เรื่องมีอยู่ว่าดิฉันยื่นกู้ซื้อคอนโดไป
ราคาคอนโดก็ 2,99x,xxx บาททางแบงค์อนุมัติยอดมา 2,4xx,xxx บาท
ดิฉันก็โอเคไม่มีปัญหา แตปัญหามีอยู่ว่า
ทางธนาคารฯบอกให้ทำประกันชีวิต เพื่อกรณีเสียชีวิตไป ทางธนาคารจะรับชำระหนี้ทั้งหมดโดยจะไม่เป็นภาระกับผู้รับมรดก
แบงค์ทำผ่อนให้ 23 ปี (ทั้งที่ดิฉันบอกให้ทำแค่ 15 ปี)
บวกค่าประกันอีก 3xx,xxx บาทรวมยอดกู้ 2,7xx,xxx บาทแถมยังต้องจ่ายล่วงหน้าด้วย ว๊ายๆๆๆเห็นแล้วตกใจมาก
ตอนนี้แฟนดิฉันเลยบอกว่าไม่เอาบอกให้แบงค์เขาทำกู้ 10 ปี พอ
เลยอยากเรียนถามพี่ๆว่า
1.กรณีนี้เราต่อรองทำกู้แค่ 10 ปีได้ไหมคะ เพราะวงเงินอนุมัติแล้ว(ถ้าไม่ได้คงไม่เอาดีกว่าแบงค์นี้)
2.ทำไมทางแบงค์ต้องบังคับขนาดนี้ด้วยไม่เข้าใจเลย
3.อย่างงี้พนักงานแบงค์ได้ค่าคอมหรือเปล่าคะ(ทำไมมาบังคับเราจังเลย)
4. ถ้ากลบหนี้ภายใน 3 ปี จะได้เงินประกันคืนหรือเปล่า
5. แล้วถ้าไม่ทำประกันอย่างที่ว่าได้หรือเปล่าคะ
ช่วยตอบหน่อยนะคะเพราะว่าเดี๋ยววันจันทร์จะได้โทรไปแจ้งแบงค์ค่ะ
ไม่ต้องทำครับ
การทำประกัน อยู่ที่ความสมัครใจของเราครับ
ทำ ไม่ทำ ไม่มีผลต่อการกู้ใดๆ ทั้งสิ้น
พนง. ต้องการค่าคอมมากกว่าครับ
ก่อนยื่นกู้แบงค์เหลือง ก็คิดว่าจะทำ 15 ปี พอกู้ผ่านเห็นยอดทำประกันแล้วตกใจ เลยขอลดเหลือ 10 ปี เจ้าหน้าที่ก้ยินยอม แต่สุดท้าย วันนี้ไปโอนบ้านเรียบร้อยแล้ว ก่อนไป 2 วันนัดทำเอกสารกับเจ้าหน้าที่ เราแจ้งว่า พอดีติดเหตุฉุกเฉินนิดหน่อยเงินไม่พอ เจ้าหน้าที่ก็ไม่บังคับทำนะคะ 🙂 คิดว่าถ้ามีเงินพอ จะกลับไปทำค่ะ
เจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิมาบังคับค่ะ
แต่ส่วนมากจะแนะนำให้ทำให้ทำเท่าปีที่กู้
ของเรากู้ 15 ปี แต่อายุ 29 จ่ายไปราวๆ 7 หมื่นค่ะ จ่ายเงินสดด้วยไม่เอาไปรวมกับยอดกู้ค่ะ
เจ้าหน้าที่แจ้งว่าหากผ่อนหมดแล้วสามารถเอาเงินคืนได้ค่ะ หรือประกันชีวิตไปเรื่อยๆ ก็ได้ค่ะ
พนักงานได้ค่าคอมค่ะ จะเห็นว่าฝ่ายสินเชื่อได้ไปเที่ยวต่างประเทศกันทุกปี ^^
เรื่องทำประกันชีวิต เค้าไม่มีสิทธิบังคับเราอยู่แล้ว เค้าได้ค่าคอมฯค่ะ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเรา
เราจะผ่อนกี่ปี ก็ขึ้นอยู่กับเราเลือก ถ้าเรามีความสามารถในการผ่อนค่ะ
