แรงไปมั๊ยคะ???
รู้ว่าแรงค่ะ แต่มันก็อดไม่ได้จริง ๆ ทั้งบ้านที่เราซื้อเอง ประสบการณ์ตรงเอง
กับทั้งที่อ่านในชายคาด้วย หลายกระทู้เกิดจากเซลล์บอกได้ทุกอย่าง มีทุก
อย่าง แต่เวลาจริงไม่มี (กลับไปอ่านสัญญา) อ่าว..โดนหลอกซะแล้ว
ทำอะไรก็ไม่ได้ ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย และมาโพสต์โวยวายในชายคาเอา
เฮ้อ….
ที่กล่าวมาข้างต้น อยากทราบว่าค่ะ คุณเซลล์ขายบ้านคะ จิตใจคุณทำด้วย
อะไรคะ ช่วยบอกมาที ชีวิตนี้เคยซื้อบ้านกับเค้ามั๊ยคะ เข้าใจหัวอกคนซื้อบ้าน
บ้างมั๊ยคะ เราไม่ได้ต้องการบ้านหรู บ้านเฟอร์เฟค แต่เราต้องการความจริงใจค่ะ
อย่าหลอกให้เราคิดไปเองได้มั๊ยคะ แล้วคุณก็มาใช้วิชามาร พลิกลิ้น กลับคำ
สัญญาปากเปล่าของคุณ โดยเอาสัญญาตัวจริงมาอ้าง ให้เราจุกจนพูดไม่ออก
ขอร้องเถอะค่ะ จรรยาบรรณเซลล์มีมั๊ยคะ หรือเห็นใจเพื่อนมนุษย์กันบ้าง
เราไม่แน่ใจว่าเรื่องพวกนี้เกิดจากเจ้าของโครงการให้เงินเดือนเซลล์น้อย
แล้วเซลล์ก็เลยโป้ปดทุกวิถีทางเพื่อให้ขายบ้านได้ จะได้กินค่าคอม เงินเดือน
ไม่พอใช้ใช่มั๊ยคะ
หรือว่าค่าคอมมันเยอะมากจนทำให้ จิตสามัญสำนึกของคุณเซลล์ทั้งหลาย
ต่ำลงไปจนจมดิน เพราะเงินมันล่อตาล่อใจ
มีมั๊ยคะเซลล์ในห้องนี้ ช่วยตอบที
ปล. ไม่ได้เหมารวม แต่พูดถึงทั่วไป เซลล์ที่ดีอยู่แล้วก็ขอให้กำลังค่ะ
คำค้นหา:
- sale ขายบ้าน เงินเดือน
- เซลล์ขายบ้าน รายได้
- เซลล์ขายบ้าน
- เซลล์ขายบ้าน เงินเดือน
- https://www thaider com/homepro/8247
เค้าก็คงหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง ก็ได้แต่เป็นประสบการณ์ครับ
ยอมรับว่า เซลล์มีผลต่อการซื้อบ้านพอสมควร โดยเฉพาะ สำหรับมือใหม่หัดซื้อ(บ้าน) ผมเองส่วนนึงก็ตัดสินใจจากคำแนะนำของเซลล์เหมือนกัน พอเจออะไรที่มันผิดไปจากที่เค้าพูด (แต่ดันตรงกับสัญญา) ก็ได้แต่โมโห โกรธ แล้วก็หาทางออกเอาเอง
สำหรับอนาคต ถ้ามีการเจรจาตกลงอะไร ผมได้แต่ให้เค้าเขียนทุกอย่างที่เค้าพูด แล้วจึงค่อยเซ็นต์สัญญา เป็นการปกป้องตัวเอง และสามารถไล่เบี้ยได้
จากการที่เคยเป็นเซลมา แม้จะไม่ได้เป็นเซลขายบ้าน
แต่หลักการของเซล คือ ต้องขายให้ได้ และขายให้ได้มากขึ้น
ถ้าเดือนนี้ปิดยอดไม่ได้ หมายถึง ความมั่นคงทางอาชีพที่มีอยู่น้อยนิดเข้าขั้นริบหรี่
เดือนนี้ขายได้เท่านี้ เดือนหน้าต้องได้มากกว่า และได้มากขึ้นๆ
เราทนอยู่ในวงการแบบนั้นมาช่วงนึง และสุดท้ายก็ไม่ไหว เลยลาออกมา
เข้าใจเขาเถอะค่ะ ต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเหมือนกัน
เซลรู้แค่ว่า ต้องขายให้ได้ ทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าซื้อ
ยังจำคำของหัวหน้าได้ดีเลยค่ะ คุยกับลูกค้า
"ไม่มีไม่ได้ ไม่ได้ไม่มี ไม่มีต้องมีให้ได้"
(กลับไปอ่านสัญญา) อ่าว..โดนหลอกซะแล้ว
แปลว่า ก่อนซื้อไม่ได้อ่านเหรอคะ? หรือว่าอ่านไม่ละเอียดถี่ถ้วน?
