ผมมีที่ดิน 50 ตารางวา อยู่ในกรุงเทพ
ลักษณะที่ดินของผมเป็นดังนี้ครับ
-ที่ดินผมมีโฉนด
-เป็นที่ลุ่มมีนำขัง
-มี่หญ้าคาขึ้นสูง
ผมกลัวว่าทีดินผมจะถูกบุกรุก และผมไม่อยากทะเลาะหรือฟ้องขับไล่กับผู้ที่กำลังจะบุกรุกที่ของผม
ปัจจุบันผมต้องทำอะไรบ้างเพื่อเป็นวิธีแสดงออกถึงการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของผมเช่น:-
–ไปเสียภาษีบำรุงท้องที่
–ปลูกต้นไม้ผล (ที่ของผมแปลงนิดเดียว เป็นที่ลุ่มมีนำขังแถมมี่หญ้าคาขึ้นสูง ปลูกต้นอะไรดี
–อื่นๆ มีอีกไหม…รบกวนผู้รู้ห้องนี้ช่วยบอกที
ในอนาคต…หากต้องขึนศาล ผมจะได้มีหลักฐานแสดงให้ผู้พิกพากษาเห็นว่าผมได้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของผม
ขอบคุณครับ
Pet
ป.ล. ผมมีอาชีพจัดแสดงดนตรีตามงานเลี้ยงต่างๆ หากผมเอาป้ายโฆษณา"รับจัดแสดงดนตรี" ไปปักโฆษณา ณ.ที่ดินแปลงนี้…ผู้พิพากษาเชื่อหรือไม่ว่าผมได้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของผม
รั้วล้อม ปลูกกล้วย ปลูกลำใย ตัดหญ้าปีละครั้ง
เสียภาษีที่ดิน
เราก้มีที่โฉนดแถวศาลายา มีคนมาทำนาในที่ดินเปล่า 80 ตรว.
หาตัวคนทำไม่เจอ มารู้ที่หลัง อ๋อ นายกอบต.มาทำเอง
แหม รวยแล้วยีงเบียดเบียนคนอีก
เราเสียภาษีที่อบต.ทุกปีๆละ 30 บาทเอง ค่ารถไปเสียภาษียังแพงกว่าเป็น 10 เท่า
แล้วไปแจ้งความว่าถุกบุกรุกทำนาหาประโยชน์ โดยหาตัวคนทำไม่เจอ
เก็บใบแจ้งความเป็นหลักฐาน
ที่ของคุณมีโฉนดแสดงชื่อเจ้าคุณเป็นของ
ถึงคุณทิ้งร้างไม่ทำประโยชน์อะไรก็ไม่ทำให้สิทธิของคุณด้อยลง
การครอบครองปรปักษ์ในที่ดินที่มีโฉนดเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลยในทางปฏิบัติ
คคห. 2 กับ คคห. 4
กรุณาหาเรื่องการครอบครองดดยปรปักษ์มาอ่านซะนะครับ อย่าคิดว่า เข้าใจว่า แล้วแนะนำคนอื่น อย่างไม่รู้ บาปกรรมเปล่าๆ
ยืนยันตาม คห.5 นะคะ
ว่า คห.2 กับ คห.4 ควรหาข้อมูลเรื่องครอบครองปรปักษ์เพิ่ม
เพราะว่า การเสียภาษีที่ดิน ไม่ได้แสดงถึงการครอบครองที่ดินและเข้าทำประโยชน์ เอกสารเสียภาษีที่ดินไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานหักล้างในคดีครอบครองปรปักษ์ได้
แม้เป็นโฉนดที่ดินก็ไม่ได้หมายความความครอบครองปรปักษ์ไม่ได้
กลัีบกันว่า ในคดีครอบครองปรปักษ์นั้น มีคดีมากมายที่เป็นโฉนดที่ดิน
เพราะ การเป็นโฉนด หรือไม่นั้น ไม่ได้เป็นสาระสำคัญเลยในการครอบครองปรปักษ์
วิธีการครอบครองปรปักษ์โฉนดที่ดินนั้น ทำได้คะ ทำได้หลายวิธีเลย
แล้วสมบูรณ์เมื่อเงื่อนไขครบ
ล้อมรั้ว ปักป้ายสงวนสิทธิ์ ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ในรูปควรมีกำหนดวัน เดือน ปี ที่ทำไว้ด้วย ถ่ายรูปบริเวณที่ข้างเคียงโดยรอบ รวมทั้งเพื่อนบ้านข้างเคียงเป็นไปได้ควรรู้จักไว้บ้าง แล้วมั่นแวะไปดูบ้าง หากมีการบุกรุกให้แจ้งความ หรือทำสัญญาเช่า เอาไว้เพื่อกันคนอื่นบุกรุกเพิ่มเติม
คห 5
อย่าได้แนะนำให้คนอื่นทำอะไรโดยคิดเอาเอง เชื่อไปเอง ว่าตัวเองรู้ทุกเรื่อง
คห 6
จริงอยู่ที่การครอบครองปรปักษ์เกิดได้เฉพาะกับที่ดินที่มีกรรมสิทธิ
