คือว่าผมเรียนอยู่ปีสามครับ จะออกแบบคอนโด ยูนิตขนาด 28-35 ตร.ม.โดยใช้คอนเซป cross ventilation ครับ อยากทราบถึงหลักการทำงานและหลักการออกแบบ ventilation แบบแ cross เบื้องต้นหนะครับ ว่าจะวางยูนิตห้องยังไงให้เกิดการ cross มากที่สุด ขอบคุณครับ
คำค้นหา:
- cross ventilation คือ
หลักๆก็ต้องวาง corridor ให้อยู่ในทิศลมพัดผ่านแล้วเปิดช่องลม
ถ้าใช้เป็น double corridor ยูนิตที่อยู่ตรงกลางจะไม่ได้รับลม ต้องเปิดพื้นที่ว่าง
ที่ unit ด้านนอก เว้นช่องลมเข้ามาด้วย
การควบคุมลมก็สำคัญ ถ้าทางที่เปิดให้ลมเข้าเล็ก
และให้ทางออกของ corridor อีกด้าน เป็น encloser ขนาดใหญ่
ลมจะพัดแรงมากเข้าใน corridor ภายในตึกจะไม่ร้อนครับ
เอ่ออ… การบ้านเขาต้องทำเอง ศึกษาเอง หาเองอ่ะครับ ลองผิดลองถูกหรือว่าเป็นอาจารย์ได้ทั้งหมด
การช่วยที่ดี คือการแนะนำเบื้องต้น ในการบอก สถานที่ หรือแหล่งที่มา ให้น้องไปศึกษาค้นคว้าและวิเคราะห์เอง เช่น ลอง
หาตามห้องสมุด ตาม text ต่างๆ ยุคนี้ก็ง่ายๆ แค่search กูลเกิ้ล ข้อมูลก็เพียบแล้ว หรือทำแล้วไป ถาม หรือปรึกษาอ. อะไรพวกนี้
เพื่อช่วยให้น้องไปค้นคว้าต่อยอดด้วยตัวเอง
หรืออย่างน้อยควรไปหาข้อมูลมาเองก่อน แล้วเอามาถามมาปรึกษาว่าแบบนี้ผิดไหม ถูกไหม หรือควรปรับอะไรดี
แต่ไม่ใช่มาถาม มาตอบกันห้วนๆ ง่ายๆ แบบนี้ โดยที่น้องไม่ต้องเหนื่อยไปค้นคว้าไปหาไรด้วยตัวเองเลย
และของพวกนี้เอง มันไม่ได้ตอบง่ายๆ แบบมาถามในเวปบอรด์แล้วก็ได้คำตอบแล้วจบหรอก นะครับน้อง…
เบื้องต้นพี่แนะนำให้แล้ว ลองแสวงหาเองตามที่บอก ถ้าอยากเก่งต่อไปในอนาคตนะครับ
ผมกลับมองต่างกัน
เพราะเรื่องบางเรื่องตำรา ไม่ค่อยจะมี
ผมชี้แนวทางให้ แต่ไม่ไ่ด้บอกรูปแบบของอาคาร รูปทรงการจัดวางก็ไมไ่ด้ให้
คอนเซป ก็ไม่ทราบว่าน้องเค้าวางยังไง มีแค่หลักการตามที่น้องเค้าถามเท่านั้น
ตอนสมัยผมเรียนไปถามอาจารย์หลายเรื่องเหมือนกัน อาจารย์แกก็ไม่ทราบ
มองในแง่ดี น้องเค้าอาจจะมีพัฒนาการในทางที่ดี
ในทางสถาปัตยกรรม การนำหลักการเข้ามาใช้ในคอนเซป ต้องใช้กึ๋น พอสมควร
แค่นี้ ไม่ได้ช่วยให้ออกแบบเอาไปส่งอาจาร์ยได้ทันที ครับผม
ลองไปหาใน google และทำความเข้าใจเรื่อง :
การออกแบบระบบ Passive การออกแบบระบบ Active อาคารประหยัดพลังงาน
————————————————–
การออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐานของผู้อยู่อาศัยในเรื่องพื้นที่ใช้สอย การเชื่อมต่อพื้นที่ใช้งานและความยืดหยุ่นในการวางตำแหน่งอาคาร การออกแบบระบบ Passive การออกแบบระบบ Active ซึ่งสามารถสรุปผลเป็นรูปธรรมต่อรูปแบบทางสถาปัตยกรรม ดังนี้
– การวางแนวอาคารในทิศเหนือ-ใต้ เพื่อให้พื้นที่รับแดดอยู่ด้านแคบ แต่เปิดรับลมได้ดี กำหนดตำแหน่งช่องเปิดให้รับลมประจำทิศใต้ ให้สามารถเข้า-ออก และกระจายทั่วอาคารได้ ปรับสภาพแวดล้อมรอบอาคาร โดยอาศัยประโยชน์จากธรรมชาติ
– หลังคาใช้รูปทรงปั้นหยาที่มีหน้าจั่ว ความชัน 40 องศาที่ช่วยกันฝนทุกด้าน แต่สามารถระบายอากาศได้ดี แนวหลังคาติดฉนวนใยแก้ว 2 นิ้ว ขนานไปกับแนวลาดเอียง เว้นช่องว่างอากาศ 25 ซม. ยื่นชายคา 1.2 – 1.5 ม. ตีฝ้าระแนงเว้นร่องระบายอากาศ
– ผนังใช้คอนกรีตมวลเบา ฉาบปูนเรียบ เนื่องจากมีมวลสารน้อย การกักเก็บความร้อนภายในเนื้อวัสดุจึงน้อยตาม เหมาะกับส่วนที่ต้องปรับอากาศ ซึ่งเป็นส่วนที่มีการใช้พลังงานมากที่สุดในอาคาร
– พื้นภายนอกใช้ทรายล้างหรือวัสดุผิวด้านและปลูกหญ้ารอบอาคาร เพื่อลดการสะสมความร้อนและการสะท้อนรังสีดวงอาทิตย์กับพื้นแข็งหรือพื้นผิวเรียบ ฝ้าเพดานระแนงไม้ชายคาเว้นช่องระบายอากาศเพื่อระบายอากาศร้อนภายในโพรงหลังคา ภายในยิบซั่มบอร์ด
– ช่องแสงใช้กระจกเขียวตัดแสง 6 มม. ที่สามารถป้องกันความร้อนมากกว่ากระจกใสอีกทั้งทัศนียภาพก็เห็นชัดไม่มืดทึบ ช่องเปิดชั้นล่างใช้แบบที่มีเกล็ดผสมเพื่อระบายอากาศและมีขนาดและจำนวนมากกว่าชั้นบนที่เพียงแค่พอสำหรับระบายอากาศ
– ระบบปรับอากาศเตรียมพื้นที่วาง CDU ให้มีที่ว่างโดยรอบ 50 ซม. ติด FCU ในตำแหน่งที่ไกลช่องเปิดแต่กระจายลมได้ดี
เมื่อนำองค์ประกอบทั้งหมดมาผสานกันในการออกแบบ ทำให้สามารถออกแบบอาคารเพื่อใช้เป็นบ้านต้นแบบได้ ดังแสดงในบทที่ 5 เรื่องการนำเสนอผลงาน ซึ่งกำหนดให้หน้าบ้านหันทางทิศใต้ เพื่อความเข้าใจตรงกันในเรื่องการทดสอบศักยภาพอาคารต่อไป
ในการทดสอบศักยภาพอาคารแบ่งออกเป็น 2 ประเด็น คือ ด้านพลังงาน และด้านสภาพอากาศ โดยส่วนของพลังงาน จะได้ค่าการถ่ายเทความร้อนของผนัง OTTV 29.898 วัตต์/ตรม. ค่าการถ่ายเทความร้อนของหลังคา RTTV 13.680 วัตต์/ตรม. เมื่อเทียบกับอาคารอื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกันจากกรณีศึกษา ที่มีการใช้วัสดุหลักเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูน หลังคาไม่มีฉนวน และใช้กระจกใส 6 มม. จะได้ค่า OTTV 40.661 