แบตรถยนต์ เปลืองมาก ไม่ทราบว่ารั่วที่ใด
1.เราจะใช้เครื่องมืออะไรตรวจเช็คเองได้บ้าง
2.เช็คอย่างไร ถ้าเครื่องมือดังกล่าวไม่มี
คำค้นหา:
- วิธีเช็คไฟรั่ว รถยนต์
- การเช็คไฟรั่วรถยนต์
- เช็คไฟรั่ว รถยนต์
- เช็คไฟรั่วรถยนต์
- ไฟรถยนต์รั่ว
แบตรถยนต์ เปลืองมาก ไม่ทราบว่ารั่วที่ใด
1.เราจะใช้เครื่องมืออะไรตรวจเช็คเองได้บ้าง
2.เช็คอย่างไร ถ้าเครื่องมือดังกล่าวไม่มี
ถ้าหมายถึงรั่วแบบไฟหมดแบตหลังจากจอดทิ้งไว้ระยะหนึ่ง
อันนี้เป็นไปได้ว่าอาจจะรั่วจริง หรืออาจจะเป็นพวกอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่นระบบกันขโมย เครื่องเสียง หรืออื่นๆ ที่ต่อไฟแบบไม่ผ่านสวิทช์กุญแจจะยังกินไฟแบตน้อยๆอยู่้ตลอด
วิธีเช็คแบบคร่าวๆ จะใช้หลอดไฟแบบไส้ เอาหลอดประมาณ 7W จากไฟหรี่หรือไฟเพดานก็ได้(หลอด watt สูงจะไม่ติดถ้ารั่วน้อยๆจะไม่รู้)
ให้ปิดสวิทช์กุญแจและดึงออก ปิดไฟทุกดวง ปิดประตูรถด้วยเพื่อดับหลอดไฟเพดานและไฟโชว์ จากนั้นถอดสายแบตขั้วลบออก(ขั้วบวกไม่ต้อง)แล้วเอาปลายหนึ่งของหลอดไฟแตะที่ขั้วแบต อีกปลายของหลอดแตะที่สายที่ถอดออก(มองว่าเหมือนใช้หลอดไฟเป็นตัวเชื่อมวงจร) หากต่อแล้วหลอดติดแสดงว่ามีไฟรั่วอยู่ หลอดสว่างมากก็คือรั่วมาก (หลอดอาจติดนิดๆ หากคุณมีอุปกรณ์เสริมที่ใช้ไฟตรงๆเยอะ)
เมื่อพบว่ามันรั่วแล้ว วิธีหาคือให้ต่อหลอดไฟไว้แบบนั้นก่อน แล้วค่อยๆลองดึงฟิวส์ออกทีละตัว ดูว่าวงจรไหนที่รั่วถ้าดึงถูกตัวหลอดไฟจะดับลงทันที
การทดสอบแบบนี้จะทำให้นาฬิกาเวลาหายต้องตั้งใหม่(เพราะไปถอดขั้วแบต)และวิทยุอาจต้องตั้งสถานีและอื่นๆใหม่
ถ้ามีมัลติมิเตอร์ให้ปรับไปที่ย่านวัดกระแส DC แล้วต่ออนุกรม(ต่อแทนที่หลอดไฟนอกนั้นเหมือนกัน)จะดีกว่าตรงที่เห็นปริมาณกระแสเลยว่าไหลอยู่กี่มิลลิแอมป์
ถ้ารถรุ่นใหม่ๆ การไปถอดขั้วแบตอาจกระทบกับระบบ ECU หรือกันขโมยได้
ถ้าไม่แน่ใจระบบ อาจต้องยอมเสียเวลาเลี้ยงไฟไว้ด้วยแบตลูกอื่นก่อนและทำการต่อแอมป์มิเตอร์ให้เสร็จ(ต่อให้แน่นหนามั่นคงไม่หลุด)แล้วค่อยปลดแบตที่ใช้เลี้่ยงไฟ ทำเพื่อให้ทุกขั้นตอนการต่อสายไม่ทำให้ไฟในรถดับ จากนั้นค่อยอ่านค่ากระแสบนมิเตอร์