คุณ คห.2 คะ
คำว่า "ไม่มีไม่ได้ ไม่ได้ไม่มี ไม่มีต้องมีให้ได้" นี่
มันอยู่ในเชิงบวกหรือลบละคะ
แล้วที่ได้รับการเทรนมาแบบนี้เป็นกับเซลล์ส่วนใหญ่เลยหรือคะ
แล้วเค้ามีประโยคต่ออีกมั๊ยว่า "…มีให้ได้ก็ต้องทำให้ได้"
อารมณ์คนอยากได้ใครพูดทัดทานก็โกรธสัญญาก็ไม่อ่านกลัวไม่ได้ซื้อเวลากู้แบงค์เค้าให้เซ็นอะไรก็รีบเซ็นกลัวเค้าไม่ให้กู้แต่พอมีปัญหาก็จะมาอ่านสัญญาแล้วก็ถึงรู้ว่าเสียเปรียบนี่แหละอุทาหรณ์ครับ
อืม …. เข้าใจคนซื้อบ้านค่ะ..
แต่ก่อนทำอะไรกับเงินจำนวนมากๆ ต้องละเอียดถี่ถ้วน
อ่านแล้วอ่านอีก ไม่มีในสัญญา คุณเซลล์ไปทำยังไงก็ได้ให้มันมี
และไม่ใช่เซลล์เซ็นนะ… ขอเป็นระดับ Manager ขึ้นไปเป็นผู้เซ็นกำกับเท่านั้น
ขนาดนี้ ยังมีดิ้นกันเลยค่ะ
หากไม่มีในสัญญาคงจบแค่เพียงนั้นจริงๆ..
เรื่องนี้จงเป็นอุทาหรณ์สอนใจได้ดีมากๆค่ะ
อ่านสัญญาให้ถี่ถ้วนก่อนการเซ็นทุกครั้ง…. ทุกๆเรื่อง
เพราะนั่นหมายถึง คุณได้ทำการยอมรับทุกข้อความบนเนื้อหาสัญญาโดยไม่มีข้อโต้แย้งค่ะ 🙂
ทั้งบวกทั้งลบแหละค่ะ
เพราะว่าลูกค้าต้องการอะไร แล้วเราตอบว่า ไม่ได้
มันจะสร้างความรู้สึก negative ทันที
และถ้าตอบว่า ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่มี หลายๆครั้ง
จะจบด้วยการ "ไม่ซื้อ"
จริงไหมคะ?
