ถ้าหาก มี 1 ครอบครัว คุณตาคุณยาย
มาขายอาหารตามสั่งใกล้บริเวณบ้าน มีรายได้เพื่อการยังชีพ (พออยู่พอกินไปวันๆ-คชจ.มี ค่าเช่าบ้าน ค่ารักษาพยาบาล ค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ฯลฯ)
แต่กลิ่นควันคราบมัน ลอยมารบกวน ที่พักอาศัย ทุกวัน
จะทำอย่างไรดี ค่ะ??
ถ้าขจัดสิ่งรบกวน ให้เจ้าหน้าที่จัดการ….
คุณตาคุณยาย ก็จะไม่มีรายได้ คิดมาก และอาจต้องเป็นคนวิกลจริต
(คุณตา เริ่มมีอาการบางครั้ง)
ถ้าให้ขายต่อไป… ก็จะรบกวนการพักอาศัย ..(ต้องปิดประตูหน้าตาตลอดเวลา)
หากต้องเลือก ท่าน จะเลือกวิธีไหน ดีที่สุด "ทุกฝ่าย"
หมายเหตุ … คุณตาคุณยาย ก็ไม่ยอมย้ายไปขายที่อื่นด้วยนะคะ (ผูกพันกับที่แห่งนี้)
พูดคุยกัน…
น้ำใจ..
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่…
เห็นใจซึ่งกันและกัน..
…
หาทางออกร่วมกัน
…
ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกทางใดทางหนึ่งนี่ครับ
บางอย่าง..ไปด้วยกันได้
^ ^”
ทำที่ดูดควันให้
มันเป็นกระทู้ระหว่างความรู้สึกและเหตุผลจริงๆ
คคหส่วนตัว…..
เราเป็นคนให้ความสำคัญกับจิตใจค่อนข้างสูง…
เพราะอยู่กับคนแก่เยอะ.. คุณพ่อ คุณแม่ ขี้น้อยใจเป็นหลัก 🙂
ดังนั้นเราจะใจอ่อน เมื่อเห็นคนแก่…
โดยส่วนตัวเราคงไม่ว่าอะไร…. และหาทางป้องกันบ้านเราจากสิ่งรบกวน
ไม่ได้เป็นนางฟ้าที่ไหน… แต่ช่วงชีวิตตอนนี้ หาน้ำใจจากใครยากจริงๆ
โดยขอทำก่อน เผื่อวันข้างหน้า เราทำอะไรให้ใครไม่พอใจ อาจมีผลบุญหนุนนำ ให้แก้ไขไปได้ 🙂
อาจเข้าไปคุย และบอกกับทาง คุณยาย
ถึงปัญหาที่เราพบ ให้คำปรึกษา ว่าควรแก้ไขอย่างไร
คุยด้วยความถ้อยที ถ้อยอาศัย
ถ้าเป็นเราใช้พัดลมเป่ากลิ่นอาหารไปทางอื่น พอไหวมั้ย…
*** เวลาที่แกไม่มีใคร ก็คงเศร้ากับชีวิตมากพอแล้ว..
หากมีปัญหาอื่นรุมเร้าเพิ่มเติม…. ถ้าเป็นตัวเราเอง… มันคงเศร้ามากๆนะคะ
กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ 🙂
บริจคเครื่องดูดควันให้แก ทั้งได้บุญ ทั้งได้ความสบายตัว
ที่ที่เค้าขายอาหารตามสั่งเป็นที่ของคุณจขกท.หรือเปล่า
ถ้าใช่
แล้วคุณรำคาญมาก รู้สึกว่าตัวเองถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ ก็ให้เค้าย้ายออกไปค่ะ
ถ้าไม่ใช่
แจ้งตำรวจเรื่องเค้าสร้างความรำคาญให้จนคุณไม่สามารถเปิดหน้าต่างได้
ตำรวจคงไม่รับแจ้ง
หรือจะแจ้งเทศกิจกรณีขายบนที่สาธารณะ อาจไม่ได้ผลเพราะเราก็เห็นมีคนขายของบนทางเท้าเต็มบ้านเต็มเมือง
หรือถ้าพอจะมีเงินเหลือก็ช่วยทำทานคนแก่สู้ชีวิต ติดพัดลมดูดอากาศให้ หรือไม่ก็ซื้อพัดลมให้จะได้เป่าควัน+ไอน้ำมันไปอีกทาง
ไม่งั้นก็ทำจิตเป็นกุศล ปิดประตูหน้าต่างต่อไป ถือว่าช่วยคนแก่ได้มีทางทำมาหากิน
ลองคุยกับแกดู เขาตั้งเตาเลยใช่ไหมครับ
ถ้าใช่ อาจลงทุนหาซื้อครอบอลูมิเนียมให้เขา แบบที่มีพัดลมดูดควันแล้วต่อท่อเป่าขึ้นสูงๆ อาจช่วยไ้ด้บ้าง
ปิดประตูหน้าต่างต่อไป แล้วใช้เวลานั้นฝึกสมาธิ หรือโยคะ ก็ได้
หรือออกจากบ้านไปเดินออกกำลังกาย
หากมีกำลังทรัพย์ก็ตามข้างบนบอก
หากไม่มีก็ทำตามที่คุณคิดไว้แล้ว(น่าจะคิดแล้ว แต่กลัวความรู้สึก)
แต่ผมไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นเลย หวังว่าจะได้ทางออกที่ดี อาจจะไม่ดีเท่ากับที่คิด
อดทนอีกสักนิดครับ เดี๋ยวตายายสองท่านนั้นก็ไปสบายแล้ว ไม่ได้แช่งนะครับ อันนี้พูดตามหลักความจริง (ประเด็นคือให้อดทนอีกนิดครับ)
ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนค่ะ
คุณตาคุณยาย ขายของบนที่สาธารณะค่ะ
ขายข้าวไข่เจียวและอาหารตามสั่ง
เวลาทอดไข่เจียว คราบมัน เหม็นมันจะลอยมาติดเสื้อผ้าที่ตากไว้ และกลิ่นจะลอยเข้าบ้าน เหม็นเวียนหัวมากๆๆ ค่ะ
แต่ตอนกลางคืน คุณตาคุณยาย ก็จะล้างทำความสะอาด และเก็บอุปกรณ์รถเข็นกลับบ้าน
ถ้าซื้อปล่องควันให้ เกรงว่าจะไม่สะดวกในการขนย้าย
ขายมานานกว่า 5 ปี แล้วค่ะ
คุณตาอายุประมาณ 60 ปี คุณยายอายุประมาณ 55 ปี
มีลูกชาย 3 คน ทำงานแล้วทั้งคู่ แต่เหมือนว่าคุณตาคุณยาย ไม่อยากเป็นภาระให้กับลูกๆ ก็เลยต้องมาขายทุกวัน