เข้าขั้นอยากได้ แต่มันแพงจัง ทำไงดี ราคาตั้ง 14 ล้าน
เงินสดฉุกเฉินตอนนี้มีอยู่เพียง 2 ล้าน (ยังไม่พอดาวน์เลยด้วยซ้ำ ดาวน์ 30%) คิดคนเดียว ปวดหมอง ขอยืมสมองหน่อยค่ะ
สามีเงินเดือน 90,000 ให้ญาติยืมชื่อไปกู้ผ่อนคอนโดอยู่ 1 ล้านบาท บ้านที่อาศัยอยู่ปลอดภาระ ยังไม่เคยประกาศขายเลย (ถ้าขายได้ น่าจะไม่ต่ำกว่า 5.5 ล้าน) รีบแปะป้ายเลยดีไม๊ แต่จะทันบ้านใหม่เร้ออ เหลือหลังสุดท้าย เดี๋ยวก็คงหมดแล้วหละ ยังไม่เคยเดินไปหาแบ๊งค์ใด ๆ เลย ว่าอย่างเราจะกู้ผ่านไม๊
เป็นคุณ เกิดปิ๊งปั๊งขึ้นมาอย่างนี้จะเริ่มตรงไหน เพื่อที่จะให้ได้มันมาคะ ที่สำคัญมันเป็นหมู่บ้านที่น่าซื้อเพราะอนาคตน่าจะมีมูลค่าเพิ่มน่ะค่ะ อยากคิดว่าปล่อยมันไปเหอะ ก็กลัวจะแพ้ซะตั้งแต่ยังไม่ได้ลงมือ เดี๋ยววันหลังมีตังค์ค่อยซื้อก็ได้ แต่มรอโครงการใหม่ ก็ไม่รู้จะแพงกว่านี้อีกสักเท่าไร
ถ้าคิดแล้ว ไม่เกินตัว ก็ลองคุยกับธนาคารดู ถ้าซื้อแล้วเป็นทุกข์ก็เก็บไว้ก่อน เอาไว้พร้อมอีกนิดค่อยคิดใหม่
อย่าไปหวังเงินจากการขายบ้านหลังปัจจุบัน เพราะอาจมีกรณีขายได้ไม่เร็วอย่างที่คาดหวังค่ะ
เอาข้อมูลที่คุณบอก เดินไปที่สินเชื่อธนาคารไหนก็ได้ครับ ได้คำตอบเดี๋ยวนั้นเลยครับ
ส่วนเรื่องบ้านที่จะประกาศขาย ต้องทำใจนะครับ เพราะมันไม่แน่ว่าจะขายได้เร็วหรือช้า
บางคนประกาศปุ๊บ มีคนโทรมาติดต่อ คุยไปคุยมา โชคดี ขายได้เลย
บางคนประกาศมาเป็นปี สองปี ยังขายไม่ได้เลย ไม่แน่นอนครับ
อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้คุณลองพยายามหาวิธีดูนะครับ
เอาใจช่วยให้ได้บ้านที่อยากได้ ได้แล้ว อย่าลืมเอารูปมาให้ดูกันบ้างนะครับ
เงินเดือน90000 ไม่พอจ่ายหรอกครับ
จะเหนื่อยไปทำไม
ขนลุกนะ ถ้าเป็นผม
ถึงแม้จะขายได้6ล้าน+งินสดยามฉุกเฉินอีก2ล้าน=8ล้าน
บ้านราคา14ล้าน กู้อีก6ล้าน
แล้วแต่คนเนอะ คนบางคนอาจจะเป็นเรื่องชิวๆ
มีรายได้จากเงินเดือนสามีคนเดียวเท่านั้นหรือเปล่าคะ แล้วสามียังเหลือระยะเวลาที่สามารถหารายได้
หรือตั้งใจว่าจะปลดระวางตัวเองอีกกี่ปี หรือว่ามีมรดกอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้อีกคะ
เราว่าถ้ารายได้ต่อเดือนประมาณ 90,000 (บวกทรัพย์บ้านหลังเดิม) หาบ้านหลังละไม่เกิน 7-8 ล้านน่าจะไม่เหนื่อย
มากนะคะ
ลองคุยกับแบงค์ก่อนค่ะ เดี๋ยวนี้แบงค์ทำงานเร็วนะคะ
ตอนที่เราซื้อบ้าน ติดต่อแบงค์ 2-3 วันก็ทราบผลแล้ว
ปล.ราคาบ้านค่อนข้างสูงนะคะ ตั้ง 14 ล้านแน่ะ (เห็นแล้วแอบตกใจ ^^)
ถ้าขายบ้านหลังเดิมได้เร็ว (มองโลกในแง่ดี) สมมติว่าขายได้ประมาณ 6 ล้าน
มีเงินสดเพิ่มอีก 2 ล้านเป็น 8 ล้าน จะเหลือยื่นกู้แบงค์อีก 6 ล้านบาท
ถ้ามีรายได้ 90,000 บาทต่อเดือนและติดภาระผ่อนคอนโดอีก 1 ล้าน
(ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ผ่อนจริง แต่ชื่อเราเป็นผู้กู้ก็มีประวัติในบูโรอยู่ดี)
…..ความคิดเห็นส่วนตัวของเรา แบงค์คงให้กู้ได้ไม่ถึง 6 ล้านหรอกค่ะ
นอกจากจะดูว่ายื่นกู้ลำบากแล้ว เงินสดฉุกเฉินก็ไม่มีแล้วเพราะเอาไปรวมกับเงินดาวน์หมด
ที่สำคัญ…..ซื้อบ้าน ไม่ใช่แค่ราคาบ้านเท่านั้นที่เป็นค่าใช้จ่าย
ยังต้องมีค่าใช้จ่ายจิปาถะอะไรอื่นๆ ตามมาอีกเป็นพรวน …….
