เรื่องนี้เป็นเรื่องของเพื่อนสนิทมากๆของเรานะคะ เรื่องมีอยู่ว่า
เมื่อเกือบๆ 2 ปีที่แล้ว เธอและครอบครัวมีแผนจะย้ายบ้านค่ะ ครอบครัวของเธอมี คุณพ่อวัยเกษียณ คุณแม่ และเธอ เมื่อคุณพ่อต้องเกษียณอายุราชการเธอและครอบครัวต้องย้ายออกจากบ้านพักไปซื้อบ้านอยู่เป็นของตนเอง
เพื่อนสนิทเรารับราชการ คุณแม่ของเธอจึงเป็นคนตระเวนหาบ้านจนไปเจอบ้านที่ถูกใจที่ทำเลฮิตแห่งหนึ่ง และได้ผ่อนดาวน์บ้านด้วยเงินเก็บทั้งชีวิตจนครบ เมื่อครบแล้วบ้านเพิ่งเริ่มสร้าง และต่อมาเพื่อนเรารับราชการจนสามารถทำเรื่องกู้ซื้อบ้านได้ เธอจึงทำเรื่องกู้ซื้อบ้านราคา 1 ล้าน
ซึ่งบ้านราคาขายอยู่ที่ 1.2 ลบ.
แม่ของเธอมัดจำไปด้วยเงินสดที่เก็บมาทั้งชีวิตอีก 500,000
ซึ่งจะเหลือจ่ายให้โครงการอีกเพียง 700,000
เธอยื่นกู้ 1 ลบ.
แบงค์จึงออกเช็คให้ 2 ใบคือ 700,000 และ 300,000
และในระหว่างนี้เธอก็ได้ว่าจ้างช่างให้มาต่อเติมหลังคาที่จอดรถหน้าบ้าน และติดเหล็กดัดมุ้งลวดรอบบ้าน ทั้งหมดประมาณ 170,000 บ. ซึ่งช่างทำงานดีมากค่ะ
และปัญหาทั้งหมดก็เกิดขึ้น คือ
วันที่โครงการนัดโอนบ้านกับเพื่อนเรา
ครั้งแรกนัดโอน แล้วบอกแคนเซิลโดยให้เหตุผลว่าหยิบโฉนดผิด
ครั้งที่สอง ไปโอนจริงๆ และเพื่อนเราก็ได้ทราบจากแบงค์วันนั้นว่าโครงการบอกแบงค์ว่าเพื่อนเราขอเลื่อน และในวันนั้น เช็ค 300,000 บาทของเพื่อนเราก็โดนบุคคลที่สามเอาไปต่อหน้าต่อตา
แต่ด้วยความสงสารเห็นใจหรืออะไรก็ไม่ทราบนะคะ
บุคคลที่สามผู้นั้นจึงบอกความจริงแก่แม่ของเพื่อนเราว่า ป้า โฉนดของบ้านหลังนี้น่ะเป็นของผม ไม่ใช่ของโครงการและโครงการยังติดหนี้ผมอยู่ (อยู่อีกหลายล้านค่ะ) และโครงการก็จะขอยืมเงิน 300,000 นี้มาใช้หนี้เจ้าของโฉนดบางส่วนก่อน และเขายังบอกอีกว่า ป้ายอมๆไปเถอะเพราะถ้าป้าไม่ยอมผมก็จะไม่เซ็นต์โอนโฉนดให้ เสียน้อยดีกว่าเสียมาก ส่วน 300,000 ให้ทำสัญญายืมเงินกับโครงการเอา
เรื่องราวประมาณนี้แหละค่ะ แต่เราไม่ทราบว่าทำไมอะไรยังไง?
