เมื่อต้นเดือน ตค. ได้ไปประมูลบ้านจาก บสท. (บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย) โดยที่บ้านหลังนี้มีผู้อาศัย(เป็นเจ้าของเดิมอยู่)
หลังจากนั้น 10 วัน ทางผมได้ไปกรมที่ดินโอนฉโนดจากชื่อ บสท มาเป็นชื่อของผมเรียบร้อยแล้ว
วันต่อมา เข้าไปคุยกับเจ้าของบ้านเดิม ว่าเราได้ซื้อบ้านหลังนี้แล้ว
แต่เขาก็บอกว่า เขาไม่มีที่ไป และจะไม่ย้ายไปไหน เพราะเค้าอยู่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เริ่มหลายสิบปีแล้ว
"ถ้าอยากได้บ้าน คุณคงต้องไปฟ้องเอา"
จากเท่าที่คุยดู ดูท่าทางเค้าหัวหมอมาก มีอะไรก็จะให้คุยกับทนาย
โดยเกริ่นว่าทนายเค้าเคยทำคดีแนวๆนี้ชนะมาแล้วด้วย
เลยอยากถามว่า ในเมื่อฉโนดเป็นชื่อเราแล้ว
1. เราจะไปที่อำเภอ(เขต) เพื่อย้ายชื่อในทะเบี่ยนบ้านเค้าออกไปอยู่ทะเบียนกลาง แล้วใส่ชื่อเราเป็นเจ้าบ้านแทน
2. เอาทะเบียนบ้าน ไปประปา ไฟฟ้า ขอเปลี่ยนชื่อเจ้าของบ้านเป็นของเรา แล้วก็ให้ตัดน้ำตัดไฟบ้านนั้นทิ้ง (กรณีที่คุยกับเค้าไม่รู้เรื่องแล้ว)
จะดูโหดร้ายไปไหม?? และในทางกฎหมายเรามีสิทธิ์ทำได้ไหม???
ทั้งนี้ทั้งนั้น ได้คุยกับเค้าว่า หรือจะซื้อบ้านหลังนี้คืนไป ถ้าคุณไม่ยอมย้ายออกจริงๆ เค้าก็ฟังๆดูโอเค ว่าจะให้คำตอบ
แต่ลึกๆผมคิดว่า ถ้าเค้าสามารถซื้อได้ เค้าคงซื้อ หรือไปเจรจาตั้งแต่ก่อนการประมูลจะเกิดขึ้นแล้ว
เพื่อนๆในห้องชายคาคิดว่าอย่างไรบ้างครับ
ขอบคุณครับ
นี่แหละปัญหาที่หลายคนเจอ เมื่อไปประมูลบ้านจากบสท. หรือธนาคารมา
…คำขู่มากกว่าครับ ผมว่าเราค่อยๆคุย ค่อยๆเจรจากับเค้าดีๆ ว่าตอนนี้เราได้ซื้อบ้านนี้แล้ว และต้องการเข้าอยู่ และให้เวลาเค้าหาที่อยู่ใหม่ 3เดือน 6เดือนก็ว่ากันไป เพราะถ้าฟ้องศาล อย่างไรเราก็ชนะอยู่ดี เอาน้ำเย็นเข้าลูบครับ อย่าเล่นบทโหด ถ้าเราโหดไป เค้าก็จะโหดมา กลายเป็นความแค้น เราจะอยู่อย่างไม่มีความสุข ลองค้นหากระทู้เก่า ไม่น่าจะเกินเดือน เคสเหมือนกับจขกท.เลย เค้าเข้าทางหลังบ้าน(เมีย) และโทรคุยบอกปัญหาและความต้องการของเราไป ด้วยเสียงที่ดูน่าเห็นใจ ก็น่าจะได้ทางออกครับ————
ถ้าคุยดีๆแล้ว และเค้าก็ยังดื้อไม่ฟังเรา ก็มีวิธีเดียวครับ ฟ้องศาล……
แวะมาให้กำลังใจจะรอผู้รู้นะค่ะ