คิดดีๆ ก่อนนะคะ ^^
ปล่อยก่อนเถอะครับ เรื่องแบบนี้ต้องพิถีพิถันในการดู
ขายบ้านได้ 5 ล้าน เอาเงินเก็บมาผสมอีก 1 ล้าน เป็น 6 ล้าน เก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน 1 ล้าน เหลือกู้ 8 ล้าน ผ่อนเดือนละ 6 หมื่น ….
ไหวหรือไม่ไหวคนกู้น่าจะรู้ดี
ถ้ามองในแง่แบ้งค์ เขาให้กู้ 40 เท่าของเงินเดือนหรือเปล่าไม่แน่ใจ ถ้าใช่ก็คงกู้ได้แค่ 3.6 ล้าน ไม่พอครับ
อนาคต อนางอ ไม่แน่ไม่นอน
นกน้อย ทำรังแต่พอตัว
นุ่งเจียม ห่มเจียม
เห็นช้างขี้ อย่าขี้ตามช้าง
พอเพียง
ฯลฯ
สามีเงินเดือน 90000 แล้ว ภรรยาละคะ เงินเดือนเท่าไร
บอกตรง ๆ นะ
เรามีเงินสดมากกว่าคุณ
รายได้เยอะกว่าสามีคุณ
เรายังไม่คิดจะซื้อบ้านที่ราคาเกิน 10 ล้านเลย
อยากให้คุณจิตตกเสียตอนนี้
ดีกว่าไปจิตตกตอนผ่อนบ้านไม่ไหวค่ะ
เหมือนจะมีกฏว่า ให้กู้ได้ไม่เกิน10ล.
เราเคยถามของ lh 12ล. เขาให้จ่ายส่วนที่เกิน10ล.เป็นเงินสด
สุดท้ายไม่ได้ซื้อ ไปซื้อหลังละ9.5ล.ลดให้1ล.แทน
ลองคุยกับโครงการเลย เชื่อมั้ยเขาช่วยดันเต็มที่
เพราะเขาก็อยากขาย
เสียดายเงินนะ บ้าน 14 ล้าน ค่าบำรุงรักษาดูแล เดือนๆนึงจะเท่าไหร่
แล้วคุณจะมีเวลาอยู่บ้านแค่ไหน ต้องทำงานหาเงินผ่อนบ้าน 14 ล้านเนี่ย
พอ เพียง
ขอแสดงความคิดเห็นว่า ไม่ควรค่ะ
สุดท้าย ก็แล้วแต่ จขกท. นะค่ะ
ลดเสกล เหลือสัก 7-8 ล้าน แล้ว กันเงินสดไว้สักล้าน แต่งภายในให้แจ่มๆเลยครับ คนเราอยู่บ้าน ใช้เวลาอยู่ในบ้าน 80% นอกบ้านแค่ 20% บางทีไปลงทุนกับของนอกบ้านมากเกินไป แต่ในบ้านงี้รกเป็นโกดัง
บ้านหลังใหญ่….แต่ที่นอนก็แค่เต็มหลัง
เจ้าของกระทู้มีสิทธิ์ฝันได้ แต่ถ้าเรื่องจริงที่จะซื้อคงเป็นไปยังไม่ได้
ถ้ามีเงินสดๆสัก5ล้าน ไม่แน่ความฝันอาจจะเป็นจริงคะ
ตอนนี้อยู่บ้านราคา 5 ล้านก็ดีกว่าคนอีกหลายสิบล้านคนในประเทศนี้แล้ว
บางคนตอนนี้ผ่อนบ้านที่น้ำท่วม ไม่มีที่เหลือให้ยืนเต็มเท้าด้วยซ้ำ
คุณก็มีบ้านอยู่แล้ว ดีเกินมาตรฐานแล้ว น่าจะใช้เงินไปทางอื่นบ้างนะคะ เก็บไว้ส่งลูกเรียนให้จบ ป.เอก ต่างประเทศทุกคน เพื่อสร้างอนาคตให้ลูก (ยกตัวอย่างนะคะ) หรือบริจาคให้ทุนการศึกษาเพื่อเด็กด้อยโอกาสบ้างก็ดีนะคะ