ถ้าไม่อยากทำประกัน ก็ไปคุยกับแบงค์อื่นเตรียมไว้เลย
คุยแล้วค่อยกลับมาบอกแบงค์นี้ว่าแบงค์อื่นไม่บังคับทำประกัน เลยจะไป
แบงค์นั้น ดูว่าแบงค์นี้จะว่ายังไง
โดยมากเจอไม้นี้ แบงค์จะยอมเองแหละ แต่ถ้าไม่ยอม ก็อย่าเอาแค่นั้นเอง
อย่าเห็นแก่ดอกเบี้ยต่ำ เพราะบางทีเราจ่ายค่าเบี้ยประกันเยอะกว่าส่วนต่าง
ดอกเบี้ยเสียอีกโดยไม่รู้ตัว
เปลี่ยนแบงค์เลยดีกว่านะครับผมว่า
ทำยาวๆ ไปก็ไม่เป็นไรนะครับ เรามีเยอะ ก็ส่งเยอะก็ได้อาจจะจบก่อน 10 ปีด้วยซ้ำ เผื่อช่วงไหนจำเป็นต้องใช้เงินก็จ่ายแค่ขั้นต่ำได้
ของผมบอกเขาตั้งแต่ยื่นเอกสารว่า ไม่ทำประกัน พออนุมัติแล้วก็บอกว่าทำประกันแล้วแบงค์จะจ่ายค่าจดจำนองให้ แต่ในสัญญาถ้าปิดก่อนต้องคืนค่าธรรมเนียมทุกอย่างที่แบงค์ฟรีให้
ก็ไปยื่นแบงค์อื่นด้วยสิคะ
ยื่นคำขาด ถ้าบังคับก็ไม่ใช้บริการ
ผมเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว กู้กับแบงก์ที่ใหญ่ แบบนี้เหมือนกันให้ทำทุกครั้งแต่ผมไม่ยอมเพราะค่าประกันสองแสนกว่า ขนาดผมบอกว่าไม่เอาแล้ว พนง.สินเชื่อก็รู้แล้วและแจ้งให้เข้าหน้าที่เขาทราบแล้ว วันโอนยัดมาให้อีก เกือบโอนไม่ได้ ระวังให้ดีการทำประกันไม่ทำมันเป็นความเสียงของเราเอง เรารู้ตัวเองว่าฐานะเราเป็นอย่างไร ที่เขาให้กู้เขาก็ไปประเมิณราคาคอนโดเรา หากเราไม่จ่ายสามเดือนดอกเบี้ยก็ขึ้นเลยเท่าตัว หากไม่จายอีกก็ฟ้องยึดคอนโด ขับไล่คุณออก แล้วเอาคอนโดเราไปขาย หากขายตำกว่าที่คุณเป็นหนี้เขาก็ยังมาตามทวงเงินโดยใช้ศาลกับคุณอีก ถามหน่อยว่ามีความเสี่ยงตรงไหนมิทราบ ดอกฝาก 1% กู้เฉลี่ยเอาสัก 6% แค่นี้ก็รวยตายแล้วหากไม่จ่ายก็ทำแบบข้างบน แล้วยังมาเบียดเบียนเอาแต่รวยขูดเลือดขูดเนื้อกับผู้กู้อีก นี่แหละประเทศไทย คนรวยได้เปรียบตลอดชาติ คนจนแล้วจนต่อ หากเขาไม่ยกเลิกไปหาแบงก์อื่นเลยครับ ผมว่าคุณกู้ที่ไหนก็ได้เชื่อว่าฐานะของคุณกู้ผ่านแน่นอน เพราะแบงก์นี้ปล่อยให้แล้ว นี่ และข้อนี่สำคัญมาก การกู้จะต้องกู้ให้ยาวที่สุดเอาระยะเวลายาวที่สุด ไม่ใช่เราคิดว่าแค่นี้ผ่อนหมดชัวอนาคตเราไม่รู้ หากเรายกงานจะทำอย่างไร กู้ยาวที่สุดเพราะจะผ่อนต่อเดือนน้อยประมาณหมื่นกว่า หากกู้สั้นอาจจะต้องผ่อนเดือนละสามหมื่น