พึ่งเข้าห้องนี้ครั้งแรกค่ะ ไม่ทราบตั้งกระทู้ผิดห้องหรือเปล่านะคะ หนูขอถามหน่อยแล้วกัน คือบ้านที่อยู่ปัญจุบันเนั้ย เช่ามาตั้งแต่สมัยอากงอยู่ 60 กว่าปีมาแล้ว ตั้งแต่ราคา 20 บาท จนตอนนี้ 4500 บาทแล้ว เจ้าของบ้านก็ตกมาเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานของเจ้าของบ้านแล้วล่ะค่ะ เมามาทีไรก็มักมางี่เง่า บ่นโน้นนี่นั้นตลอด ประมาณเดี๋ยวจะไล่บ้านโน้น เดี๋ยวจะไล่ห้องนี้อะไรแบบนี้บ่อยมากๆค่ะ ทั้งที่แต่ละบ้านก็อยู่กันมาเก่าแก่ทั้งนั้น (คนใหนรวยก็ย้ายออกไป) หนูเลยอยากถามว่ากรณีแบบนี้ ถ้าเกิดหนูทนไม่ไหวซักวันมีเรื่องราวกันขึ้นมา เค้าสามารถอยู่ๆมาไล่เราออกจากบ้านแบบฟรีๆได้ไหม บ้านเราไม่เคยค้างค่าบ้านเค้าเลย ตรงเวลาตลอด เรามีสิทธิ์จะเรียกร้องอะไรกับเจ้าบ้านได้หรือเปล่าคะ เห็นแล้วไม่อยากจะทนเลย เราค้าขายก็จะคอยมาเบ่งเซ็นตลอด รุ่นแม่เราก็ยอมหรอก แต่มารุ่นหนูเองไม่เอาด้วย เวลามาพูดที่ไรหนูอยากถามว่า เอ้อ ย้ายก็ได้เอาค่าขนย้ายมาเลย จ่ายมาเลยกี่เดือนว่ากันไป แต่ก็ไม่กล้าพูดเพราะยังไม่มีข้อมูลอะไรจริงๆ รบกวนเล่ายาวไปหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
เข้ามาเป็นกำลังใจ รอท่านอื่นมาตอบนะคะ
มีเยอะคนประเภทที่หลงในกรรมสิทธิ์ ที่คิดว่าผู้เช่าจะต้องตกอยู่ภายใต้อาณัติ
อย่างที่วัชรพล พี่ชายผมเคยอยู่ เช่าเดือนละ3หมื่น ปรับขึ้นแทบทุกปี อยู่มาได้5ปี จน6-7หมื่นบาท
6หมื่น/เดือน จ่ายได้ แต่ที่รับไม่ได้คือพฤติกรรม
ชอบเซ็นเชื่อของ แต่ไม่ค่อยอยากจ่าย
พอจะขึ้นค่าเช่าทีนึง ก็ทำพฤติกรรมเอะอะโวยวาย เหมือนไม่พอใจอะไรมา
จวบจนสุดท้าย ไม่เอาดีกว่า เลิกเช่า
ปัจจุบัน หลายเป็นที่ว่างเปล่า ไม่มีใครมาเช่าร่วม2ปีเข้าไปแล้ว
ก็สมน้ำหน้ามัน รายได้ค่าเช่า ปีละเกือบล้าน หายวับ จนปัจจุบัน ยังไม่รู้ว่าจะมีใครหนอมาเช่าอีก
เพราะที่ตั้งก็ดันมีทางด่วนผ่านอีก เจ้านี้ไป เจ้าไหนหรือจะมาเช่าต่อ
เพราะทำเลเจอทางด่วนและพฤติกรรมอย่างว่า
ผมว่าถ้ามีทางอื่นให้ไปก็หาที่ใหม่ที่เป็นของเราเองเถอะครับไม่ต้องรอเขามาไล่ ดูแล้วคนประเภทนี้คงไม่เปลี่ยนหรือสำนึกในพฤติกรรมของตนเองง่ายๆ ต่อไปก็คงสอนลูกหลานให้มาเบ่งกับเราอีกแน่ๆ เวลาเขามาเบ่งขอฟรีก็อย่าให้ครับเพราะคุณก็จ่ายค่าเช่าตรงเวลาตลอดไม่เห็นต้องเคยเซ็นก่อนจ่ายทีหลังเลย
ขอเป็นกำลังใจให้คนค้าขายอย่างสุจริตครับ
ออกความคิดเห็นนิดเดียวครับ