มีให้ได้หรือไม่นั้น มันไม่ได้อยู่ที่เซลค่ะ มันต้องสูงกว่านั้น
ว่าเขาจะยอมให้ลูกค้าหรือเปล่า
เซลก็มนุษย์กินเงินเดือน กินคอมมิชชั่น
ถ้าให้ลูกค้าทั้งหมดที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้ขายได้
จะเอาอะไรเลี้ยง ปากเลี้ยงท้อง ตัวเอง พ่อ แม่ ลูก เมีย ล่ะคะ
ครั้งแรกก็ต้องเจ็บ เจ็บแล้วจำ ต่อไปก็อย่าให้เจ็บล่ะกัน
พอดีผมดูบล้อกของแม่น้องเบสท์ ช่วงที่สร้างบ้าน โห…ติกเกอร์เต็มไปหมด และเห็นกระทู้หนึ่งยิ่งกว่านี้
ผมก็เป็นเซลล์ขายบ้านครับ ไม่เคยรู้เลยครับว่าบริษัทรับสร้างบ้านอื่นๆ เซลล์ของที่นั่นเป็นยังไงบ้าง? เวลาพบลูกค้าก็พูดตรงไปตรงมา ราคาเท่านี้ก็บอกเท่านี้ สัญญาเป็นอย่างนี้ก็บอกไปกันตรงๆ อันนี้ไม่ได้ ลูกค้าต้องเสียค่าใช้จ่ายเองก็บอกไปตรงๆ ไม่ใช่มาอ้อมแอ้ม บ่ายเบี่ยงไปเรื่อยๆ จนพอลูกค้าตกลงเซ็นสัญญาสร้างบ้านแล้วความจริงจึงเปิดเผย อย่างนี้ก็ไม่ไหว บริษัทที่ผมอยู่ก็ต้องการยอดเหมือนที่อื่นนั่นแหละครับ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องตรงไปตรงมา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพหรอกนะครับ แต่เพื่อที่ว่าบริษัทจะได้มีลูกค้าที่ดี ที่จะเป็นกระบอกเสียงที่ดีในการบอกต่อคุณภาพและผลงานของความใส่ใจของบริษัทให้กับลูกค้าใหม่ๆ รายอื่นต่อไป สำหรับผมเอง เวลาพบลูกค้า ถ้ามีอะไรผมก็บอกตรงๆ กับลูกค้านะครับ เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลา ถ้าลูกค้ารับและเข้าใจได้ เราก็คุยกันต่อไป แต่ถ้ารับเงื่อนไขและข้อเสนอบางอย่างไม่ได้ ก็คือไม่ได้ ซึ่งเราเองก็อาจจะไม่ใช่คำตอบของลูกค้า บ้านนะครับไม่ใช่กล้วยแขก จะได้ซื้อง่ายคล่องขนาดนั้น คนบางคนหาเงินมาทั้งชีวิตเพื่อที่ต้องการจะสร้างบ้านดีๆ สักหลัง แล้วเราจะทำให้เค้าเสียความรู้สึก เสียความตั้งใจอย่างนั้นหรือครับ?
คุณ Noon_rinz อยากรู้จังเคยขายโครงการอะไรคะเนี่ย..
งั้นคงนับว่าเราโชคดีมากที่ตัดสินใจซื้อกับโครงการที่ต้องถือว่าค่อนข้างจริงใจกับลูกค้าค่ะ ให้อะไรได้แค่ไหน
ก็แค่นั้น อันไหนเกินกว่าจะ offer ได้ก็บอกตรงๆ
ถึงแม้ว่าในเรื่องฝีมือช่างในงานละเอียดบางอย่างจะนับว่ายังน่าหงุดหงิดอยู่ แต่ต้องนับว่าโครงการมีความรับ
