เกิดอาการคิดไม่ตกถ้าซื้อบ้านด้วยเงินสด
โดยใช้เงินเก็บทั้งชีวิต ไม่มีเหลือ ทำให้กังวล
ปกติรายได้ส่วนมากได้จากเงินที่ใช้ไปซื้อบ้านเป็นหลัก
ถ้าตัดสินใจซื้อก็จะเหลือรายได้ทางเดียว คือเงินเดือนไม่ถึงหมื่น
เพื่อนเพื่อนคิดว่าเสี่ยงไปไหม
ถ้าผ่อนเกรงว่าธนาคารจะไม่อนุมัติ (บัตรเคดิตยังไม่ผ่าน)
บ้านที่จะซื้อเป็นบ้านมือ2 (เดินไปรถไฟฟ้าได้) ถ้าตัดสินใจช้าเกรงว่าจะอด
เราว่าน่าจะลองยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารดูก่อนนะ เราก็มีเงินเก็บทั้งชีวิตเหมือนกัน แต่ก็ได้ทำการซื้อคอนโด 3 ห้อง บ้าน 1 หลังไปแล้ว คอนโดเราซื้อสดเลย บ้านเราต้องกู้ธนาคาร เพราะเหลือเงินไม่มาก ไหนจะต้องส่งลูกเรียน ต้องเลี้ยงลูกอีก เราเลยต้องใช้วิธีนี้ทั้ง ๆที่ก็ไม่อยากเห็นหนี้ เราว่าคุณลองกู้ดูก่อนเถอะค่ะ เราเองก็รายได้ไม่เท่าไหร่เหมือนกันค่ะ แต่พอดีว่าเรามีทรัพย์สินเยอะก็เท่านั้นเอง ยังกู้ผ่านเลยค่ะ
ถ้าบัตรเครดิตยังไม่อนุมัติเลย เรื่องกู้คงยากค่ะ เพราะเงินเดือนก็ไม่ถึงหมื่น อีกอย่างคุณจะต้องไปเสียค่าใช้จ่ายทำไมคะ การกู้ก็มีค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกัน ค่ะ ทั้งการประเมิน ดอกเบี้ย ที่ต้องเสัย ถ้าคุณมีเงินพอที่จะซื้อบ้านก็ซื้อเลยดีกว่า แต่อย่าไปเป็นหนี้เค้าเลย ยุ่งยาก เปล่าค่ะ ๆ เหมือนมีไฟลนก้นทุกเดือน เมื่อมีบ้านแล้วก็ค่อยขยับขยายดีกว่านะคะ (แต่ถ้าคุณมีภาระอย่างอื่นเช่น ลูก เมีย ด้วย ก็น่าคิดค่ะ คงกลัวเรื่องเงินเก็บ เผื่อมีเรื่องฉุกเฉิน ) แต่ถ้าตัวคนเดียว ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงมาก นะคะ แต่ดีกว่าไปเสียค่าเช่าเค้าเฉยๆ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรซักอย่างค่ะ
คุณไม่ได้หมดตัวเพราะซื้อบ้านด้วยเงินสด…คุณหมดเงินต่างหาก
ถ้าไม่มีหนี้สินอื่น ต้องคิดว่าเงินสดหมด แต่มีทรัพย์สิน ซึ่งสามารถจำนองได้หากจำเป็น
…..ดีกว่าหมดตัวเพราะอย่างอื่น โดยเฉพาะการพนัน ครับ
เห็นบอกว่ารายได้ส่วนใหญ่มาจากเงินที่ซื้อบ้านเป็นหลัก
ถ้าเอาเงินก้อนนั้นไปซื้อบ้าน ก็เท่ากับรายได้จะหายไปเยอะ
เมื่อซื้อบ้านแล้ว จะลดค่าใช้จ่ายได้เท่าไหร่ หรือมีรายได้จากบ้านที่ซื้อมั้ย
แล้วมีความจำเป็นมากแค่ไหนที่ต้องซื้อบ้าน
ผมว่าคุณตัดสินใจได้เองนะครับ..