ตอนจะถอดมิเตอร์ก็ให้เลี้ยงไฟไว้ก่อนเช่นกันจนกว่าจะติดตั้งขั้วแบตคืนจึงปลดแบตเสริมที่ใช้เลี้ยงไฟออกได้
**ระหว่างที่ใช้แอมป์มิเตอร์ ห้ามเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าใดๆในรถ หรือแม้แต่บิดกุญแจ ON เพราะกระแสจำนวนมากจะวิ่งผ่านมิเตอร์ อาจทำให้เสียหายได้
วิธีการหาไฟรถยนต์รั่วขั้นแรก คือถอดสาย ขั้ว + หรือ – ก็ได้ ออกมาแล้วเขี่ย
ไปที่ขั้วที่ถอดมาให้ไฟ สปาร์ค แป๊รบ ๆ ถ้าไม่มี หรือมีการแล๊ป ออกมาน้อยมาก
แสดงว่า ไม่มีไฟรั่ว มีแต่ไฟเลี้ยงเล็กน้อย แบตฯ มีปัญหา คือเก็บไฟไม่อยู่
แต่ถ้าเขี่ย แล้วแล๊ป แปร๊บ ๆ แบบออกจะมีไฟสปารค์มากหน่อย แสดงว่ามี
ไฟที่กำลังใช้ในระบบ ต้องเช็คหาที่รั่วอีกทีครับ อันนี่เป็นการเช็คเบืองต้นนะครับ
มาเก็บข้อมูลครับ
ขอเสริมว่ารถบางยี่ห้อรุ่นใหม่ห้ามถอดขั้วแบต จำต้องมีไฟเลี้ยงระบบ เช่นรถเบนซ์ และวอลโว่บางรุ่นครับ หากเผลอไปถอดอาจต้องกลับไปให้ 0 จัดการ
สมสุติการเปลี่ยนแบต จำต้องมีไฟไปเลี้ยงระบบตลอดครับ
การที่ไฟแบตหายไปอย่างง่ายดาย บางทีอาจจะเป็นที่ รีเลย์สำหรับคอมแอร์ ต่อตลอดเวลาไม่ตัด (คือมีอาการหน้า คอนแทครีเลย์ ช๊อต เชื่อมวงจรไฟไว้ให้รีลย์ทำงานตลอดเวลาแม้จะถอดกุญแจรถออกไปแล้ว) ก็ได้
ลองเช็คง่าย ๆ ด้วยการ เมื่อจอดรถอยู่กับที่ ลองเปิดสวิทแอร์ (ไม่ต้องสตาร์ทเครื่องยนต์) กดปุ่มทำความเย็น (AC) ถ้ารีเลย์ปกติ เราจะได้ยินเสียงรีเลย ดังแชะ และเมื่อกดปุ่มปิดสวิททำความเย็น (AC) ก็จะได้ยินเสียงอีกนั้นเอง แสดงว่า รีเลยปกติ ตัดต่อไฟได้ แต่ถ้าทำตามนี้แล้ว ไม่ได้ยินเสียงเลย แสดงว่า รีเลย์ทำงานตลอดเวลา จึงมีผลทำให้ถอดกุญแจรถดับเครื่องออกไปแล้ว รีเลย์คอมแอร์ ก็ยังคงทำงานกินไฟแบตตลอดเวลา คืนเดียว ไฟแบตก็หมดแล้ว
ต้องดูพฤติกรรมการใช้รถด้วย เช่น
-การเปิดเครื่องเสียง มีติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ไฟเพิ่มหรือไม่
– มีสัญญานกันขโมย ปิด/เปิด บ่อยแค่ไหน
– การชาร์ตมือถือในรถ
– ฯลฯ
ขอบคุณทุกท่านมากครับ กำลังหาซื้อไขควงวัดไฟแบตฯ อยู่พอดี แต่ยังหาไม่ได้
ได้รับความรู้อย่างนี้ จะรีบไปหาหลอดไฟ 7 วัตต์ มาทำดูก่อนครับ ได้รับความกระจ่างมากเลย
ขอบคุณอีกครั้งครับ