เมื่อ 20 ปีก่อน ตอนรับปริญญา(ใบแรก) ผมจำได้ว่า ผมอยากได้ "ปากกาสวยๆซักด้าม" เพื่อจะได้จดงานตอนเวลาทำงาน
คำค้นหา:
- ของขวัญรับปริญญา pantip
- ของขวัญวันรับปริญญา pantip
- ของขวัญรับปริญญา
- ของขวัญวันรับปริญญาเก๋ๆ
เมื่อ 20 ปีก่อน ตอนรับปริญญา(ใบแรก) ผมจำได้ว่า ผมอยากได้ "ปากกาสวยๆซักด้าม" เพื่อจะได้จดงานตอนเวลาทำงาน
ณ ตอนนี้ เมื่อหลานคุณได้รับปริญญา (ใบแรก) เหมือนกัน คุณคิดว่าเธอคนนั้นอยากได้สิ่งนี้มั้ย
หรือว่า
ถ้าเป็นสิ่งนี้ล่ะ
และอีก 20 ปีข้างหน้า เมื่อลูก(ผม) รับปริญญา(ใบแรก) เหมือนกัน(อีกครั้ง) สิ่งที่เธออยากได้ คงเป็น… หรือเปล่า ^_^
mountblanc สักด้าม
ผมได้ แหวน นาก สะกดแบบนี้เหรอเปล่าไม่แน่ใจ แต่ พลอยเป็นทับทิม ชอบมาก เลย วงใหญ่ กำลังดี (ของตา)
กลัวจะเหมือน จขกท เลยครับ ลูกชาย 2 เลย
วันที่ผมรับปริญญา ผมได้ รอยยิ้ม และแวดตาที่เปี่ยมสุข
ของคุณพ่อคุณแม่ และปู่ย่าตายายผมเป็นของขวัญ
ที่มีค่าไม่รู้ลืม
และแล้ว ผมก็ได้มอบสิ่งนั้นให้ลูกชายผมไปแล้ว
คห.5: Montblanc(มองบลังก์) ยังโอนะ แต่ถ้าเป็น มองแล้วอยากได้ไปหมด(คุณพ่อ) ก็หนาวล่ะะะะ
คห. 6: ดีครับ จะได้เป็นสมบัติสืบทอดต่อไป :)))
คห.ที่ 7: ยินดี(ย้อนหลัง) ด้วยนะครับ
ได้รอยยิ้มของคนในครอบครัวมาค่ะ แต่ว่าถ้าเป็นสิ่งของใหญ่ๆ เช่น บ้าน อยากหาเองมากกว่า เพราะว่าอยากทำให้ที่บ้านรู้ว่าหากไม่มีท่านแล้ว เราก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่ลำบาก (แต่อาจอัตคัด) ^^
รอยยิ้มจากครอบครัว ความภาคภูมิใจ ตีเป็นค่าเงินหรือทองไม่ได้ครับ
มันมากมายมหาศาลเหลือคณานับ..
และนี่ คือสิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดครับ
คนที่ร่ำเรียนจนได้รับ ปริญญาบัตร
อย่าได้คิดว่า จะได้อะไรจาก ครอบครัว หรือคนรอบข้าง จงคิดว่ามันคือหน้าที่ของเราที่เราจะต้องทำให้ได้ ในเมื่อ พ่อแม่ หรือครอบครัว เค้าได้ทำหน้าที่ของเค้าแล้ว คือส่งให้เราร่ำเรียน แต่เรากลับตั้งเงื่อนไข กับพ่อแม่ว่า ถ้าให้ของขวัญ แล้ว จะเรียนให้ดีขึ้น หรือ ถ้าไม่ให้ ก็ไม่อยากตั้งใจเรียน เราว่ามันไม่ใช่
การที่เราจะตั้งใจเรียน หรือไม่ ผู้ปกครอง ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยกับตรงนี้ ถ้าเรียนดี ตั้งใจเรียน มี่ความรู้ดี ก็จะได้เจอสิ่งดี ๆ ได้ทำงานดี ๆ
แต่ถ้าไม่ตั้งใจเรียน เรียนไม่ได้ เรียนตก ซ้ำชั้น ก็ไม่มีใครอยากจะร่วมงานกับคุณหรอก
เห็นมั้ยว่า ผลตอบแทน ก็คือตัวเราเองเท่านั้น ผู้ปกครอง ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้ปกครองเองก็ด้วย อย่าคาดหวังกับเด็กให้มาก
อย่าชักจูง ในทางที่ผิด อย่าให้การให้ของขวัญ ต้องกลายมาเป็นกฏ กติกา ในการที่จะทำให้เด็กเรียน ดี หรือไม่ดีเลย
ทำหน้าที่ของใครของมันให้ดีที่สุดดีกว่า
ความภาคภูมิใจ และรอยยิ้ม น่าจะเป็นสิ่งเดียว
ที่ผู้ได้รับปริญญา จะรู้สึก ดี และภูมิใจที่สุด ที่ได้รับมา
วันรับปริญญาของเรา เราได้เห็นรอยยิ้มแบบมีความสุขและภูมิใจสุดๆ ของพ่อกับแม่
เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆ ของขวัญอย่างอื่น เทียบค่าไม่ได้เลย
เมื่อเกือบจะ 20 ปีก่อนเหมือนกัน ตอนเรารับปริญญา เหมือนเราได้ 2 เด้ง เพราะเรารับตรี 1 ใบ รับโทต๊องอีก 1 คนที่อยู่ในพุงเรา
ในวันที่เราเรียนจบ วันที่เรารับปริญญา ของขวัญที่อยากได้ที่สุดคือรูปถ่ายที่มี พ่อแม่เราและน้อง อยู่ในรูป แต่ก็ไม่ได้อย่างที่คิดเพราะพ่อไม่สบายไปด้วยไม่ได้ เฮ้อ… แต่ก็เอาเถอะยังไงก็ยังมีรูปที่ไปถ่ายด้วยกันทีหลัง…
แค่คนที่รักมางานก็ รู้สึกดีมากมาย … ชีวิตยังอีกยาวไกล เดินทางกันต่อไปเนอะ…
รอยยิ้มของพ่อแม่และสายตาที่มองเราด้วยความภูมิใจ แค่คิดน้ำตาก็จะไหลแล้วค่ะ
ตอบในฐานะลูกนะคะ..
