หากมีร้านพวกนี้รับสมัครคนงานเมื่อไหร่ ลองหาวุฒิ ม.3 ม.6  ไปสมัครดู อดทนทำ 2 เดือน คุณก็จะพอทราบคร่าวๆว่า ตัวไหนวิ่งเร็ว  ตัวไหนนอน  แล้วเขาขายกันเท่าไหร่ เปลี่ยนทำซัก 2 ร้าน แล้วสิ่งที่คุณจะได้ ก็คือการสั่งสินค้า และต้นทุนแต่ละเซลล์ ที่ไม่เท่ากัน จะได้ไม่ลงทุนหว่านแห ในช่วงแรกที่ลงสินค้า แล้ว กลับมาเตรียมตัวเปิดร้านได้เลย       คุุณคงเคยเห็นร้านขายของชำติด 7 มาเยอะแยะ  หรือโลตัสไปเปิดตามชุมชน ก็ยังมีคนยืนยง ยืนอยู่สู้ได้    คุณก็ควรเป็นอย่างนั้น  หากอดทน  มีจุดมุ่งหมายในชีวิต  ขายไปด้วย ปรับ/แก้ไขปัญหาไปเรื่อย  ..ก็ควรจะประสพความสำเร็จ…..ทำเถอะครับ  เพราะชาติหน้าเราไม่รู้จะได้เกิดอีดเปล่าแต่…

ถ้ากลัวก็หางานลูกจ้างทำไป……

By: wenlax199
Since: 8 เม.ย. 55 15:41:49

ธุรกิจแทบทุกอย่าง ถ้ามีเจ้าตลาดอยู่ รายใหม่ไป ก็ต้องทำงานหนักหลายเท่าละครับ ในการสร้างฐานลูกค้า

By: น้องปลาดาว
Since: 8 เม.ย. 55 12:24:05

แค่ช่างมาเอาๆไป แล้วขอเครดิต  คุณก็เจ๊งแล้วครับ

เพราะถ้าคุณไม่ให้ เค้าก็ไปเอาร้านอื่นอีก ราคาก็ต้องแข่งกัน

ร้านใหญ่สายป่านยาวก็อยู่รอดได้  

ถ้าหวังขายปลีก ลองคิดถึงคนซื้อครับ ร้านเล็กๆใครก็ไม่อยากเข้า
ตอนนี้แถวบ้านผมเปิดทีใหญ่เป็นไร่ๆทั้งนั้นครับ ไม่ใช่แค่ 3-4 ห้อง

แข่งขันกันสูงมากๆๆๆๆ

By: หมูตัวใหญ่ (หมูตัวใหญ่)
Since: 8 เม.ย. 55 11:57:43

ยกตัวอย่างเช่นเข้ามาร้านปุ๊บ  สั่งสายไฟ 2-3 ขด   หลอดไฟ20หลอด  สั่งโน่น  สั่งนี่  สั่งนั้น  (เจ้าเดียวสั่งสินค้าหลายพันบาท)
พอเราจัดของเสร็จ   จะบอกเราว่าให้ช่วยขนไปส่งทีจอดรถไว้ตรงโน่นตรงนี้  แล้วไปเอาเงินที่รถเลย  หรือบอกว่าเงินไม่พอต้องไปกดATM  แล้วบอกให้เราให้ช่วยยกไปไว้ที่เราแล้วตามไปเอาเงิน  อะไรทำนองนี้ให้ระวังให้ดี
พวกนี้มักโกง โดยอาศัยจังหวะชุลมุนวุ่นวาย  เอาของขึ้นรถแล้วเผ่นโดยไม่จ่ายตัง   หรือโกหกทำเนียนทำเป็นไปกดเอทีเอ็มแล้วบอกคนที่เอาของไปส่งที่รถว่า  ชำระเงินที่ร้านแล้ว

ถ้าเจอพวกโกงแบบนี้   ถ้าเราระวังระวังตัวดี   มันโกงไม่ได้   มันจะไม่ซื้อแต่หนีไปเลย   เช่นทำเป็นพูดว่าเดี๋ยวไปกดเงินเดี๋ยวมา (แต่หายเข้ากลีบเมฆ)ไปเลย    
หรือ  ระหว่างที่เราจัดสินค้าให้มันอยู่   แล้วมันเห็นว่าร้านเรามีคนเยอะ  มันลักไก่โกงไม่ได้   มันก็เดินหายออกไปจากร้านเลย  แบบว่าพอหันมาอีกที   อ้าวววว  ลูกค้าหายไปแล้วไม่รู้  เป็นต้น