ผมเองก็เลือกที่จะผ่อนครับ
ทั้งที่มีเงินสดพร้อมที่จะซื้อได้
ด้วยเพราะในความรู้สึกของผมว่า ถ้าไม่มีเงิน หรือเงินเหลือน้อย
เพราะนำเงินสดไปซื้อบ้านแล้ว จะทำให้ผมไม่มีกะจิตกะใจในความคิดที่จะทำนู่นทำนี่ จะลงทุนก็ไม่กล้าคิด เพราะเงินไม่มี เงินเหลือน้อย
จะกิน จะเที่ยวก็ห่อเหี่ยว
ยอมผ่อนจ่ายไปครับ เดือนละหมื่นกว่าบาท ทำงานไปจ่ายไป กะว่าบางเดือนจ่ายให้มากกว่าปกติ จะได้หมดเร็ว ลดดอกเบี้ยไปด้วย
ยังไงเสีย มีเงินกอดไว้อุ่นใจ อุ่นกระเป๋าดีกว่า
แล้วแต่นะครับ เพราะคนบางคนไม่ชอบเป็นหนี้
แต่คนบางคนก็ชอบเป็นหนี้ ชอบที่จะกู้
แต่สำหรับผม เวลานี้ ผมกู้ซื้อก็แค่บ้านเท่านั้นแหละ
คิดว่าบ้านเพื่อไว้ซุกหัวนอนอยู่อาศัย ไม่ได้ทำมาหาเงินได้
ผมก็ซื้อสดนะครับ เมียบอกไม่ให้ผ่อนเขาคำนวนดอกเบี้ยแล้วเป็นล้าน พี่ซื้อบ้านก็ได้บ้านเป็นสินทรัพย์อยากได้เงินก็ไปรีไฟแนนซ์ กลัวอะไร
ซื้อเลยครับผม
อย่ารอรี
ถ้าราคากับความตัองการ
มันเหมาะสม
ก็ซื้อเลยครับ
มันอาจจะลำบากหน่อย
ช่วง 2-3 ปีแรก แต่ทุกอย่าง
จะผ่านไปได้ด้วยดี
ประเด็นคือ งานคุณมีความมั่นคงไหม
คุณสามารถปรับชีวิตคุณ
เพื่อรองรับการการมีบ้านไหม
ถ้าใช่ก็จัดการได้เลยครับ
ยังไงก็เอาใจช่วยครับ
ฟังแล้วเหมือนเงินที่่จะใช้ซื้อบ้านนี้ปกติเป็นเงินที่เจ้าของกระทู้ใช้หมุนเวียนทำการค้าบางอย่างให้เกิดรายได้ ถ้าซื้อบ้านก็ต้องหยุดทำการค้าดังกล่าว ผมมีความเห็นว่าควรเปรียบเทียบว่าระหว่าผลตอบแทนที่ได้จากเงินก้อนนี้กับดอกเบี้ยเงินกู้อะไรมากกว่ากัน ถ้าดอกเบี้ยมากกว่าก็ซื้อเงินสดเถอะครับ แต่ถ้าผลตอบแทนจากการค้าที่ทำโดยเงินนี้มากกว่าก็ควรกู้ เนื่องจากผมไม่ทราบว่าการค้าของเจ้าของกระทู้คืออะไร เช่นการซื้อของมาขายต่อ มีลูกค้าประจำแล้วก็จะมีรายได้ต่อเนื่อง แต่เมื่อเราหยุด ลูกค้าก็จะไปหาเจ้าอื่น วันหลังมีเงินคิดจะเริ่มต้นใหม่ ก็ต้องเริ่มหาลูกค้ากันใหม่ ก็ลำบากกันอีก อยากให้มองในระยะยาวนะครับ
ซื้อบ้านถ้าได้เป็นชื่อเราไม่หมดตัวหรอกค่ะ
แต่ก่อนซื้อควรเช็คให้เรียบร้อยนะคะ ว่าคนที่ขายให้เรามีสิทธิ์ขายได้จริง
เป็นเจ้าของโฉนดจริงๆและไม่ได้เอาบ้านหลังนี้ไปวางกู้หรือค้ำประกันที่ไหนไว้
หากบ้านนี้ยังติดจำนองหรืออื่นๆ ลองยื่นเอกสารขอกู้ซื้อบ้านกับธนาคารเจ้าของสินเชื่อก็ได้ค่ะ
