จุดพีคสุด ต่างกับจุดต่ำสุดของเดือนนี้ 200 หน่วย -_-‘
ค่าไฟก็ต่างกัน
1900 กว่าบาทของเดือนที่ 524 หน่วย
เดือนนี้ 1159 บาทเอง 321 หน่วย
ค่าไฟจะมาจดมิเตอร์ทุก ๆ วันที่ 19
ผมล้างแอร์ไปเมื่อเดือนสิงหา ประมาณวันที่ 25
ผลที่ได้รับคือค่าไฟลดไปแล้วร่วม ๆ 700 กว่าบาท (นับจากเดือนที่พีคสุดนะ-เดือนล่าสุดครับ)
ล้างแอร์ช่วยชาติกันเถอะครับ หน้าหนาวก็ล้างได้ ประหยัดไฟประหยัดเงิน จริง ๆ
เดี๋ยวจะดูเดือนหน้าจะลงขนาดไหนเพราะเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้วด้วย
มาเพิ่มเติมวิธีล้างแอร์ของผม คือผมล้างเองครับ
ใช้เจ้าเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดทั้ง ทั้งในทั้งนอกเลย ปรับแบบไม่แรงจัดไม่งั้นครีบงอหมดครับ พอสะอาดแล้วทีนี้เย็นสะใจเลยครับ
แต่ทางทีดีไปจ้างช่างที่รู้จักและไว้ใจได้จะดียิ่งครับ ปลอดภัยไร้กัลวล
ปล. หม้อไฟผมยังเป็น 5/15 amp อยู่เลยครับ ตอนแอร์เดินทีวิ่งอย่างกะลูกข่าง
อันนี้เปิดเท่ากันทุกวัน รึ ช่วงนี้เย็นเล็กๆ แล้วเปิดน้อยลงด้วยอะครับ
ปล. ของผมปีกว่ายังไม่ได้ล้างเลย 555+
ถ้ามีคู่มือล้างแอร์ก็ดีนะ ทั้งแบบติดผนัง ติดฝ้าหรือในฝ้า และตั้งพื้น
ผมล้างคอยย์ร้อนทุกเดือนเลย ตัวแอร์ก็ทำความสะอาดแผ่นกรองเอา
ล้างแอร์กับร้านแอร์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น
ห้ามเรียกร้านเสาไฟฟ้า ร้านตู้จดหมายเด็ดขาด
ช่างบอกน้ำยาพร่อง ไม่จำเป็นต้องเติม ทางที่ดีบอกคนล้างก่อนเลย ว่าแอร์ยังเย็นอยู่ ไม่ต้องเติมน้ำยา
ข้อมูลของเจ้าของกระทู้ ถูกต้อง……แต่สรุปผิดน่ะ
ถ้าฉีดที่ครีบ ผมว่าใช้ที่ฉีดแบบอัดลมรดน้ำต้นไม้ตัวใหญ่หน่อยกำลังดี ปรับหัวเล็กก็แรงพอควร
ที่ฉีดแรงดันสูง ถ้าปรับไม่ได้ฉีดไม่ตรง จะเสียหายมากกว่าละครับ
คอนเฟิร์มเลยครับ
ก่อนล้าง เปิดลมแอร์แรงสุด อุณหภูมิ 24 แต่ไม่เย็น ออกร้อนๆด้วยซ้ำ
ล้างเสร็จ เปิดลมแอร์เบาสุด ที่ 26 องศา ต้องหาผ้ามาห่ม
ผมก็ล้างทุก 6 เดือนครับ จ้างร้านมาล้างรายปี ปีละ 2 ครั้ง
แต่ล้างบ่อยๆ แท่งกราฟที่ได้ก็แบบนี้เหมือนกันครับ
คือช่วงหน้าร้อนจะพุ่ง แล้วก็ลดลงไปเรื่อยๆจนถึงต้นปีนะแหละ
ผลของการล้างแอร์มันไม่ใช่ผลต่างระหว่างเดือนสูงกับต่ำอย่างเดียวครับ
ปัจจัยสำคัญคือสภาพอากาศแต่ละเดือนด้วย
แต่สนับสนุนให้ล้างแอร์บ่อยๆเช่นกัน
อย่างที่บ้านผมถ้าล้างแอร์ตื่นมาตอนเช้าจะไม่จาม ไม่คัดจมูกเลย
พอใช้ไปหลายๆเดือนอาการจามจะเริ่มมา ก็ได้เวลาล้างแอร์พอดี
***เพิ่มเติม ถ้าจะหาร้านล้างแอร์ แนะนำให้ทำเป็นปีไปเลย
เราจะได้ไม่ต้องมานั่งจำว่าผ่านไปกี่เดือนแล้ว อีกประการคือ
ให้เลือกร้านที่เติมน้ำยาแอร์ฟรีไปเลยครับ จะได้ไม่ถูกหลอก
ผมว่าช่วงนี้อากาศเย็นลงแอรืเลยทำงานลดลง ถ้าจะดูประสิทธิภาพจริงควรดูตอนช่วงที่อากาศเย็นหรือร้อนพอๆกันครับ อย่าเพิ่งด่วนสรุป
ดูอากาศสิ เย็นจะตายจะเทียบกันได้ยังไง ฝนก็ตกทุกวัน
เทียบเดือนเดียวกันสิครับของทุกปี
แอร์ใช้หลักการเปลี่ยนแปลงแรงดันและสถานะของน้ำยาแอร์ครับ
ถ้าคุณล้างแอร์ไอ้คอยล์ร้อนๆข้างนอก มันก็จะระบายความร้อนได้ดีเพราะไม่มีฝุ่นรึสิ่งสกปรกไปจับ เพราะถ้าระบายความร้อนไม่ดีไอ้เจ้าคอมเพรสเซอร์ มันก้จะอัดน้ำยาไปเรื่อยๆ เพราะอุณหภูมิที่คุณต้องการมันได้ช้า ค่าไฟจะกินมากกินน้อย ขึ้นอยุ่กับ การทำงานของคอมเพรสเซอรืในตัวคอยล์ร้อนครับ จำไว้เลยครับถ้ามันดังเมื่อไหร่ นั้นก้คือค่าไฟที่คุณต้องจ่ายไปเพิ่มขึ้นครับ เพราะแอร์ที่กินไฟเยอะสุดคือส่วนนี้ ไอ้ตรงร้อนๆนั้นแหล่ะครับ
ของผมไม่ได้ล้างเลย นานแหละ หกเดือนกว่า
ค่าไฟ จาก 2900 เหลือ 1600 ครับ ล้างไม่ล้าง เท่ากัน คิคิ เลียนแบบหลักคิดเดียวกัน
มันบอกได้ยากครับ เพราะ อุณหภูมิของอากาศภายนอกไม่เท่ากัน อัตราการทำความเย็น การใช้ไฟย่อมลดลงเมื่ออุณหภูมิภายนอกลดลงครับ