ตาม คห.1 ครับ
ส่วนวิธีตามที่ จขกท. ถาม สามารถทำได้ครับ เตรียมหลักฐานให้พอก็แล้วกัน
และถ้าต้องใช้บทโหด ให้ทนายเราคุยครับ อย่าไปคุยเอง เพราะถ้าเกิดการตกลงอะไรขึ้น คดีอาจพลิกครับ
ผมแนะนำ ถ้า จขกท ไม่เดือดร้อนเรื่องที่อยู่ ผมว่าจับเซ็นสัญญาเก็บค่าเช่าบ้านไปเลยครับ หารายได้เพิ่มอีกทาง
ผมเคยอ่านกระทู้แนะนำที่ คห1 พูดถึงแล้วครับ (ก่อนเข้าไปคุยกับเจ้าของบ้านนั้น)
อ่านจบแล้วได้แต่หวังว่า เคสผม คงจะไม่เหมือนของเค้า
ที่ไหนได้…มาแนวเดียวกันเลย >_<
เท่าที่ผมเข้าไปคุยกับเค้ามา 2 ครั้ง ใช้น้ำเย็นลูบตลอด
ส่วนฝั่งเค้าก็คุยกลับมาดีมาก ดีแบบดื้อด้านว่าจะไม่ออก
ก็ยังหวังว่าจะคุยกันดีๆต่อไป เพราะได้บอกเค้าไปแล้วว่า
เรามาสร้างมิตรกันดีกว่า ไม่มีใครอยากสร้างศัตรูกันหรอก ซึ่งเค้าก็เห็นด้วย(แต่ไม่ออก -_-”)
ลึกๆผมก็เชื่อว่าฟ้องไปก็ชนะอยู่ดี แต่ในกระบวนการศาล คงต้องใช้เวลามาก(จนมากเกิน) กลัวว่าจะยืดเยื้อไปหลายปี อย่างที่เค้าอยากให้เป็น เพราะเค้าพูดย้ำตลอดว่า ให้ทางเราไปฟ้องศาลละกัน
จะพยายามหาทางคุยกับเมียเค้า(ซึ่งเป็นเจ้าของฉโนดเดิม) แต่เค้าอ้างว่าเมียไปต่างประเทศ
กลัวว่าคุยกับเมียเค้าจะโหดกว่านายคนนี้อีก ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ถ้าเป็นอย่างกระทู้แนะนำก็คงดี ที่เมียเค้ายื่นคำขาดกับสามี ถ้าไม่ย้ายออกจะแยกทางกัน ^^"
เรื่องเก็บค่าเช่าบ้าน คงไม่มีหวังครับ เพราะเค้าเกริ่นมาแต่แรกเลย ว่าเค้าโดน บสท ฟ้องล้มละลาย Y_Y
แต่ผมมองเข้าไปในบ้าน มีทั้งเบนซ์ แอคคอร์ด เซฟิโร่ จอดเรียงราย
O_O
ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆความเห็นอีกครั้งนะครับ
อยากฟังท่านอื่นๆที่มีประสบการณ์ช่วยแชร์เพิ่มเติมด้วยนะครับ
เข้าไปเจรจาดีๆครับ แล้วเราเอากล้องปากกา กล้องกระดุม ติดไปถ่ายวีดีโอไว้ด้วย ทุกสิ่งที่เค้าพูดจะปรากฏในศาลครับ เรื่องฟ้องศาลถึงจะช้าแต่ก็เป็นทางที่ควรจะทำ ไม่งั้นเค้าก็ดื้อแพ่ง คุณสามารถทำคดีให้เร็วขึ้นด้วยการขอคุ้มครองชั่วคราว จะทำให้เค้าไม่สามารถพักอาศัยในบ้านหลังนั้นได้ เราต้องอ้างความจำเป็นของฝั่งเรา