วัตต์/ตรม. RTTV 24.217 วัตต์/ตรม. จากผลต่างที่ได้พบว่ารูปแบบอาคารและวัสดุประกอบอาคารล้วนส่งผลต่อค่าการถ่ายเทความร้อนทั้งสิ้น ส่วนการทดสอบศักยภาพด้านสภาพอากาศจะแบ่งเป็นเรื่องของกระแสลมและการระบายอากาศ ซึ่งผลทดสอบพบว่า อาคารสามารถระบายอากาศได้เพียงพอแม้ขณะอาคารเปิดหรือปิดก็ตาม ส่วนการทดสอบสุดท้ายในเรื่องของการบังแดดจะเห็นว่า ด้านที่โดนแดดคือด้านใต้และตะวันตกจะมีการใช้ระเบียง ชายคา และอุปกรณ์บังแดดที่สามารถให้ร่มเงาและบังแสงแดดได้ระดับที่เพียงพอต่อความต้องการในการใช้งานพื้นที่
ที่มา : http://kmcenter.rid.go.th/kmc01/index.php?option=com_content&view=article&id=226:-passive–active–&catid=39:2009-09-10-05-09-09&Itemid=40
ลอง search ใน google คำว่า
– sustainable building
– greenbuilding
– Eco Friendly Residential
งานประเภทพวกปลูกหญ้าบนตึก เก๋จะตาย
ตัวอย่าง : http://archinspire.com/home-design/eco-friendly-green-modular-residential-design.htm
ไม่ใช่สถาปนิกแต่อ่าน คห 2 แล้วอดตอบไม่ได้
น้องมาถามแบบนี้ ถูกที่ถูกทางแล้ว
ห้องชายคาเองก็มีสถาปนิกหลายคน หลากประสบการณ์
อันไหนเราไม่รู้ก็ต้องถาม จะถาม ที่ไหนก็ขอให้ได้ความรู้กลับไป
วางconcept แล้ว มันคิดต่อไม่ได้ก็ขอแชร์ไอเดีย มันไม่แปลกอะไร
ข้อมูลยังไม่เพียงพอก็ต้องถามกันละ
ใน pantip มีโรคระบาดอย่างหนึ่ง พอคนตั้งคำถามเมื่อไหร่
จะมีบางจำพวก ชอบไล่ให้ไปหาใน google หรือบอกว่ากรุณาไปค้นข้อมูลก่อนตั้งคำถาม
ผมมองว่าคำตอบพวกนี้ นอกจากไม่เป็นประโยชน์แล้ว เขาอาจต้องเรียนรู้เรื่องการเป็นผู้ให้ที่ดีบ้าง เท่านั้นเอง
เพราะไม่ใช่สถาปนิก จึงขอบคุณจขกท.ที่ตั้งคำถาม และขอบคุณผู้รู้ที่มีจิตเมตตาช่วยตอบคำถาม…………เพราะช่วยเผื่อแผ่ความรู้ไปให้หลายๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี่ด้วย
การจะไปหาข้อมูลจาก Google บางเรื่อง ไม่ใช่เรื่องที่คนอย่างเราๆ จะต้องไปเจาะลึกถึงขนาดนั้น………………แต่การเข้ามาเก็บตกความรู้เล็กๆน้อยๆในนี้………..ย่อยข้อมูลได้ง่ายกว่าเยอะเลย
ลองหางานวิจัย+ตำราของ ศ.ดร.ตรึงใจ บูรณสมภพดูนะครับ
การที่จะสอบถามเรื่องการศึกษาหาความรู้
เวลาเข้ามาสอบถามน่าจะแสดงให้เห็นได้ว่า
เราได้ศึกษามาแล้วบ้าง มีเนื้อหาบางส่วนที่ไม่เข้าใจหรือยังไม่ตกผลึก หรือไม่ get idea
เขาจะได้ช่วยแชร์ประสบการณ์ หรือความรู้ให้พอได้ idea