ผิดชอบตามแก้งานให้ในระดับที่น่าพอใจค่ะ ถึงแม้ว่าเราโอนบ้านไปแล้ว ก็ยังรับผิดชอบอยู่
เราว่าผู้จัดการโครงการไหนสั่งสอนลูกน้องให้รับปากลูกค้าส่งเดชนี่ บริษัทไม่น่าโง่จ้างให้เป็นผู้จัดการเลยนะ
เพราะมีแต่จะทำให้บริษัทเสื่อมลงเรื่อยๆ
สังเกตุง่ายๆ ต้องเป้นคนเมืองหน่อย ข้อมูลครบ และตรง
เห็นแล้วนึกถึงเพื่อนที่เป็นเซลล์ขายบ้าน
ที่ขายให้แล้วโดนลูกค้าพลิกลิ้นไม่จ่ายค่าคอม
บอกว่า ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่มีหลักฐาน
เพิ่งด่าไปว่า เป็นเซลล์แท้ๆ ทำไมไม่ทำเอกสารสัญญาให้ดีก่อน
เชื่อใจคนไม่รู้จักกันได้ยังงัย คนรู้จักกันยังฆ่ากันตายเพราะเงินมาแล้ว
คนจะโกง เป็นตำแหน่งอะไรมันก็โกงแหละค่ะ
สำคัญที่ว่าเราต้องรู้จักปกป้องตัวเองไม่ให้เสียสิทธิ์มากที่สุดได้ยังงัยนะคะ
ปล. ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เดาว่าสิ่งที่ได้รับไม่ตรงกับคำโฆษณาจากปาก
แต่ด้วยว่าไม่ทราบว่าเรื่องอะไร เลยไม่สามารถออกความเห็นได้อ่ะค่ะ
ตอบรวม ๆ ละกันนะคะ
เราไม่ได้เพิ่งเจอหรอกค่ะ ซื้อบ้านตั้งแต่ พค. แล้ว ก็เจอไปอ่วมไปนิดหน่อย
ประมาณว่า ปากเปล่าทั้งนั้น และไม่ทันคิด (โง่แหละค่ะ) ว่าจะต้องเขียนทุก
อย่างลงในสัญญา ก็เลยช้ำใจและก็เก็บเป็นบทเรียน (ถ้า)มีโอกาสได้ซื้อครั้ง
ต่อไป ก็บอกกับตัวเองไว้ว่า จะไม่ยอมเชื่อใครเป็นอันขาด เพราะตอนนั้น
เกรงใจ จะให้เขียนชัดเจน ก็กลัวจะมีปัญหาไม่พอใจ แล้วจะ support เราไม่
ดี
แต่บางความคิดเห็นที่บอกว่า เซลล์ต้องกินต้องใช้ หรือประมาณว่าต้องเลี้ยง
ปากเลี้ยงท้องนี่ คือข้ออ้างในการหลอกลวงหรือไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ตัวเอง
เหรอคะ คิดใหม่ดีกว่ามั๊ยคะ จนได้แต่อย่าให้ความจนมาเป็นข้ออ้างในการทำ
สิ่งไม่ดีและเอาเปรียบผู้อื่นเลยค่ะ
อ้อ..อีกอย่างที่บอกว่า ถ้าบอกว่าทำไม่ได้ คนก็ไม่ซื้อ ก็เลยต้องบอกว่าทำ
ได้ เอาอะไรคิดล่ะคะเนี่ย จริงใจกันดีกว่ามั๊ยคะ ขายกันระยะยาวดีกว่า หรือ
คิดว่าคนซื้อบ้านได้ครั้งเดียว หลอกเค้าแล้ว เค้าเจ็บใจหรือประทับใจก็คงไม่
มีปัญญาซื้ออีกหลังได้อยู่ดี แค่จริงใจค่ะ บอกกันตรง ๆ แล้วก็เอาข้อดีมา
ทดแทน ชดเชยให้เค้าฟัง ถ้าเค้ารับได้ก็ปิดการขาย จบ..