แต่ถ้าคาบช้อนเงิน ช้อนทองมาเกิด ไม่เดือดร้อนก็ซื้อเลยคะ เดี๋ยวคงแพงขึ้นอีก เพราะวัสดุก่อสร้างขึ้นราคาทุกชนิด
ขอดูบ้านในฝันหน่อยได้มั้ยคะ
ช่วย จขกท คิดค่ะ คุณขา จะซื้อแพงๆไปทำไม ไม่กี่ปีกรุงเทพจมน้ำแล้ว อยู่อย่างพอเพียงจะมีความสุขกว่าเยอะ อิฉันก็เหมือน จขกท อดีต เคยปิ๊งบ้านหลังหนึ่งมากๆ สมัยก่อน ราคาหลังละ 1 ล้าน แพงสุดๆ ขณะที่บ้านปกติราคา สี่ ห้า แสน ก็สวยแล้วและหลังใหญ่ ผลสุดท้าย ตบหน้าตัวเองให้ตื่นจากฝัน กลับมามองความเป็นจริง ซื้อที่แสนห้า ปลูกบ้าน หกแสน ไม่เป็นหนี้ มีความสุข ไม่ต้องนอนผวาหาเงินจ่ายค่าบ้าน อยู่กับความจริงดีกว่าค่ะ อย่าหาเรื่องปวดหมองเลย
อนาคต อนางอ ไม่แน่ไม่นอน
นกน้อย ทำรังแต่พอตัว
นุ่งเจียม ห่มเจียม
เห็นช้างขี้ อย่าขี้ตามช้าง
พอเพียง
ฯลฯ
จากคุณ : ฟักแฟงแตงไทย
เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:53:48
ถูกใจ : McAmy,
————————————–
ชอบ ชอบ ครับ เห็นด้วยทุกตัวอักษร
เริ่มต้นจากการปรึกษาคุณสามีและคนในครอบครัวก่อนดีกว่าไหมครับ
ถ้าคนในครอบครัวเห็นด้วยก็เข้าไปคุยกับโครงการ และขอยื่น PreApprove กับทางแบงค์ โดยอาจจะทำการจอง โดยระบุไว้ว่าหาก PreApprove ไม่ถึงเท่าไหร่ ให้ระบุไว้ว่าคืนเงินจอง
ตัดใจซะครับ เก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า
ซื้อแล้วถ้าผ่อนไม่ไหวจะลำบาก
จะซื้อบ้านใหม่ไว้ทำอะไรครับ อยากซื้อ บ้านเดิมมีปัญหา หรือซื้อไว้เก็งกำไร(เห็นบอกว่ามูลค่าเพิ่มในอนาคต)
เทเงินหมดหน้าตักแล้วต้องมามีภาระผ่อนอย่างหนัก ต้องกระเบียดกระเสียนอีกหลายปี ไม่สนุกนะครับ ตอนนี้ไม่มีหนี้สินอยากกินอะไรอยากซื้ออะไรก็ได้ สบายกว่าเยอะ
รายได้เดือนละ 9 หมื่น ไม่เยอะนะครับกับเงิน 10 กว่าล้านที่จะกู้(ถ้าขายบ้านเก่าได้ก็เหลืออีกตั้ง 6 ล้าน)
ถามสามีแล้วหรือยังครับว่าเขาอยากจะซื้อหรืออยากจะผ่อนหรือเปล่า ใครๆ เห็นของดีของสวยก็อยากได้ทั้งนั้นละครับเพียงแต่ว่าต้องตัดสินใจอีกทีว่าจะซื้อดีไหม
ถ้าเป็นภรรยาผมอยากซื้อบ้านนี้ทั้งที่บ้านเดิมไม่มีปัญหาผมคงได้แต่หัวเราะให้เธอไปคิดเองว่าผมหัวเราะเพราะอะไร