ขอแนะนำให้เตรียมไปถ่ายคลิป แล้วเข้าไปพูดขอคืนพื้นที่ดีๆ ขอร้องเค้า ช่วยผมหน่อยเถอะครับ พี่ไม่มีที่อยู่ ผมเองก็จำเป็นต้องมีที่อยู่เหมือนกัน เดี๋ยวเค้าจะท้าเราให้ไปฟ้อง คุณก็บอกว่าพี่ถ้าฟ้องเนี่ยะผมเสียเงินเสียเวลานะ เค้าก็จะตอบว่าเรื่องของเมิง พี่ผมมีชื่ออยู่ในโฉนดนะ เค้าก็จะตอบแบบกวนๆ ยิ่งดีครับ เพราะนั่นแหละคือคะแนนสงสารที่ศาลจะมีให้ในการคุ้มครองชั่วคราว
เห็นด้วยกับความเห็นที่ 5 สุดพลังครับ
เห็นคำถามนี้แล้ว อดสงสารเจ้าของกระทู้ไม่ได้ ต้องตอบเสียหน่อย ดูฝ่ายบุกรุกจะไม่น่าให้เห็นใจด้วย และเป็นวิทยาทานแก่ คนในห้องชายคาด้วย บุญกุศลคงไม่น้อย 555 เล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้รับมา หาซื้อที่ใดไม่ได้
พล่ามไปหน่อย เคยอ่านกระทู้เมื่อเดือนก่อนมาเหมือนกัน เป็นแค่คิดดีที่ต้องระวังสำหรับคนจะซื้อบ้านที่ผู้บุกรุก คำถามที่ว่า
..
.
.
.
.
.
.
1. เราจะไปที่อำเภอ(เขต) เพื่อย้ายชื่อในทะเบี่ยนบ้านเค้าออกไปอยู่ทะเบียนกลาง แล้วใส่ชื่อเราเป็นเจ้าบ้านแทน
(ตอบ)ได้ครับ เอาหลักฐาน( สัญญาซื้อขายกับบสท. , ทะเบียนบ้านเก่าที่เรามีชื่ออยู่ , บัตรประชาชน ) ไปยื่นขอ แต่ต้องขอร้องบอกกับทางเขต อำเภอเขา ให้ละเอียด ถึงความเดือดร้อนของเรา ให้เขาเห็นใจ
2. เอาทะเบียนบ้าน ไปประปา ไฟฟ้า ขอเปลี่ยนชื่อเจ้าของบ้านเป็นของเรา แล้วก็ให้ตัดน้ำตัดไฟบ้านนั้นทิ้ง (กรณีที่คุยกับเค้าไม่รู้เรื่องแล้ว)
จะดูโหดร้ายไปไหม?? และในทางกฎหมายเรามีสิทธิ์ทำได้ไหม???
(ตอบ)เปลี่ยนชื่อได้ครับ เอา ทะเบียนบ้าน, สัญญาซื้อขาย ,หลักฐานอื่นเผื่อเขาเรียกดูเช่น
-หลักฐานคำสั่งศาลแพ่งให้ยึดทรัพย์ขายทอดตลาดโดยกรมบังคับคดี
-หลักฐานการจ่ายเงินโดยแบงค์ที่ประมุลได้มา
,ไปด้วย ถ้าขอจากแบงค์ได้ ไปขอน้ำประปา ไฟฟ้าได้เลย
แต่ต้องจ่ายค่าประกันการใช้น้ำประปา ไฟฟ้าเองครับ
ยื่นเปลื่ยนเป็นชื่อเราให้หมด
และทำเรื่องให้บัญชีตัดผ่านทาง ธนาคารเสีย สำหรับน้ำประปาและไฟฟ้า
เลยทันที
เดือนแรกเราอาจจ่ายเสียงวดสองงวด ระหว่างนั้นก็เจรจาผู้บุกรุกไปเรื่อย ๆ ให้เวลาเขาหน่อย เมื่อไม่มีเงินในบัญชี การไฟฟ้า และประปา ก็ตัดการจ่าย
ไฟเอง แต่ให้เป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ เราก็ไปบอกเขาว่าเปลี่ยนเป็นชื่อเราหมดแล้ว เขาก็ยอมจำนนไปเอง โดยไม่ต้องรุนแรง เราเจ้าของจริงเป็นต่อในทุกด้านอยู่แล้ว ไม่ต้องไปรังแกใคร แต่ไม่ยอมให้ใครมาโกงแบบหัวหมอกับเราแน่นอน
