เห็นข่าวน้ำท่วมหลายๆ จังหวัด แล้วเศร้าใจจัง คิดว่าอนาคตเราคงหนีไม่พ้นกับเหตุการณ์แบบนี้แน่ๆ คงต้องหาวิธีป้องกัน ใครมีวิธีที่ดีๆ มาแชร์กันหน่อยนะคะ (รวมถึงวิธีป้องกันอันตรายจากแผ่นดินไหวด้วยค่ะ)
เห็นข่าวน้ำท่วมหลายๆ จังหวัด แล้วเศร้าใจจัง คิดว่าอนาคตเราคงหนีไม่พ้นกับเหตุการณ์แบบนี้แน่ๆ คงต้องหาวิธีป้องกัน ใครมีวิธีที่ดีๆ มาแชร์กันหน่อยนะคะ (รวมถึงวิธีป้องกันอันตรายจากแผ่นดินไหวด้วยค่ะ)
ให้นายกกับคนมีอำนาจเค้าคิดไปเถอะครับคุณผมคิดแล้วทำอะไรได้ครับเอาเวลาไปคิดให้ตัวเองหรือครอบครัวดีกว่าครับเรื่องมันใหญ่เกินตัวครับ
สร้างเรือโนอาร์เผื่อไว้ดีกว่า
ถ้าเป็นไปได้ก็ควรสร้างกำแพงรอบบ้าน หรือรอบท้องนา
เช่นถ้ามีที่ดินสัก 100ไร่ ใช้ดินจาก10-15ไร่มาสร้างกำแพง
หลุมที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นบ่อน้ำ มีน้ำใช้ยามหน้าแล้ง
ดินที่ขุดขึ้นก็นำมาทำกำแพง
ส่วนถ้าเป็นบ้านทั่วไปถ้าเป็นไปได้ย้ายบ้านครับ
หรือสร้างบ้าน 2ชั้น ชั้นล่างปล่อยโล่งๆ เหมือนเรือนไทยสมัยก่อน
การป้องกันน้ำท่วมเป็นเรื่ององค์รวมครับ ถ้าคิดหัวเดียวเสียเวลา อย่างน้อยต้องเริ่มระดับชุมชนไล่ไป ต่างคนต่างอยู่ ต่างเห็นแก่ตัว ต่างคิด ต่างบ่น ต่างด่า
เครียดครับ
ในส่วนบ้าน หรือที่อยู่อาศัย ลองพิจารณาสร้างห้องที่พ้นน้ำเก็บพวกข้าวสาร อาหารแห้ง มีไฟสำรอง และทำเตียงสองชั้นสองด้านสำหรับ 4 คน เพื่ออยู่ได้สำหรับครอบครัวสักหนึ่งอาทิตย์ คล้ายๆห้องใต้ดินหลบสงครามนิวเคลียร์ของฝรั่ง (ในหนัง)
ถ้าลูกยังเล็ก ให้กินดีอยู่ดี จะได้สูงใหญ่ และหัดว่ายน้ำให้แข็งครับ
มีอะไรก็แบ่งปันกันครับ ช่วยเพื่อนบ้านได้ก็ดีครับ จะได้รักกัน สามัคคีกัน
กำลังเก็บเงิน จะซื้อเรือเก็บไว้สักลำ
รณรงค์ปลูกต้นไม้ และแก้กฏหมายเพื่อลงโทษพวกตัดต้นไม้ให้หนัก
อาจจะเห็นผลช้า แต่ได้ผลระยะยาว
แต่มันจะเป็นจริงได้รึเปล่าน๊า
พ่อกับแม่เล่าว่าน้ำทว่มใหญ่ในกทม.และภาคกลาง ปี2485
เราก็ยึดความสูงของปีนั้นเป็นเกณฑ์ ตอนออกแบบบ้านก็บอกสถาปนิกให้ยกพื้นบ้าน สูงกว่าระดับน้ำปีนั้นคิดว่าน่าจะปลอดภัยระดับหนึ่ง