แล้วก็จริงอีกที่คุณว่ามีคดีความเรื่องเหตุปรปักษ์เกิดกับที่ดินมีโฉนดมากมาย
แต่ถ้าคุณอยู่ในแวดวงกฎหมายคุณก็น่าจะทราบดีว่า
คดีส่วนใหญ่เป็นการอ้างเหตุปรปักษ์ขึ้นเพื่อต่อสู้เรื่องบุกรุกแทบทั้งสิ้น
แล้วมีซักกี่คดีที่สามารถยกเหตุปรปักษ์ขึ้นเป็นคุณแก่ผู้ร้องจนเป็นผลสำเร็จ
คุณคงทราบดีว่าคำพิพากษาศาลฎีกาในกรณีเช่นนั้นหาได้ยากเย็นเพียงใด
ไม่ต้องพูดถึงกรณีการร้องขอให้ศาลสั่งให้ จพน. ที่ดินออกโฉนดในที่ดินพิพาท
ให้แก่ผู้ครอบครองปรปักษ์ เช่นกรณีวัดสวนแก้ว
ที่เจ้าของกรรมสิทธิตามโฉนดซึ่งไม่เคยแสดงตนโต้แย้งแต่อย่างใด
ตลอดระยะเวลาของกระบวนการพิสูจน์สิทธิของผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาท
เพียงแค่ออกมาแสดงสิทธิในภายหลังยังได้ประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตามกฎหมาย
จนสามารถลบล้างสิทธิของผู้ร้องครอบครองลงได้
ในทางทฤษฎีการครอบครองปรปักษ์ดูเหมือนเกิดได้ไม่ยาก
เพียงแค่มีข้อเท็จจริงครบองค์ประกอบ และครบเงื่อนเวลาตามกฎหมายก็น่าจะเพียงพอแล้ว
แต่ในทางปฏิบัติการได้สิทธิจากการครอบครองปรปักษ์มีน้อยกรณีมาก
ปัญหาน่าหนักใจของเจ้าของที่ดินไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมาย
แต่เป็นปัญหาข้อเท็จจริงว่าจะทำอย่างไรให้คนที่บุรุกเข้ามาในที่ดินของเราออกไปได้ต่างหาก
เรื่องนี้ถ้าไปถามนักเลงคำตอบก็คือ ไล่หรือเผา (แก้ปัญหาได้ เสียเงินน้อยหน่อย)
แต่ถ้าถามผู้รับเหมาก็จะบอกให้ถมที่ ทำรั้วรอบ (แก้ปัญหาได้ เสียเงินมากหน่อย)
ถ้าไปถามทนาย ก็ได้คำตอบเดียวแน่นอนคือฟ้องขับไล่
ส่วนทนายอีกฝ่ายก็จะแนะให้คู่ความแก้ต่างโดยอ้างเหตุปรปักษ์แน่นอนเช่นกัน
(ผลคดีเป็นยังไงยังไม่รู้ แต่ต้องเสียเงินทั้งสองฝ่ายมากน้อยตามฐานะ)
และนี่เป็นสาเหตุที่ทำไมจึงมีการอ้างเหตุปรปักษ์กันพร่ำเพรื่อ
เรื่องวัดสวนแก้ว คนครอบครองปรปักษ์ พลิกคำให้การนะครับ เพราะโดน
เจ้าของที่หลอกนะครับ ว่าถ้าถ้าพลิกคำให้การก็จะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย
แม้กระทั่งวัด และก็จะได้เงินเพิ่ม คนครอบครองปรปักษ์เชื่อ เพราะซื่อ (หรือเปล่า
ไม่รู้ ) เลยเป็นที่มาของ ‘ ถุงกล้วยแขก ‘ เพราะถ้ายืนยันตามฟ้อง ก็จบแบบ
ได้ปรปักษ์ครับ นี่คือเท่าที่ผมรู้ ส่วนการครอบครองปรปักษ์ ก็ไม่ใช่เรื่อง
ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณเจ้าของไม่เคยมาดูแลเลย ในระยะเวลา 10 ปี
คนครอบครอง ยื่นขอปรปักษ์ โดยการเปิดเผย มีพยานร่วมรับรู้เป็นพยาน
(บ้านข้างเคียง) และไม่มีผู้คัดค้านทุกอย่างจบ และถ้ามีผู้คัดค้าน แต่ไม่เคย
เข้าไป ดูแล และปล่อยให้ คนมาบุกรุกโดยไม่ได้แจ้งความหรือกระทำการใด
ในที่ดิน ก็จบ มีเยอะแยะครับ แต่มันจะยากตรง ถ้ามีผู้คัดค้าน ก็จะมีการข่มขู่
พยานหรือ คนครอบครองปรปักษ์ กลัวอิทธิพล ก็จะถอนเรื่องไปเองครับ
ตาม # 5 # 6 ครับ
บริษัทผมเพิ่ง เสียทีดินราคา สามล้านบาทไป (โฉนด และเสียภาษีบำรุงท้องที่ทุกปี)
จากการครอบครองปรปักษ์
คห.8 คะ
ถ้าคุณคลุกคลีอยู่กับกลุ่มประชาชนผู้มีทรัพย์เป็นที่ดินจำนวนมาก คุณจะทราบว่า….
