พอดีน้องชายจะรีโนเวทบ้านเก่า
ไปถามบ.รับสร้างบ้าน ก็เห็นว่าใช้ค่าใช้จ่ายสูง สองถึงสามล้าน(ตามแบบที่เค้าตีราคามา)
เค้าเลยมีความคิดว่า ถ้าจ้างผู้รับเหมามาทำ น่าจะถูกกว่า แต่เราว่าคงยุ่งกว่า
รบกวนขอความเห็นหน่อยนะคะ ว่าอะไรถูกและ ควรทำกว่ากัน
พอดีน้องชายจะรีโนเวทบ้านเก่า
ไปถามบ.รับสร้างบ้าน ก็เห็นว่าใช้ค่าใช้จ่ายสูง สองถึงสามล้าน(ตามแบบที่เค้าตีราคามา)
เค้าเลยมีความคิดว่า ถ้าจ้างผู้รับเหมามาทำ น่าจะถูกกว่า แต่เราว่าคงยุ่งกว่า
รบกวนขอความเห็นหน่อยนะคะ ว่าอะไรถูกและ ควรทำกว่ากัน
จะจ้างใครก็ต้องมีเวลาไปที่ไซท์สม่ำเสมอ เพราะมีเรื่อง มีปมให้ตัดสินใจประจำ
ถ้ารู้ว่าตัวเองต้องการบ้านแบบไหน และเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียด หัวไว และสื่อสารดี การใช้ผู้รับเหมาจะสนุก
ผมได้สถาปนิกแนะนำผู้รับเหมาที่ทำงานโยธาหลากหลายชนิด ตั้งแต่โรงแรม โรงงาน บ้าน ตึก แต่ที่ดีมากๆ คือ เขาเป็นมืออาชีพและซื่อสัตย์ เป็นเถ้าแก่ ที่เจาะลึกรายละเอียดงานดี และลงมาคลุก มาดูงาน มาแก้แบบด้วย นายดี ผู้รับเหมาย่อยก็ดี ดีในแง่ประสบการณ์และความเป็นคน
แต่ขออนุญาตไม่หลังไมค์ เพราะงานเขาเยอะ ให้เบอร์ไปเขาก็ไม่รับ
หาผู้รับเหมา(ดีๆ)เองจะถูกกว่าครับ บริษัทรับสร้างบ้านเขาก็ไปจ้างซับอีกทีนึงอยู่ดี แล้วก็มากินค่าหัวคิว ค่าดำเนินการกับเราครับ
เห็นด้วยค่ะว่าจะจ้างใครก็ต้องมีเวลาไปดูแลอย่างสม่ำเสมอ
ถ้าหาผู้รับเหมาดีๆไม่ได้ (กรณีไม่รู้ฝีมือ ไม่รู้นิสัยใจคอ) บริษัทเป็นทางเลือกที่น่าจะปลอดภัยและรัดกุมกว่าค่ะ
มีสัญญาจ้างชัดเจน ระบุรายละเอียดชัดเจน
ถึงแม้จะถูกบวกค่าดำเนินการ หรือบวกค่าผลิตภัณฑ์อะไรไปบ้าง แต่โดยมากกว่าไม่ได้เกินกว่าราคาท้องตลาด
คำแนะนำนี่ก็แล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนนะคะ
คนที่เค้าได้เจอผู้รับเหมาดีๆ หรือคุมเป็น เค้าก็มองว่าแบบนั้นดีกว่า
พอดีเรารีโนเวทเหมือนกัน แล้วได้บริษัทที่ใช้ได้ค่ะ บวกกับเคยจ้างงานแบบใช้ผู้รับเหมาแล้วไม่ประทับใจ
เลยชอบระบบบริษัทมากกว่า
ของเราเป็นผู้รับเหมา ตอนที่ทำบ้านโดนย้ายไปทำงานต่างจังหวัด เราอาศัยคุยปัญหาทางโทรศัพท์ตลอด เสาร์-อาทิตย์ วิ่งมาดูบ้านตัวเอง หากเจอปัญหาผู้รับเหมาจะโทรบอกก่อนไม่ตัดสินใจเอง ก็สะใจดีค่ะ
เคยหาบริษัทรับเหมาก่อสร้างเหมือนกันค่ะ แต่ราคาแพงมาก แม้จะเป็นบ้านหลังเล็กๆก็ตาม จะแก้สเป็คที่ก็ลำบาก