เพราะอย่างเราเงินเดือนไม่มากกู้ซื้อบ้านล้านห้า แต่เราขอกู้กับธนาคารออมสิน เพราะบ้านหลังที่เราซื้อยังติดจำนองอยู่ 2 แสนกับธนาคาร
การดำเนินค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรแต่ก็อนุมัติวงเงินมาและ+เงินสดต่างหากอีกจำนวนหนึ่งค่ะ
*************
แต่ถ้าเป็นเราหากมีเงินสดเพียงพอ จะขอต่อเจ้าของบ้านให้ลดราคาลงอีกนิด ขอเรื่องการซ่อมแซม และบอกเราจ่ายเป้นเงินสด ซึ่งเจ้าของบ้านจะได้เงินเร็วกว่ารอเรื่องธนาคาร หากกลัวเงินจะขาดมือหลังจากซื้อแล้ว เป็นกรมสิทธิ์ของเราทั้งหมดแล้วนะคะ ค่อยเอาตัวบ้านเนี้ยแระค่ะไปจำนองเอาเงินออกมา แล้วค่อนผ่อนกับธนาคาร มีหลายที่ที่ปล่อยสินเชื่อเพื่อบ้าน
อย่างบ้านที่เราซื้อเนี้ย เคยเข้าออกธนาคารมาแล้วหลายครั้งค่ะ ดูจากโฉนด แรกๆ เค้าซื้อแค่ 4 แสน หลังจากผ่อนหมดก็เอาเข้าเพื่อซื้อบ้านลูกๆเค้าต่ออีก 4 หลังอ่ะคะ
อีกเรื่องที่จะเล่าให้ฟังเพื่อระวังนะคะ
มีคนข้างบ้านเค้าประกาศขายบ้าน เราเพิ่งมาอยุ่ใหม่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องราวก่อนหน้าเท่าไร
เค้าขาย ล้านห้า แต่ถ้าเงินสดเค้าขายล้าน4
แล้วมีคุณป้าบ้านติดกันเค้าอยากซื้อไว้
พอถึงวันนัดโอนเงินคุณป้าไปทราบเรื่องมาว่า
เจ้าของบ้านหลังที่จะขายเนี้ย เค้าไม่มีสิทธิ์ในการขายบ้าน
เพราะเค้าเช่าซื้อต่อจากเจ้าของบ้านเดิมและยังไม่ได้ส่งเงินค่าบ้านมาแล้วหลายงวด
เลยตีเนียนขายบ้าน ทั้งๆที่ไม่มีสิทธิ์
ถ้าคุณป้าจ่ายเงินไปล้าน4เงินสดให้เค้า
ก็ไม่สามารถโอนที่หลังนี้ได้ พอคุณป้ามาทราบทีหลังก็ได้ต่อว่าไป
เค้าบอกว่าเงินที่เค้าจ่ายไปกลับบ้านหลังนี้ประมาณ 3 แสน เค้าจะเอาเงินที่ขายคุณป้าได้ไปจ่ายเจ้าของแล้วค่อยเอาโฉนดมาให้อีกที T T
คุณป้าบอกงั้นฉันซื้อกับเจ้สของเลยก็ได้ เพราะมั่นใจได้ไงว่าเค้าจะไม่เอาเงินหนี
พอคุณป้าไม่ยอมทีนี้ถึงกับขู่ฆ่าเป็นเรื่องเป็นราว จนคุณป้าต้องไปอยู่บ้านญาติอยู่พักหนึ่ง
เจ้าของบ้านก็มาไล่เค้าออกไปแล้วประกาศขายเองในราคาล้าน5
เล่าให้ฟังเพราะอยากให้เช็คโฉนด เช็คประวัติก่อนนะคะ ถ้าจะซื้อเงินสด
ยืนยันยังไงก็ไม่หมดตัวแน่ๆ ถ้าบ้านที่ซื้อมาเป็นชื่อเราจริง ซื้อปุ๊ปคุณก็รวยแล้วค่ะ มีมรดกเป็นที่ดิน+บ้านเชียวนะคะ