สรุปก็คือ เพื่อนเรากับแม่ได้โอนโฉนดมาเป็นของตนโดยจำนองไว้กับแบงค์เรียบร้อยค่ะ
ส่วนเงิน 300,000 นั้นทำให้คนแก่อย่างคุณแม่ต้องเครียดเป็นอย่างมาก เพราะอยู่ๆก็โดนเขาเอาไป
และโครงการทำสัญญาตัดวันให้ไปรับเงินครั้งแรกก็ผิดนัด อ้างเหตุผลต่างๆนาๆ โดนหุ้นส่วนโกง เอาเงินไปซื้อที่ตอนนี้ยื่นกู้หลายร้อยล้านอยู่ ถ้าได้จะรีบมาคืน
นัดรับเงินครั้งที่สอง เจ้าของบริษัทมาพูดด้วยตนเอง บอกตรงๆว่าไม่มีเล่าเรื่องนู่นนี่ และนัดรับเงินอีกเมื่อวานนี้
นัดรับเงินครั้งที่สาม ได้มาแค่ 20,000 จาก 300,000 ที่เหลือนัดรับต้นเดือนหน้า
ตอนนี้คุณแม่เพื่อนเราเครียดมากค่ะ เพราะต้องเสียเงินเก็บทั้งชีวิตมาซื้อบ้านหลังนี้ เพราะหวังว่าจะเป็นบ้านหลังแรกในชีวิต เพราะไม่เคยซื้อบ้านมาก่อน อยากจะอยู่ดีๆ อยู่แบบมีความสุข กลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
ช่างที่ว่าจ้างมาต่อเติมบ้านก็กำลังรอค่าจ้างอยู่ ซึ่งงานใกล้เสร็จแล้ว แต่เพื่อนเรายังไม่มีเงินไปชำระเขา
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือคุณแม่สงสารลูกสาวมากค่ะ ที่ต้องมาเจอกับปัญหาแบบนี้ สงสารลูกสาวเป็นอย่างมาก ผ่ายผอมร่างกายทรุดโทรมลงไปเยอะมากๆเลยค่ะ ตลอดระยะเวลาที่เกิดเรื่องมา 2-3 มานี้
พี่ป้าน้าอาในห้องนี้ หนูกับเพื่อนจะสามารถทำอะไรได้บ้างคะในตอนนี้? เพื่อที่จะได้เงินก้อนนั้นกลับคืนมา
ขอบพระุคุณค่ะ
ปล. สถานที่ ชื่อหมู่บ้าน ชื่อบริษัท ชื่อเจ้าของบริษัท ยังไม่สามารถบอกได้นะคะ กลัวว่าจะมีปัญหาน่ะค่ะ
ฟังแล้วงง… ตกลงโครงการทำสัญญาขายทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของโฉนดหรือครับ ตกลงตอนนี้จ่ายให้โครงการไปแล้ว 5 แสนและให้บุคคลที่สามไปแล้ว 3 แสนแต่ได้โอนโฉนดมาแล้วใช่ไหมครับ แล้วบริษัทที่จะนัดมารับเงินอีก 2 แสนและ 3 แสนนี่บริษัทไหนครับ ค่าอะไร ฟังแล้วงง…
ใช่ค่ะ โครงการทำสัญญาขายโดยที่โฉนดเป็นของคนอื่นค่ะ ไม่ใช่โครงการ
และโครงการ (บริษัทเจ้าของโครงการ) ยืมเงินเพื่อนเราไปใช้หนี้เจ้าของโฉนด 300,000
ตอนนี้โฉนดโอนมาเป็นของเพื่อนเรียบร้อยแล้วค่ะ พร้อมกับชำระค่าบ้านให้โครงการไปแล้วครบ 1.2 ล้าน
และบริษัทที่นัดให้เพื่อนเราไปรับเงิน 300,000 คืน ก็คือบริษัทเจ้าของโครงการค่ะ
โดยที่ันัดชำระครั้งแรกจ่ายเป็นเช็คค่ะ แต่เช็คเด้ง
สรุปนะคะ ด้านบนอาจจะำทำให้งงเล็กน้อย
– ตอนนี้โฉนดเป็นชื่อเพื่อนเราเรียบร้อยแล้วค่ะ และได้ชำระค่าบ้านให้โครงการครบแล้ว 1.2 ลบ.