By: annyfatgirl
Since: 8 เม.ย. 55 11:50:30

การลงสินค้า    เริ่มต้นใหม่ๆ   แนะนำให้ลงพวกสินค้าที่ขายง่ายๆ   อุปกรณ์ทั่วๆไปที่ขายได้เรื่อยๆก่อน   แล้วค่อยจับจุดว่าแถวบ้านเราลูกค้าต้องการอะไร    หรือสินค้าอะไรที่ควรลงขายเพิ่มเติม

ให้ระวัง  สินค้าบางอย่างที่ขายยากๆ  ของบางอย่างขายยากมาก  (ความต้องการน้อย)  จะเจ็บหนักขาดทุนก็เพราะสินค้าพวกนี้แหละ
ตอนที่พ่อแม่เราเปิดร้านขายของใหม่ๆ  ก็ลงของเยอะเกิน  เซลล์แนะนำให้ลงสินค้า  พ่อเราก็ลง(ลงเสียครบเบอร์) ซึ่งบางเบอร์บางขนาดมันไม่เป็นที่นิยม   คนใช้กันน้อย  และของบางอย่าง  พอเวลาผ่านไปก็มีสินค้าแบบอื่นเข้ามาทดแทนทำให้แบบเก่าหมดความนิยมไป
( สินค้าบ้านเรา บางอย่าง ตั้งแต่ลงสินค้าไว้ 25ปี ผ่านไปยังขายไม่หมดเลย TT )

อีกประการ   ร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วไป   ถ้าเปิดร้านนานหรือมีเครดิตน่าเชื่อถือระดับนึง
ก็จะมีเครดิต  ซื้อของกับร้านขายส่งได้  ( เราไม่ต้องซื้อเงินสดทุกอย่าง )
โดยเราจะโทรไปสั่งสินค้ากับทางร้านขายส่ง   หรืออาจจะมีเซลล์ของร้านค้าส่งเข้ามาที่ร้านเรา   เพื่อจดออเดอร์สินค้าที่เราต้องการสั่ง
และร้านค้าส่งจะส่งสินค้ามาให้เราในวันถัดไป (คือเราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปซื้อสินค้าเอง)   และเรายังได้เครดิตด้วย  ซึ่งแล้วแต่ละร้านว่าจะให้เครดิตชำระกี่วัน
เช่น 30 วัน / 90วัน / 120วัน
ซึ่งก็สามารถช่วยให้เราลงสินค้าได้มากขึ้น   โดยใช้เงินลงทุนที่น้อยลง

By: annyfatgirl
Since: 8 เม.ย. 55 11:33:47

ก่อนจะมั่นใจว่าทำได้ เราต้อง
1.ความต้องการซื้อในพื้นที่ อันนี้ถ้าสินค้าที่พูดมา อยู่ในแหล่งชุมชน มีบ้านพักอาศัยอยู่มาก มันก็ขายได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ขอเพียงมีสินค้าตอบสนองได้ครบ รับรองขายดีแน่ ๆ

2.ต้นทุนสินค้าที่ได้มา เราต้องมีแหล่งสินค้าที่ราคามาตรฐาน ผมเห็นบางคนเปิดร้าน แต่เชื่อใจ supplier ส่งของราคาเท่าไหร่ ก็บวกกำไรเข้าไป ขายไปเรื่อย ๆ ไม่ค่อยตรวจสอบราคา จริง ๆ แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าขายแล้วมีกำไร เพราะของพวกนี้ ชนิดสินค้ามันเยอะ และแต่ละอย่างมีหลายยี่ห้อ สินค้าแบบเดียวกัน วัสดุที่ใช้ทำแตกต่างกัน ราคาก็ต่างกันพอสมควรแล้ว

อย่างในร้าน มีขายค้อนตอกด้ามไฟเบอร์ เมื่อก่อนค้อนพวกนี้เหล็กที่ใช้ทำจะดี ตอกแล้วหัวไม่ค่อยบี้ แต่เดี๋ยวนี้มียี่ห้อถูก ๆ มากมาย ตอกไม่กี่ทีบางทีก็บี้หมดแล้ว แต่ตอนของใหม่ ก็เหมือน ๆ กัน สมมติของดีต้นทุนอันละ 120 บาท ตั้งราคาขาย 160 บาท กับของถูก ๆ โหลละ 200 บาท ตั้งราคาขายอันละ 100 บาท มองภายนอก ๆ เหมือนกัน คนซื้อใช้งานเล็กน้อย ก็เลือกของถูกอยู่แล้ว แต่คนขาย คนไหนกำไรเยอะกว่ากัน ก็ลองคำนวณดูครับ

