หรือทำเสร็จงานแล้วเพื่ง ลงมาจากสวรรค์ แล้วท่านเจ้าขอบ้านก็พร้อมจะเชื่อ นี้ละครับ ว่าแล้วก็เศร้า ……. ก็ท่องไว้ว่า ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจผู้นอน
ถามต่ออีกหน่อย…
interior ชอบบอกว่า interior ที่ดีต้องออกแบบได้ทุกสไตล์ แต่จริงๆแล้วคนเรามันน่าจะมีสไตล์ที่ตัวเองถนัดที่สุดใช่มั๊ย
แล้วถ้าต้องออกแบบในสไตล์ที่ไม่ถนัดมากที่สุด ยังจะทำงานออกมาได้ดีมั๊ยคะ
ตอบแบบจริงๆไม่อิงนิยายนะเออ…
ถูกครับ เรามี สไตล์ ที่ชอบ พอชอบเรามักจะฝึกฝน ฝึกมากมันเลยถนัด
แต่ยกตัวอย่าง
มีน้องคนนึงครับ จบ สถาปัตย์ไทย ชอบงานไทย ทำวัด วิหาร มีครั้งนึงต้องออกแบบงาน แบบพวก บาโรก คนนั้นก็นั่งอ่านหนังสือ ศึกษาข้อมูลก่อนมาออกแบบ งานก็ออกมาดี อาจจะไม่ดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด เพราะคนที่ศึกษาด้านออกแบบมักจะมี scene ด้านความงามอยู่กับตัวครับ
หรือผมเอง ชอบทำบ้าน ชอบงานเล็กๆ สีสันจัดจ้าน แต่ถ้าไปทำงาน นิ่งๆ มินิมอล ๆ ก็เคยทำมาแล้วครับ
ขอแค่เจ้า ของบ้านเข้าใจ ความคิดเรา
แต่อย่าเชื่อสะหมดนะครับ ไม่ใช่ทุกคน เพราะบัวยังมีหลายประเภท แล้วคนจะไม่มีหลายแบบเลยเชียวหรือ
แบบเจ้าของมีเงินน้อย แต่จะเอาแต่ของแพงๆ มั้ง
อ่านคห.1 แล้วขำมากค่ะ
ไม่มีผู้ออกแบบท่านไหนที่เก่งไปทุกสไตล์หรอกครับ
ขนาดในออฟฟิศยังแบ่งผู้ออกแบบออกตามแต่ความถนัด
ของแต่ละท่าน ใครถนัดสไตล์ไหน โปรเจคก็จะแบ่งไปตามนั้น
น้อยมากครับที่ผู้ออกแบบท่านเดียวจะทำได้ทุกสไตล์แล้วออกมาดี
ของอย่างงี้มันอยู่ที่ตัวผู้ออกแบบเป็นหลักครับ
ถ้าผู้ออกแบบทำงานในสไตล์นั้นมาจนชำนาญ
และที่สำคัญ มีความชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วหละก็
งานก็จะออกมาดีแน่นอน (แถมงานแต่ละงานจะมี
เอกลักษณ์ที่เฉพาะตัว)
แต่ถ้าตรงกันข้าม งานก็จะออกมาดูธรรมดา-เหลวไม่เป็นท่า
แล้วในจุดตรงนี้เองที่ทำให้ผู้ออกแบบไม่กล้ารับงานที่ตัวเอง
ไม่ชำนาญ เพราะผลเสียที่ตามมามีเยอะมาก ทั้งด้านชื่อเสียง
ของผู้ออกแบบเอง ปัญหาหน้างาน ปัญหากับช่าง ยืดเยื้อไปถึงเรื่อง
ของเวลา และแน่นอนที่สุด ปัญหากับเจ้าของบ้าน
ตย.
