เรื่องราวที่กำลังจะเล่านี้ ผมต้องการเอามาเล่าสู่กันฟังครับ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากขอทราบความคิดเห็นจากพี่สมาชิกชายคา หน่อยครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป
ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
จะเริ่มเล่าแล้วนะครับ…
แนะนำตัวละคร
บุคคลที่ 1 ผมเอง
บุคคลที่ 2 แฟนของผม
บุคคลที่ 3 ยัยฮวย … นามสมมติ … (ถ้าอยากรู้ว่าย่อมาจากอะไร ย่อมาจาก "ฮวย เซ็ง" ครับ … คิดชื่อนี้ได้ตอนที่อารมณ์บูดได้ที่)
พร็อพเสริม (ตัวปัญหา) จักรยานของบุคคลที่ 2 … จริงๆ เป็นของเพื่อนบ้านบุคคลที่ 2 ยืมเค้ามาใช้ครับ
เหตุการณ์
เหตุการณ์ที่กลายเป็นปัญหาก็คือ แฟนของผม เค้ามาเล่าให้ฟังว่า "จักรยานหาย" เมื่อกลางดึกคืนหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้
ที่หมู่บ้านของแฟนผม มีระบบการฝากจักรยาน ไว้ที่หน้าหมู่บ้าน เวลาที่จะออกจากบ้านไปทำงาน ก็จะปั่นจักรยาน มาจอดไว้ที่หน้าหมู่บ้าน โดยที่จะฝากจักรยาน
ไว้กับยามที่หน้าหมู่บ้าน เพราะพี่ยามเค้าได้รับมอบหมายหน้าที่นอกจากการเฝ้าป้อม อีกหนึ่งอย่างคือ การล็อก และ ปลดล็อก จักรยาน ของทุกคนในหมู่บ้านที่เอามาจอดไว้รวมกัน
อนึ่ง ที่จอดจักรยาน จะล็อกจักรยาน ด้วยกุญแจ ตัวเดียวกันหมด ผู้ถือกุญแจ คือ พี่ยาม แต่เพียงผู้เดียว
ระบบฝากจักรยานนี้ เหมือนจะดูดีใช่มั๊ยครับ … แต่ไม่ใช่ครับ เพราะแค่บอกว่า "พี่คะ ปลดล็อกจักรยานให้หน่อยค่ะ" พี่ยามก็ปลดให้แล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของจักรยานก็ได้
(ก็ไม่มีบัตรฝาก หรืออะไรนี่??)
ด้วยระบบนี้ ทำให้จักรยานแฟนผม โดนขโมยไปแล้ว 3 คัน … คันเจ้าปัญหาในตอนนี้ กำลังจะเป็นคันที่ 4
ตามเรื่องก็คือ แฟนผมกลับมาจากการทำงาน
กลับเข้าหมู่บ้าน ก็ว่าจะไปเอาจักรยาน หน้าหมู่บ้านตามปกติ เพื่อขี่เข้าบ้าน
หาเท่าไรก็หาไม่เจอ … พี่ยามก็บอกไม่รู้ …สงสัยว่าโดนขโมย… จริงๆ ก็คือ พี่ยาม ปลดล็อกจักรยานให้กับใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่แฟนผมนั่นแหละครับ
แฟนผม ก็เลยต้องเดินเข้าหมู่บ้าน ตามระเบียบ … มืดนะ ขอบอก
เช้าวันต่อมา ก็คงต้องไปเอาเรื่องกันหน่อยล่ะ
แฟนผมเดินไปหาพี่ยามอีกครั้ง เพื่อร้องเรียนเรื่องจักรยานคันที่ 4 ที่หายไป ที่เกิดขึ้น
พี่ยาม (คนละคน กับเมื่อคืน) ก็บอกว่า เรื่องนี้ ต้องแจ้งกับ ประธานหมู่บ้าน