– โครงการยืมเงินเพื่อนเราไป 300,000 เพื่อไปชำระหนี้บางส่วนให้แก่เจ้าของโฉนด
– โครงการนัดเพื่อนเรากับคุณแม่ไปรับเงินมาแล้ว 3 ครั้งค่ะ
ครั้งแรกจ่ายเป็นเช็คในวันโอนโฉนด ถึงกำหนดเอาเช็คไปขึ้นแต่เ็ช็คเด้งค่ะ
ครั้งที่สอง เจ้าของบริษัท ที่เป็นเจ้าของโครงการด้วย นัดไปคุยเจรจา ขอร้องแต่ไม่ได้เงิน
ครั้งที่สาม เจ้าของบริษัทจ่ายมาแค่ 20,000 ทั้งๆที่บอกว่าจะจ่ายให้ 300,000 และนัดให้มารับเงินครั้งต่อไปต้นเดือนหน้านี้ค่ะ
ฟังแล้วงงนะครับ ไม่รู้ว่ามือที่สามเอาเงินคุณไปต่อหน้าต่อตาได้ไง
เงินนะครับไม่ใช่กระดาษ ทำไมไม่โวยวาย
ปรึกษาทนายด่วนครับ
สภาทนายความที่ ถ.ราชดำเนินก็ได้ครับ
เอกสารหลายอย่าง ถ้าทิ้งเวลาเนินนานอาจเสียเปรียบเค้า
สืบให้รู้นายใหญ่เป็นใคร แล้วเจาะเล่นงานไปที่คนนั้น(พนักงานรับหน้าไม่ต้องสนใจ)
คดีจ่ายเช็คเด้ง ฟ้องอาญาจับติดคุกเลย (รีบหน่อย ต้องไม่เกิน 2 สัปดาห์)
จะทำอะไรก็รีบทำ อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
สงสัยตรงกู้1ล้าน ทำไมเชคเป็น 7แสนกับ 3แสน แสดงว่าเพื่อนคุณต้องรู้ว่า 7แสนใช้กู้ซื้อบ้าน+เงินเก็บ5แสน เป็น 1.2ล้านพอดี ส่วน3แสนใช้ทำอะไร ธ.คงไม่ให้กู้3แสนมาแต่งบ้านหรอกครับ ดูแล้วไม่มีเหตุผลที่ต้องให้เงินโครงการ3แสนด้วย เพราะจ่ายครบ 1.2ล้านแล้ว
เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังของเชค3แสน บอกมาให้ละเอียดเถอะ เกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีใช่ไหม
คห. 4
เอาเงินไปได้ เพราะเจ้าของโฉนดบอกว่า ให้ยอมเอาเงิน 300,000 ให้โครงการยืมใช้หนี้ดีกว่าเสียเงิน 500,000 ที่จ่ายมัดจำไปแล้ว
เพราะถ้าไ่ม่ยอม เจ้าของโฉนดก็จะไม่เซ็นต์โอนโฉนดให้ค่ะ
ซึ่งในเหตุการณ์เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรยังไง แต่เพื่อนได้เล่าสรุปให้ฟังมาประมาณนี้แหละค่ะ
ตอบ คห.5
ไม่ได้เกี่ยวกับลดหย่อนภาษีแต่อย่างใดค่ะ
แต่ราคาบ้านคือ 1.2
ราคาประเมินของแบงค์คือ 1 ล้านค่ะ
แบงค์ก็เลยอนุมัติที่ 1 ล้าน และเพื่อนเราได้ขอให้ทำเช็คเป็น 2 ใบ
ใบแรก 700,000 จ่ายค่าบ้านที่เหลือ เพราะจ่ายสดไปแล้ว 500,000
ใบที่สอง 300,000 ก็เป็นส่วนต่างที่เหลือก็จะเก็บไว้ตกแต่งเนี่ยแหละค่ะ
ไม่ได้มีเรื่องอื่นแต่อย่างใด
ปล.แบงค์ก็ทำให้ตามที่เราขอน่ะค่ะ เหมือนรู้ๆกัน เพราะตอนเราซื้อบ้านแบงค์ก็ทำให้แบบนี้เหมือนกัน
ฟังแล้วมันแปลกๆตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วครับ
ทำไมผ่อนดาวน์จนครบแล้วโครงการถึงเพิ่งเริ่มสร้างล่ะ? แสดงว่าต้องใช้เวลาก่อสร้างบ้านทั้งหลังอีกพอสมควรแล้วระหว่างนั้นครอบครัวนี้ไปอยู่ที่ไหนกันล่ะครับ?
