บ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้ เป็นหมู่บ้านค่ะ แล้วก็ซื้อต่อเค้ามา ตอนนี้ซื้อที่ดินใหม่ (270ตรว) ต้องการปลูกบ้าน + สระ (แถวแหลมฉบัง) จะเริ่มจากตรงไหน แล้วมีขั้นตอนอย่างไร ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ
เท่าที่ทราบ ต้องหาสถาปนิคเขียนแบบก่อน แล้วก็เอาแบบที่มี ไปให้ผู้รับเหมาตีราคา ที่สงสัยคือ สถาปนิค หลังจากเขียนแบบให้เราแล้ว เค้าจะต้องมาดูงานมั๊ยคะ มาคุมงานมั๊ยคะ หรือว่าเป็นหน้าที่ของวิศวกร ไปเลย
อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะไม่แน่ใจว่าจะต้องจ้างสถาปนิคที่อยู่แถวบ้าน หรือว่าสามารถจ้างจากกทม. ได้
แล้วส่วนใหญ่สถาปนิค จะออกแบบตกแต่งภายในมั๊ยคะ หรือว่าจะต้องหามัณฑนากรอีกคน เป็นคนออกแบบ
เท่าที่หาข้อมูล แบบบ้านเป็นสิ่งสำคัญ ถ้ายิ่งละเอียดเท่าไร ก็ยิ่งดี งบไม่บาน เสร็จตามที่หวัง เราก็เลยอยากให้เวลากับการออกแบบน่ะค่ะ จะได้แก้ไขน้อยที่สุด
เนื่องจากไม่เคยสร้างบ้านเองมาก่อน เลยอยากขอคำแนะนำ ว่ามีอะไรต้องระวัง มีอะไรควรทำ ไม่ควรทำค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
By: J Miro
Since: 29 เม.ย. 55 23:21:33
เพิ่มเติมค่ะ ปกติในปีนึงๆ มีงานเกี่ยวกับบ้านงานไหน และช่วงไหนบ้างคะ
เพิ่งทราบว่ามีงานสถาปนิค 55 ก็วันนี้เอง รู้ช้าไปแล้วค่ะ อดไปเลย
By: J Miro
Since: 29 เม.ย. 55 23:23:08
เริ่มจาก หาคนออกแบบ ส่วนมากก็จะมีทั้งสถาปนิกและก็วิศวกร
ขั้นตอนงานก็จะเป็น สถาปนิกออกแบบแปลน รูปด้าน เมื่อเจ้าของตกลงแบบเรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นส่วนงานวิศวกร ออกแบบโครงสร้าง
เอาแบบสถาปัตย์และวิศว ไปขออนุญาตก่อสร้าง ส่วนรายละเอียดของงานออกแบบ
แล้วแต่ที่จะตกลงว่าให้ทางคนออกแบบถอดปริมาณงาน (BOQ) ด้วยมั้ย คุมการก่อสร้างด้วยมั้ย
นำแบบให้ ผรม ไปทำราคา โดยเทียบจากปริมาณงานที่คนออกแบบออกแบบไว้ให้
ถ้าเป็นผู้ออกแบบที่จะเสนอราคาด้วย ก็อาจจะมีวิธีการต่างๆที่จะให้เค้าได้งานเช่น
Over design คือ ออกแบบให้มากๆเข้าไว้ใช้เหล็กให้มากๆ เมื่อนำแบบให้เจ้าของไปหา
ผรม เจ้าอื่นๆก็จะทำราคามาเกินมากๆ ทำให้ คนออกแบบได้งานไป อันนี้แล้วแต่คนนะ
ครับ บอกวิธีที่จะทำเฉยๆ
By: PPP200sx
Since: 30 เม.ย. 55 00:49:17
ที่ทำอยู่ก็เริ่มแบบนี้ค่ะ
1. หาแบบบ้าน มี 3 แบบ
-แบบบ้านฟรี พร้อมแปลน ขอได้ที่กรมโยธา , กทม. บางที่มีลายเซ็นต์ให้เรียบร้อย พร้อมยื่นขอนุญาตสร้างบ้านได้เลย