อ้อ..แล้วที่บอกว่าคนที่ให้ได้หรือไม่ได้ คือเจ้าของโครงการ แล้วคุณมาทำ
งานคุณไม่รู้เหรอคะ ว่าอะไรให้ได้หรือไม่ได้ นโยบายเป็นยังไง คุณไม่รู้
แล้วคุณรับไปได้ยังไง
ปล. ที่โพสต์เพราะอ่านกระทู้เมื่อวาน มีคนโดนเซลล์หลอกว่าให้นู่นให้นี่ แล้ว
ปรากฎว่าถึงเวลาจริง ไม่มีให้ตามนั้น ถามยังเอาสัญญามาบอกด้าน ๆ ว่าไม่
ได้ระบุ ทำอะไรไม่ได้ อีกทั้งกระทู้แนะนำที่เซลล์บอกอีกอย่าง แต่โครงการ
ทำอีกอย่าง ก็เลยเจ็บใจแทนค่ะ ว่ามนุษย์ที่เป็นเซลล์ขายบ้าน เค้าไม่มีหัวใจ
หรือไงกันนะ ประมาณนั้นค่ะ
ช่วงไตรมาสสุดท้ายคงรีบทำยอดกันจนขาดจรรยาบรรณ
หลักการขายของเซลล์ขายบ้านนั้นไม่เหมือนเซลล์ปกติทั่วไป
เหตุเพราะเจอกันครั้งเดียว ไม่รู้จะได้เจอกันอีกหรือเปล่า
ดังนั้นจึงเกิดการตีหัวเข้าบ้านเป็นเรื่องปกติ
ดังนั้น เมื่อเราผู้ซื้อเข้าใจว่ามีความเสี่ยง
จึงควรต้องระมัดระวังอย่างยิ่งยวด
เช่นมีสัญญาก็ต้องอ่านให้ละเอียด
อัตตาหิอัตโนนาโถ
ทีนี้เราจะแก้ได้อย่างไร
เนื่องจากเซลล์นั้นมาๆไปๆแต่บริษัทนั้นอยู่นาน
การเล่นงานบริษัทจึงเป็นทางเดียวที่พอจะทำได้ และมักจะทำกัน
แต่ความจริงแล้ว มันไม่ช่วยอะไรหรอก
เนื่องจากบริษัทก็เล่นสองหน้า หน้าหนึ่งก็อัดเซลล์ให้ขายของ
หน้าหนึ่งก็บอกลูกค้าว่าบริษัทไม่ทราบ เป็นเรื่องที่เซลล์ทำเอง บริษัทรับรู้ตามสัญญาเท่านั้น
ดังนั้น สิ่งเดียวที่เราต้องยึดถือและตรวจสอบเสมอคือสัญญา ไม่ว่าจะในรูปแบบของบันทึกข้อตกลงในการซื้อขาย ซึ่งระบุรายละเอียดต่างๆ และตัวสัญญาซื้อขายเอง
เซลล์ที่เก่งไม่ต้มลูกค้าหรอกครับ เซลล์ที่เก่งเขาขายตัวเอง
ของมันเหมือนๆกัน ต่อให้บ้านก็เหอะ ไม่ใช่ไม่มีตัวเลือก
ปัญหาคือ เราเป็นลูกค้าที่เก่งพอหรือไม่ต่างหาก
มันเหตุเพราะเจอกันครั้งเดียวเนี่ยแหละค่ะ
ก็เลยทำให้ผู้ซื้อไม่ทันได้ตระหนักถึงภัยในจุดนี้
ถ้าซื้อบ้านหลังที่สองที่สามเมื่อไร รับรองไม่โง่เหมือนเดิมหรอกค่า 5555
เรื่องเป็นมายังไง ก็ควรวิพากษ์เฉพาะเรื่องนั้นนะ
อย่างไรก็ดี
ศาลผู้บริโภคยอมรับให้นำคำสัญญาของเซลล์ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาได้แม้มิได้เป็นลายลักษณ์อักษร
ดังนั้น หากถูกโกงจริง ไม่ต้องกลัว เพียงแต่หาพยานร่วมชะตากรรม หรือหลักฐานประกอบอื่นๆ มาด้วย