แล้วความเชื่อส่วนตัวคิดว่าบ้านต้องมีฝ้าเพดานสูงๆ อย่างน้อยในเรื่องของความปลอดภัย เกิดท่วมแบบหลายจังหวัดที่โดนมา สามารถอพยพอยู่ชั้น 2 ได้สบายๆ
ส่วนเรื่องอาหารและของใช้ก้ไม่ต้องตุนเป็นพิเศษ เพราะจะช๊อปสำหรบ 1 เดือนอยู่แล้ว
แต่ที่ว่าจะทำคือถุงยังชีพใส่เป้ไว้แบบประเทศญี่ปุ่นค่ะ
ส่วนแผ่นดินไหวก็แค่เวลาไปที่อาคารใหญ่จะมองหาทางหนีไฟ และทางออกเอาไว้ เคยเกือบถูกเหยียบตายเพราะคนแย่งกันหนีไฟไหม้ น่ากลัวมากค่ะ
คนสมัยก่อน สร้างบ้านยกพื้นสูง โล่งชั้นล่าง
หรือ ก็สร้างเรือนแพติดแม่น้ำซะเลย ไม่ต้องกลัวน้ำท่วม ไม่เปลืองเสาเข็ม
เรื่องป้องกันก็เรื่องนึง
แต่ที่อยากเห็นอีกอย่างคือเรื่องมาตรการรับมือกับภัยพิบัติ
ทั้งๆ ที่มีอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่เห็นมีระเบียบมาตรการอะไรเตรียมไว้ล่วงหน้ามั่งเลย
เกิดทีก็โกลาหลที รัฐบาลไม่เคยมีระเบียบปฏิบัติ ใครต้องทำอะไร ยังไง
ตรงไหนจะตั้งเป็นศูนย์กลางรับมือ-ส่งความช่วยเหลือ ใครจะต้องทำอะไรบ้าง
หรืออย่างถุงยังชีพเคยมีมั่งหรือเปล่า เห็นกี่ทีๆ ก็เป็นถุงยังชีพพระราชทาน
เกิดภัยที่ไหน ไม่นานก็มีถุงยังชีพพระราชทานไปแจกจ่ายทันท่วงที
แต่ไม่เคยเห็นถุงยังชีพรัฐบาล
ป้องกันยากครับ ถึงจะมีเงินสร้างเขื่อนล้อมบ้านไว้ ก็ออกไปไหนลำบากอยู่ดี
หาวิธีรับมือ เตรียมพร้อมกับสถานการณ์ดีกว่า
ปลูกบ้านแบบโบราณ โดยยกสูงเป็นสองชั้น
แล้วใช้เฉพาะชั้นสอง
เลิกเห็นแก่ตัว เห็นแก่ส่วนรวมบ้าง ก็จะช่วยได้เยอะ ที่บอกว่าปัญหาใหญ่ให้รัฐบาลคิด แต่เราไม่ทำไรเลยเหรอ
1. พื้นที่หน้าบ้าน ปลูกต้นไม้กันบ้าง บ้านละ 1 ต้น อย่างน้อยก็เป็นแนวพอให้เห็นหรือพอให้ยึดได้บ้าง
2. ขยะทั้งในบ้านและนอกบ้าน จัดให้เป็นระเบียบทิ้งให้ถูกที่อย่าหมักหมม เห็นน้ำท่วมที ขยะลอยมาเยอะแยะ น้ำเน่า ดมกันไป
3. การต่อเติมบ้าน ให้มันถูกต้องกฎหมายเขามีไว้ยังไงก็ปฎิบัติกันหน่อย ฝนตกน้ำท่วมที พังมาจะได้ไม่เดือดร้อน มีเงินเท่านี้ อยู่แค่นี้ก็พอ จะเอาอะไรใหญ่โต
4. คลองที่บ้านนะ ขุดไว้หน่อย ไม่ต้องถมเอาที่กัน เห็นมีบึงมีคลอเป็นไม่ได้ ต้องถามกันเข้าไป จะเอาที่ไปทำไรนักหนา ภาครัฐเขาก็มายุ่งกับคุณไม่ได้หรอก ที่คุณนี่