ประจวบเหมาะ ฟ้าเป็นใจเหลือเกิน ประธานหมู่บ้าน เดินมาแถวนั้นพอดี …. (โอ้ว แม่ อะไรจะบังเอิญได้ดีเยี่ยงนี้)
ประธานหมู่บ้านก็เลยบอก (แกมสั่ง) พี่ยามว่า ให้พี่ยามไปขี่จักรยานวนรอบหมู่บ้านที ว่ามีจักรยานของแฟนผมที่หายไป ไปอยู่ที่บ้านไหนหรือเปล่า … ก็บอกรูปพรรณสัณฐานจักรยานกันเรียบร้อย
อยากให้พี่ๆที่อ่านอยู่ ทราบหน้าตาของจักรยานคันนี้ครับ
ขอเล่านิดนึงนะ
เป็นจักรยานสีม่วง สไตล์ house keeping (สไตล์แม่บ้าน นั่นแหละ ที่มีตะกร้าใหญ่ๆ อยู่หน้ารถน่ะครับ)
แต่คันนี้ ไม่มีตะกร้า มันพังไปแล้ว ก็เลยเอาออก
เบรกแตก
ที่ตั้งล้อ สปริงยาน แทบจะเอาตั้งขึ้นมาไม่ได้
มีซาก กริ่งจักรยานอยู่ตรงแฮนด์จับ ด้านซ้าย
เบาะนั่งหน้าหลัง สีขาว
มีสนิม ประปราย
ที่ผมจำได้ขนาดนี้ ก็เพราะผมก็ขี่อยู่เป็นประจำ ตอนที่ไปบ้านแฟน
กลับเข้าเรื่องนะครับ
พี่ยามก็วนรอบหมู่บ้านสักพักนึง แฟนผมรออยู่ที่ป้อม
พี่ยามกลับมา … เจอครับ !!! เจอจักรยานของแฟนผม คันที่ว่าตามที่เล่ามาเปี้ยบ … อยู่ไหน? … อยู่ที่บ้านนายทหารคนนึง
(รู้ได้ไงว่าเป็นบ้านนายทหาร …) ในหมู่บ้าน ประมาณกลางๆ หมู่บ้าน ไม่ไกลเท่าไร
….ไปดูมั๊ย?
ป้ะ …. ป่ะ ป่ะ ป่ะ ป่ะ (ตีปีก ไปเอาจักรยาน) … ไม่ใช่ละ
แฟนผมกับพี่ยาม ก็ไปบ้านนายทหารคนนั้น เพื่อขอเจรจา เอาจักรยานคืน
และแล้ว บุคคลที่ 3 หรือ ยัยฮวย ตามชื่อสมมติที่ได้ตั้งไว้ ก็ออกมาจากบ้าน … ออกมาคนเดียวครับ ทั้งบ้านมียัยฮวย อยู่คนเดียว
แฟนผมก็เริ่มประเด็นถามเลยครับ ขอตัดไปที่บทสนทนา เท่าที่จำได้ จากคำบอกเล่าของแฟน
แฟน: ขอโทษนะคะ พี่คะ ไม่ทราบว่าจักรยานคันนั้น ของพี่หรือเปล่าคะ (จริงๆ มันของกู!!!)
ฮวย: ใช่ค่ะ เนี่ย ซื้อมาตั้งนานแล้วนะคะ ตั้งแต่มาอยู่บ้านนี้ตั้งนานแล้วค่ะ
พี่ยาม: ……………….
แฟน: พี่คะ นั่นมันจักรยานของหนูค่ะ
ฮวย: ไม่ใช่นะคะ นี่มันจักรยานของบ้านนี้ค่ะ
พี่นะคะ จำได้เลยนะคะ
จักรยานคันนี้ สีม่วง… ที่นั่งสีขาว… ไม่มีเบรก… ที่ตั้งล้อเสีย… ไม่มีตะกร้า… ฯลฯ
จักรยานของบ้านนี้แน่ๆ ค่ะ !!!
พี่ยาม: ……………….
ขอคั่นบทสนทนา ด้วยความคิดของผมนิดนึงนะครับ … ยัยฮวย มันดูสภาพจักรยาน แล้ว มันก็พูดตามสภาพที่เห็น พร้อมโมเมจบท้ายประโยคด้วยคำว่า "เป็นของมัน" แน่ๆ ครับ
ต่อนะครับ
แฟน: พี่คะ ถ้าพี่ยืนยันว่าเป็นของพี่ แต่หนูยืนยันว่าเป็นของหนู งั้นพี่เอาจักรยานคันนี้ ไปให้ คุณลุงร้านเติมลมจักรยาน บอกเลยดีกว่า ว่าจักรยานนี้เป็นของใคร
ฮวย: ……….. (ไม่รู้ว่าพูดอะไรมั๊ย แต่ก็ตอบตกลง)
พี่ยาม: ……………….