ดังนั้น ถ้าเราสามารถมีสินค้าหลากหลาย มีกำไรให้ทำได้ทุกชนิดทุกอย่างอยู่แล้วครับ พวกน๊อตสกรู ซื้อมาเป็นกิโล เวลาขาย นับตัวขาย บางอย่างทุนไม่ถึงบาท ขาย 3 บาท 5 บาท คนซื้อใช้น้อย ๆ ไม่ค่อยคิดมากอยู่แล้วเรื่องพวกนี้

3.ที่จอดรถ ถ้าหากที่ตั้งร้าน หาที่จอดรถไม่ค่อยยาก อันนี้ดีสำหรับลูกค้าแน่ ๆ เพราะของพวกนี้บางอย่างมันหนัก ถ้าไม่มีรถมาซื้อเอง ก็ลำบากในการขนเหมือนกัน

4.ลูกน้องที่ไว้ใจได้ เพราะของพวกนี้บางอย่างชิ้นเล็ก ราคาแพง ประกอบกับสินค้าในร้านหลากหลาย ไม่มีทางตรวจสอบได้หมดแน่ ๆ ว่าของหายหรือไม่

ถ้าหากมั่นใจว่าทำได้ ก็ทำเลยครับ เริ่มต้นแค่เพียงคิดให้ตกว่า ลูกค้ากลุ่มแรกที่เราจะจับเป็นใคร จะได้ไปต่อได้ว่า ควรมีอะไรขายบ้าง เช่นตั้งเป้าว่า ลูกค้าเป้าหมายเป็นชาวบ้านทั่วไป ที่จะซ่อมแซมบ้านเอง เราก็ต้องมีพวกอุปกรณ์ประปา สี อุปกรณ์ทาสี เครื่องมือช่าง อุปกรณ์ไฟฟ้า ซิลิโคน รางผ้าม่าน ฯลฯ แล้วพอการค้าอยู่ตัว ก็ค่อย ๆ เพิ่มสินค้าที่ลูกค้าต้องการไปเรื่อย ๆ ขยายฐานลูกค้าเพิ่มไป

แต่ทำการค้าพวกนี้ กำไรช่วงแรกจะไม่ค่อยเห็นนะครับ เพราะจะกลายเป็นสต๊อกสินค้าหมด ดังนั้น ถ้าเราไม่มีเงินหมุนก้อนใหญ่พอสมควร มันจะหมุนไม่ค่อยไหว เพราะสมมติตอนเปิดร้าน สั่งของอย่างละนิดละหน่อย ลงทุนไปสัก สามแสน ขายสักหกเดือน บางทีสต๊อกสินค้าอาจจะเพิ่มเป็น หกแสน เป็นล้าน ดังนั้นต้องเตรียมทุนเอาไว้ให้พร้อม ก่อนเริ่มต้น ไม่งั้นค้าขายไม่สนุกแน่ ๆ

By: Lpg_Horse
Since: 8 เม.ย. 55 10:17:56

By: moovit
Since: 8 เม.ย. 55 08:41:07

By: สุรชัย
Since: 8 เม.ย. 55 08:02:57

By: โปรดระบุชื่อ
Since: 8 เม.ย. 55 06:48:31

ผมเคยเจอเเถวซอย วัดพันท้ายฯ ขากปากซอยเข้าไปไม่ถึง 2-3 ก.ม. มีเปิดร้านวัสดุก่อสร้างฮาร์ดแวร์โดยมิได้นัดหมายไม่น้อยกว่า 15 ร้านค้า ( เเย่งกันเจ๊ง ) บางจุดอยุ่ตรงข้ามเยื้องๆกัน 5 ร้านค้า ห่างกันไม่เกิน 20 เมตร

อีกอย่างคุณจะต้องมีพื้นฐานในเรื่องวัสดุก่อสร้าง+ฮาร์ดเเวร์ที่จะขายในระดับหนึ่ง ยิ่งคุณเน้นขายช่างคุณต้องเเม่นมากๆเเละราคาต้องไม่เเพง ถ้าจะเปิดร้านวัสดุก่อสร้างฮาร์ดแวร์ทั่วๆไป เเนะนำไปเปิดในอำเภอต่างจังหวัดที่มีร้านวัสดุก่อสร้าง ฮาร์ดแวร์น้อยๆไม่เยอะจะดีกว่าครับ

By: pinhead2000
Since: 8 เม.ย. 55 01:35:25