เรื่องมีอยู่ว่าคุณปู่มีที่ดินใน กทม. อยู่แปลงหนึ่งซื้อมา 40 ปีได้แล้ว เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันเป็นที่ตาบอดจึงขออนุญาตคุณปู่ทำเป็นทางเดินตัดผ่านที่ของปู่ โดยไม่ได้มีทำสัญญาอะไรไว้ ปู่ไม่ได้เข้าไปดูแลที่ดินผืนนี้เลยเพราะแกอยู่ต่างจังหวัด
เมื่อ 3 ปีที่แล้วคุณปู่ได้ทำการแบ่งที่ดินให้ลูกหลาน แล้วหนิงได้ที่แปลงนี้มา ก็ตั้งใจว่าจะสร้างบ้านอยู่ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดีอะค่ะ เพราะถ้าจะปิดทางเดิน เพื่อนบ้านก็เข้าออกไม่ได้ ล่าสุดเค้าทำท่าว่าจะฟ้องเพื่อครอบครองปรปักษ์อีกด้วย เครียดมากเลยค่ะ หนิงสงสารคุณปู่ด้วย แกเป็นคนใจดี แต่เพื่อนบ้านคนนี้ค่อนข้างหัวหมอคะ ไม่สำนึกบุญคุณคุณปู่เลย พอเล่าเรื่องนี้ให้ปู่ฟัง ปู่ถึงกับน้ำตาไหลเลยอะอะค่ะ
ปล. ที่ดินมีโฉนด (ตอนนี้เป็นชื่อหนิงแล้ว)
ตอนนี้ถมที่ดินเรียบร้อยแล้ว เมื่อปีก่อนหนิงทำรั้วล้อมที่ไว้ แต่เปิดช่องรั้วให้เค้าเดินผ่านได้
หนิงจะต้องเสียที่ตรงนี้ไหมค่ะ รอกวนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ
ที่เขาว่าจะ "ฟ้องเพื่อครอบครองปรปักษ์" นี่
จากที่เล่ามาคงทำไม่ได้หรอก
เพราะคุณปู่ของคุณและคุณ เป็นเจ้าของที่ มีโฉนดที่ดิน
มีหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของมาตลอดจนถึงตกมาคุณ
แต่คุณจะไปปิดทางเข้าออกบ้านเขาหมด ทำให้เขาไม่สามารถ
เขาอาจจะฟ้องร้องขอให้เปิดทางเดินนั้นเป็นภาระจำยอม หรือ เป็นทางจำเป็น
อันนี้เป็นไปได้ คงต้องไปปรึกษาทนายดูนะครับ
เพิ่มเติมให้ครับ
ความแตกต่างของทางจำเป็นกับภาระจำยอม
1. ทางจำเป็นเกิดขึ้นกรณีมีที่ดินตาบอดอยู่ตรงกลางออกสู่ทางสาธารณะไม่ได้เพราะที่ดินนั้นถูกล้อมลอบอยู่ มาตรา 1349 ให้สิทธิเจ้าของที่ดินถูกล้อมรอบอยู่นั้นออกไปสู่ทางสาธารณะได้
2. ภาระจำยอม ที่เกี่ยวกับทางเดินนั้นอาจจะเกิดขึ้นจากกรณีใด ๆ ก็ได้แม้จะมีทางออกสู่ทางสาธารณะอยู่แล้ว ก็อาจจะตกลงกันให้มีภาระจำยอมหรือว่าได้สิทธิโดยอายุความ
3. ทางจำเป็น เป็นข้อจำกัดสิทธิของคู่กรณีอย่างหนึ่ง
4. แต่ภาระจำยอม อาจจะเป็นการได้มาโดยที่คู่กรณีที่เกี่ยวข้องมาตกลงกันคือเจ้าของสามยทรัพย์ได้ตกลงกับเจ้าของที่ดินภารยทรัพย์ หรือได้ภาระจำยอมมาโดยอายุความ
5. ทางจำเป็น ผู้มีสิทธิผ่านจะต้องใช้ค่าทดแทนให้แก่เจ้าของที่ดินที่ล้อมอยู่
6. ภาระจำยอม อาจมีค่าทดแทนหรือไม่ก็ได้
7. ทางจำเป็น นั้นดูถึงทางสาธารณะเป็นสำคัญว่า จากที่ดินตาบอดออกไปสู่ทางสาธารณะเพื่อที่จะให้คนในที่ดินตาบอดใช้ที่ดินของตนนั้นได้
