ส่องความเคลื่อนไหวตลาดรับสร้างบ้านเดือนมิถุนายน 2555
http://www.thca.or.th/detail_article.php?news_id=00188
สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Construction Association: THCA) รายงานสถานการร์ความเคลื่อนไหวของตลาดรับสร้างบ้านเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า ปริมาณและมูลค่ายอดจองสร้างบ้านในกลุ่มสมาชิกสมาคมฯ เติบโตกว่าเดือนมิถุนายนกว่า 32% ส่งผลให้มูลค่ายอดจองสร้างบ้านไตรมาสสองปีนี้ เติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 40 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว (เดือนเมย.-มิย. 2554) และยอดจองสร้างในช่วงไตรสองที่ผ่านมา (เดือนเมย.-มิย. 2555) เติบโตกว่าไตรมาสแรกประมาณร้อยละ 47 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางมีการเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน สำหรับมูลค่าจองสร้างบ้านของสมาชิกสมาคมฯ แยกตามภูมิภาคพบว่า ภาคอีสานยังครองอันดับ 1 (ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6) เมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ
สมาคมฯ ประเมินว่ากำลังซื้อที่เติบโต เป็นเพราะ 1)ผู้บริโภคเร่งตัดสินใจเนื่องจากกังวลว่าราคาบ้านจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2)กำลังซื้อผู้บริโภคที่เติบโตส่วนใหญ่มาจากตลาดใหม่หรือในต่างจังหวัด 3) ผู้บริโภคคลายความกังวลเรื่องปัญหาน้ำท่วมแล้ว ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยมีความสอดคล้องและสนับสนุนกันและกัน จึงส่งผลให้ปริมาณและมูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะทิศทางการเติบโตมีแนวโน้มขยายตัวออกไปในต่างจังหวัดอย่างชัดเจน

สรุป ปริมาณและมูลค่าจองสร้างบ้านของสมาชิกสมาคมฯ ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สามารถแบ่งตามสัดส่วนออกได้ดังนี้ อันดับแรก ภาคอีสานมีสัดส่วนคิดเป็น 36% อันดับที่ 2 ภาคกลางมีสัดส่วนคิดเป็น 23% อันดับ 3 กรุงเทพฯ และปริมณฑลสัดส่วนคิดเป็น 15% ภาคใต้สัดส่วนคิดเป็น 15% และภาคเหนือสัดส่วน 11% ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมการแข่งขันของผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ในเดือนที่ผ่านมาไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยเฉพาะรายเล็กรายกลางที่แข่งขันอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แทบไม่มีกิจกรรมทางการตลาดใดๆ ออกมากระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค จะมีก็เพียงบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่ 2-3 รายเท่านั้น ที่ยังโฆษณาประชาสัมพันธ์และจัดโปรโมชั่น ลด แจก แถม ในขณะที่กลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านที่ทำตลาดและแข่งขันอยู่ในต่างจังหวัด มีการใช้สื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ เช่น ป้ายโฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์ ฯลฯ เพื่อกระตุ้นการรับรู้และกำลังซื้อของผู้บริโภคมากขึ้น สมาคมฯ คาดว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่แข่งขันอยู่ในกรุงเทพฯ อาจไม่พร้อมรุกทำการตลาดในเดือนที่ผ่านมา เป็นเพราะยังสาระวนอยู่กับการแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน และยังกังวลกับภาวะต้นทุนค่าก่อสร้าง ที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม

สมาคมประเมินว่า แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในเดือนถัดไปน่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะกำลังซื้อหรือความต้องการสร้างบ้านฟื้นตัวกลับมาแล้ว (หลังจากที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปีก่อน) ยกเว้นว่าวิกฤติหนี้ยูโรโซน ลุกลามและส่งผลกระทบกับประเทศไทยในระดับรุนแรง ซึ่งธุรกิจรับสร้างบ้ายก็อาจได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน สำหรับปัญหาขาดแคลนแรงงานยังเป็นปัจจัยรบกวนและส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้าน นอกจากนี้ ปัญหาที่มีผู้บริโภคเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านหรู เพราะสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐานและผิดสัญญา แถมยังปฏิเสธที่จะเข้าร้องเรียนสมาคมต้นสังกัด เพราะมองว่าให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยกันเอง มากกว่าจะช่วยเหลือผู้บริโภคที่เดือดร้อน มุมมองดังกล่าวถือว่าบั่นทอนความน่าเชื่อถือ และทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจรับสร้างบ้านเสียหาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวผู้เกี่ยวข้องไม่ควรนิ่งเฉยและควรออกมาแสดงความรับผิดชอบ

สมาคมฯ ประเมินว่าหากประเทศไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติหนี้ยูโรโซนไม่มากนัก เชื่อว่าตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดหรือตลาดใหม่ อย่างไรก็ดีผู้ประกอบการเองก็ไม่ควรประมาทและควรมีแผนสำรองไว้ หากไม่อาจหนีพ้นผลกระทบวิกฤติหนี้ยูโซนได้
.

By: tzu149
Since: 5 ก.ค. 55 23:23:22