คนเมาอย่าเอามาคิดให้ ปวดหัว/รกสมองเลย ถ้าได้ยินก็นึก….ผ่านๆไปเถอะ มีเรื่องกับคนเมาคุยไปไม่รู้แล้ว ยิ่งถ้าไปมีเรื่องกับคนเมาเดี๋ยวมันเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องนะ จขกท.เป็นผู้หญิงด้วย หรือไม่ให้แฟนเครียร์ ดีกว่าครับ ^_^
ผมกำลังปวดหัวอยู่ครับ
ที่มี 18 ไร่ มีคนเช่าอยู่ เฉพาะด้านหน้า ติดถนนใหญ่ ประมาณ 80 ตารางวา
สัญญาเช่า 1 ปี
ครบหนึ่งปี ก็ทำสัญญาใหม่ เป็นเนื้อความเดิม อีก 1 ปี
นี่ จะสิ้นปีแล้ว และได้แจ้ังเป็นหนังสือว่า
สัญญาเช่าสิ้นสุด 31 ธัีนวาคม 2553 นี้
ทางผู้เช่าบอก ยังไม่ออก
เพราะทางผม แจ้ง เร็วไป
ในสัญญาที่ตกลง และเห็นชอบร่วมกัน
ทำเป็นหนังสือว่า เช่า 1 ปี และผู้่ใช้เช่า สามารถ บอกเลิกการเช่าได้ทันที
มาวันนี้ ก็บอกว่า เช่ามานาน ไม่อยากออก
พอขอขึ้นค่าเช่า ก็บอกว่า ตึุกมันเก่า
ขอเช่าราคาเดิม เดือนละ 2,500 บาท
ตึกข้างๆ เช่ากัน เดือนละ 15,000 บาท
พอเีราไม่ใช้เช่าต่อ ก็บอกว่า ยังไม่ออก เพราะไม่รู้จะไปไหน
หากไม่ออก ที่ 18 ไร่ที่มีอยู่ก็ทำประโยชน์ไม่ได้
เพราะ ตึุกด้านหน้าบังอยู่ ต้องรื้อตึก เป็นทางเข้า
จึงจะทำประโยชน์ ที่ด้านหนังได้
ทีนี้ ถ้าเป็นท่าน ท่านจะทำอย่างไรครับ
ขอบคุณทุกๆคห. เลยนะคะ จริงๆหนูเองก็ยังไม่มีปัญญาไปใหนหรอกค่ะ แต่เวลาเจอ เค้ามางี่เง่าก็อยากจะพูดอะไรๆ ที่เจ้าของมันฟังแล้วอึ้งบ้าง ประมาณเรารู้นะว่า ถ้าจะไล่เราออกแบบไม่ผิดอะไร คุณต้องชดใช้อะไร บ้าง กี่เดือนกี่บาทว่าไปแบบชัดๆน่ะค่ะ ทั้งที่จริงๆถ้าเราพูดจริงมีสิทธิ์จริง เค้าก็ไม่ปัญญาให้เราหรอก เพราะพวกเค้าก็มีแค่ที่ดินนี้แหล่ะที่เป็นสมบัติ ตกทอดมา แต่เงินทองไม่มีแถมการงานก็ไม่มีใครทำ รอแต่เงินค่าเช่านี้ แหล่ะ เราเคยสังเกตว่าเวลาเค้ามาวุ่นวายเรื่องอะไรที่ ไรถ้าเราว่าไปตาม ความเป็นจริงแล้วเค้าจะเงียบไปอ่ะค่ะ เลยอยากมีข้อมูลไปงัดกับเค้าว่า งั้นก็ได้ ขอโทษนะคะเราดันเป็นคนถ้าไม่ผิดไม่อยากยอมน่ะคะ ที่บ้านก็แค่ขายของชำ เฉยๆเองค่ะ
จขกท. มีทางไป ก็ย้ายออกคะ
ถ้าจะอยู่ต่อ ก็อย่าถือสาคนเมาเลย ส่วนเงินค่าขนย้ายอะไรเนี่ย ไม่มีคะ
จะมีก็แค่เงินประกันหรือเงินค่าเช่าล่วงหน้าที่ได้วางไว้ก่อนเข้าอยู่เท่านั้น คุณต้องไปถามพ่อแม่แล้วคะว่ามีหรือเปล่า แต่ของสมัยพ่อแม่สาวกุมภ์เช่าที่คนอื่น สมัยก่อนก็ไม่ได้วางนะคะ
ดังนั้น ถ้าเขาให้คุณย้ายออก เลิกเช่า เขาก็จะต้องให้เวลา 1 เดือนกับคุณ และไม่มีการจ่ายอะไรให้เลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
การให้ออก