-หาแบบสถาปัตย์(รูปบ้าน+ผังทีถูกใจ) มีในหนังสือ ในเน็ต หรือคิดเอง ไปจ้างคนเขียนแบบ ราคาหลักหมื่น
หรือให้ผู้รับเหมาหาคนเขียนให้ พร้อมลายเซ็นต์ สถาปนิก และวิศวกรผู้ออกแบบ สถาปนิกผู้ควบคุม
วิศวกรผู้ควบคุมยังไม่ต้องมีก็ได้ รอเพิ่มชื่อทีหลังเอาจากผู้รับเหมา
ถ้าบ้านพท.น้อยกว่า 150ตรม. ก็ไม่ต้องมีลายเซ็นต์สถาปนิกผู้ออกแบบก็ได้
แต่เรื่องพท.บ้านต้องคำนวณให้ดี ทางโยธาคิดละเอียดมาก ตรงไหนในแบบมีการก่อสร้าง มีเทปูนคิดพท.ใช้สอยหมดเลย
-หาสถาปนิก เริ่มต้นออกแบบบ้านใหม่หมด อาจมีแนวคร่าวๆตอนไปคุย เช่น โมเดิร์น ไทยประยุกต์ บ้านแบบมี courtyard
คุยถึงขนาดพท.ใช้สอย จำนวนห้อง ชนิดของห้อง ไลฟ์สไตล์ อายุของคนที่อยู่อาศัย(บ้านมีเด็ก คนสูงอายุ ต้องปรับรูปแบบบ้าง)
สำคัญที่สุดคืองบประมาณการก่อสร้าง เพราะสถาปนิกจะคิดเงินตามงบประมาณ โดยเฉลี่ย 5-7 %
และควรตกลงกับสถาปนิกให้เรียบร้อยว่าทำแบบบ้านให้จนขออนุญาตผ่าน ทำ BOQ ให้หรือไม่
แก้แบบกี่ครั้ง จะช่วยมาดูหน้างานและปรับแก้หน้างานมั้ย
การจ่ายเงินสถาปนิกก็เป็นงวดงานนะคะ เค้าจะมีรายการมาให้ ถ้าไม่เห็นดวยตรงไหนก็ต่อรองกันก่อนเซ็นต์สัญญา
ที่บ้านใช้บริการของสถาปนิกค่ะ สะดวกดี อีกอย่างพท.มันมีข้อจำกัดพอควรเลยเหมาะมาก
2. ถ้างบเยอะ ก็หาอินทีเรียเลย จะได้ไม่ต้องมีทุบๆเจาะ งบจะได้ไม่บาน แต่เรางบน้อยก็ว่าจะทำกันเอง
3. หาผู้รับเหมา 2-3 เจ้า ให้เค้าทำ BOQ มาเปรียบเทียบกัน แล้วก็เทียบกับ ที่สถาปนิกทำให้
แล้วตรงไหนเจ้าของบ้านจะซื้อเองก็ตกลงกันเสียแต่ทีแรก บางทีผู้รับเหมาจะบอกว่า
ค่อยคิดกันทีหลัง อย่าไปเชื่อเด็ดขาด จะตัดตรงไหนมาซื้อเองตกลงกันให้ชัดๆก่อนเซ็นต์สัญญา
4. หาคนคุมงาน ทำเองได้ หรือมีเวลา ก็ประหยัด ไม่งั้นก็จ้างวิศวกรมาคุมงานให้อีกที เป็นค่าใช้จ่ายที่งอกออกมา
ตอนแรกไม่คิดไม่ถึงว่าต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วย แต่ก็ดีนะคะ อย่างบ้านเราไม่มีคนที่มีความรู้ด้านงานก่อสร้าง
เค้าจะคอยดูให้เป็นไปตามแบบ บางทีผูรับเหมาก็มีอาการตาลายอ่านแบบผิด หรือคอยเตือนว่าช่วงไหนเราควรจะเตรียมซื้ออะไรบ้าง
การขอใบอนุญาตก่อสร้างใช้เวลาหลายเดือนนะคะ มันยากที่จะไม่โดนสั่งแก้แบบ
แต่ถ้าทำตามขั้นตอนไม่ใจร้อน ค่าใช้จ่ายในการยื่นก็ไม่กี่ร้อยบาทค่ะ ค่าซีร็อกซ์แบบบ้าน 5 ชุด เพื่อยื่นเอกสารยังแพงกว่าอีก
By: simiach
Since: 30 เม.ย. 55 04:34:24
เลือกผู้รับเหมา ดีๆ นะค่ะ อย่าเชื่อลมปาก อยากได้คนดีต้องดูที่ผลงาน มีตัวอย่างเยอะแยะที่ เจ้าของบ้าน deal กับผู้รับเหมาโดยตรง แล้วมีปัญหากัน