5. เวลาสร้างบ้านนะ ไม่ต้องไปลดต้นทุนเรื่องโครงสร้าง เอาเต็มที่ ไม่มีตังก็สร้างหลังเล็กๆ พออยู่ได้พอ แต่ก่อนเคยอยู่หอได้ แต่พอมีบ้านมันอึดอัดหรือไง ตีโป่งกันเข้าไป โครงสร้างไม่แข็งแรง ต่อเติมกันไปอีก พอมีแผ่นดินไหว หรือทรุด บ้านพัง ก็บอก ภาครัฐไม่ดูแล
เข้าใจว่าเป็นภัยธรรมชาติแต่คนสมัยก่อนเขาโดนมามากกว่าพวกเราเขายังอยู่กันได้ คนเราทุกวันนี้บ้าสะสมของ บ้าพื้นที่ ยึดติดกับวัตถุ จนลืมความจำเป็นของการดำเนินชีวิตไป มีบ้านใต้ถุนสูงดีๆ ก็ต่อเติมชั้นล่าง ทำเป็นห้องเก็บข้าวของไว้เยอะ พอเวลาน้ำมาก็ขนไม่ทัน
กทม ริมน้ำ น้ำท่วมกัน ก็ยังเข้าไปอยู่ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ที่ตัวเอง แต่ว่ามันถูก พวกที่ไปอยู่ก็มีอันจะกินทั้งนั้น แล้วก็ปลูกแบบสลัม อยู่ไปงั้นๆ ที่บอกว่ามีอันจะกินเพราะอะไร เพระเห็นติด จานทรู เสียค่ารายเดือนไม่ใช่น้อยนะ พวกไม่มีกินไม่มีเงินเช่าบ้านเขาจะติดกันไหม ไปดูได้เลย แถวคลองเตยหรือ แถวชุมชนริมน้ำ แล้วขยะก็ทิ้งลงแม่น้ำนั่นแหละ วันดีคืนดีน้ำท่วม ขยะก็ลอยเข้าบ้าน
ถ้ายังคิดว่ารอภาครัฐช่วยมันเป็นปัญหาระดับชาติ ก็รอชาติหน้าเถอะกว่าจะได้รับการแก้ไข เพราะตัวเองยังไม่มีวิธีคิดจะช่วยเหลือตัวเองเลย รอป้อนอย่างเดียว หมู่บ้านจัดสรรเดี๋ยวนี้เลยขายดีไง เพราะคนไม่มีเวลาทำไร รอจัดสรรอย่างเดียว จะดีจะเลวก็จะรู้ตอนไปอยู่แล้ว
ตามความเห็นที่ ๘ และ ๑๑ ค่ะ สำหรับการช่วยเหลือตัวเอง แต่ถ้าใครจะสร้างเรือโนอาบอกด้งยนะคะ จะขออาศัยไปด้วยคน ดูหนังเรื่อง ๒๐๑๒ แล้วขนลุกเลยกลัวจมน้ำตาย
ขุดลอก คู คลองแม่น้ำ
ไม่ทำถนน ขวามทางระบายน้ำ
ถ้าท่วมแบบที่ผ่านมานี้ แก้เฉพาะบ้านตัวเองคงช่วยอะไรไม่ได้หรอก
มันต้องระดับองค์รวมโน่น
วางผังเมือง เส้นทางการเดินของน้ำ การสร้างพื้นที่รับน้ำ ปลูกป่าชะลอน้ำ ฯลฯ
ซื้อเรือ ซื้ออาหารตุน อย่าเก็บของมีค่าไว้ในบ้านมาก
หาทางหนี ทีไล่ ที่สูงอยู่ไหน ทำได้แค่นี้หละมั้ง
ไม่งั้นก็ย้ายบ้านไปอยู่บนยอดเขาหิมาลัยแบบ 2012 ไปเลย จบ
สร้างบ้านแบบแพลอยน้ำได้ไงครับ ตอนน้ำไม่ท่วมก็กองอยู่บนดิน