1 แจ้งเป็นหนังสือให้ออก ซึ่งวันที่ให้ออกต้องเป็นวันภายหลังสัญญาเช่าสิ้นสุดลงแล้ว ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน หรือส่งจม.ลงทะเบียน โดยต้องมีระยะเวลาในการให้ขนย้ายออกหลังจากวันที่แจ้ง 1 เดือนเป็นต้นไป
2 สัญญาเช่าที่ข้อความระบุว่า สัญญาเช่าสิ้นสุดลง ให้สิทธิ์ครอบครองกลับคืนสู่ผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่าสามารถล็อคประตูได้
3. เมื่อเวลาครบกำหนด ไปถามผู้ให้เช่าอีกรอบว่าวันที่ย้ายออก ช้าไปสัก 2-3 ก็หยวนๆๆ ให้หน่อย
4. ไม่ย้ายออกก็ตัดน้ำตัดไฟ เอาช่างไฟมาดึงสายไฟของตึกออกจากสายของหม้อแปลงเลย ( ไฟฟ้านี้เป็นชื่อของผู้ให้เช่าอยู่แล้ว การที่สัญญาไม่มีข้อความเรื่องตัดไฟจึงไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ว่าต้องดูในประเด็นที่มีการแจ้งให้ย้ายออกแล้ว และมีระยะเวลาให้ขนย้ายออก 1 เดือน ) หรือเอากุญแจมาล็อคประตู ตามข้อสัญญาว่ามีสิทธิ์ล็อคประตู
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๐๒๕/๒๕๔๑ ข้อตกลงล่วงหน้าระหว่าง ผู้ให้เช่ากับผู้เช่าที่ว่า หากผู้เช่าทำผิดสัญญาข้อใด จักยินยอมให้ผู้ให้เช่าเข้าครอบครองห้องเช่าได้ทันที ใช้บังคับกันได้ ดังนั้น ผู้ให้เช่าย่อมมีอำนาจใช้สิทธิเข้ายึดถือครอบครองตึกแถวที่ให้เช่าได้โดยชอบ ตามที่ตกลงกันไว้
แต่ถ้าหากไม่มี ก็มีวิะธีทางกฎหมายคือ อย่างเบสิคก็คือ ล็อคห้องและตัดน้ำตัดไฟนั้น ก็มีขั้นตอนทางกฎหมายอยู่
คือ ให้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าไปถึงผู้เช่า แล้วให้เวลาผู้เช่าในการย้ายออกซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 1 เดือน จึงสามารถเข้าล็อคประตู , ตัดน้ำไฟ ได้
ซึ่งหากคุณกระทำไม่ครบขั้นตอนทางกฎหมาย ผู้ให้เช่าจะเป็นผู้ถูกดำเนินคดีทางกฎหมายเสียเองได้นะคะ โปรดพึงระวัง
คำ พิพากษาฎีกาที่ 3921/2535 ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่าทำให้สัญญาเช่าสิ้นสุดอย่างสมบูรณ์ ผู้เช่าไม่มีสิทธิครอบครองใช้ประโยชน์ในสถานที่เช่าอีกต่อไป การไม่จ่ายไฟ น้ำประปา และใส่กุญแจ เพื่อมิให้ผู้เช่าเข้าไปใช้สถานที่เช่า เป็นการกระทำภายหลังสัญญาเช่าได้สิ้นสุดลง กรณีนี้ได้มีกำหนดเวลาให้ผู้เช่าพอสมควรแล้ว จึงไม่ถือเป็นการทำละเมิด ผู้เช่าไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ขาดรายได้จากกิจการของผู้เช่า