ผมก็อ่านมาเยอะเลยครับ ทั้งที่พันทิปแล้วก็เว็บอื่นๆ อ่านแล้วก็รุ้สึกเศร้าใจ ที่เซลหลายๆคน หรือโครงการหลายๆโครงการ จ้องแต่จะหาผลประโยชน์ ชอบปัดความรับผิดชอบ ตอนจะซื้ออะไรๆ ก็ดูดีไปหมด แต่พอโอนบ้านไปแล้ว พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ บางโครงการสัญญาว่าที่ตรงนี้ จะเป็นของส่วนกลาง กลับเอาไปพัฒนาทำเป็นอีกโครงการนึงขึ้นมา ผู้บริโภคอย่างเราๆเลยลำบาก จะร้องเรียนพวก สคบ. หรือหน่วยงานรัฐ ก็คงจะล่าช้า ไม่มี action อะไรกลับมาแน่เลย สุดท้าย เราก็ต้องพึ่งสังคมออนไลน์อย่างที่นี่แหละ ที่จะช่วยกระจายข่าวต่างๆ ให้มันเกิดกระแส จนมีผลกระทบและได้ยินไปถึงหูพวกโครงการเหล่านี้ให้ได้ อย่างตอนนี้ เห็นมีเว็บใหม่อีกเว็บนึง ที่เค้ามีไว้สำหรับร้องเรียนเรื่องสินค้าและบริการโดยเฉพาะเลยครับ มีหลาากหลายหมวดหมู่เลยนะ รวมทั้งเรื่องบ้าน โครงการจัดสรร ต่างๆด้วย ลองเข้าไปโพสกระทู้ ความเห็นในนั้นบ้างก็ได้ครับ
http://www.googloom.com/preview/code/recent/trait/13/
เอ่อ ลืมบอกไป ไอ้เว็บนั้น มันอ่านว่า "กูกลุ้ม" นะครับ คงจะล้อๆกับคำว่า google แหละ อันนั้น มันไว้สำหรับเซิสหาทุกสิ่งในโลก แต่อันนี้ คงไว้สำหรับสินค้าบริการโดยเฉพาะแหละมั้ง เดาๆเอาครับ คิดว่าใช่ เห็นชื่อเว็บ กับ แนวคิดเค้า เกิดชอบ ก็เลยเอามาแชร์ให้เพื่อนๆห้องชายคา ดูๆกันนะครับ
ขอออกความคิดเห็นด้วยคนนะคะ พอดีเพิ่งซื้อบ้านใหม่จะเข้าอยู่เดือนหน้าละ เรื่องของเซลล์นั้น บางทีโครงการเดียวกัน เซลล์ต่างคนกันก็พูดไม่เหมือนกันนะคะ ตัวเราเอง ก็งง อย่างเซลล์เราบอกว่า ในโครงการเนี่ยไม่อนุญาตให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงปล่อยเดินไปทั่วโดยเฉพาะเรื่องของการถ่ายของสัตว์เนีย เราก็ซีเรียสเพราะเราไม่ชอบเลี้ยงสัตว์ แล้วก็ไม่ชอบให้ใครเอาสัตว์ของตัวมาถ่ายเรี่ยราดหน้าบ้านเรา ปรากฏว่าไปตรวจบ้านเจอ อึ สุนัขในสวน โอ้ว! รีบไปบอกที่ สนง.ขาย เซลล์เราไม่อยู่ เซลล์อื่น รับหน้าแทน แต่บอกว่า คุณต้องดูแลบ้านตัวเอง งงมั๊ยคะท่านผู้อ่าน!!! พอเซลล์ของเรากลับมา เราแจ้ง เค้ารีบหาคนมาจัดการให้เลย เนี่ยค่ะ เซลล์ที่เดียวกันแต่ต่างกัน
เห็นด้วยมากครับ เรื่องเจอกันครั้งเดียวดังนั้นจะทำไรก็ได้เพราะไม่เจอกันอีกแล้ว
คนจะขายยังไงมันก็ต้องหาทางให้ได้น่ะแหละเพราะมันขึ้นอยู่กับปากท้อง ผลตอบแทนที่ได้รับมันไม่พอกับค่าครองชีพครับ แต่ถ้าเลือกที่จะทำแล้วก็ควรจะมีความจริงใจไม่ใช่จิงโจ้แล้วหาข้ออ้างเรื่องปากท้องให้คนอื่นเห็นใจหรือบางคนอาจจะสมเพช
ถ้าเป็นคนจริงใจซื่อสัตย์ต่อคำพูดและการกระทำตัวเองต่อให้อยู่ยากอยู่ลำบากเหนื่อยใจท้อแท้ แต่สุดท้ายจะอยู่ได้ในที่ๆควรอยู่และมีความสุข ผมเชื่อแบบนี้จริงๆ