คงจะมีคนแถวนี้ยินดีที่จะช่วยตอบอย่างที่ไม่มีใครเข้ามาบอกว่าการบ้านต้องทำเอง
น้ำใจกับการรู้จักช่วยตัวเองต้องมาด้วยกันครับ
มองโลกในแง่ดี เขาอาจหาข้อมูลหลายๆทาง ต่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการ แต่จะเอาไปต่อยอดได้หรือไม่ก็ต้องพึ่งตัวเองอยู่ดี
มันเป็นคนล่ะมุมมองที่ต่างกัน
ผมกลับมองว่ามันไม่ยากเลย แค่เอาคำว่า "cross ventilation" ไป search googleดู ข้อมูล ภาพ ต่างๆก็ขึ้นมาเพียบแล้ว
การถามมันไม่ผิดหรอก แต่ควรศึกษาเอาเองก่อน แล้วค่อยเอามาถาม ว่าแบบนี้ถูกหรือผิด ก็ยังไม่สาย
มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องน้ำใจ หรือไม่หรอกครับ
อย่างที่บอกการบ้านน่ะต้องทำเอง แต่การขอข้อคำแนะนำ หรือมาให้ตรวจอ่ะ มันก็อีกเรื่อง
ผมเห็นด้วย ที่หลายๆท่าน แนะนำแหล่งข้อมูล ให้เด็กไปต่อยอดและศึกษาเอาเอง
เพราะนั่น คือการช่วยที่แท้จริง มากกว่าเอาคำตอบมาบอกให้
พอดีระบบการศึกษาที่ร่ำเรียนมา ผมโดนปลูกฝังมาแบบนี้ แถมเป็นยุคที่อินเตอร์เน็ต ที่ยังไม่แพร่หลายด้วย
ส่วนที่บอกว่า
"ใน pantip มีโรคระบาดอย่างหนึ่ง พอคนตั้งคำถามเมื่อไหร่
จะมีบางจำพวก ชอบไล่ให้ไปหาใน google หรือบอกว่ากรุณาไปค้นข้อมูลก่อนตั้งคำถาม "
ผมมองว่าบางคำถามบางกระทุ้ หาคำตอบเองได้ไม่ยากเลย
"อย่างตั้งกระทู้อยากได้รูป…..สวยๆ แบบโน้น แบบนี้"
แล้วก็มีคนมาตอบเอารูปที่เค้าคิดว่าสวยมาลงแค่ 2-3 รูป แค่นั้นทั้งกระทุ้
ทั้งที่ถ้าเราลองพยายามหา search google มันขึ้นมาเป็นร้อยเป็นพันรูป
ได้ประโยชน์กว่ามากกมาย
เพียงแค่เราพยายามหาด้วยตัวเองก่อน
ไม่ใช่เอะเอ่ะอะไรก็มาตั้งกระทู้ถามกันเสียหมด โดยไม่พยายามหาเองเสียก่อน
ถ้าคิดแบบนี้กันหมด ประเทศเราถึงได้ล้าหลังเค้า
เพราะคนของเราไม่มีความพยายามที่จะกระตือรือร้นทำอะไรด้วยตัวเองก่อน
มันเป็นมุมมองของผมนะ
จริงๆ ผมก็ไม่ได้อะไรกับการถูกตำหนิเลยครับ
เป็นการดีที่จะได้รับฟังความเห็นจากหลายๆด้าน
แต่ท่านเอง คงไม่ทราบวิธีการเรียนการสอน ของนักศึกษาสถาปัตยกรรม
มันไม่ใช่คำตอบ แบบ 1+1 = เท่าไหร่ครับ รบกวนพี่บอกผมหน่อย
มันไม่ใช่แบบนั้นครับ
น้องเค้าระบุชัดเจนว่า "จะออกแบบคอนโด " และ "หลักการทำงานและหลักการออกแบบ ventilation"
การบ้านของน้องเค้าคือ "จงออกแบบคอนโด" เข้าใจมั้ยครับ
ผมไม่ได้บอกว่า ออกแบบคอนโดแบบไหนถึงจะดี เพราะคอนโดที่ดี มันมีอะไรมากกว่า cross ventilation เยอะ มาก…..