จากเรื่องทั้งหมดที่คุณเล่ามาพอให้เชื่อได้ว่าบริษัทนี้มีปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียนและอาจมีเจตนาฉ้อโกงนะครับเพราะจงใจเอาเงินของเพื่อนคุณไปชำระหนี้ของบริษัทโดยการข่มขู่ ไม่ทราบว่าโครงการนี้มีเพื่อนบ้านที่อยู่บนแปลง (โฉนด) เดียวกันรึเปล่าหรือว่าเป็นที่ดินเปล่าปลูกเอง ถ้ามีลองรวมตัวเรียกร้องดู
ผมเองก็ไม่ได้แม่นเรื่องข้อกฎหมายนะครับแต่ดูจากเจตนาแล้วไม่น่าผิดไปจากนี้
รบกวน update กระทู้เรื่อยๆนะครับอยากทราบความเคลื่อนไหว
ผมว่าปรึกษาทนายดีกว่าครับ
ค่ะ เราจะคอย Update ให้เรื่อยๆนะคะ
คือ ครอบครัวเพื่อนเราวางแผนเกษียณล่วงหน้า 2-3 ปีน่ะค่ะ
บ้านหลังนี้ก็เริ่มดูเริ่มผ่อนดาวน์ตั้งแต่เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วได้น่ะค่ะ
หรืออาจจะปีกว่าๆเกือบ 2 ปี
ช่วงระหว่างนั้นพวกเขาก็ยังอยู่ที่บ้านพักกันอยู่เหมือนเดิมค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังอยู่
ส่วนเรื่องโฉนดที่ดิน เจ้าของโฉนดที่เป็นเจ้าหนี้ของโครงการ มีโฉนดทั้งหมด 5 แปลงค่ะ
และหนึ่งในนั้นก็บ้านโฉนดที่เพื่อนเราเพิ่งไปโอนมาค่ะ
ถ้าเป็นแบบนั้น หมายความว่าตอนนี้เพื่อนคุณได้ชำระเงินให้โครงการครบแล้ว และโครงการติดเงินเพื่อนคุณ3แสน เตรียมหลักฐานการกู้เงินที่โครงการกู้เพื่อนคุณไป3แสนเลย ตรงส่วนนี้ต้องมีใบสัญญาอยู่แล้ว ถ้าไม่มีเท่ากับเพื่อนคุณต้องคิดซะว่าบ้านราคา1.5ล้านแล้วล่ะ
เป็นผมจะเก็บ3แสนไว้แต่งบ้านและให้ธ.ช่วย ให้โอนโดยไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม
อ่านกว่าจะเข้าใจ คือตกลง คือ
1.คุณจ่ายค่าบ้านครบแล้วคือ 1.2 ล้าน โดยเช็ค 7 แสน กับ ดาวน์อีก 5 แสน
2.คุณต้องยอมให้เช็คกับเจ้าหนี้ของโครงการ 3 แสน เพราะฉโนดเป็นชื่อของเจ้าหนี้
3.ตอนนี้คุณมีลูกหนี้คือโครงการ 3 แสน โดยโครงการ ชำระให้คุณแค่ 2 หมื่น นอกนั้น ยังสงสัย ว่าจะได้หรือเปล่า
เราว่า คุณต้องเขียนสัญญากู้ยืมแล้วล่ะ เป็นเราก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน ถ้าไม่โอนก็ทำท่าว่า จะไม่ได้คืน 5 แสนแน่ๆ ถ้าเป็นเราก็ทำอย่างเพื่อนคุณ เอาใจช่วยค่ะ เพราะเราโอนบ้านมา 2 หลัง แต่ทั้งสองหลังก่อนโอนหรือมัดจำ เราให้เค้าไปคัดสำเนาฉโนด จากกรมที่ดินเลย ไม่เอาตัวสำเนา เราว่าคนเดี๋ยวนี้เชื่อใจกันยาก กันดีกว่าแก้
คุณ ชอบออกกำลัง
ใช่ค่ะ คุณเข้าใจถูกต้องเป๊ะๆเลยค่ะ
อ่านกระทู้นี้แล้วปวดหัว
เข้ามาให้กำลังใจครับ
ขอให้ได้เงินคืนและจบเรื่องได้ไวๆนะครับ
ไม่ค่อยเข้าใจเรื่อง โอน ๆ กู้ ๆ หรอกนะครับ เพราะ
ตอนผมซื้อ พ่อแม่ เค้าทำสั่งจ่ายเป็นเช็ค แคชเชียร์เช็คมั้งครับ เป็นชื่อของเจ้าของโครงการไปเลย ถือเช็คไป โอน วันนั่นเลย ก็เลยจบ ไปแบบงง งง เพราะตอนนั้นก็ไม่มีความรู้อะไรเลย แต่โชคดีมั้ง ไม่เจอคนเลว เลยได้โฉนดมาครองแบบไม่ประสีประสา