ตอนนี้เลยจ้างสถาปนิกมาช่วยเขียนแบบให้ (ขนาดบ้านหลังเล็กๆก็ปาเข้าไปสี่เดือนแหนะ) กับหาผู้รับเหมาเองค่ะ (ตอนนี้อยู่ในระหว่างตัดสินใจค่ะ เพราะเหลือสองเจ้าแล้ว คาดว่าเสาร์-อาทิตย์นี้คงได้เซ็นต์สัญญาค่ะ)
ก็เหนื่อยไปอีกแบบค่ะ คือเหนื่อยตั้งแต่ตอนหาคุณสถาปนิกช่วยออกแบบ จนถึงดูแบบจนกว่าแบบจะโอเค หาผู้รับเหมา ดูวัสดุต่างๆ
แต่เราว่าถ้าให้กลับไปเลือกใหม่ก็ยังเลือกแบบนี้นะคะ เพราะว่าเราได้มีส่วนร่วมทุกขั้นตอนค่ะ ^ ^
แบบ คห.6 ล่ะครับ
เป็นวิธีที่ผมว่าลงตัวที่สุด
ฝ่ายออกแบบกับก่อสร้าง คนละทีม
ลดโอกาสในการฮั้วงาน ล็อคสเปค
เพิ่มความโปร่งใส
ผู้รับเหมา เทิร์นคีย์ที่จดทะเบียนในรูปบริษัท และมีความสามารถพอๆกับ
บริษัทรับสร้างบ้านขนาดใหญ่ มีเยอะแยะไปครับ
(พวกนี้จะตัดเหมาค่าแรง แต่ไม่นิยมsubให้ใคร แต่ราคาถูกกว่าบริษัทใหญ่)
ตามเทศบัญญัติมีข้อกำหนดหนึ่งคือ สมัยนี้ต้องควบคุมก่อสร้างโดยสถาปนิก
และวิศวกร หากบ้านมีพื้นที่ก่อสร้างเกิน 150 ตร.ม.
… ก็ทำไมไม่ตัดตรงนี้ จ้างคนนอกมาคุมแทนล่ะครับ
เขาไม่ได้ออกแบบ-เขียน ราคาก็ลดไปมาก มีแต่เพียงวิ่งมาหน้างานเพื่อ
ควบคุมงานเท่านั้น/หน้าที่ออกแบบ-ขออนุญาต ก็ให้ผู้รับเหมาเทิร์นีย์ทำ
ไป เพราะเขามีต้นทุนที่ต่ำกว่า
(นัดวันเข้าหน้างานพร้อมกัน/หากมีปัญหาสงสัย เจ้าของบ้านก็มีที่ปรึกษา
ที่พร้อมชนกับ ผู้รับเหมาประจำการ 24 ชม.ให้)
… ผมสั้งกตุว่า ในงานเล็กๆไม่ค่อยจะใช้ตรงนี้ กันเลย
ในงานขนาดใหญ่ ผู้ออกแบบเป็นแค่ designer เท่านั้น
นะครับ ไม่ใช่ consult /แยกกัน
จากประสบการณ์ตรงของตัวผมเอง ขอแนะนำว่า..ไม่ว่าคุณจะจ้างใครก็ตาม คุณต้องมี"โชค"ด้วยครับ คำว่า"โชค"ในที่นี้หมายถึง โชคดี โชคช่วย ครับ
บ้านของผม ณ ปัจจุบันไม่มีช่างทำงาน ผู้รับเหมาหาช่างไม่ได้ อีก 2 เดือนไม่รู้จะเสร็จหรือเปล่า ใช้บริการของผู้รับเหมาซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่วิทยาลัยเทคนิค แผนกช่างก่อสร้าง ซึ่งน่าจะไม่มีปัญหาอะไรให้ผมต้องปวดหัว(ปวดตับ) แต่ไหนได้..ผมต้องปวดใจกับผลงานของไอ้ช่างเลวที่มันทำทิ้งเอาไว้ อีก 2 วัน ผมจะโพสให้ดูว่าเละเทะขนาดไหน
สุดท้ายนี้ ผมขออวยพรให้ จขกท โชคดี ได้ผู้รับเหมาดี ทีมช่างเก่ง ครับ
โชคสำคัญพอควร ทั้งผู้ว่าจ้าง และ ผู้รับเหมา ผู้ว่าจ้างควรทำความเข้าใจ
กับผู้รับเหมาไห้กระจ่างถึงความต้องการ ระดับของคุณภาพงาน และ เงิน
ที่จ่ายเป็นค่าจ้าง ผู้รับเหมาดี ๆ มีประสบการณ์ และ ตั้งใจทำหน้าที่ อย่าง
มืออาชีพ แต่อย่าไปหวังว่างานทุอย่างที่ออกมาจะถูกใจเราไปเสียทั้งหมดนะครับ