หากตกงานแล้วเงินเก็บหมดจะทำอย่างไร ต้องกู้ยาวที่สุด แล้วคุณจะจ่ายเดือนละห้าหกหมือ หรือเดือนละแสนก็ได้แล้วแต่คุณจะจ่าย มันจ่ายต่อเดือนมาก ๆ ได้ หากคุณกู้สั้นเขาจะระบุว่าจ่ายต่อเดือนสมมุติห้าหมื่น อย่างต่ำ คุณจ่ายตำกว่านี้ไม่ได้รู้หรือเปล่า ต้องกูยาว ๆ นะ นี่ผมมีประสบการณ์เรื่องกู้แบงก์ดี มีอะไร tueuob@hotmail.com เมล์มาได้เลยจะแนะนำให้ แต่ต้องวันจันทร์นะ เพราะผมจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดไม่มี net เล่น ขอให้โชคดี อย่าลืมกู้ให้ยาวที่สุดละ
เรื่องประกัน สมมติว่าในกรณีที่ทางแบงค์ทำประกันชีวิต 15 ปี แต่คุณผ่อนหมดที่ 5 ปี ทำให้คุณไม่มีหนี้สินต่อแบงค์แล้ว คุณต้องทำเรื่องขอเงินคืนเพราะว่าคุณไม่มีหนี้สินแล้ว หากไม่ขอคืนคุณจะเสียผลประโยชน์ และจะได้รับคืนไม่เต็มจำนวน ซึ่งเขาจะมีเรทในการคำนวณอยู่
ผมกู้แบงค์เหลือง ไม่เห็นบังคับเลยครับ
การทำประกัน ถ้าคุณไม่ใช่คนหารายได้หลักของครอบครัว ก็ไม่ต้องทำครับ ถ้าคิดว่า หากบ้านโดนยึดก็ไม่มีใครเดือดร้อน
แต่ถ้าคุณคือคนที่มีรายได้หลักของครอบครัว ผมแนะนำให้ทำครับ เพราะถ้าเราเป็นอะไรไป คนที่เหลือจะได้มีบ้านอยู่ โดยไม่ต้องผ่อน เพราะประกันจะผ่อนให้จนหมด ถือเป็นทรัพย์สินที่เราทิ้งไว้ให้คนที่เรารักครับ
และถ้าคุณทำประกัน แนะนำให้ทำไม่เกิน 10 ปี พอครับ ไม่จำเป็นต้องทำระยะยาวตามที่ธนาคารแจ้ง ขึ้นกับเราว่าจะทำกี่ปี
พอครบ 10 ปี ถ้าเราผ่อนยังไม่หมด ค่อยมาดูใหม่ว่า เหลือยอดกู้เยอะหรือเปล่า ยังอยากทำประกันต่อมั้ย ดูหลาบๆเงื่อนไขประกอบกัน
แถมถ้าทำประกันใหม่ต่อก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีใหม่ได้อีกรอบครับ แต่ถ้าทำยาวเลย จะลดหย่อนได้แค่ครั้งเดียวเอง
ผมอายุ 31 ปี ยอดเงินกู้ 1.2 ล้าน ทำประกัน 10 ปี เสียเบี้ย 68000 บาท ปีแรกสามารถเอามาลดหย่อนภาษีได้ครับ
อย่างผมเสียภาษีเรท 20% ปีนี้ผมจะได้ลดหย่อนคืน 13600 บาท ดังนั้นผมถือว่าเสียค่าประกันจริงๆแค่ 68000-13600 = 54400 บาทครับ
ที่ผมทำประกัน เพราะผมเป็นคนหารายได้หลักของครอบครัวครับ ถ้าผมเป็นอะไรไป พ่อ แม่ และน้องๆ ก็จะได้มีบ้านอยู่เป็นของตัวเองครับ
ปล. ผมยังโสดอยู่ครับ…55555555+++