แต่อ่านเรื่องแล้ว ชวนติดตาม
แต่แอบสงสัย ว่า เช็ค 2 ใบ
ใบที่ 1 …………700,000
ใบที่ 2………….300,000
เช็คสั่งจ่าย เป็นเงินสด หรือผู้ถือเหรอครับ ทำไง บุคคลที่ 3 คว้าไปได้ง่าย ๆ ……
แล้ว ๆๆๆๆ
เพื่อนของ จขกท. ถือเช็ค ไปทั้ง 2 ใบใช่ไหม ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว วันนี้ ต้องจ่าย แค่เช็คแค่ใบเดียว คือ 700,000………..และเมื่อเจ้าบุคคลที่ 3 มันเห็น มันเลยน้ำลายไหล ……….มันเลยคว้าไป ซึ่ง ๆ หน้า งั้นเหรอครับ????……หรือว่า มันมีสถานการณ์อะไร บังคับหรือ กดดัน
ถ้าเป็นแบบนั่น ทำไง เลวได้ใจขนาดนั่น……..300,000 เชียวนะ ไม่ใช่ 3 บาท………………
หรือว่า ตีความผิดครับ
อย่าปล่อยมันลอยนวลนะครับ
คนประเภทนี้ ปล่อยไว้ คนอื่นจะเอาอย่าง
อีกหน่อยคนดีๆ จะอยู่กันไม่ได้นะครับ
ขอหาฉ้อโกงทรัพย์ จ่ายเช็คเด้งก็เล่นไปก่อนเลย 1 คดีแต่ต้องเล่นงานให้ถึงตัวใหญ่นะครับ คดีเช็คเด้งเนี่ยถึงคุก ถ้าคุณเล่นงานถูกตัว(นายใหญ่) เค้าคงรีบคืนเงินอย่างเร็วเลยแหละ
คนพวกนี้ไม่ใช่คนไม่มีเงินหรอก ทำนาบนหลังคน ขอแนะนำให้เล่นไม้แข็งนะครับสำหรับกรณีนี้ เพราะคุณไม่ต้องกังวลเรื่องโอนบ้านแล้ว
ขอบคุณทุกๆท่าน ที่มาให้กำลังใจและคำแนะนำนะคะ
ตอบ คห.16 นะคะ
เช็คนั้นเป็นแคชเชียร์เช็คที่เจ้าหน้าที่แบงค์ถือมาค่ะ ใบ 700,000 สั่งจ่ายให้โครงการชัวร์ๆ
แต่อีกใบหนึ่ง 300,000 ที่มีปัญหานี้ สั่งจ่ายชื่อใครเราก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่คงไม่ใช่ชื่อเพื่อนเราอย่างแน่นอน ซึ่งตรงนี้เพื่อนเราพลาดได้พลาดไป
ตอนนี้เพื่อนของเราก็กำลังจะเข้าไปขอคำปรึกษาจากสภาทนายตามที่ทุกๆท่านได้แนะนำมาน่ะค่ะ
หลังจากนี้หากมีอะไรคืบหน้าเราจะมา update เรื่อยๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ
คุณช่างชัย คห.17 ค่ะ เรากับเพื่อนคงไม่ปล่อยให้เงินก้อนขนาดนี้หลุดไปง่ายๆแน่นอนค่ะ
เพราะพวกเราเพิ่งเรียนจบค่ะ อายุยี่สิบนิดๆเอง เงินก้อนขนาดนี้สำคัญมากค่ะ
สู้ยิบตาอยู่แล้ว
เราเองก็เพิ่งทราบเรื่องค่ะ ตอนนี้ก็ได้แต่ให้กำลังใจและคอยให้คำปรึกษา มีอะไรที่ช่วยได้ก็จะช่วยเต็มที่ เพราะมันเจ็บใจแทนน่ะค่ะ เพื่อนของเราเป็นคนดีมากๆแต่ต้องมาโดนกระทำแบบนี้ นิสัยแย่จริงๆ
จำไว้นะน้อง ปรึกษาให้ได้แนวทาง แต่ต้องคิดตัดสินใจเอง เพราะไม่มีใครอยากเหนื่อยกะเราด้วยหรอก (อันหลังนี่ให้เป็นแง่คิดนะ) เจอคนดีก็ให้เกรงใจเค้าให้มาก เจอคนไม่ดีขอให้ใจแข็งเค้าไว้ใจดีสู้เสือ แล้วจะพบทางออกนะน้อง
ปรึกษาทนายด่วนที่สุด แนะนำปรึกษาห้องศาลาประชาคม ค่ะ
ที่โครงการ(มัดมือชก)ยืมเงินไป3แสน มีเอกสารกู้ยืมหรือหลักฐานเอกสารบ้างไหมค่ะ
สู้ๆนะคะ ขอให้ผ่านเรื่องแย่ๆไปด้วยดี