แต่ถ้าน้ำมา บ้านเราก็จะยกตัวลอยขึ้น คิคิคิ จินตนาการไกล แต่ผม
มั่นใจว่า ทำได้
ในฐานะคนหาดใหญ่ น้ำท่วมหนักในปี 2531 , 2543 และล่าสุด 2553
หลังท่วมหนักปี 2543 มีการลงทุนสร้างคลองระบายน้ำ ร.1 ร.2 ร.3 ร.4 ร.5 ทำอ่างเก็บน้ำแก้มลิง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม
ผลปรากฏว่า ปีนี้ 2553 ความเสียหายไม่ได้น้อยกว่า 2543 เลย ทั้งๆที่ตัวเลขปริมาณน้ำฝนที่ตก น้อยกว่าปี 2543 ด้วยซ้ำ
ความเห็นส่วนตัว ผมว่าสาเหตุเกิดจากการเจริญเติบโตของเมือง ที่ขยายตัวออกไป หมู่บ้านจัดสรรต่างๆ การถมที่ดินปิดทางระบายน้ำ ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างยากลำบาก ตรงนี้ก็ไม่รู้จะแก้ยังไง ทุกคนก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้นะ
ผมว่าหาวิธีรับมือกับมันดีกว่า เตรียมตัวเองให้พร้อมตลอดเวลา ติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศ อย่าประมาท มองโลกในแง่ร้ายไว้ก่อน ( พวกที่คิดว่าคงไม่เป็นไร ฝนตกแค่นี้ ก็เป็นอย่างในทีวีนั่นแหละครับ )
ถ้าอยู่ในโซนล่อแหลม น้ำท่วมสม่ำเสมอ ก็สต็อคอาหาร น้ำดื่มไว้ให้ดี เก็บไว้ในที่พ้นน้ำ มีรถก็นำไปจอดไว้ที่สูงไว้ก่อน ต้องยอมลำบาก ไฟฉาย ถ่านไฟฉาย AAA , AA สำรองพร้อมใช้ . แบตเตอรี่ ชุดแปลงไฟ สำหรับไว้ชาร์ตมือถือ อันนี้สำคัญมาก ถ้ามือถือใช้งานได้ เราจะขอความช่วยเหลือได้ง่าย เรือพาย กาละมังใหญ่ๆ เชือกยาวซัก 10 เมตรเตรียมไว้
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดีที่สุด อย่าไปหวังทางการจะมาช่วยเหลือ เพราะเวลาวิกฤติจริงๆ มันวงกว้าง กว่าความช่วยเหลือจะมาถึงเรา มีหวังตายก่อน
อุตส่าห์ไม่ถมที่ เพื่อ ป้องกันน้ำท่วมบ้านตัวเองค่ะ ถมขึ้นสุงเพราะจะสร้างบ้านใหม่ สี่ไร่ ที่เหลือทำสระไว้สองด้าน เพื่อ ให้น้ำ ไหลและระบาย เข้าสระ เหมือนแก้มลิง หน้าแล้งก็มีน้ำไว้รดน้ำต้นไม้อีกด้วย แต่บ้านอื่นเค้าไม่ทำกันเลยค่ะ ไหลลงที่เราหมด อยากรู้เหมือนกันว่า ตอนสระเราเต็ม น้ำท่วมขึ้นมา จะทำไงกัน ตอนนี้สระหลังบ้าน จะเต็มแล้ว ขนาดสระลึก สี่เมตรกว่าๆ สองไร่ กว่าๆนะคะ จะถึงที่แล้ว อ่ะ