เจ้าหน้าที่สรรพากรเค้ามีเป้าต้องเก็บภาษี เค้าก็คอยมองหาคนที่ขู่เอาได้ง่ายๆนี่ล่ะค่ะ ถ้ายังไม่พอเค้าก็ขอเอาดื้อๆเลย ถ้ายอมก็เสียภาษีเกินไปสบายใจ ตามหลักกฎหมายนั้น การเก็บภาษีเป็นการริดรอนสิทธิของประชาชนในทรัพย์สิน แต่เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้เงินมาพัฒนาส่วนรวมจึงต้องเก็บ ดังนั้น เมื่อใดกฎหมายไม่ชัดเจนต้องตีความในทางที่เป็นประโยชน์กับผู้เสียภาษีเสียด้วยซ้ำ แต่เรื่องนี้เขียนไว้ชัดยิ่งกว่าชัด ในฐานะประชาชนจะให้เจ้าหน้าที่กรมฯมาตีความให้เข้าตัวประชาชนได้อย่างไร

By: แม่ถ้วยฟูฯ
Since: วันเถลิงศก 55 15:22:48

แต่ในทางปฎิบัติสรรพากรใช้หลักเดียวกับกรมที่ดินที่ใช้ราคาประเมินหรือราคาขายอย่างใดที่สูงกว่าเพื่อนํามาคํานวณภาษี
สรรพากรก็ไม่ได้ให้เราเลือกว่าจะนํามาคิดรวมหรือแยกโดยดูว่ารวมหรือแยกอันไหนเสียภาษีมากกว่าใช้แบบนั้น
น่าจะมีกรณีตัวอย่างบ้าง จะได้เป็นบรรทัดฐานใหม่

By: เขียนบน iPhone (not defendant)
Since: วันเถลิงศก 55 21:34:08

ในกรณีที่ขายก่อน 5 ปี หรือ มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่ถึง 1 ปี สรรพกรถือว่าเป็นการขายที่ต้องเสียธุรกิจเฉพาะ ซึ่งกรณีนี้กฎหมายให้ยื่นในแบบ ภงด 90 ทุกกรณีครับ ไม่มีให้เลือกครับ

ในความเห็นที่ 6 เป็นไปได้ว่าเข้าข้อนี้ครับ

By: Abarica
Since: 18 เม.ย. 55 10:08:10

By: King_Baboon
Since: วันเถลิงศก 55 07:48:25

และเมื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในวันที่ขายอสังหาริมทรัพย์ไปแล้ว จะไม่นำมาคำนวณรวมกับภาษีเงินได้ในกรณีอื่นก็ได้ค่ะ (ประมวลรัษฎากร มาตรา 48 (4)

ลองอ่านดูจากคำสั่งกรมสรรพากรตามลิงค์ค่ะ
http://www.rd.go.th/publish/3554.0.html

By: แม่ถ้วยฟูฯ
Since: วันเถลิงศก 55 08:09:18

แล้วเราผู้เป็นคนธรรมดาจะไปเถียงสู้สรรพากรได้ยังไงล่ะ สุดท้ายเสียภาษีเพิ่มพร้อมดอกเบี้ยไป 3 หมื่นกว่าบาท แนะนำว่าคุณควรจะนำยอดที่ลงในใบเสร็จว่าขายได้เท่าไหร่ไปรวม และเก็บสัญญาซื้อขายทีแรกที่คุณซื้อไว้ไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายตามจริง ซึ่งส่วนต่างเท่านั้นที่จะนำมารวมกับรายได้อื่นเพื่อคำนวณภาษี

By: natlapoon
Since: วันเถลิงศก 55 11:42:15

By: alfapha
Since: วันเถลิงศก 55 00:26:25

อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกัน รอผู้รู็จริงมาช่วยตอบอีกทีนะครับ

By: fa_beer
Since: วันเถลิงศก 55 00:33:35

By: ขอร้องอย่าชม
Since: วันเถลิงศก 55 00:39:08