ถ้าไม่อยากจ้าง บ. รับสร้างบ้าน เราว่า ถ้าไม่มีความรู้เรื่องงานก่อสร้าง ก็หาที่ปรึกษาก่อสร้างสักคนมาช่วยงานดีกว่า แล้วก็อย่าหาเอาจากผู้รับเหมานะค่ะ (เขาอาจจะรู้กัน ตรวจงานผ่านๆ ก็ได้) แนะนำให้เป็น บุคคลที่สาม จะดีกว่าค่ะ
เคสตัวอย่าง http://community.akanek.com/story/2010/10/sub-contractor-problem
By: แบม แลบดำ
Since: 30 เม.ย. 55 10:53:15
ถ้าไม่มีสถาปนิกที่รู้จักอยู่แล้ว เราว่าหาสถาปนิกใน พท ดีกว่าค่ะ
เวลามีปัญหาจะได้ปรึกษาหรือดูหน้างานได้สะดวก
ถ้าจะจ้างผู้รับเหมาเอง จขกท พอมีอยู่ในใจไหมคะ หาผู้รับเหมาเราว่าเป็นงานที่ยากที่สุด
ของการสร้างบ้าน ขนาดเรามีญาติเป็นวิศวกรโยธา แนะนำเพื่อนๆ
ที่ทำรับเหมามาให้ตั้ง 3-4 ราย ยังเกือบท้อเลยค่ะ กว่าจะได้คนที่มั่นใจจริงๆ
ตอนนี้เริ่มงานเจาะเสาเข็ม ไว้สิ้นปีบ้านเสร็จแล้วจะมารีวิวนะคะ
By: asujug
Since: 30 เม.ย. 55 14:07:23
สิ่งที่เราต้องมีก่อนอื่น ในการจะสร้างบ้าน ก็คือ แบบครับ
ถ้าเราไม่ต้องการบ้านพิเศษอะไรมากมาย ก็หาแบบทั่ว ๆ ไป อันนี้เมื่อไม่มีอะไรพิศดาร ช่างส่วนใหญ่ก็สร้าง ๆ ไป ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ถ้าเป็นพวกนี้ สถาปนิกก็จะไม่ค่อยจำเป็น ในขั้นตอนอื่น นอกจากการเซ็นออกแบบแค่นั้น
แต่ถ้าเราต้องการแบบตามที่ออกตามประโยชน์ใช้สอยที่เราต้องการ ครัวใหญ่หน่อย ห้องนอนไม่ต้องมีเฟอร์นิเจอร์ ห้องน้ำขออ่างอาบน้ำด้วย ฯลฯ พวกนี้ต้องหาสถาปนิก ออกแบบ และต้องมีวิศวกรคำนวณด้วย
และในขั้นตอนนี้ เราต้องตามติด แก้ไขให้ได้ตามที่เราพอใจ อย่าปล่อยทิ้งเอาไว้แก้ไขหน้างานเด็ดขาด เพราะมันจะมีปัญหาลามไปหลายอย่าง แก้ให้จบ ให้คำนวณให้เรียบร้อย แล้วพอถึงเวลาสร้าง เราก็สร้างตามแบบอย่างเดียว งานก้าวหน้าเร็ว ไม่ต้องทะเลาะเรื่องงานลดงานเพิ่ม
ซึ่งสถาปนิกในการออกแบบอย่างนี้ ต้องทำหน้าที่ ที่ปรึกษาการก่อสร้างให้ด้วย เพราะบางครั้ง การออกแบบอาจจะผิดพลาดไป ดูไม่ออกตอนเป็นแบบ แต่พอตอนสร้างจริงค่อยเห็น อันนี้ก็ต้องให้สถาปนิกแนะนำวิธีแก้ไข อันไหนต้องคำนวณใหม่ก็ต้องทำ
การตกแต่งภายใน ถ้าเป็นไปได้ เราอธิบายไปในแบบให้จบไปเลยก็ดีครับ เพราะบางตำแหน่งอาจจะไม่จำเป็นต้องทำงานบางอย่าง ถ้าหากมันจะมีเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้ว ผู้รับเหมาจะได้เห็นภาพทั้งหมด ถึงแม้ว่า ในบางงานเราจะตัดออกมา หาคนรับเหมาต่างหากก็ตาม
