อีก 3 ปี ผมจะสี่สิบ มีลูกวัย 2ขวบกำลังจะเข้าโรงเรียน รายได้รวมภรรยา 6 หมื่น
ส่วนรายจ่าย
รถยนต์ พึ่งผ่อนหมด
มีภาระบ้านอยู่ 2 หลัง
หลังแรก อยู่เองเล็กๆ ตั้งแต่ห้าปีที่แล้ว สามสิบ ตรว. ทำทุกอย่างจนมีอุปกรณ์ภายในบ้านที่อย่างครบครัน มีหนี้คงค้าง 1 ล้าน
หลังสอง เป็นทาวน์เฮาส์ มีหนี้คงค้าง 1 ล้าน ปล่อยให้เช่า ก็มีรายได้เดือน 5500
ตอนนี้ ผมอยากได้บ้านเดี่ยว ที่ถูกใจทุกอย่างทั้งทำเล ตัวบ้าน เลยมีความคิดจะขายบ้านหลังแรกที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ หักนี้สินจะเหลือประมาณ 7 แสน บวกเงินเก็บอีก 2 แสน เพื่อไปซื้อบ้านหลังละ 3 ล้านสี่ ซึ่งก็จะต้องทำให้เป็นหนี้ธนาคารประมาณซัก 2.5 ล้าน
แต่ก็ลังเลคิดไม่ตกว่า หาเรื่องใส่ตัวหรือป่าว ก็ขอถามความเห็นสมาชิก ชายคา ว่าเป็นท่าน ท่านจะทำอย่างไร
1.อยู่หลังเดิม เล็กๆ ไม่มีภาระอะไรมาก เอาเงิน ไว้กิน ไว้เที่ยวดีกว่า
2.ขายไปเลย แล้วซื้อใหม ชีวิต ไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไป ถ้าไม่ซื้อ ก็ไม่มี
ส่วนตัวเลือกที่นอกเหนือจากสองข้อนี้ ฝากสมาชิกชายคา เสนอความเห็น จะเป็นพระคุณมากครับ
ถ้าหลังปัจจุบันถึงจะเล็กอยู่แล้วอบอุ่นดีไม่มีปันหาอะไร ผมเลืกข้อหนึ่งครับ
ถ้ามีกำลังสู้ไหว ทำได้ทำครับ อายุยังไม่เยอะ เดี๋ยวพออายุมากเข้า จะคิดการอะไรก็ไม่ทันซะแล้ว
แต่ไม่ควรตึงจนเกินไป อนาคตไม่มีอะไรแน่นอน เผื่อเจ็บไข้ได้ป่วยไว้บ้าง
คำว่า"พอเพียง" อะไรนั่น สำหรับคนมีอันจะกินพูดกับคนไม่มีจะกิน หรือคนรวยพูดกับคนจนนั่นเอง ว่าเองควรพอแค่นี้
ห้ามเกินหน้าเกินตาข้าพเจ้า ที่จนก็จนต่อไปแค่พอมีพอกินไปวันๆพอ ห้ามสะเออะ
ประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย ใช้อย่างเต็มคุณค่า จะเหมาะสมกว่า
เงินออมหลังเกษียณละครับ
หากเป็นภาระเพิ่มแล้วไม่เดือดร้อนเรื่องเงินเก็บหลังเกษียณก็น่าลุยครับ
ตรรกะวิธีการคิดเเต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน อีกอย่างเรื่องนี้เป็นเรื่องชีวิตส่วนตัวของคุณ การปรึกษาเรื่องเเบบนี้ผมว่าคุณควรที่จะปรึกษากับคนที่นอนเตียงเดียวกับคุณมากที่สุด
ถ้าการทำงานต้องยึดหลักตั้งเป้าหมายให้สูงแล้วพุ่งชน ไม่ควรพอเพียง หาเงินให้มากเท่าที่จะมากได้ หาอะไรใหม่ๆ ไอเดียใหม่ๆมาลงทุนให้มันก่อรายได้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
แต่กรณีนี้มันจำเป็นหรือยังล่ะ ถ้ายังไม่จำเป็นมากก็อย่าพึ่งซื้อ เพราะมันไม่ก่อรายได้ เก็บเงินไว้ลงทุนอย่างอื่นที่ก่อรายได้ดีกว่า ถึงวันนั้นรวยมากขึ้นแล้วก็ค่อยซื้อ
อย่าพอเพียงในการทำงาน หาเงินครับ มีช่องทางลงทุนต้องทำ ต้องขยายไปเรื่อยๆเท่าที่จะทำได้
คุณ 35 yearsold ตอนนี้คงจะเป็น 37 แล้วมังค่ะ มีข้อแนะนำนิดนึง เดี๋ยวประมาณปีถึง2ปี คงต้องใช้กะตังเรื่องโรงเรียนลูกอีกเยอะค่ะ เพราะคนเป็นพ่อแม่คงต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา
ถ้าบ้านที่อยู่ปัจจุบันไม่มีปัญหาใด ๆ เช่นตัวบ้าน สิ่งแวดล้อมรอบตัวบ้าน การเดินทาง ความปลอดภัย ควรอยู่ที่เดิมดีกว่าเพราะถ้าย้ายจะทำให้มีหนี้เพิ่มขึ้น และจะแน่ใจได้อย่างไรว่าดีกว่าที่เก่าถึงแม้บ้านอาจจะใหญ่กว่า ลองเปรียบเทียบกันดูนะคะ การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ
อยากเอาไว้ก่อนหิวค่อยกิน
ที่ดินไม่สามารถผลิตเพิ่มได้
มูลค่ามีแต่จะสูงขึ้นไปตลอด
บ้านเป็นหน้าตา..เป็นศักดิ์ศรีของครอบครัว
ผมมีบ้านหลังแรกตอนอายุสี่สิบกว่าปี
ตอนนี้ยังอยากสร้างอีกสักหลังที่สวยงามตามฝัน
ถ้ายังมีโอกาสมีความสามารถ …อยากให้เดินหน้า
กาลข้างหน้าบ้านในทำเลดียิ่งหายาก ลูกหลานอาจไม่มีโอกาส
…บ้านเหมือนอนุสาวรีย์ของเรา สร้างให้ดีที่สุด
…อีกสามปีจะสี่สิบ …
…สู้ต่อครับ …
…หลังปัจจุบัน ให้เช่าครับ …
…ยื่นกู้ ซื้อใหม่ …
…หมดโปร เอาบ้านที่ผ่อนหมดแล้ว เข้าต่อ…
…เอาเงินมาอัด ที่หมดโปร ออกมา…
…หมุนไปเรื่อย ๆ …
ลองพิจารณาดูอะไรคือหนี้สิน อะไรคือทรัพย์สิน ถ้าแยกออกแล้วจะตัดสินใจได้ครับ คนจำนวนมากแยกไม่ออกว่าอะไรคือหนี้อะไรคือทรัพย์
ถ้าเริ่มไหว ก็ ถือเป็น โอกาส
ปล่อยบ้าน 2หลังให้ เช่า ก็ จัดว่า ภาระไม่หนักมาก
การสร้าง ทรัพย์สิน ดีอยู่แล้ว
ดีกว่า ไปซื้อรถแพงๆ ที่มันด้อยค่าลงเรื่อยๆ
เดินทางสายกลางไว้ดีที่สุด
ไม่มีความฝันอะไรเลย ก็ทำให้เฉื่อยชา ไร้จุดหมาย
มีความฝันมากเกินไปก็ทำให้ชีวิตไม่เป็นสุข เพราะกิเลสมันคอยเผาผลาญ
ถ้าเป็นผมจะจัดการหนี้ปัจจุบันให้หมดก่อน แล้วค่อยสร้างหนี้ใหม่ครับ
ตั้งเป้าหมาย100% แล้วพุ่งชน เผื่อค่าใช้จ่ายให้ไม่เกิน50%
แล้วเผื่อใจไว้ ถ้าได้50%ก็โอเค
และพอเพียงกับสิ่งที่ได้มา
อายุสี่สีิบสี่ รายได้รวมครอบครัวใกล้เคียงคุณ ลูกสาวหนึ่งคน
มีบ้านสองหลังเหมือนกัน แต่เป็นเดี่ยวหนึ่ง ทาวเฮาส์หนึ่ง
รถสอง ไม่มีหนี้ เพราะจ่ายสดหมด
ขนาดไม่มีหนี้ ยังไม่คิดดิ้นรนมากกว่านี้ เพราะเห็นคนรอบข้าง
มะโรงมะเส็งกินกันไปหลายราย
ขออยู่อย่างเพียงพอ ไม่เครียด ได้เห็นลูกเติบโต
ตอนนี้เก็บเงินเพื่อเออร์ลี่ และมีเงินก้อนเพื่อส่งลูกเรียนพอแล้ว
ถามคนข้าง ๆ เหมือนที่ คห. 4 แนะนำก่อนเถอะค่ะ เพราะเค้าคือคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขและร่วมแบกหนี้กับคุณ บางทีเค้าอาจอยากมีเงินส่วนหนึ่งไว้ให้คุณพาเค้าและลูกไปพักผ่อน พาพ่อแม่ทั้งคุณและเค้าไปเปิดหูเปิดตามากกว่านี้ก็ได้นะค่ะ อันนี้แชร์จากประสบการณ์ ที่ตอนนี้ทุกเดือนจะแบ่งเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อเรื่องนี้ พ่อแม่แก่ลงทุกวัน
คุณ ความคิดเห็นที่ 2
ทฤษฎีอะไรของคุณ..นั่นไปเอามาจากไหน…ใครเขาสั่งเขาสอนคุณมาแบบนั้นเนี่ย..??
