เป็นแอร์อินเวอร์เตอร์ยี่ห้อดัง แต่อายุการใช้งานประมาณ 4-5 ปีแล้วค่ะ
ปัญหาแรกเลยคือ มีน้ำหยดจากเครื่อง (แต่แอร์เย็นปกติดีค่ะ)
เลยโทรแจ้งศูนย์ให้ช่างจากศูนย์เข้ามา
ช่างบอกว่าท่อน้ำทิ้งตัน ตัวเครื่องไม่มีปัญหา เลยใช้เวลาแก้ไขไม่นาน
(แต่ขอให้ช่างช่วยล้างแอร์ให้ด้วย ช่างดันเกี่ยงไม่ยอมล้าง บอกคราวหน้าค่อยล้าง!!)
หลังจากนั้นอีก 1 อาทิตย์ มีน้ำหยดอีก (ปัญหาเดิม แต่แอร์เย็นปกติ)
เราเลยโทรตามช่างจากศูนย์เข้ามาดูอีก
แต่คราวนี้เป็นช่างทีมใหม่ ช่างบอกสงสัยแอร์สกปรกก็เลยล้างแอร์ให้
ช่างถอดอุปกรณ์ภายในเครื่องออกมาเยอะแยะมากมาย
หลังล้างแอร์เสร็จ ช่างก็เทสแอร์ แอร์ก็เย็นปกติ รู้สึกลมจะแรงขึ้นด้วยค่ะ
แต่…หลังจากเปิดแอร์ได้ 3 ชั่วโมงหลังการล้างแอร์
แอร์ก็ดับไปเองดื้อๆ และไม่เย็น ไม่มีลม แต่มีไฟกระพริบๆ ตรงตัวเครื่อง
เราก็พยายามกดรีโมทแต่แอร์ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ
นอกจากไฟกระพริบตรงตัวเครื่อง
วันรุ่งขึ้นเราก็เลยโทรเข้าศูนย์แจ้งซ่อม
จนท.บอกให้เราเช็ครหัสจากรีโมทว่าขึ้นโค้ดอะไร
เพื่อจะได้แจ้งอาการเครื่องกับช่างได้ถูกต้อง
เราก็ทำตามแล้วโทรบอก จนท. เขาบอกว่าโค้ดนี้เกิดจากมอเตอร์พัดลมแฟนคอยล์ในเครื่องเสีย!!!
ต้องเปลี่ยนอย่างเดียว มีค่าใช้จ่ายรวมค่าอะไหล่และบริการแล้ว ประมาณ 2 พันกว่าบาท
เราก็เลยขัดใจเกิดอารมณ์โมโหเล็กน้อย เกิดคำถามในใจว่า
อุตส่าห์ไว้ใจยอมเรียกช่างจากศูนย์ (ซึ่งจ่ายแพงกว่าข้างนอก)
เข้ามาดูโดยเฉพาะ แต่ทำไมยิ่งแก้งานยิ่งพัง
บอกกับ จนท. ว่า เราไม่ได้ไปทำอะไรกับแอร์เลย
แล้วค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่ใครจะต้องรับผิดชอบ…
จนท.บอกว่าต้องคุยกับช่างเอง (เวรกรรม)
วันเสาร์นี้ช่างจะเข้ามาแล้ว
รบกวนขอความเห็นจากเพื่อนๆ ด้วยนะคะว่าเราต้องอะไร ยังไง แค่ไหน
เพื่อให้แฟร์ทั้ง 2 ฝ่าย
…คิดเรื่องนี้ทีไรรู้สึกปวดหัวตึบๆ
ขอบคุณค่ะ
**แก้ไขคำผิดค่ะ
คำค้นหา:
- แอร์ไม่เย็น น้ําหยด
ลองให้เขารับผิดชอบเรื่องค่าแรงเปลี่ยนอะไหล่ แล้วเราซื้ออะไหล่เอง จะถูกกว่านะ
คุณความคิดเห็นที่ 2 วิศวกรไฟฟ้า เขาไม่ได้มีความรู้ด้านแอร์โดยตรงหรอกนะ
เอาวิศวกรไฟฟ้ามาทำงานแอร์ มันคนละสายงานอาชีพครับ
เลิกโฆษณาเถอะ ยิ่งโฆษณายิ่งแย่ลง
โอ……ความเห็น 2 โฆษณาว่าวิศวกรไฟฟ้าทำได้ ……เดี๋ยวก็ฟ้องสภาวิศวกรยึดใบอนุญาตซะหรอก
งานล้างแอร์ โดยมากช่างทดลองเปิดหลังล้างเสร็จให้ดู ถ้าไม่มีปัญหา
ก็ถือว่างานของช่างล้างแอร์จบตรงนั้น ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากล้างและ