ระลึกไว้เสมอ ศีลธรรม และความเอื้ออารีย์ ต่อกัน สำคัญที่สุด ในการดำรงชีวิตนะครับ เจรจาไปเรื่อยๆ เป็นขั้นเป็นตอนดีกว่าอย่ารุนแรง กันเลย
คำถามข้อหลังจึงไม่ขอตอบ …..มันเป็นไม้ตายสุดท้าย
คงต้องรีบดำเนินการด่วนครับ ไม่งั้นจะยิ่งช้าเข้าไปกันใหญ่ครับ
ผมเห็นด้วยกับการเก็บหลักฐาน ถ่ายรูปอะไรได้ถ่ายไว้ครับ เพื่อในอนาคตอาจต้องใช้
ระหว่างที่คุยกับดีๆ ก็ดำเนินการอีกด้าน โอนน้ำไฟ เตรียมฟ้องไปด้วยพร้อมกันครับ จะได้ไม่เสียเวลาครับ
ขอให้โชคดีครับ
พยายาม ถ่ายสภาพบ้านดีๆไว้ก่อน
ถ้าคนพาล เค้าจะทำลายบ้าน เราจะได้แต่ซากบ้านที่ไม่คุ้ม
ผมก็ตอบ จขกท เรื่องจะไปตัดน้ำ ตัดไฟ บ้านที่มีคนอยู่อาศัย ไฟฟ้า ประปา เค้าไม่ทำให้หรอกครับ
ข้อ 1. ทำได้ครับ
ข้อ 2. ทำเป็นชื่อเราได้ครับ และให้ จนท ไปเก็บเงินกับเราที่ๆเราอยู่ปัจจุบัน ถ้าเราไม่จ่าย เขาก็ตัดเองล่ะ
แถมข้อ 3. เดี๋ยวนี้ไม่ต้องฟ้องศาลแล้วครับ เอาหลักฐานการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ไปยื่นต่อกรมบังคับคดีให้ส่งมอบที่ดินพร้อมบ้านนี้ให้เรา
ถ้ายังไม่ยอมออกให้ยื่นคำร้องต่อศาลสั่งขับไล่ ถ้ายังไม่ไปให้ศาลออกหมายจับ ทีนี้รับรองโกยแน่นอน
ปัญหาอยู่ที่ว่า ก่อนโกยจะแอบเผาหรือทำลายบ้านเสียก่อนเท่านั้น
ลองเสนอเงินสักก้อนเป็นค่าขนย้ายพร้อมคำขู่อย่างที่บอกข้างต้น(ให้ทนายจัดการ) น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ขอบคุณทุกๆความเห็น ทุกๆประสบการณ์ดีๆที่เอามาแชร์กัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประสพปัญหาเช่นเดียวกับผมครับ
ขอบคุณคุณ PTKNC สำหรับความคิดดีๆครับ
ขอบคุณคุณ Nokay สำหรับความรู้ใหม่ครับ
เพราะเพิ่งได้ข่าวมาเหมือนกันว่า เราจะไม่สามารถแจ้งไฟฟ้า-ประปาให้ตัดน้ำ-ไฟได้ เนื่องจากเจ้าบ้านเดิมไม่เคยขาดการชำระ แต่ถ้าอย่างที่คุณแนะนำมาให้เปลี่ยนเป็นชื่อเราก่อน แล้วให้เราขาดจ่ายเอง จะสามารถทำได้ ^^
แต่วิธีนี้คงเป็นวิธีสุดท้ายจริงๆล่ะครับ เพราะอย่างที่คุณว่ามาถูกทุกอย่าง
การเจรจาเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ
เรื่องการถ่ายรูปบ้าน มองจากภายนอกไม่เห็นอะไรเลยครับ เห็นแต่ตัวบ้านและหลังคาเท่านั้นจริงๆ เพราะรั้วบ้านเค้าปิดทึบและสูงประมาณ2เมตรกว่า
ตอนนี้ทางทนายได้ทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังเจ้าบ้านเดิมเรียบร้อยแล้วครับ
อย่าลืมไปสืบๆเพื่อนบ้านครับว่าคนบ้านนี้นิสัยใจคอเป็ยังไง
ถ้าเพื่อนบ้านรู้สึกแง่ลบ แอบๆปล่อยข่าวว่าเราเป็นฝ่ายโดนรังแก
เค้าไม่ยอมออก (ทำตัวน่าสงสารไว้) ทีนี้กระแสสังคมจะกดดันให้เค้าออกไปเอง
ไม่มีใครอยากเป็นขี้ปากชาวบ้านหรอกครับ
… เข้ามาดู
สงสัยนิดนึงว่า หากเราเข้าไปทีเผลอไม่ได้หรือ ใครมันจะอยู่บ้านทั้งวัน
บ้านเราเองนี่นา ยังไงก็ไม่โดนข้อหาบุกรุกใช่ไหม
แล้วหากเขากลับมาก็ไม่ให้เข้า ลองถามดูเฉยๆว่าทำได้ไหม
ทำไมคนพวกนี้มันเลวหน้าด้านจริงๆ
ได้ไปคุยมาแล้ว เค้าเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับเพื่อนบ้านครับ
เช้าออกไปทำงาน เย็นกลับเข้าบ้าน เพื่อนบ้านไม่ค่อยได้คุยด้วย
ส่วนเรื่องปีนเข้าไปบ้านเค้าเวลาเค้าออกไปทำงาน
คงทำไม่ได้จริงๆอ่ะครับ เดี๋ยวจะโดนข้อหาบุกรุกเปล่าๆ >_< ทั้งๆที่เราเป็นเจ้าของแล้ว
ซอยนั้นค่อนข้างเงียบและส่วนตัว ถ้าใครมาจอดรถติดเครื่องไว้หน้าบ้านกลางค่ำกลางคืนเป็นต้องรู้แน่
เมื่อกี๊ก็เลยไปเล่นสงครามจิตวิทยาครับ ขับรถไปพร้อมกัน2คันจอดไว้หน้าบ้านเค้าแล้วดับเครื่องมองเข้าไปในบ้านซักพักแล้วก็กลับบ้าน
แค่นี้…ก็มีความสุขแล้ว ได้มองบ้านตัวเอง…แต่เข้าไปไม่ได้ Y_Y
ขอถาม จขกท เป็นความรู้หน่อยครับ ปกติเราประมูลได้ บสท เค้าไม่ได้จัดการเรื่องย้ายเจ้าของเดิมออกให้หรือครับ
ตอบ ความเห็นที่ 17 ครับ
บสท มีระบุไว้ชัดเจนในกฎระเบียบเลยครับ ว่าผู้ซื้อใหม่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด หากยังมีเจ้าของเดิมอาศัยอยู่ แปลง่ายๆว่า คุณซื้อทรัพย์ไปแล้ว คุณไม่มีสิทธิ์มาฟ้อง บสท ภายหลังนะ
ซึ่งผมเข้าใจผิดเองล่ะครับ ว่ามีกฎหมายใหม่คุ้มครองผู้ซื้อว่าสามารถขับไล่เจ้าของเก่าได้ภายใน 3เดือน
แต่เห็นว่า นั่นหมายถึง หากซื้อทรัพย์จากกรมบังคับคดี (แต่นี่เป็น บสท ไม่เกี่ยวกัน)