อย่างที่ จขกท.เข้าใจน่ะถูกต้องที่สุดแล้วครับ แบบต้องละเอียด ต้องชัดเจน ถูกต้องตามใจเราที่สุด งานก้าวหน้าเร็ว งบไม่บาน ดังนั้น ใส่ใจขั้นตอนออกแบบให้ดีก็จะดีครับ ถ้าพอมีความรู้เรื่องการอ่านแบบบ้าง ว่าง ๆ ก็นั่งดู อะไรไม่เข้าใจก็ถามคนออกแบบให้เคลียร์ เพราะบางอย่างมันมีผลกระทบหลายอย่าง ถ้าเราเห็นข้อบกพร่อง รีบแก้แบบให้เรียบร้อยก่อนจะดีที่สุดครับ
By: Lpg_Horse
Since: 30 เม.ย. 55 16:32:51
ไปบนให้ได้ช่างฝีมือดี ราคาปานกลาง ไม่ทิ้งงาน รับผิดชอบ
รับรองงานเสร็จแน่ เรื่องบานปลายอยู่ที่ตัวคุณเลือกวัสดุ
By: พี่เดอร์กะน้องจ้า
Since: วันแรงงาน 55 00:05:51
1. ให้สถาปนิกหรือพวกรับเขียนแบบเทคนิคสถาปัตย์ วางพท.ที่ใช้สอยก่อน
2. หาวิศวกรคำนวณโครงสร้างให้ ส่วนใหญ่สถาปนิกหรือคนเขียนแบบจะมีวิศวกรพรรคพวกกันอยู่แล้ว ไว้รับงานร่วมกัน
3. ถ้าอยากโครงสร้างดีๆก็ต้องหาวิศวกรควบคุมงานอีก ค่าใช้จ่ายเพิ่มแน่นอนครับ (แต่กรณีขออนุญาตก่อสร้าง ถ้าพท.ใช้สอยเกิน ต้องใช้วิศวกรเซ็นต์ควบคุมงานด้วย)
4. ขออนุญาตก่อสร้าง แนะนำให้ใช้สถาปนิกหรือวิศวกรที่เซ็นต์นั่นแหละเข้าไปติดต่อกับเทศบาล/อบต. จะได้พูดคุยกันง่ายขึ้น
ที่เหลือหาผรม.ตามเพื่อนๆบอกครับ…
By: cwitthawat
Since: วันแรงงาน 55 01:10:36
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ผรม. แม้มีอยู่มากมาย แต่การจะได้รู้จักสักคน ที่มืออาชีพพอ เป็นเรื่องยากมาก
บ้านจขกท เนื้อที่ดิน 270 ตรว. พื้นที่ใช้สอยก็คงมากโขอยู่ แถมมีสระว่ายน้ำ ราคาน่าจะหลายล้าน อย่างน้อยก็น่าจะ 4 ล้านขึ้น สเกลงานระดับนี้ ผรม. รายย่อย ที่เคยรับงานไม่เกิน 2 ล้าน ไม่เหมาะจะเลือกใช้ค่ะ
คนทั่วๆไป อาจเข้าใจว่า มันก็บ้านเหมือนกัน ต่างกันแค่ขนาดเล็กกับขนาดใหญ่ อันนี้ไม่จริงค่ะ บ้านใหญ่ส่วนมากก็มักตามมาด้วยความหรูหรา การเลือกใช้วัสดุเกรดดีๆ พูดง่ายๆ บ้านราคา 4-5 ล้าน จะให้ไปปูกระเบื้อง ตรม.ละ 2-300 มันก็คงจะไม่ใช่
ในขณะที่ผรม.ฟรีแลนซ์ส่วนมาก จะทำเป็นเฉพาะวิธีการสร้างบ้านแบบพื้นๆ หรือรู้จักทีม sub เฉพาะทางที่ทำเป็นเฉพาะแบบพื้นๆ ยกตัวอย่างเช่น หากในแบบของสถาปนิกบอกว่า ประตูหน้าต่างอลูมิเนียม ผรม.ไก่กา ก็จะนึกภาพออกแค่ จ้างช่างอลูมิเนียม ซื้อเส้นมาตัด+ประกอบหน้างาน (ในวงการประตูหน้าต่างเรียกว่า สินค้าเกรด local) ในขณะที่บ้านราคา 3-4 ล้าน ควรใช้ของเกรดพรีเมี่ยม ที่ผรม. ไก่กาบางคน อาจไม่เคยได้ยินชื่อสักยี่ห้อ หรือไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าในโลกนี้ เค้ามีสินค้ามีแบรนด์