ทดสอบแล้ว จึงต้องถือว่าแอร์มีปัญหาเอง ไม่ได้เกิดจากช่างล้างแอร์เพราะ
เขาไม่ได้รับประกันงานล้างแอร์
ถึงแม้ว่าเราต้องยอมรับความจริงในเรื่องนี้ แต่คงอดคิดไม่ได้ว่าช่างอาจ
ถอดชิ้นส่วนและประกอบชิ้นส่วนแอร์ผิดพลาด ก็เลยมีปัญหา
งานนี้คงต้องถือว่าฟาดเคราะห์ ยกประโยชน์ให้จำเลยไป
หลังจากแจ้งศูนย์แล้ว มีการทดลองเปิดเครื่องใหม่ดูหรือเปล่า ลองช่วยมอเตอร์หมุนพัดลมดูบ้างไหม
บางทีอาจเป็นเพียงบูชชิ่งของพัดลมฝืด เนื่องจากโดนน้ำจากการล้าง ทำให้สตาร์ทไม่ออก หรือแค่ Cap. Run เสีย
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นนะคะ
@ คุณ Kingdom of Heaven …เราแอบเคืองช่างมากๆ เลยค่ะ อดคิด
เล่นๆ ไม่ได้ว่าโดนช่างวางยาเข้าให้แล้ว (แต่วันนั้นช่างก็ขยันรับ-คุยโทรศัพท์มือถือ
ในระหว่างทำงานจัง ดูแล้วสาเหตุคงมาจาก Human Error อ่ะค่ะ T_T)
@ คุณนายสันทัด ทดลองเปิดเครื่องดูหลายรอบแล้วค่ะ แต่มันก็นิ่งสนิท
คงต้องรอนายช่างใหญ่ (ประชด) เข้ามาดูค่ะ เพราะเราก็ไม่มีความรู้เรื่องแอร์
เดี๋ยวยิ่งทำเองกลัวว่าจะยิ่งหนักกว่าเดิม
ผมเคยแต่แจ้งช่างข้างนอกมาทำนะครับ ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ผมคิดว่าช่างข้างนอกน่าจะมีประสบการณ์มากกว่าช่างศูนย์ ส่วนใหญ่ช่างที่เปิดร้านเองก็เคยทำงานศูนย์มาแล้วทั้งนั้นครับ
จะว่าช่างวางยาก็ไม่น่าใช่ เพราะล้างแอร์แล้วเขาทดลองเปิดให้เราดู
ทุกครั้งอยู่แล้วเพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้ปกติ น่าจะเป็นเพราะการถอด
กับประกอบชิ้นส่วนนี่แหละ ในอนาคตเวลาช่างมาล้าง ถ้าไม่อยากเสี่ยงอีก
ก็ไม่ต้องให้เขาถอดชิ้นส่วน ให้ล้างเท่าที่ล้างได้ก็พอ
พอมารู้เรื่องนี้ก็ชักกลัวเหมือนกัน
คราวหน้าให้ช่างมาล้างแอร์ ผมก็คงไม่ให้ช่างถอดชิ้นส่วนมากนัก จะได้
ไม่ต้องเสี่ยงอย่างนี้
คิดว่าเป็น แอร์ ด เด็กเหมือนกัน อาการนี้ อาจเกิดขึ้นจากประสบการ์ณ ของช่างที่ทำงานน่ะครับ
แต่ถ้าตอนเทสเครื่องหลังจากล้างแล้วแอร์ใช้ได้ ก็พูดลำบาก ทางที่ดี
หลังล้างแอร์ หรือ หลังการใช้แอร์ทุกครั้ง ควรเปิดโหมด FAN เพื่อไล่ความชื้นภายในตัวแอร์ ด้วยนะครับ
ประมาณ 15-30 นาที
แก้คำผิด
สมมตินะครับ ว่ามันถึงอายุของมันพอดี เพียงแต่ว่ามันดันเกิดหลังจากเขามาล้างแอร์ให้คุณ มันก็น่าเห็นใจนะครับ
คือคิดในมุมจะเอาเรื่องเขาก็ได้ จะคิดในมุมสบายใจก็ได้
ก็ดูสิครับ เป็นทุกข์ขนาดต้องมาระบายกันถึงบนเว็บอย่างนี้ มีแต่เสียไม่มีได้เล๊ยยยยย