ทรัพย์ที่ บสท เอามาขาย อาจมีคดีฟ้องร้องกันอยู่ (ยังไม่ตัดสินหรือตัดสินไม่เสร็จ) ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบเองครับ
ผมไม่คิดว่าจะมีคนประเภทนี้อยู่ด้วย คือพวกดื้อด้านไม่ยอมออก
ตอนแรกคิดว่า แค่เข้าไปคุยดีๆ เค้าจะยอมออกโดยง่าย
ที่ไหนได้ กลับพูดหน้าตาเฉย…"งั้นคุณก็คงต้องมาฟ้องผม" (-_-”)
คนอเมริกันเค้ามีประโยคที่ว่า…ชั่วชีวิตของคน(อเมริกัน)1คน จะต้องมีการขึ้นศาล3ครั้ง
ไม่นึกเลยว่า คนบางคน ทำให้ผมต้องขึ้นศาลในชีวิตนี้ด้วย
บ้านตัวเองโดนข้อหาบุกรุกได้ด้วยหรอสงสัย
ตอบซักหน่อยครับตัดน้ำตัดไฟทำไม่ใด้ครับผิดกฎหมาย เขาสามารถฟ้องกลับใด้ครั
ถึงแม้ว่าเราเป็นเจ้าของ ฟ้องศาลครับเดี๋ยวนี้เร็วมากไม่เกิน1ปีหรือประมาณนั้นถ้าหมายศาลมาเราแจ้งตำรวจให้เขาออกใด้เลยโดยไม่ให้ค่าย้าย แต่ถ้าให้เขาออกไวให้ค่าย้ายเขาไปครับต่อรองกันไปเขาก็น่าสงสารไม่มีที่อยู่เราก็ทำถูกต้องเหมือนกัน คุยกันไป
ตามหลักการครับไม่ต้องไปเครียด
ถึงคุณ Tamจัง
กฎหมายไทยยังมีอะไรแปลกๆที่ผมไม่เข้าใจอีกมาก ไม่ได้ลบหลู่นะครับ ^^"
ดูอย่างที่คุณ กบกะลา บอกสิครับ
ตัดน้ำตัดไฟไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นบ้านเราเอง อาจโดนเค้าฟ้องกลับได้ >_<
เพราะฉะนั้นการที่เราจะปีนเข้าบ้านตัวเอง(ทั้งๆที่เราเป็นเจ้าของฉโนด) แต่เจ้าของเดิม(ผู้ที่อยู่อาศัยอยู่)ไม่อนุญาต เราก็ไม่สามารถทำได้ครับ
ดีไม่ดี เกิดเค้าบอกว่าเราปีนเข้าบ้านเค้า แล้วทำของเค้าหายอีก…ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่โดนข้อหาลักทรัพย์
เรื่องที่เค้าไม่มีที่อยู่แล้วควรสงสารดีไหม? แอบไปสืบเพิ่มเติมมาครับว่า ก่อนหน้า ที่บ้านจะถูกประมูลซักพักใหญ่ๆ (เป็นเดือนหรือปี ผมไม่แน่ใจ) เค้าเคยประกาศขายแล้วขายไม่ออก
แสดงว่าเค้าต้องมีที่อยู่อื่นอยู่แน่นอนครับ แต่ทำเป็นมาเรียกร้องความเห็นใจจากเราว่าไม่มีที่อยู่
อีกทั้งยังสืบมาว่า เค้ามีกิจการการค้าอยู่อีก แสดงว่าถ้าบ้านนี้เค้าอยู่ไม่ได้แล้ว ไปนอนที่ร้านก็ยังได้ -_-”
อัพเดทล่าสุดตอนนี้ ก็จัดกลุ่มเข้าไปเจรจากับเค้า 3 ครั้งแล้ว ไม่ซ้ำคน
ทนายกำลังส่งจดหมายแจ้งแล้ว
หวังว่าอะไรๆมันจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ
ขอบคุณครับทุกความเห็น