อ่านแล้วงงว่า การซื้อบ้านเงินสด ไม่เช็คเอกสาร โฉนดที่ดินกันหรอ ไม่ใช่ตรวจเอกสารก่อน แล้วถึงไปจ่ายเงิน ณ กรมที่ดิน เหมือนกรณีซื้อขายกรณีกู้ก็น่าจะวิธีเดียวกัน
การซื้อด้วยเงินสดหรือกู้แบงค์ ก็น่าจะใช้เวลาต่างกันประมาณ 1-2 เดือน ถ้าใครเป็นเจ้าของถ้าไม่รีบเร่งรออีก 1 – 2 เดือน ก็ไม่น่าจะให้ส่วนลดอะไรมากมาย
ส่วนจะใช้เงินสดหรือกู้เพื่อซื้อบ้าน แล้วแต่บุคคล แต่เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการบริหารเงิน หากไม่สามารถทำกำไรได้มากกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ ก็ควรจัดการกับเงินกู้นั้น และเงินสำรองที่ควรจะสำรองไว้อย่างน้อย 6 เดือน
555 เรื่องข้างบนมีจริงอย่างกับข้างบ้านผมเลย
ตาม คห 10 ในคนปกติไม่น่าเกิดขึ้นนะครับ ซื้อบ้านโดยทั่วไปก็คือซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ซื้อเงินสดก็ต้องไปโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินตรวจสอบหลักฐานอะไรเรียบร้อยลงชื่อ จ่ายค่าโอน ภาษี แล้วถึงชำระเงินกัน จะมีคนที่จ่ายเงินไปก่อนเฉยๆเหรอ ถ้ามีก็……ปลง
บ้านที่อยู่ปัจจุบัน พ่อแม่ก็ซื้อเงินสดให้ครับ
แต่ก็แอบมีความฝัน ว่า ถ้ามีเงินสดสักก้อน (ฝันจริง ๆ นะครับ เพราะว่าไม่มีเงินสด ที่จะซื้อบ้านใหม่ได้อีกแย้ว)…..ผมคิดว่า ถ้ามีเงินสด คงต้องคิดหนัก หากจะซื้อบ้านเงินสด เพราะว่า
ผมได้ข่าว บ้านทรุด บ้านพัง บ่อยมาก ดินทรุด จนทำบ้านทรุด บ้างหล่ะ หรือว่า หากเกิดเหตุการณ์ แบบว่า วันสิ้นโลกมีจริงหล่ะ สมมุติ นะครับสมมุติ กรุงเทพฯ ไม่ได้หายไปจากประเทศไทยหรอก แต่ว่า เกิดเเผ่นดินไหว จนบ้านในกทม. พังไปกว่าครึ่งหล่ะ……
นี่หล่ะครับ แอบคิด แบบว่า ไม่คิดบวกเท่าไหร่(อาจคิดแยะไป ขอโทษครับ)
นั่นหล่ะครับ สมมุติ ว่าเกิดเหตุการณ์ พวกนั่นหล่ะ เงินสด ที่ซื้อบ้าน มันหายไป พร้อม ๆ กับบ้านที่ทรุดหรือพังเลยนะครับ เพราะว่า โครงการ คงจะไม่มารับผิดชอบให้เราหรอก แต่หากว่า เรายังมีเงินสดเก็บไว้ อืม อย่างน้อยก็อุ่นใจได้ว่า บ้านพัง แต่เงินยังมีนะ แล้วค่อยแก้ปัญหากันไป
เง้อออออออ ผมล่ะก็ เสียว ๆ แทนคนมีบ้านทุกคน ครับ เพราะว่า มีข่าว บ้านทรุด ดินทรุด ไม่เว้นแต่ล่ะวัน เพราะว่า เดี๋ยวนี้ เค้าสร้างบ้านขายกัน เค้าถม แล้วก็สร้างกันเลย ไม่ทิ้งดินไว้ให้แน่นก่อน ………