ถึงตรงนี้ผมอยากชมแฟนผมจัง ว่า ฉลาดมากที่คิดถึง คุณลุงร้านเติมลมจักรยาน มาเป็นพยานบุคคลให้
เพราะคุณลุงแกย่อมจำได้แน่ๆ ลุงแกอยู่มานาน และจักรยานทุกคันในหมู่บ้านก็ต้องมาเติมลม กับแก … ถ้าที่ยัยฮวยพูดมาเป็นความจริงว่า จักรยานสีม่วงคันนี้เป็นของบ้านมัน
คุณลุงก็ต้องบอกว่าเป็นของมัน … แต่จริงๆ มันเป็นของแฟนโพ้ม!!! ใช้มานานมาก ตั้งแต่สภาพยังดี ยังมีตะกร้าไว้ใส่หมาเล่น ตอนนี้แม้แต่เบรกยังไม่มีเลย จะหยุดรถที ดอกยางรองเท้าแทบจะหมดดอก
ปรากฏว่า พอไปหาลุง…
ลุงไม่อยู่ …. แป่ว
จนถึงตอนนี้ผมจำเหตุการณ์ที่แฟนเล่าไม่ได้แล้วว่า ตกลงกันยังไง
สรุปได้ว่า
แฟนผมได้จักรยาน สีม่วง คืน
พี่ยาม พายัยฮวย ไปดูที่จอดจักรยานอีกครั้งที่หน้าหมู่บ้าน เผื่อว่า ยัยฮวย มันเกิดจำสลับกันขึ้นมา
เผื่อเผอิญว่าจริงๆ มีจักรยาน สีม่วง ลักษณะเหมือนกันเป๊ะ อยู่ 2 คัน แล้วยัยฮวย เกิดเบลอ … หยิบไปผิดคัน
เจอครับ !!! ยัยฮวย เจอจักรยานของตัวเอง พร้อมกับบอกพี่ยาม ว่า (แฟนผมก็อยู่ในเหตุการณ์)
ยัยฮวย: นี่แหละค่ะ คันนี้แหละค่ะ ใช่แน่ๆ จักรยาน สีเขียว !!!!! จักรยานของบ้านชั้น ชั้นจำสนิม ตรงนี้ได้ค่ะ !!!!
แฟน: ……………………….O_o !
พี่ยาม: ……………………..O_o !
เนียนมาก อีฮวย … ผม(กู) รับไม่ได้ …
ขอจบเหตุการณ์แต่เพียงเท่านี้
แต่เรื่องระหว่างผมกับแฟน พึ่งจะเริ่มต้นขึ้น
คือผมเถียงกับแฟน ว่า กรณียัยฮวยเนี่ย ทำไมแฟนผมไม่เอาเรื่อง ตอนแรกแค่กะถามเล่นๆ
แต่แอบแทรกความคิดส่วนตัวผมไปหน่อยนึงว่า
"ถ้าเป็นผม ผมอยากจะติดประกาศหน้าบ้านยัยฮวยไปเลย ว่าบ้านหลังนี้ มีคนชอบขโมยจักรยาน
ไม่ก็ ติดประกาศหน้ายัยฮวย ไว้ที่ป้อมพี่ยาม อย่างน้อยก็ให้ระวังยัยฮวย นี้แอบเนียนหน่อย"
แต่แฟนผม ไม่อยากถือสาเอาความไม่อยากให้เรื่องยาว ทำลืมๆ มันไป โดยให้เหตุผลว่า ยัยฮวย อาจจะลืมจริงๆ ก็ได้
ผมก็พอจะเข้าใจความรู้สึกแฟนที่ไม่อยากเอาความ
แต่ประเด็นที่ผมพูดกับแฟน น่ะคือเรื่องพฤติกรรมยัยฮวย
มีอย่างที่ไหน บอกจำได้ แต่ตอนแรก บอกจักรยานตัวเองสีม่วง ตอนหลัง พอรู้ว่าเถียงไม่ออก ดันบอกเป็นสีเขียว !!!