ให้ช่างปูนไปเรื่อยไม้ ให้ช่างไม้ไปฉาบปูน
อย่าเพียงแค่คิดว่าเขาเป็นช่าง แล้วจะทำได้ทุกอย่าง
***เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล รอคนข้างล่างมาต่อ***
ใช่ครับ เพราะถ้าอยู่ บ.ท่านจะรู้ว่า 1 คน ก็รับไม่ต่ำกว่า 2 Project เขาไม่มีเวลามานั่ง หาข้อมูลหรอกครับ เขาเลยให้งานที่ใครถนัททำ คนที่ถนัดก็ได้ทำแต่แบบนั้น ซ้ำๆไม่เก่ง ไม่รู้ปัญหาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วครับ จริงหรือไม่ครับ
แต่ จขกท ถามถึง สไตล์ สไตล์ เป็นแฟชั่นครับ เมื่อวาน มินิมอล วันนี้ ดีคอน พรุ่งนี้ กรีน อาร์คิเทค มันเปลียนไปเรื่อยๆครับ ถ้าทำได้แต่ มินิมอล วันนี้ก็ยังทำ มินิมอล พรุ่งนี้ก็ทำ มินิมอล ท่านก็จะไม่ได้ลองอะไรใหม่ๆเลยครับ
***เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล เช่นกัน รอคนข้างล่างมาต่อ***
คำว่ายาก สำหรับผมไม่ได้อยู่ที่เรื่องของ style หรือ theme ในการออกแบบครับ เพราะปัจุบันแหล่งมีข้อมูลมากมายให้ค้นคว้า รวมถึงข้อมูลเดิมที่สะสมไว้ ความยากจริงๆน่าจะอยู่ที่ การค้นหาstyleที่ลูกค้าชื่นชอบในกรณีที่ตัวลูกค้าเองก็ยังไม่ทราบหรือไม่แน่ใจว่า ตนเองชอบงานแนวไหนมากกว่าครับ
อย่าว่าแต่ทำได้ทุกแนวเลยครับ
แนวที่ตัวเองว่าถนัดแล้ว ยังไม่รู้ว่าคนอื่นเห็นเป็นยังไงเลยครับพี่น้องง
ยากตรง ความพอใจของเจ้าของโปรเจก
ผมว่าคนที่เรียนทางด้านนี้เก่งนะ
เพราะขนาดคนเราบางทีเป็นแฟนกัน10ปียังไม่รู้ใจกันเลย
แต่อาชีพนี้ต้องสามารถรู้ได้ถึงความชอบของลูกค้าได้
ต้องเข้าใจในพฤติกรรมมนุษย์ได้พอสมควร
ปล ถ้าีมีลูกจะให้เรียนสายนี้ละ
การออกแบบความงาม อันเกิดจากรูปลักษณ์ภายนอก นั้นไม่ยาก…..ใครๆก็ทำได้ !!!
หาข้อมูลเยอะๆๆ ก็พอจะประมวลผล สรุปความต้องการของตัวเองได้
เรื่องสวยหรือไม่สวย (เถียงกันให้ตายก็ไม่จบ)
มันแล้วแต่ข้อมูล + ประสบการณ์การรับรู้ ที่เรียกว่า "รสนิยม" ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
เรียน’ถาปัด ส่วนใหญ่ "เรียนแก้ปัญหา" …..ไม่ได้แค่ออกแบบ อย่างที่หลายคนเข้าใจ….!!
5 ปี เพียงพอที่จะรู้ว่า "สิ่งไหนที่สถาปนิกควรที่จะคาดหวัง" ในการออกแบบงานสถาปัตยกรรม "ที่ดี" !!!