::::::::::::::::::::::::::
อย่างไรก็ดี ถ้าตรรกะ ที่คุณระบุมานั้นมันถูกต้อง
อย่างนั้น เราคงต้องแยกย้าย ไม่มีเวปบอร์ดไว้ถามอะไรแล้วหละครับ
ลองดูคำถามในนี้สิครับ 40% เป็นคำถามเดิมที่เคยมีคนถามแล้ว
ทั้งเรื่อง น้ำรั่ว การกู้บ้าน การตอกเข็ม
เช่นนั้น คุณ TicketID:292475 ต้องตามไปด่าทุกกระทู้ว่า ทำไมไม่ search เองก่อนหรือครับ
งั้นเราแยกย้ายกลับบ้านกันดีกว่า ไม่ต้องมีพันทิปละ
ผมตระหนักดีถึงความถูกต้อง แต่น้ำใจก็สำคัญครับ
ตนเป็นที่พื่งแห่งตน
เรียนอยู่ปีสาม แล้วพื้นฐาน น่าจะมีความรู้ อยู่แล้ว ลองหาอ่านในห้องสมุด และนำไอเดีย ที่ได้มาปรับให้เข้ากับ เทคโนโลยีใน ปัจจุบันและตรงไหนไม่แน่ใจ ค่อยมาแชร์ไอเดียกัน โจทย์จะแคบเข้ามา งานออกแบบ จะได้ความน่าจะเป็นมากกว่า จะเป็นประโยชน์ ต่อผู้อ่านกระทู้และแสดงความเห็นได้หลากหลาย
และใช้บริการ ของ อากู้ ให้มากๆ เดี๋ยวนี้ การหาข้อมูล ง่ายกว่า สมัยก่อนมาก
คำถามน้องค่อนข้างกำกวมนะครับ เพราะโจทย์ไม่ชัดเจน โจทย์ของน้องต้องการออกแบบห้องชุด เพียงแค่หนึ่งห้องตามขนาดที่ระบุมา หรือต้องการออกแบบอาคารชุดที่มีห้องตามขนาดที่ระบุมา ที่ต้องถามแบบนี้เพราะ scale ของโจทย์มันจะต่างกัน เรื่อง cross ventilation มันเป็นเรื่องพื้นฐานครับ มีหลักของมันอยู่ เอาอย่างง่าย ปัจจัยที่มีผลคือ เรื่องของ inlet และ outlet หรือ ช่องลมเข้า และช่องลมออก ซึ่งจะครอบคลุมไปถึง ตำแหน่ง ขนาดของช่องเปิด ตำแหน่งต่างกัน ขนาดต่างกันก็จะมีผล ตลอดจนถึงรูปร่าง shape และปริมาตร volume ของพื้นที่ รวมถึงการจัดวางตำแหน่งของวัตถุภายใน ลักษณะของช่องเปิด แผงกันสาด fin หรือ blind ต่างๆ ก็มีผล อันนี้พี่พูดง่ายๆ ตามโจทย์ที่เป็นห้องหนึ่งห้อง สมมติว่าด้านทั้งสี่ด้านสามารถทำช่องเปิดได้หมด แต่ถ้าน้องต้องได้โปรเจคการออกแบบคอนโดมาจากอาจารย์งานนี่คนละเรื่องเลยครับ เพราะต้องมองใน scale ของอาคาร มีปัจจัยเรื่อง ขนาด ความสูง เรื่อง orientation และอะไรอื่นๆ อีกมากตามหลักของ design criteria ซึ่งไม่ทราบสมัยนี้ยังเรียนกันอยู่หรือเปล่า ถ้าโจทย์น้องเป็นตามนั้น เรื่องการคำนึงถึง cross ventilation มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง จะใช้คำว่าเป็นพื้นฐานก็คงจะไม่ผิดนัก น้องน่าจะผ่านมาแล้วทั้งนั้นจากการเรียนในชั้นปีต้นๆ ในการออกแบบอาคารที่พักอาศัยและอาคารขนาดเล็ก แต่ถ้าจะพูดถึงการระบายอากาศรวมของอาคาร มันก็มีหลักการออกแบบอื่น ๆ อีกมากที่เข้ามาช่วยเช่น เรื่อง การใช้หลักการพาความร้อน การใช้ stack ventilation ซึ่งตรงนี้ก็น่าจะผ่านมาแล้วอีก ถ้าห้องสมุดที่มหาวิทยาลัย ไม่มีตำราพื้นฐานของเรื่องแบบนี้ให้หาอ่าน พี่ว่าอันตรายแล้วหล่ะครับ เพราะน้องตั้งคำถามแบบนี้ น้องก็จะได้คำตอบแบบทั่วไป เป็นคำตอบแบบพื้นฐาน ที่หาจากแหล่งข้อมูลที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ ขึ้นอยู่กับน้องหล่ะครับว่าจะเอาคำตอบไปปรับใช้ได้ขนาดไหน อย่างที่ คห บนๆ ว่าไว้ แค่คีย์ใน google ก็มีข้อมูลขึ้นมาให้เยอะมากแล้วครับ และในที่นี้มีสถาปนิกและวิศวกรหรือผู้รู้ด้านต่างๆหลายคนครับ พี่เชื่อว่าทุกคนก็อยากช่วย อยากแลกเปลี่ยนความรู้ อยากอุ้มชูรุ่นน้องๆกันทั้งนั้น แต่พี่ขออนุญาตพูดแบบตรงไปตรงมานะครับ น้องจะมีความรู้เพิ่มขึ้นมาได้นั้น คงยากที่มาจากการตั้งคำถามและรอข้อมูลมาแบบสำเร็จรูป มันจะดีกว่ามั้ย ถ้าน้องจะค้นคว้าและเอาข้อสงสัยมาถาม มาแลกเปลี่ยนความรู้กัน มันคือการฝึกฝนเพื่อทำให้เกิดการพัฒนาครับ นอกจากน้องจะดีขึ้น วงการเราก็จะดีขึ้น ผลดีก็จะเกิดกับสังคมโดยรวมครับ
ผมขอโทษและขอบคุณทุกความเห็นนะครับที่เข้ามาตอบ ผมอาจจะผิดเองที่ถามอะไรกำกวม ประเด็นที่ผมอาจไม่ได้บอกไปก็คือผมได้ทำการศึกษาเรื่องนี้มาซักพักแล้ว ในระดับนึง แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดการเจออาจารย์ได้อาทิตย์ละสองครั้งและห้องสมุด(ผมเรียนอินเตอร์)จึงค่อนข้างยากที่จะหาหนังสือที่ตรงตามความต้องการได้
ทีนี้พื้นฐานความเข้าใจเรื่อง cross ventilation ของผมโดยส่วนตัวผมคิดว่าอาจจะเข้าใจได้ไม่ตรงจุด จึงคิดจะมาถามจากผู้ที่เข้าใจคำจำกัดความหรือหลักการที่ถูกต้องเพียงเท่านั้นครับ โดยคำถามของผมถ้าอ่านดูผมคิดว่าไม่ได้มีเจตนาจะขอให้พี่ๆมาช่วยออกแบบเลยครับ ผมอาจจะผิดที่ไม่ได้บอกพื้นฐานที่มาที่ไปในเรื่องนี้ ผมขอโทษครับ ผมแค่ต้องการความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้นจากผู้ที่รู้มากกว่า การบ้านต้องทำเอง ถามอาจารย์เอง ผมเชื่อว่าผมถามหลักการคงไม่ใช่การให้ผู้อื่นช่วยทำการบ้านหรอกนะครับ แต่ยังไงซะผู้ที่มาตอบหรือเข้ามาอ่านก็คงจะได้ความรู้มากกว่าเปิดกูเกิ้ลที่ตอบคำถามเราได้ไม่เหมือนอาจารย์ในเว็บบอร์ด ผมเชื่ออย่างนั้นครับ ขอบคุณครับ
ผมสัญญาครับว่าคราวหลังผมจะบอกพื้นฐานความรู้ในเรื่องใดๆที่จะถามก่อน ผมไม่อยากให้มีคนมาบอกว่าทำไมไม่เปิดกูเกิ้ลหนะครับ เพราะบางอย่างใช่ว่ากูเกิ้ลจะตอบได้หรืออธิบายได้เข้าเท่ากับ คนที่สามารถโต้ตอบได้ และผมจะพยายามอ้างอิงถึงแหล่งที่มาของข้อมูลที่ผมรู้ด้วยครับผม
สลด…
คุณโสดจัง
กับคนอื่นๆผมไม่รู้ แต่กับผมถ้าอยากรู้อะไร ผมหาด้วยตัวเองก่อนเสมอครับ
หาไม่ได้จริงๆ ผมค่อยถาม และไม่อายที่จะถามด้วย
เวปบอรด์น่ะ มีไว้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น เป็นแหล่งข้อมูล เป็นแหล่งระดมความคิด ความเห็น
แต่ไม่ได้มีไว้ถาม หรือใช้งานคนอื่นกันได้ในทุกๆเรื่อง
โดยที่ไม่ได้พยายามด้วยตัวเองนี่ครับ
สมมุติอย่างผมอยากได้แบบบ้าน ก็มาโพสให้คนช่วยออกแบบให้ แต่ทั้งที่ผมมีปัญญาจ้างใครๆ แต่ผมไม่จ้าง เพราะไม่อยากเสียเงิน อยากได้ของฟรี
เลยเอามาโพสแต่งคำให้ดูสวย ดูน่าสงสารดีกว่า
เดี๋ยวก็มีพวกอีโก้แรงๆ มาโชว์เพาว์ ทำแบบให้ฟรีๆ โดนผมหลอกใช้สะแบบนี้..