แถมจำรอยสนิมได้ด้วย !!!! ใช้ตายเถอะ คนเราจะจำจักรยานตัวเองไม่ได้จำที่รอยสนิมก่อนเป็นอันดับแรก นะครับพี่ท่าน
เดาได้เลยว่า อีฮวย มันเนียน กับจักรยานสีเขียว มีสนิม อีกแล้ว … แล้วพี่ยามก็ปลดล็อกจักรยานสีเขียวไปให้ขี่เล่น ด้วยนะ
ผมก็บอกกับแฟนว่า ไว้ใจคนแบบนี้มากเกินไป … ไม่ควรนะ
ยัยฮวยอาจจะขโมยจักรยานแฟนผม เป็นครั้งแรก
แต่ยัยฮวยอาจจะขโมยจักรยาน ของใครก็ไม่รู้มาอีกกี่คันแล้วก็ไม่รู้ …. ก็เป็นได้
ถ้าเป็นผม … ผมไม่ยกโทษให้
ผมยืนยันครับ จากปากคำบอกเล่าของแฟนนะครับว่า ยัยฮวย ไม่ใช่คน "สติไม่ดี" ครับ พูดจารู้เรื่อง … แต่ความเนียนนี่ …. เอือมระอาจริงๆ
แล้วแฟนผมก็ทะเลาะกับผมเลยครับ
แฟนผมบอกว่า เธอน่ะ "คิดบวก" …. ผมก็เถียงว่า "มันไม่ใช่เรื่องคิดบวก ไม่คิดบวก แล้ว …. นี่มันเรื่องการโจรกรรม"
"ถ้าที่ยัยฮวย ขโมยน่ะ ไม่ใช่จักรยาน(ซึ่งยืมเพื่อนบ้านมา) แต่เป็นโน๊ตบุ๊ค(ซึ่งเป็นของแฟนผมจริงๆ) ที่มีข้อมูลสำคัญมากๆ ตัวเอง(แฟนผม) จะเอาความมั๊ย จะโมโหมั๊ย?"
แฟนผม บอกว่าจะโมโห ถ้าเป็นเรื่อง ของ โน๊ตบุ๊ค
O_o !
แล้วเรื่องระหว่างผมกับแฟน บัดนี้ก็ยังไม่ลงตัวกันครับ
…. แฟนผมบอกว่าถ้าเป็นคนอื่น เค้าก็ไม่เอาความกันนะ …. คนอื่นๆ ที่ว่าคือ เพื่อน ๆ ใน facebook ของเธอ
ให้ผมไปหา reference จากคนอื่นๆ มาเพิ่มเลยว่า คิดยังไงกันกับเรื่องนี้ … แล้วค่อยมาเถียงกับเธอ อีกที – -”
ตอนนี้กลุ้มใจปนโมโห จังเลยครับ
อยากทราบความเห็นของพี่ๆ ชายคา เกี่ยวกับ กรณี "ยัยฮวย เนียนขโมย จักรยาน" จังเลยครับ ถ้าจะกรุณา
ขอบพระคุณปิดท้ายครับ
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
… โหวต … กรณี "ยัยฮวย เนียนขโมย จักรยาน"
พิมพ์ "ยฮนขจ" ตามด้วยหมายเลข 1 ….ถ้าต้องการโหวตว่า "ยัยฮวยผิด และควรเอาเรื่อง"
พิมพ์ "ยฮนขจ" ตามด้วยหมายเลข 2 ….ถ้าต้องการโหวตว่า "ยัยฮวยผิด แต่ไม่ควรเอาเรื่อง"
พิมพ์ "ยฮนขจ" ตามด้วยหมายเลข 3 ….ถ้าต้องการโหวตว่า "ยัยฮวยผิด แต่ไม่ขอออกความเห็น รักนะจุ๊บ จุ๊บ"
พิมพ์ "ยฮนขจ" ตามด้วยหมายเลข 4 ….ถ้าต้องการโหวตว่า "มีความเห็นอื่นๆ แต่ไม่อยากแสดงออก"
พิมพ์ "ยฮนขจ" ตามด้วยหมายเลข 5 ….ถ้าต้องการโหวตว่า "มีความเห็นอื่นๆ และอยากบอกว่า …." (พร้อม ความคิดเห็น)