พูดง่ายๆ การสร้างบ้าน 1-2 ล้าน กับการสร้างบ้าน 4-5 ล้าน วิธีการทำงานต่างกัน (ไม่ใช่ต่างกันแค่จำนวนคนหรือระยะเวลาแล้วเสร็จ) ถ้าเปรียบเทียบกับวงการอุตสาหกรรม ก็เป็นเทคโนโลยี่ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เช่นการผลิตรถเก๋ง กับรถกระบะ
นั่นทำให้ ผรม.ฟรีแลนซ์ที่มีความรับผิดชอบ, ความน่าเชื่อถือ, มืออาชีพ จะมีตัวเลือกน้อยลงไปอีก ผรม. ที่มีประสบการณ์ กับบ้าน 1-2 ล้าน จะกลายเป็น มือสมัครเล่นไปโดยทันที หากเราไปจ้างเค้าทำบ้าน 4-5 ล้าน และก็ร้อยทั้งร้อย จะอยากทำ จนถึงขนาดโกหกว่ามีประสบการณ์มาแล้ว
สรุป จ้างบริษัทเถอะค่ะ จ่ายแพงกว่ากัน 3-4 แสน ถือว่าเป็นค่าปวดหัว
ยกเว้น จขกท พอมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับขั้นตอนการสร้างบ้านบ้าง สามารถวางแผน, คุมงานด้วยตัวเอง มีเวลาศึกษาหาความรู้ เลือกใช้วัสดุด้วยตัวเอง แบบนี้ สนับสนุนให้ไม่ใช้บริษัท
แบบม่วยถ่าวเนี่ยะ ถ้าสร้างบ้านหลังต่อไป ก็คงทำด้วยตัวเอง
By: ม่วยถ่าว
Since: วันแรงงาน 55 07:38:15
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆ เลยค่ะ สำหรับทุกความเห็น
ได้เข้าไปอ่านลิงค์ของคุณ แบม แลบดำ และคห.ของคุณ ม่วยถ่าว แล้ว หนักใจมากๆ เลยค่ะ เพราะเราเองก็ไม่ได้มีปสก.สร้างเองมาก่อน จริงๆ แล้วพี่ชายเราเค้าเป็นวิศวกร แต่ว่าเค้าอยู่กทม. คงจะไม่สามารถมาคุมงานให้ได้ แต่เราก็ยังไม่ได้คุยกับเค้าจริงๆ จังๆ เท่าไร
จะรบกวนถามอีกซักหน่อยนะคะ
1. ค่าใช้จ่ายต่างๆ จะประมาณเท่าไร (กี่เปอร์เซ็นต์) ของราคาบ้าน ถ้าเรา
– ให้สถาปนิคออกแบบ เค้าคิดยังไงคะ
– มีวิศวกร หรือที่ปรึกษาคุมงาน
– มีมัณฑนากรออกแบบตกแต่งภายใน
แต่ละข้อย่อย คิดเป็นข้อละกี่เปอร์เซ็นต์คะ
2. ถ้าให้บริษัทรับสร้างบ้านทำทั้งหมด จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าข้อ 1 เยอะหรือไม่คะ
คิดว่างบประมาณก็คงจะอยู่ที่ราวๆ 4-5 ล้าน (จะได้มั๊ย) อย่างที่คุณม่วยถ่าวบอกค่ะ
จริงๆ เราก็อยากจะให้บริษัทรับสร้างบ้าน แต่มีผู้รู้แนะนำว่ามันจะแพงกว่ากันเยอะมาก เพราะนอกจากค่าดำเนินการแล้ว เค้าจะบวกราคาค่าวัสดุุต่างๆ เพิ่มขึ้นอีก แต่ก็ไม่ทราบว่ามากเนี่ยะ มันเท่าไรกันแน่
แต่ถ้าจะจ้างสถาปนิคเขียนแบบ จ้างวิศวกรคุมงาน โดยมีพี่ชายคอยแนะนำ ไม่แน่ใจว่าจะไปรอดมั๊ย ส่วนแฟนเราเค้าไม่ค่อยมีเวลา เพราะทำงานหนักมาก ออกเช้ากลับมืดค่ะ หลักๆ ก็คงอยู่ที่เราทั้งหมด เราเองไม่ได้ทำงานค่ะ เรารับส่งลูกไปโรงเรียนเอง และดูแลลูกหลังจากกลับมาจากโรงเรียน
คิดว่าแบบไหนดีคะ
By: J Miro
Since: 2 พ.ค. 55 00:25:02