ไม่ได้เป็นเซลล์ ซื้อบ้านก็ซื้อกับผู้บริหารเลยไม่เคยเจอเหตการณ์อย่างที่เล่ามา
ที่จริงมันน่าจะเป็นหน้าที่ของทั้งผู้จะซื้อและผู้จะขายนะครับ
ในฐานะผู้ซื้อเราก็ต้องซักถามในสิ่งที่สงสัย เรียกร้องในสิ่งที่คิดว่าควรได้
ของให้ของแถมอะไรต่อมิอะไรก็ต้องบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ผู้ขายเองก็มีหน้าที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเที่ยงตรง การหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงบางสิ่งอาจทำให้เข้าใจผิดได้
การรับปากพล่อยๆแต่ไม่ระบุในสัญญายิ่งไม่สมควรกระทำ
ส่วนตัวแล้วก่อนจะตกลงเซ็นต์สัญญากันมีการพูดคุยเจรจาต่อรองกันนับสิบๆครั้ง
แม้เซ็นต์สัญญาแล้วแต่เมื่อตรวจพบว่าบางเรื่องยังไม่ได้ระบุไว้ก็ขอเพิ่มข้อความในบันทึกท้ายสัญญาได้
ที่สำคัญคือไมตรีที่มีต่อกัน ปัจจุบันอยู่บ้านหลังนี้มาสี่ปีกว่าแล้วหมู่บ้านยังติดตามซ่อมแซมให้ตลอด
บางส่วนเป็นความผิดพลาดของเขาๆก็ยินดีรับผิดชอบแม้จะหมดประกันไปนานแล้ว ส่วนอื่นๆเราก็ออกค่าใช้จ่ายเอง
แค่แชร์ความเห็นในส่วนของผู้ตอบนะครับ เห็นใจครับแต่อย่าเก็บอารมณ์ขุ่นมัวไว้นาน
สัญญาอย่างหนาหลายหน้า
ขอเอากลับไปอ่านก่อนก็ไม่ได้
ต้องเซ็นที่นี่ตอนนี้เท่านั้น
ทีตอนพิมพ์มันยังใช้เวลาหลายวันเลย
ตรวจแล้วตรวจอีก!
ต่อให้อ่านสัญญายังไง คนซื้อบ้านทั่วไปก็ไม่ละเอียดพอจะตีความหมาย
หรือฉุกใจคิดได้ทุกอย่างหรอกค่ะ นอกจากคนที่รู้กฎหมาย และคนที่เคย
โดนมาแล้วเท่านั้น..
อันนี้พูดจริง ๆ ไม่ได้แก้ตัว ส่วนจะเรียกว่าโง่ ไม่รอบคอบ หรือไม่ละเอียด
หรืออะไรก็ตามใจค่ะ เพราะเรื่องพวกนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้ามีการขายแบบ
ตรงไปตรงมา เซลล์ทั้งหลายจริงใจต่อลูกค้าค่ะ
เราไม่ได้เรียกร้องความเพอร์เฟค แต่เราเรียกร้องความจริงใจค่ะ บ้านเราเอง
เราก็พบว่ามีหลายอย่างไม่ได้อย่างที่ต้องการ แต่เราก็ปล่อยไปหลายรายการ
เมื่อเห็นแล้วว่าโครงการจริงใจแก้ไข และสุดวิสัยจริง ๆ
ประเด็นของกระทู้นี้ แค่อยากจะให้เซลล์บางคน ซึ่งเดี๋ยวนี้ค่อนข้างเยอะ
ให้ฉุกใจคิดบ้างว่า ใจเขาใจเรา จริงใจ ซื่อตรงแค่นี้ก็อยู่กันได้นานแล้วค่ะ
คุณก็จะภูมิใจในตัวเองด้วย ว่าเราไม่ได้หลอกลวงใคร มีเงิน มีรายได้เลี้ยง
ปากเลี้ยงท้อง แล้วมีแต่คนสาปแช่งตลอดเวลา จะมีความสุขเหรอคะ ????
หรือคนเดี๋ยวนี้ ไม่คิดกันแล้วเรื่องแบบนี้ ขอแค่ให้ชั้นมีกินก็พอคะ
คุณ คห.10 คะ โทษทีนะคะพิมพ์ผิด
เราไม่ได้เซลขายบ้านค่ะ
แต่เป็นเซล ขายของราคาแพงเหมือนกัน
caveat emptor 🙂