ล้อเล่นนะครับ ไม่ต้องพิมพ์โหวต ก็ได้นะครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ
ยฮนขจ 4
^^"
ขอ แสดงความคิดเห็นนิดนะครับ
อย่าทะเลาะเรื่อง "ที่คนอื่นทำ" เลยครับ
จะกลายเป็นเรื่อง "จักรยานคันเดียว" (เหมือนน้ำผึ้งหยดเดียวแต่ จักรยานมันใหญ่กว่า 555)
แนะนำติดสัญญาณกัน ขโมย …55หรือแอบทำเครื่องหมาย ลับ ไว้แล้วถ่ายรูปเก็บไว้…กับมือถือ หรือถ่ายรูปคู่กับจักรยาน ไปเลย
ยฮนขจ 2 ดูพฤติกรรมอีกครั้งถ้า ยฮขจ จะโหวต ยฮนขจ1
ทำไมไม่ทำเป็นกระทู้กดโหวตเลือกล่ะ จะได้นับง่ายๆ
เราว่าน่าจะตามเรื่องกับประธานหมู่บ้านดีกว่า เสนอให้เค้าเปลี่ยนวิธีรับฝากจักรยานให้มันปลอดภัย
กว่านี้ ขืนยังใช้วิธีการเดิมๆ แบบนี้ ปัญหาเดิมๆ มันก็วนเวียนเกิดขึ้นไม่จบค่ะ
ยาวน่ะ เจอจำเลยแล้ว
แต่เราเชื่อว่ายัยฮวยจำผิดจริง ไม่ได้มีเจตนาลักขโมย
สีคล้ายๆกัน จำผิดได้เสมอ
ศาลชั้นต้น(โพธิ์)ตัดสินยกฟ้องยัยฮวย
และัขอแนะนำคุณ นำรถไปทำสีให้เลอะๆ เป็นเอกลักษณ์แบบคันเดียวในโลกซะ
แนะนำอีกที เอาโซ่เส้นเล็กๆผูกแฮนด์คล้องกุญแจไว้ก็ได้
จากข้างบนที่ศาลตัดสินมา แนะนำให้ลืมเรื่องนี้ซะ หรือไม่ก็ไปขอโทษเธอได้ด้วยยิ่งดี
ไม่ควรลืมสัจจธรรม คือเรื่องจริงสองข้อที่ว่า
๑ แฟนหรือภริยา คือผู้ถูกเสมอ อย่าคิดเอาชนะแฟน
๒ หากไม่มั่นใจ ไปอ่านข้อ ๑ อีกครั้ง
ยฮนขจ 2 เกิดยายฮวยป้ำๆเป๋อๆจริงๆ ลองให้โอกาสดูค่ะ คุณจะได้ไม่ต้องทะเลาะกับแฟนด้วย (แก้ปัญหาด้วยวิธีสันติไปก่อน หนแรก)
ถ้าเป็นผม จะเอาสายยูล๊อคจักรยานไว้ด้วยอีกชั้นหนึ่ง ถึงยามจะปลดล๊อคให้คนที่อาจจะจำผิดไปได้ เขาก็เอาไปขี่ไม่ได้อยู่ดี และแสดงให้ยาม(ซึ่งที่นี้ เราไม่ควรคาดหวังอะไรมากกับเขา)รู้ว่าผู้ที่มาเอาจักรยานไป ไม่ใช่เจ้าของตัวจริง
เรื่องง่ายๆเน๊อะครับ ^-^ บางทีก็คิดไม่ออก ฝากไปบอกแฟนคุณจขกท.ด้วยแล้วกันนะครับ
พิมพ์ "ยฮนขจ" ตามด้วยหมายเลข 2 ….ถ้าต้องการโหวตว่า "ยัยฮวยผิด แต่ไม่ควรเอาเรื่อง"
ยฮนขจ 5
อยากบอกให้ลืมเรื่องยัยฮวยไปก่อน เพราะเท่าที่อ่านดูแล้ว แกอาจไม่ได้มีเจตนา คนแกอ่ะค่ะ ป้ำๆเป๋อๆเป็นเรื่องธรรมดา บางทีแกอาจจะตาบอดสีด้วยใครจะรู้ . . .