เห็นข่าวทีไร สงสารครับ เพราะผมเชื่อว่า บ้านที่พังกันไป หลาย ๆ หลัง…… เป็นบ้านที่มาจากน้ำพักน้ำแรงกันทั้งนั่น………ก็ไม่ต่างอะไรจากคนหมดตัว……………….เง้ออออออออ โลกเปลี่ยนไปจริง ๆ ครับ เปลี่ยนไปพร้อม ๆ กันคนเลยครับ แต่ในทางแย่ลง ……………ซะมากกว่า
ซื้อได้ซื้อเลยครับ
ตอนนี้ยังไม่แพงมาก เพราะอีกไม่นานจะเปิดเสรีอาเซียน คนที่มีเงินต่างชาติ จะซื้อของในไทย เพราะไทยน่าอยู่ ราคาบ้านจะแพงขึ้นอีกหลายเท่า
^
^
เกี่ยวกันเหรอครับ
คนต่างชาติซื้อบ้านซื้อที่ในเมืองไทยได้เหรอครับ
ถ้าบอกว่าที่ดินเป็นของที่มีจำนวนจำกัด (เหมือนกับ เพชร ทองคำ) ยังไงราคาก็ขึ้น ฟังดูสมเหตุสมผลกว่ามั๊งครับ
^
^
ต่างชาติซื้อเองไม่ได้ครับ
แต่แต่งงานคนไทยได้ครับ
เป็นคอนโดห้องชุด ชาวต่างชาติซื้อได้ครับ
ส่วนที่เป็นบ้านพร้อมที่ดินก็ซื้อได้ ในนามนิติบุคคลที่จัดตั้งกันขึ้นมา
ดูที่พัทยาซิ…บ้านจัดสรรมีแต่ฝรั่งทั้งนั้น
ไม่ค่อยเกี่ยวกับที่ จขกท มาตั้งถามเลย…เง้อออออออ
นอนกัดฟันคิดมาหลายคืน+ความเห็นต่างต่าง
คิดว่า คงซื้อด้วยเงินสดดีกว่า
เพราะเงินก้อนนั้นที่จะซื้อ ได้มาจากเงินเก็บ+ มรดก+ลงทุนหุ้น(พนัน)+ขายของ(เลิกไปแล้ว)
ใจที่ไม่อยากซื้อสดเพราะยังติดใจ ในหุ้นอยู่ แต่อีกใจ ก็กลัวหมดเพราะหุ้น
ขอบคุณทุกความเห็น
ผมว่ากำเงินสดไปซื้อเขาหละครับพี่ ต่อเขาหนักๆถ้าได้ก็จูงมือไปโอนกันเลย ต่อได้แสนก็ถือว่ากำไรแสนเอาไปซื้อเพชร ซื้อทองใส่เล่นๆดีกว่า
ถ้าคุณ มีน เคยลงทุนในหุ้น ผมกลับคิดว่า คุณมีนน่าจะมีความรู้เกี่ยวกับกองทุนหุ้นที่ความเสี่ยงต่ำพอสมควร เช่น กองทุนอสังหา ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ย (หมายถึงเงินปันผลทุก 3, 6 เดือน) ประมาณ 7-8% ต่อปี และมีสภาคล่องพอสมควร หรือพันธบัตรระยะสั้น-กลาง ที่ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดอกเบี้ยเงินกู้ เผื่อไว้ในยามฉุกเฉิน
อาจจะแบ่งนำมา
ซื้ออสังหา 50% ลงทุน 50%
ซื้ออสังหา 60% ลงทุน 40%
ซื้ออสังหา 70% ลงทุน 30%
ที่แนะนำเพราะว่าหากต้องการเงินฉุกเฉิน อาจจะไม่สามารถหาได้
*การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 ขวดโปรดสังเกตุคำเตือน
เสี่ยงค่ะ น่าจะมีติดตัวสักแสนนึง เราใจร้อนมีเงืน 2 แสนดาวน์บ้านหมด เลยตึงนิดนึง