ผมเป็นสมาชิกที่เอาแต่อ่านมานานมากๆ มีความรู้เท่าหางอึ่งเลยไม่กล้าเท่าไหร่ วันนี้ได้ข้อมูลดีๆ เรื่องเครื่องฟอกอากาศ เลยลองเอามาแชร์ให้กัน ถ้ารู้กันอยู่แล้วก็ขออภัย เน้อ
1. ไม่มีเครื่องฟอกอากาศ หรือ กรองอากาศรุ่นใดหรือยี่ห้อใดในโลก ฟอกหรือกรองได้ 100%
2. อนุภาคที่กรองได้ละเอียดที่สุดในปัจจุบัน 0.1 ไมครอน ไม่มีเล็กกว่านี้
3. อนุภาคที่เล็กกว่า 0.1 ไมครอน รวมถึงเชื้อไวรัสบางชนิด มักจะจับกับอนุภาคอื่นๆ ที่ใหญ่กว่า จึงมีขนาดรวมกันใหญ่กว่า 0.1 ไมครอน
4. มาตรฐานคุณภาพที่ทั่วโลกยอมรับมาจากหน่วยงานที่ว่า AHAM (อะ แฮ่ม?)
5. จะซื้อเครื่องทั้งที่ก็ต้องรู้ค่ามาตรฐานที่มากับตัวเครื่องที่เรียกว่า CADR ด้วยไม่งั้น จะโดนหลอกเรื่องขนาดห้องที่เหมาะสม
6. ค่า CADR คือ การการวัดรอบการทำความสะอาดที่ 6 รอบ / ชั่วโมง ซึ่งเป็นความถี่ในการทำความสะอาดที่แพทย์แนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้
7. ค่า CADR ที่มากับเครื่องมี 3 ชุด คือ ควันบุหรี่ (smoke), ฝุ่นละออง (Dust) และละอองเกสร (Pollen)
8. การคำนวณขนาดห้อง ให้เอาค่า CADR ของควันบุหรี่ ไปคูณ 0.144 จะได้ขนาดห้องที่เหมาะสม ถ้าสำหรับคนร่างกายปกติ ให้คูณ 2 เข้าไปจากขนาดห้องที่ได้ครั้งแรก
9. แผ่นกรอง 3M ที่ใช้กับเครื่องบางยี่ห้อ ก่อนจะซื้อโทรไปหา 3M ก่อนนะครับ ว่า ข้อมูลตรงกับที่ 3M บอกหรือเปล่า และใช่สินค้าที่ 3M ผลิตให้จริงหรือเปล่า
แค่นี้ล่ะ ข้อมูลที่ได้จากการกลัวถูกหลอก ถ้าใครอยากเห็น Label ของ AHAM กับ CADR ไปดูที่ www.cadr.org
คำค้นหา:
- เครื่องฟอกอากาศ 3m pantip
มีคำถามนะค่ะ
มันจำเป็นต้องมีมั๊ยคะ
เครื่องกรองอากาศ กับ เครื่องฟอกอากาศ คนละความหมายกันเลยนะครับ 666
http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R9847993/R9847993.html
เครื่องกรองอากาศ … เครื่องพ่นฆ่าเชื้อโรค
มันก็แตกต่างกันมั้ง
หลักเกณฑ์ที่พูดถึง เป็นสิ่งที่ใช้กันมานานแล้วเหมือนกันล่ะ สำหรับเครื่องกรองอากาศหรือที่เรียกกันง่ายๆว่า เครื่องฟอกอากาศ
ไม่รู้สิครับผมเจอพวกขายตรงหรือsale มาขายพวกเครื่องพวกนี้ ผมจะบอกเลยว่าให้ลองเครื่องให้ดูโดย เอาไปตั้งไว้ในห้องแล้วรมควันเข้าไปแล้วให้sale เข้าไปนั่งกล้าหรือเปล่าถ้ามันกรองและฟอกอากาศได้ดี ส่วนมาก บ้ายๆๆๆ
แรกๆก้ต้องสะอาดอยู่แล้ว ควรจะดูสเปกและประกันและราคาอื่นๆด้วย
เช่น แรงลม กินไฟเฉลี่ยและสูงสุด กรองกี่ขั้น มีระบบพลาสม่าหรืออื่นๆ การทำความสะอาดแผ่นกรองและตัวเครื่อง ราคาแผ่นกรองที่ต้องเปลี่ยน
ส่วนตัวผมว่า เครื่องกรองอากาศ มันก็ใช้ได้ระดับหนึ่งนะ เพียงแต่คนซื้อต้องเข้าใจว่า มันจะได้ผลก็ต่อเมื่อแผ่นกรองไม่อุดตันหลังการใช้งาน ซึ่งคนซื้อไม่ค่อยคิดว่ามันสำคัญหรอก อย่างเครื่องขนาดสำหรับพื้นที่ 50 ตร.ม. ซื้อมาสัก 5หมื่นบาท แล้วต้องเปลี่ยนชุดแผ่นกรองชุดละ 15,000 บาทต่อครั้ง จำเป็นต้องเปลี่ยนสัก 3-4 เดือนครั้ง … หากคิดไม่เปลี่ยน ก็จะกลายเป็นกล่องเก็บมลพิษไว้ในเครื่องแหละครับ … ทุกอย่าง มีทั้งดีและไม่ดี อยู่ที่ว่าจะใช้อย่างถูกวิธีหรือไม่
คห.1 ถามว่าจำเป็นไหม ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่บ้านกับคนในบ้านล่ะครับ ถ้ามีคนสูบบุหรี่ หรือมีคนเป็นภูมิแพ้ ก็น่าจะติดไว้นะครับ
ปัจจุบันผมว่า เครื่องกรองกับเครื่องฟอก มันก็ตัวเดียวกันหมดแล้วล่ะ เท่าที่เห็นตอนไปเลือกซื้อให้น้อง แทบทุกยี่ห้อ มีทั้งระบบกรองอากาศ กำจัดกลิ่น ควัน ครบเลย
เห็นด้วยกับ คห.5 ครับ ถ้าคิดจะซื้อเครื่องมาแล้วตั้งให้มันทำงานไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจแผ่นกรอง หรือเลือกซื้อเครื่องแบบไม่ต้องเปลี่ยนแผ่นกรอง ผมไม่เอาด้วยแน่ เกิดมันทำงานผิดพลาดขึ้นมาไอ้พวกของที่มันกักไว้รั่วไหลออกมา เราก็แย่ดิ
… ว่าแต่ท่าน คห.5 ทำไมยกตัวอย่างแพงจังอะ ขนาดผมซื้อของ 3M โดยตรงที่ Central มาติดให้บ้านน้อง (เพราะเขาเป็นภูมิแพ้ สงสารมัน) ใช้กับพื้นที่ขนาด 32-64 ตารางเมตร ยังแค่ 2 หมื่นนิดๆ เอง แผ่นกรองก็ชุดละพันสองเศษๆ เปลี่ยนทุก 3-4 เดือน ตามอายุงานแผ่นกรอง ตอนไปซื้อคิดว่า ไหนๆ แผ่นกรองเครื่องที่ไปดูก็ของ 3M อยู่แล้วซื้อเครื่อง 3M เลยไม่ดีกว่าหรือ
ไม่มีอะไร 100%