ในเมื่อกรณีนี้เกิดขึ้น ประธานหมู่บ้าน และพี่ยามก็รับรู้แล้ว ปัญหาแบบเดิมก็อาจเกิดขึ้นได้อีก
ทำไมคุณไม่ลองปรึกษาหาวิธีป้องกันกับประธานหมู่บ้านดูละคะ จะได้ไม่เกิดเหตุแบบนี้เอง
จริงๆคุณเองก็ใจเย็นไม่ต่างกะแฟนคุณนะ ปล่อยให้หายมาตั้ง3คัน เพิ่งจะมาโกรธกันก็คันนี้ (รึเปล่า??)
อย่าทะเลาะกันเพราะคันที่ตามหาเจอเลยค่ะ ^^
ผมว่าแก ไม่ตั้งใจนะ…เหมือนหยิบผิดมากกว่า
แค่ฝากพี่ยามให้ระวัง คนๆนี้ไว้ก็น่าจะพอนะครับ
ส่วนเรื่องที่อื่นๆ…ก็ปล่อยวางเถอะครับ
สิ่งที่สำคัญ คือ "ชีวิตคู่" ของคุณมากกว่า
เพราะ ถ้าคุณไม่ปล่อยวาง
เรื่อง(เกือบจะ)ไม่เป็นเรื่องนี้แหละ…อาจจะนำไปสู่ การเอาชนะ ถกเถียง กระทั่ง…ทะเลาะ
และอาจจะกลายเป็นจุดแตกร้าวเล็กๆ ในชีวิตคู่ของคุณกับแฟนก็ได้…ใครจะรู้?
ผมว่ายายฮวยแกจำผิดจริง ๆนะครับ ถ้าแกจะขโมย คงเลือกคันใหม่กว่านี้และไม่เอามาจอดโชว์หน้าบ้านหรอกครับ แกมั่นใจว่าเป็นของแกไงครับแกเลยกล้านั่งยันนอนยัน ผมเลือก ยฮนขจ 2 เลิกทะเลาะกันได้แล้วครับ
ผมไม่รู้..(ทำเสียงสูง)
เขาให้เฝ้า ก็เฝ้าอย่างเดียวค้าบบบบ
จากยาม..(ที่ไม่มีบทพูดเลยคนนั้น)
รักแฟนบูชาแฟน แฟนถูกเสมอ ท่องไว้ มีเรื่องกับนายทหารเด็กๆ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เวลาผู้หญิงมีเรื่องกัน ห้ามผู้ชายเข้ามายุ่ง เพราะจะกลายเป็นเรื่องใหม่ และเรื่องใหญ่
เรื่อง ยฮนขจ ในแง่หนึ่ง เมื่อคุณคิดว่าจับได้ หนนี้หนแรก แล้วสภาพจักรยานโทรมออกอย่างนั้นตามที่คุณเล่ามา ไม่มีเหตุจูงใจ ให้มีความอยากได้ ควรให้อภัยเค้าหน่อยนะครับ ถ้าคิดในแง่บวก คือเค้าไม่มีเจตนา เพราะจักรยานดันไปจอดในที่ สาธารณะแล้วคุณเป็นคนบอกว่า ใครๆก็บอกให้ปลดล๊อกได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่แสดงว่า มีโอกาสผิดพลาดแล้วเกิดการสูญหายจากความพลั้งเผลอของยามได้
ส่วนที่คุณเล่าว่า ถ้า ยฮนขจ คนนี้ เอาโน้ตบุ๊คไป คิดยัง กรณี ผิดไปจากเรื่องจักรยานไปมากโข เพราะ โน้ตบุ๊ค ย่อมติดตัวไปกับ แฟนเจ้าของกระทู้ ไม่ได้เอาไปฝากกับ ยาม อยู่ในที่รวมๆกันแบบนั้น ฉะนั้น ถ้าเกิดโน้ตบุ๊ค ไปอยู่ในความครอบครองของ ยฮนขจ แล้วละก็ ผมพึงสันนิฐานว่ามีเจตนาจะเอาของไปแล้วนะครับ ฉะนั้น กรณีที่ยกตัวอย่าง เป็นสถานการณ์คนละอย่างกัน เทียบกันไม่ได้