คำว่าพอเพียงก็คือการพิจรณาอย่างถ่องแท้….ว่าเราเป็นใครทำอะไรได้เท่าไรและมีศักยภาพแค่ไหน….ก้าวบันไดก็ควรก้าวทีละขั้น….ไม่ใช่วิ่งกระโดดขึ้นทีละสองสามขั้นอะไรแบบนั้น เพราะถ้าพลาดขึ้นมานอกจากจะเสียตัวเองแล้วยังพาลไปถึงครอบครัว..คนรอบข้าง…สังคม..อะไรประมาณนั้น
จขกท. ผมว่าคุณต้องดูอันดับแรกคือดูกำลังของตัวเอง…ถ้าคุณจะเกษียรตัวเอง60…คุณก็มีเวลาเคลียร์หนี้สินทั้งหมดอีก20ปี…
แต่ถ้าเป็นผมนะ…ผมคงอยากเคลียร์หนี้ทั้งหมดให้จบๆไปก่อน…แล้วค่อยคิด สร้างหนี้ใหม่ครับ
อีก 3 ปี ผมจะสี่สิบ มีลูกวัย 2ขวบกำลังจะเข้าโรงเรียน
;==========================
ค่าเทอม อนุบาลแบบธรรมดา = 10,000
ไม่รวมจ่ายรายเดือนประมาณ 3,000 สำหรับลูก 1 คน
ส่วนรายจ่ายมีภาระบ้านอยู่ 2 หลัง
หลังแรก เตรียมขาย ไม่มีรายจ่าย
;================
หลังสอง เป็นทาวน์เฮาส์ มีหนี้คงค้าง 1 ล้าน ปล่อยให้เช่า ก็มีรายได้เดือน 5500
1,000,000 คิดที่ 20ปี จะผ่อนเดือนละ 7,500 เท่ากับรายจ่าย 2,000
;===================================
ตอนนี้ ผมอยากได้บ้านเดี่ย ซึ่งก็จะต้องทำให้เป็นหนี้ธนาคารประมาณซัก 2.5 ล้าน
เงินรวม 3.4ล้าน – 9 แสน = 2.5ล้าน
ต้องเตรียม ค่าโอน,จดจำนอง,อาจจะต้องทำประกันคิดรวม, 200,000
งั้นกู้ 2.7ล้าน ผ่อน 20 ปี เดือนละ 20K
ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลคนละ 10K ( รวมค่าน้ำมัน)
;================
ผ่อน 20 ปี เดือนละ 20K
ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล 20K (ผมว่าไมาพอ น่าจะ 25K)
สำหรับลูก 3K
ทาวน์เฮาส์ 2K
เงินเก็บค่าเทอม 3K
อื่นๆ 2k
รวม 50K
รายได้รวมภรรยา 6 หมื่น ถ้าหักภาษีแล้วเหลือ 6 หมื่นก็น่าจะ OK
แต่ถ้ายังไม่หักภาษีก็อยู่บ้าเดิมเถอะ
อันนี้อีกแบบ
รายได้รวมภรรยา 6 หมื่น
ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล 25K
บ้านเดิม 7.5K
หักภาษี 2.5K
สำหรับลูก 3K
ทาวน์เฮาส์ 2K
เงินเก็บค่าเทอม 3K
อื่นๆ 2k
รวม 45K
เหลือเก็บ 15K
ถ้าเก็บเป็นเงินก้อนแล้วเอาไปโปะบ้าน จะเท่ากับว่าส่งหมดใน 7ปี
เป้าหมายมีไว้พุ่งชน แต่ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงครับ
มันไม่เหห็นเกี่ยวกันเลยครับ
ส่วนตัว รายได้เดือนเกินเจ็ดหลักไปแล้ว แต่ก็ยังใช้ชีวิตพอเพียงอยู่
ใช้แต่ที่จำเป็นเพื่ออนาคต ใช้ชิวิตแบบอิสระไม่ต้องทำงาน
ตอนนี้ลงทุนในหุ้นอยู่สี่เดือนได้เเล้วสี่ห้าแสนเงินต้นเก้าแสน
ผมใช้ชีวิตแบบไม่ประมาท วางแผนก่อนค่อยลงมือถ้าพลาดเป็น
บทเรียน จริงใจต่อทุกคน ศึกษาตลอดเวลา ผมอายุ30กว่า
ปัญหาผ่านมาก็มีตลอด ทำใจค่อยๆแก้ทุกวันนี้ก็มีปัญหาอยู่
แต่มีคนช่วยเยอะ
ผมอยากให้ดูอเมริกาเป็นตัวอย่าง เขาเจริญมากทั้งคนทั้งเทคโนโลยี
เขาเป็นหนี้มากที่สุดในโลก กรีกญี่ปุ่นเป็นสูงระดับต้นๆของโลก
ทั้งที่เจริญแล้วน่าจะรวยแต่กลับจน เพราะไม่รู้จักพอเพียง เหนื่อหัวของเรา
ท่านทรงพระปรีชาสามารถ พระราชทานหลักเศรษฐกิจแบบพอเพียง
ผมว่าสามารถอยู่ได้ทุกสภาพเเวดล้อมไม่ว่าเศรษฐกิจเป็นอย่างไร
เราก็อยู่ได้แบบพอเพียงไม่กู้โดยไม่จำเป็น ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล
ขยายงานเเบบรอบครอบคิดก่อนถึงผลได้ผลเสียไม่ตามเเฟชั่น
ผมคนหนึ่งพิูสูตรแล้วว่า ใช้ได้จริงและผมไม่เคยทิ้งเป้าหมาย
ผม จขกท.นะครับ
ขอบคุณทุกๆ ความเห็น และชี้แนะนะครับ
ความเห็นขอทุกท่านไม่เสียเปล่านะครับ ผมได้นำทุกๆ ความเห็นมาประกอบการตัดสินใจนะครับ
คิดมานาน ที่อยากมีชีวิตอยู่สบายๆ ด้วยกิเลส ด้วยเหตุผลนาๆ นับประการ ผมจึงตัดสินใจ ที่จะเดินหน้า และสร้างสมบัติชิ้นนี้เป็นชิ้นสุดท้ายในชีวิต เมื่อวานจึงตัดสินใจไปจองไว้แล้ว และนัดทำสัญญาสิ้นเดือนนี้ครับ ด้วยราคา 3.6 ล้าน
อย่างไรก็ตามผมจะนำความเห็นของทุกท่าน ไปประยุกต์ในการดำเนินชีวิต เพื่อให้สามารถรองรับกับภาระอันใหญ่หลวงนี้ต่อไปครับ
ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้งครับ
สู้ๆ ครับ
คุณคิดไม่ผิดแล้ว บ้านมีแต่แพงขึ้นไม่มีถูกลง
อย่าพึ่งขายบ้านเก่า ผมแนะนำครับ ให้เช่าอะไรก็ได้
ชีวิตผิดพลาดอะไร ยังขายบ้าน 3.6ล้าน ของท่านทิ้งไปอยู่บ้านเก่าได้
หรือ ค่อยขายบ้านเก่าทิ้งก็ยังได้ในภายหลัง บ้านไม่มีถูกลงครับ
ปัญหา คือ บ้านเป็นสินทรัพย์ สภาพคล่องต่ำ ท่ารีับราคาจะถูก ท่าไม่รีบก็จะได้ราคา ตามเหตุผล ดังนั้นท่านต้องมีเงินเก็บซักนิดจะได้เปรียบ