สำหรับบ้านเรา ตอนรับปริญญาไม่มีงานเลี้ยง ไม่มีของขวัญ มีแต่รอยยิ้ม
ครอบครัวร่วมกันถ่ายรูป แค่พ่อกับแม่พูดว่า "เก่งลูก จบตามเวลาที่เค้ากำหนด"
แค่นี้ก็ดีใจมากๆ
ตอนรับปริญญา ป.โท สิ่งที่ดีใจที่สุดคือ.. ยาย อายุ 84 ค่ะ เดินไม่ค่อยจะไหว
ไปถ่ายรูปกับเราที่มหาวิทยาลัย
ก่อนหน้านั้น บอกว่า ไม่ไหวๆ แก่จะตายแล้ว เป็นลมเป็นแล้งไป
สมัยเราจบ ป.ตรี (ปี 42) บอกยายว่า อย่าเพิ่งไปไหนล่ะ รอไปงาน ป.โท ก่อน
ยายบอกว่า โอ้ย..ไม่รอหรอก ตอนนั้นไปสวรรค์หรือนรกแล้ว ..
ในที่สุด ป.โท (ปี 52) ยายก็ไปถ่ายรูปกับเรา แม่บอกว่า..ยายไปทำผมแต่เช้า
เอาชุดมาจาก ตจว. ถามแม่ว่าสีไหนสวยกว่ากัน..
เราไปรอครอบครัวที่มหาวิทยาลัยก่อน.. ในที่สุด ยายก็มาค่ะ ดีใจมากๆ
ถ่ายรูปได้ครึ่งชัวโมง พ่อก็พากลับบ้าน.. ^^
ตอนนี้น้องสาว..บอกยายว่า..ยายอย่าเพิ่งไปไหนนะ รอหนูรับ ป.ตรี ก่อน 55
^_^
เห็นรูปคุณ extrajeab แล้วนึกถึงย่ากะยายเราจัง
ตอนนั้นจำได้ว่าไม่อยากได้อะไรเลย
แค่อยากให้คนที่เรารักอยู่กันครบ
ตอนรับป.โทก็ครบจริงๆ รูปนี้ไปถ่ายกับย่าที่ รพ.
เอาเสื้อมาให้ย่าเปลี่ยนเสร็จสรรพ น่ารักที่สุดย่าฉัน
ปล.คุณย่าเพิ่งเสียไปเมื่อต้นปี 3ปีหลังจากถ่ายรูปนี้ คิดถึงย่าจัง
นึกถึงย่าเหมือนกันแฮะ …
ตอนผมรับปริญญาตรี พ่อโทรมาบอกว่า ดีใจด้วย ไอ้ลูกหมู (ตอนนั้นเรียนอยู่ต่างประเทศ)
แค่ได้ยินพ่อพูดแค่นี้ ร้องไห้เลยครับ
พอจบปริญญาโท ไม่มีใครมา หรือโทรมา เนื่องจากโตๆ กันแล้ว แอบเศร้านิด ๆ
ตอนบินกลับเมืองไทย บอกแค่พี่ชายให้ไปรับหน่อย เพราะว่าของเยอะ
ที่ไหนได้ พ่อผมมารอตั้งแต่ 2 ทุ่ม เครื่องลง 3 ทุ่มครึ่ง
แถมเครื่องดีเลย์อีก กว่าจะลงก็เที่ยงคืนอีก
ออกจากเกท มาพ่อยืนรอรับอยู่ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันเกือบ ห้าปีเต็ม ร้องไห้โฮเลยครับ
แถมแม่บอกว่า พ่อไม่ยอมไปไหนเลย ยืนรอมา 4 ชม.แล้ว กลัวลูกออกมาแล้วไม่เจอใคร