การบุกรุก การอ้างถึงการครอบครองปรปักษ์นั้นมีมากมาย
ในยุคหนึ่ง ถึงขนาดเฟื่องฟูว่า คนชักชวนกันให้บุกรุกที่ดินคนอื่นไว้ก่อน จะญาติห่างๆ พี่น้อง คนรู้จักก็(บุกรุก)ไปอาศัยอยู่ไว้ก่อน ไปขออยู่อาศัยไว้ก่อน พอเวลาผ่านไป ก็ไปร้องอ้างขอเงินค่าขนย้าย , ร้องให้เป็นคดีก็จะได้ประโยชน์ คนบุกรุกมีแต่ได้ไม่มีเสีย
อยู่ๆๆ ไปก่อน แล้วแตกเหล่าแตกกอ ขยายบ้านกันเป็นพรืด หลายสิบหลังคาเรือน เจ้าของที่ดินตัวจริงก็นิ่งนอนใจไม่ได้ให้ออกตั้งแต่แรก ปล่อยจนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน
ซึ่งมีคดีน้อยรายที่จบลงตรงที่ศาลฏีกา
แต่คดีอีกมากมาย จบตรงที่เจรจาประนีประนอมยอมความ จบตรงที่การรับเงินค่าย้ายออก
อย่าคิดว่า การถือโฉนดที่ดินแล้วไม่มีปัญหาครอบครองปรปักษ์
เพราะคนบุกรุกที่ดินคนอื่นนั้น หวังเรื่องครอบครองปรปักษ์กันทั้งนั้น โดยไม่ได้ถึงขนาดขึ้นศาลให้ได้โฉนดที่ดินหรอกคะ อย่างเบาะๆ เขาหวังเงินค่าขนย้าย
การไล่คนอื่นออกไปจากที่ดิน ยากเย็นเพียงไร ประมาทไม่ดูแลที่ดินเพียงไร เป็นเพราะเขาคิดว่าการครอบครองที่ดินที่มีโฉนดที่ดินนั้นน้อยมาก ยากมากเพราะความคิดเห็นของคุณหรือเปล่า
ทั้งที่ การบุกรุกที่ดินนั้น มีเป็นคดีและไม่เป็นคดี "มากมาย"
ปล. ประชาชน คนดี ย่อมไม่ทำบาปกรรม ไปล้อมรั้วที่ดิน ปิดกั้นไม่ให้ออก ให้อดตายในที่ดิน หรือไปจุดไฟเผาไล่ ซึ่งพลาดพลั้นให้คนข้างในตาย
(อย่าคิดว่า คนข้างในเขาไม่เป็นอะไร เขาหนีได้ทัน เพราะสาวกุมภ์ก็เคยจนหาเช้ากินค่ำ รู้จักกับคนกลุ่มล่างมากมาย ที่เขาเสียลูก เด็กเล็ก ต้องตายในกองไฟเพราะหนีไม่ทัน จากการโดนเผาไล่ที่ , คนจนที่มีมือเท้าแต่ไม่มีแรงสู้นักเลงถือฆ้อน มีดมาทำลายบ้าน เพราะไล่ที่)
สภาพที่ดินผืนเล็ก รก ที่ลุ่มน้ำขัง อยู่ใน กทม. อย่างนี้ คงสะดวกพอที่จะไปดูบ้าง ถึงจะนานๆ ครั้ง คงไม่ได้ไปดูนานเป็นสิบปี
ถ้ามีคนบุกรุก ก็จัดการได้ก่อนครบสิบปี
น่ากังวลเรื่องมีคนแอบเอาขยะไปทิ้งมากกว่า