เมื่อศาลได้พิพากษาคดีดังกล่าว ทำให้ผู้ให้เช่าทราบขอบเขตที่กระทำได้ภายใต้หลักกรรมสิทธิ์และต้องไม่ละเมิด สิทธิส่วนบุคคลของผู้เช่าเกินเหตุด้วย บางกรณีอาจเคยได้ยินว่า ผู้ให้เช่ามักใส่กุญแจเพื่อมิให้เข้าไปในสถานที่เช่า แม้จะทำได้ตามข้อวินิจฉัยข้างต้น แต่ต้องคำนึงด้วยว่า ผู้ให้เช่ากระทำครบตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ เช่น มีการบอกเลิกสัญญาเช่าอย่างถูกต้อง การให้เวลาพอสมควรในการขนย้าย เป็นต้น อีกอย่างหนึ่งที่ต้องระวังอย่างมาก คือ ถ้าไม่มีผู้เช่าอยู่ในสถานที่เช่า แล้วใส่กุญแจ เมื่อเขามาเอาสิ่งของภายหลัง ต้องคืนให้ กรณีนี้จึงไม่ถือเป็นละเมิด ดังนั้น เพื่อมิให้ผู้เช่าโต้เถียงหรือถ่วงเวลา ผู้ให้เช่าควรกำหนดชัดเจนในสัญญาเช่าว่า เมื่อผู้เช่าผิดสัญญาเช่าข้อใดก็ตาม ผู้ให้เช่ามีสิทธิเข้าครอบครองสถานที่เช่าได้ทันที มันจักสร้างความชัดเจนในการรับรองสิทธิผู้ให้เช่ามากยิ่งขึ้น
น่าปวดใจ สำหรับคนที่โดนเขาพูดจา ทำร้ายจิตใจ
เราเองก็คงต้องนิ่งทำใจรับสถานการณ์ไป
เราเองก็ใช่เพียงบ้านเดียวที่โดน บ้านอื่นก็คงเหมือนๆกัน
ระหว่างนี้เราคงต้องเก็บออม หาทางขยับมองหาลู่ทางไปข้างหน้า
จขกท ถ้ารำคาญเจ้าของที่จนไม่อยากเช่าต่อก็ย้ายไปเถอะครับ
แต่ถ้าเค๊าบอกเลิกสัญญาล่วงหน้าตามสมควร แล้วยังเกี่ยงงอนว่าต้องได้ค่าขนย้ายถึงจะออก
เกรงว่าคนงี่เง่าอาจจะไม่ใช่เจ้าของบ้านแล้วละครับทีนี้
กรณีน้าพรน่าเห็นใจเจ้าของครับ
บอกเลิกสัญญาตามเงื่อนเวลาแล้วก็ไม่ยอมออก
ถ้าฟ้องขับไล่ ด้วยเหตุสัญญาเช่าสิ้นสุดลงแล้วตามหนังสือบอกเลิกสัญญา
ก็ดื้อแพ่งอยู่ฟรี สู้คดีพิสูจน์สิทธิตามสัญญาเช่ากันได้อีกเป็นปีๆ
แถมสุดท้ายถึงชนะคดีแต่ก็ยังลำบากใจในการบังคับคดี
นอกจากเสียค่าทนายแล้ว อาจต้องเสียค่าขนย้ายให้อีกต่างหาก
แนะนำให้ขออนุญาตรื้อถอนอาคาร ยกเลิกมิเตอร์น้ำ+ไฟ
แล้วกั้นรั้วติดประกาศเตือนอันตราย ห้ามเข้าเขตรื้อถอนครับ
พอมีเงินทุนเงินเก็บ หาทำเลดีๆไปซื้อบ้านใหม่ดีกว่าครับ
เช่าเขาอยู่ยังไงก็ยังเป็นผู้เช่าอยูดี บ้านก็ยังเป็นของเขา จะเอาสิทธิอะไรมากมายคงไม่ได้หรอกครับ
สมมุติ นะ สมมุติ
ผู้เช่าอยากได้ ค่าขนย้าย
ผู้ให้เช่าอยากได้ ค่าซ่อมบำรุง
จะเกิดอะไรขึ้น ?
เรามีบ้านเช่าสามหลัง อยากให้เป็นเหมือนจขกท จัง ที่จ่ายไม่เคยค้าง ของเราค้างตลอด
แยกให้ออกระหว่างการเช่ากับเบ่งเซ็นต์ ถ้าไม่ให้เซ็นต์ก็บอกไปตรง ๆ ส่วนเรื่องเช่า พวกผู้เช่าก็มักนิสัยเสีย ไม่เช่าแล้วยังพาลอยู่ต่อ ไล่ก็ไม่ไปจะเอาค่าขนย้าย กินบนเรือน…ได้คืบ… ไม่รู้จะพูดยังไง สิทธิของตัวเองไม่มี ดีแต่เรียกร้อง แยกให้ออกอย่าเอามาปนกัน ถ้าไม่พอใจผู้ให้เช่าก็ย้ายออกไปแค่นี้จบ ของของใครก็ของคนนั้น เค้าทำไม่ดีก็ได้รับสิ่งไม่ดี ถ้าเราทำไม่ดีทำมาค้าขายไม่ขึ้นหรอก