มันใช่และมีประโยชน์เหรอไงครับ ?
ผมบอกแล้ว เรื่องแบบนี้มันแล้วแต่มุมมองและความคิดของแต่ล่ะท่าน ของใครของมัน
ผมไม่มีเวลาตามไปนั่งด่าใครต่อใครหรอกครับ มันไม่ใช่เรื่อง….
เพียงแค่ผมโดนปลูกฝังของผมมาแบบนี้ ว่าจะทำอะไรก็ต้องพยายามทำด้วยตัวเองก่อน ก็แค่นั้น และถ้าผมมีลูกมีหลาน ผมก็จะสอนของผมแบบนี้เช่นกัน
เพราะความคิด มุมมอง และความพยายามที่แตกต่างกันแบบนี้เอง
คนเราถึงมีหลายคุณภาพหลายระดับที่แตกต่างกันไป
มีทั้ง เจ้าของกิจการ มีนักวิชาการ มีคนเก่ง คนไม่เก่ง มีลูกจ้าง และมีแรงงาน…
แต่ผมมั่นใจว่า คนเก่งๆ หรือเจ้าของกิจการส่วนใหญ่ ก็มักมาจากคนที่พยายามทำอะไรด้วยตัวเองก่อนเสมอแหละครับ
(เอ่อ.. ผมไม่ได้บอกว่าตัวเองเก่งนะ )
ปล. เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ น้องเจ้าของกระทู้นะครับ ผมถือว่าเหตุผลที่น้องมาตอบเคลียร์กันไปแล้ว!!
เอ่อ แนะนำน้องอีกนิดนะครับ
ถ้าน้องคิดว่า ในเน๊ตน่ะหาไม่ได้ ยุคที่พี่เจออ่ะกูเกิ้ลยังไม่มีด้วยซ้ำ ต้องขวนขวายวิ่งไปเองอย่างเดียว
ทางเลือกที่จะหาข้อมูล่น่ะยังมีอีกเยอะ น้องไปที่คณะ ให้คณะเขาออกหนังสือให้ แล้วน้องไปที่ออฟฟิสออกแบบดังๆที่มีประวัติออกแบบอาคารสูงพวกคอนโดเยอะๆ
ไปหาและขอคำแนะนำและปรึกษากับพี่สถาปนิกเขา
เท่าที่เจอมาไม่มีพี่ในออฟฟิสคนไหนใจร้ายกับน้กศึกษาหรอก
มีแต่เจอประเภทที่นักศึกษาได้สิ่งที่ต้องการมาแล้วถีบหัวส่งมากกว่า…
คราวนี้ก็ขึ้นอยู่ทีี่น้องจะพยายายามและลงทุนไปหาเองหรือไม่ แค่นั้นแล้ว
อืมม บ้านเรา มันไม่มี ฟอรั่ม ไว้ ถก เรื่องบางเรื่อง จริงๆจังๆเนอะ
ถ้าเมืองอื่น เข้า ฟอรั่ม ถามกันได้ทุกเรื่อง บางที่ แทบจะ แลคเชอร์ กันเลยทีเดียว
ถามเรื่อง cross ventilation ต่ออีกนิดครับ
ผมก็จบนิเทศมาครับ
ไอ้กระบวนการที่น้องเขาถามเนี่ย
มันต้องดูเรื่องการจัดวางแสงเป็นหลัก
แสงหลัก แสงรอง
เอ่อ………………………………………..ไปดีกว่า
ความเห็นขัดแย้งกันรุนแรงๆๆๆ