ซึ่งดิชั้นค้นพบว่าความสวยงาม ในงานสถาปัตยกรรมที่แท้จริง
มันไม่ได้อยู่ที่เปลือกนอก แต่มันอยู่ตรงที่ …."การมีส่วนร่วมกันหลายฝ่าย"
ตัวอย่างเช่น การจะออกแบบบ้านริมน้ำสักหลัง บริบทมันไม่ได้มีแค่ เจ้าของบ้านกับสถาปนิก
แต่สถาปนิกเค้าคิดเผื่อไปถึงระดับชุมชน ระดับประเทศ การจะสร้างอะไรสักอย่างมัน impact ไปถึงวิถีชีวิตของคนแถวนั้น
ซึ่งดิชั้นคิดว่า การสร้างสรรค์สิ่งนี้แหละที่ยากที่สุด
ทำยังไงจะให้ win win กันทุกฝ่ายเพราะเราจะต้องอยู่ด้วยกันไปจนตาย…จริงไหม
………นี่ละคือความยาก !!! ของอาชีพสถาปนิก
ที่ตั้งคำถามนี้เป็นเพราะ interior เค้าบอกว่าบ้านเราโจทย์ยากค่ะ ไม่ได้หมายความว่าเค้าทำไม่ได้
นะคะ แต่คงหมายความว่าออกแบบยากมั๊ง
[b]ก็เลยอยากรู้ว่า interior โดยทั่วไปมีโจทย์ยากแตกต่างกันไปหรือเปล่า..[/b]
อ๋อ จขกท ไม่ได้เชื่อคนถือเข็มทิศอย่าง คห.1 นะคะ (ฮา) และ style ตัวเอง(คิดว่า)ชัดเจน พร้อมให้ความ
ร่วมมือทุกอย่าง งบประมาณก็คิดว่าไม่ขี้เหร่นะ
ไม่ได้เป็นสถาปนิกกะเค้าหรอกจ้า แต่อยากแจมด้วย
ขอตอบว่า ที่ยากน่าจะเป็นแนว ออกแบบบ้านอย่างไรให้เจ้าของบ้านที่ไม่รู้สไตล์ ไม่มีสไตล์ ชอบอ่ะ
เพราะเราเป็นคนแนวนี้คือ ชอบแบบไหนยังไงยังไม่รู้เลย ๆ คิดว่าไปคุยกะคนออกแบบเค้าจะรู้เรื่องเรอะ อันนี้คิดเองนะเจ้าค่ะ
ออกแบบยากที่สุดคือ ออกแบบโดยไม่รู้ว่าเจ้าของชอบแบบไหนครับ ^^
ถ้าเจ้าของบ้านบอกความต้องการ บอกลักษณะบุคคลิก การใช้ชีวิตประจำวันของตัวเอง ให้แก่ผู้ออกแบบแล้ว จะค่อนข้างง่าย
ตัวอย่างครับเคยออกแบบบ้านแล้วทำห้องน้ำที่มี shower สำหรับ 1 คน เจ้าของบ้านบอกว่าไม่ชอบห้องน้ำเลย กว่าจะรู้ว่าปกติเค้าอาบน้ำกับสามีเป็นประจำ แก้แบบเกือบตาย อันนี้เพราะเจ้าของบ้านอายที่จะบอกพฤติกรรมบางอย่างกับทางผู้ออกแบบครับ
interior ของเราก็ออกแบบงานตามความต้องการเราค่ะ
ทั้งที่ผลงานของเค้า ส่วนใหญ่จะออกแนว modern
แต่เค้าก็ออกแบบมาให้ตามที่ต้องการได้ค่ะ แต่ก็ยังมีกลิ่น modern ติดมานิดๆ
เราว่า interior ที่ดี ต้องตีโจทย์ลูกค้าให้ออกและนำประสบการณ์ การทำงานของตัว เข้ามาปรับใช้ในงานแต่ละชิ้น ให้ตรงโจทย์และสามารถใช้งานจริงได้มากที่สุดค่ะ
ผมว่ายากตรงที่ทำให้ถูกใจลูกค้าเนี่ยแหละคับ
ถูกต้องตามคุณคห.1เลย
อาชีพของเขา ๆก็อยากจะทำได้ทุกสไตล์ มันเหมือนกับเกมส์มันส์ๆอย่างนึง
ที่มีโจทย์ท้าทายความสามารถ