แล้วถ้าระแวงว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง กับ สภาพจักรยานตามที่คุณเล่ามา คุณควรจะไปทำสีใหม่ไปเลย(กันไว้ก่อน) เหมือนที่ คุณต้นโพธิ์ต้นไทร นำเสนอโดยออกแบบ แฮนด์สีชมพู ตัวจักรยานสี เหลือง ล้อ สีเขียว ที่นั่งสีแดง แค่นี้ ใครๆ ก็จะรู้ว่า เป็นจักรยานของคุณอยู่แล้ว ต่อให้ตาบอดสี ก็คงไม่ตาบอด สาม สีพร้อมกันหรอก นะครับ
ปล. ถ้าความคิดเห็น ผมจาบจ้วงอันใดต่อ จขกท ขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วยครับ
แนะนำค่ะ ไม่เกี่ยวกับยาฮวย นะค่ะ
เขียนเลขที่บ้าน หรือไม่ก็ชื่อ หรือไม่ก็สัญลักษณ์อะไรก็ได้ที่ใต้เบาะ
หรือจุดที่ซ้อนเร้น (คงพอนึกออกนะค่ะ – -") ดีมั้ยค่ะ
ป้องกันไว้ เผื่อมียายฮวย 2 หรือ ยายฮวย 3 โพล่มา
จะได้ไม่ต้องมาสืบพยายาน หรือหาหลักฐานให้ยุ่งยากนะค่ะ
ถ้าเจอยายฮวย 2 แบบไม่ยอมง่ายๆ ขึ้นมา หรือพอได้จักรยานไป
เอาไปแปรสภาพให้ใหม่กิ๊กขึ้นมา อาจไม่ได้จักรยานคู่ยากคืนมาก็ได้นะค่ะเนี่ย
แค่แนะนำนะค่ะ เผื่อมีอีกจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาก
ปล.ยายฮวยแนวๆ นี้ มีอีกเยอะค่ะ แรงกว่านี้ก็เคยเจอ
เป็นเรา จะเอาที่ล็อคไปเองด้วย ยามเค้าก็ทำหน้าที่ไป เราก็ล็อคของเราไป โอเคดีนะ
"ยฮนขจ" ตามด้วยหมายเลข 5 ….ถ้าต้องการโหวตว่า "มีความเห็นอื่นๆ และอยากบอกว่า …."ผิดที่ยาม"
ที่หมู่บ่านผมนะ ก็มีที่จอดจักรยานเหมือนกัน ไม่มีคนคอยล๊อกให้
ของคนอื่นไม่รู้เขาล๊อกกันหรือเปล่านะ แต่ของผมนี่ ตอนกลับเข้าบ้านนั่งแท็กซี่มา เลยลืมไว้ จอดทิ้งไว้เป็นอาทิตย์ ล้อก็ไม่ได้ล๊อก
ไม่เห็นมันหายไปไหนเลย
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หาซื้อบ้าน ต้องเลือกซื้อเพื่อนบ้านด้วย
ขำอ่ะ
จขกท ควรไป เขียน บทละครให้พวกละครหลังข่าวดูครับ
เขียนได้ ดีมาก
การอันควรจบ เพียงสั้น สามารถเขียนได้ยาว ถึงเพียงนี้
นับถือจริงๆ ครับ
สิ่งที่น่าเขกกระโหลกมากกว่ายายฮวย ก็คือ ระบบการฝากจักรยานหมู่บ้านคุณล่ะครับ เฉพาะของคุณหายไป 3 แล้วคนอื่นอีกไม่รู้เท่าไร ก็ยังดันทุรังรับฝากรถแบบนี้อีก
เรื่องนี้ไม่ต้องไปดูถึงยายฮวยหรอกครับ เพราะอาจเป็นขโมยจริง หรือ หลงลืม ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้
แต่ที่พิสูจน์ได้แน่ ๆ ก็คือ ระบบฝากรถล้มเหลว คุณควรเอาเวลาที่จะหักล้างเหตุผลกับแฟนคุณ ไปจัดการกับไอ้ระบบรับฝากรถจะดีกว่าไม๊ เพื่อสังคมส่วนรวม รวมถึงตัวคุณจะได้ไม่เดือดร้อนอีกในวันข้างหน้า
ยาว
ก่อนอื่นขอแสดงตัวค่ะว่า เป็นบุคคลที่ 2 เองค่ะ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะคะ และขอโทษด้วยที่แฟน(ที่ไม่ได้ปรึกษาว่าจะมาโพสอะไรอย่างนี้)
จริงๆแล้วเรื่องมันก็ไม่เป็เรื่องเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ด้วยความที่จักรยานเคยหายเลยต้องติดตามจิกกันหน่อยแบบนี้แหล่ะคะ
ด้วยความมีประสบการณ์จักรยานหายมาโชกโชน ทั้งที่ล็อคเองแล้ว จักรยานเก่าพังแล่มิพังแล่ก็แล้ว ก็ยังหายค่ะ อันนี้ก็เข้าใจค่ะเพราะถ้าคนที่มันตั้งใจขโมยยังไงมันก็เอาได้อยู่ดี
ส่วนเรื่องฝากรถกับยามนี่เคยไปถกประเด็นนี้กับกรรมการหมู่บ้านเหมือนกันค่ะ ว่ามันไม่เวิร์คเลยไอ้ระบบแบบนี้เนี่ย แต่ยามเค้าก็บอกถ้าจะให้ทำเป็นบัตรเหมือนฝากกระเป๋าก็ยุ่งยาก(โดยส่วนตัวเราไม่ยุ่งนะ วิธีง่ายๆด้วยซ้ำ) แต่ก็อย่างว่าค่ะไม่มีเสียงสนับสนุนจากลูกบ้านคนอื่นเสียงน้อยๆก็เงียบหายไป แต่ผลจากการโวยครั้งแล้วครั้งเล่าเข้าก็ไปซื้อกล้องวงจรปิดมาคะ แต่ก็ยังไม่ติดเท่าทุกวันนี้ (ไม่เข้าใจเหมือนกันเพราะอะไร)
แต่ด้วยความที่ครั้งนี้ตัวเองก็เผลอเลอไม่รอบคอบล็อคจักรยานตัวเองอีกชั้นด้วยแหล่ะค่ะ เลยทำให้มีคนหยิบผิดไป
เราเองก็คิดว่าพี่เค้าไม่ได้เจตนาค่ะ แต่ที่พูดอ้างอย่างโน้นนี้เพราะเป็นการปกกันตนเองโดยสัญชาตญาณคะ ก็เข้าใจ แต่สุดท้ายแล้วแกก็จำรถแกได้แล้วคืนรถให้เราเราเองก็พอใจแล้วค่ะ
เดี๋ยวว่าจะลุกขึ้นมาประดับรถตัวเองซะใหม่เอาแบบใครเห็นต้องจำได้ว่าใครเคยถีบ แล้วก็จะหาโซ่มาล็อกล้ออีกชั้นค่ะ
ยฮนขจ 3. ครับ แถมด้วย 3 กิฟ อ่านสนุกดี
อ่านด้วยความ งุนงง
พอรู้ว่า มี จั๊กกะยาน อยู่ 2 คัน สีไกล้เคียงกัน ก็ เชื่อว่า น่าจะเป็นการ หยิบผิดคัน มากกว่า การขโมยครับ
อ่านสนุกดีจังค่ะ
ขำ มุก ที่ให้กดโหวต (คิดได้ไง)
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า " หากเรามีจักรยานไม่ว่าจะใหม่หรือเก่า
จักรยานของเราอาจจะเป็นจักรยานของคนอื่นได้ "
เราว่าคุณควรจะมีกุญแจของคุณอีกดอกคะ ไม่ควรพึ่งยามทั้งหมด เพราะว่าถ้าเค้าไม่ละเอียด หรือสนิทพอ เค้าจะจำไม่ได้หรอกคะว่าของใคร เพราะคนฝากอาจจะเยอะ
ส่วนเรื่องคุณกับแฟน ก็ให้มันจบ ๆ ไปดีกว่า ของก็ได้คืน อย่าให้อารมณ์เสียเลยคะ เสียสุขภาพเปล่า ๆ
มันคงตาบอดสีน่ะครับ ตอนแรกบอกสีม่วง พอตอนจะถูกจับได้ว่าโกหกบอกสีเขียว นี่คือนิยามการทำผิดแบบไม่ตั้งใจ คุ้นๆนะ นายก…ก็เคยใช้
เป็นเราหาโซ่ไปคล้องอีกชุดตั้งแต่หายคันแรกแล้ว
ขอบคุณทุกความเห็นมากๆ เลยครับ
ไม่ได้แวะมาตอบ ตั้งนาน คุณแฟนแย่งตอบแทนไปเสียแล้ว