8. ส่วนภาระจำยอมมีหลายรูปแบบเป็นทางเดินก็ได้หรืออย่างอื่นก็ได้
9. ทางจำเป็น เป็นข้อจำกัดสิทธิของเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องยอมรับภาระในทางจำเป็นนั้นอันเป็นข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องมีการจดทะเบียนตาม มาตรา 1338
10. แต่ภาระจำยอมปกติแล้วต้องมีการจดทะเบียน มิฉะนั้นไม่บริบูรณ์
เรื่องกฏหมายไม่แม่นครับ
ลองศึกษาเองตามนี้แล้วกันครับ
http://www.peesirilaw.com/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=9
ให้เค้าซื้อที่เป็นทางออกซิคะ มองอีกแง่ ถ้าเราปิดหมดแล้วเค้าจะออกอย่างไร
สู้ๆครับ อย่างนี้แหละครับ คนไม่ค่อยคิดถึงบุญคุณคน คิดได้แต่ทำไงไม่ให้ตัวเองลำบาก มาปรึกษาเราดีๆ ก็น่าจะแบ่งทางเดินให้นิดหน่อย
การครอบครองปรปักษ์ในอสังหาริมทรัพย์ ต้องมีองค์ประกอบครบดังนี้ครับ
1. ครอบครอง
2. โดยสงบ
3. เปิดเผย
4. เจตนาเป็นเจ้าของ
5. ติดต่อกัน 10 ปี
ในกรณีดังกล่าว เพื่อนบ้านคนนั้น ไม่ได้ครอบครองที่ดิน เพียงแต่เดินผ่านไปมาเท่านั้น
นอกจากนี้เพื่อนบ้านคุณใช้ที่ดินโดยรู้อยู่ว่าเป็นที่ดินที่คุณปู่คุณอนุญาตให้ใช้ จึงถือไม่ได้ว่ามี่เจตนาเป็นเจ้าของ เว้นแต่จะมีการแจ้งการเปลี่ยนเจตนาครอบครอง ซึ่งไม่น่าจะมี
คุณเป็นเจ้าของใหม่ สิทธิที่คุณปู่คุณให้เค้าใช้ ไม่ได้จดทะเบียน จึงเป็นเพียงบุคคลสิทธิ์ ที่ไม่ผูกพันตัวคุณที่เป็นผู้รับโอน
อย่างไรก็ดีเพื่อนบ้านคุณก็ยังอาจใช้ที่ดินเป็นทางเดินผ่านไปมาได้ ในฐานะ ทางจำเป็น
ทางจำเป็นแปลว่า ทางจำเป็น คือถ้าไม่จำเป็นก็ไม่มีสิทธิใช้ หมายความว่า ถ้าเขามีทางออกสู่ทางสาธารณะ แต่ต้องอ้อมไกล อะไรอย่างนั้น ทางนี้ก็ไม่ใช่ทางจำเป็น
จากที่คุณเล่ามา คุณคงไม่เสียที่ไปหรอกครับ
เขาไม่มีทางครอบครองปรปักษ์ที่ดินคุณได้หรอกค่ะ เพราะการที่เขาผ่านเข้าออกที่ของคุณได้นั้นคุณปู่ของคุณให้การยินยอม "ไม่ใช่ครอบครองโดยสงบและเปิดเผยโดยเจตนาเป็นเจ้าของ"ตามที่ก.ม.กำหนด
กรณีที่ของคุณเป็นลักษณะคล้ายกับผู้หญิงที่เอาที่ดินมาขายพระพยอมเพราะได้มาจากการครอบครองปรปักษ์ พอสืบได้ว่าเจ้าของที่เขายินยอมให้อยู่ศาลก็ตัดสินคืนที่ให้เจ้าของเพราะการยินยอมไม่ก่อให้เกิดสิทธิในการครอบครองปรปักษ์ สุดท้ายเลยกลายเป็นพระท่านซื้อที่จากคนที่ไม่ใช่เจ้าของเลยไม่ได้ที่ดิน ในขณะที่ของคุณแค่ยินยอมให้ผ่านเท่านั้นไม่ได้ให้อยู่ด้วยซ้ำ
คุณอาจมีความเสี่ยงที่เขาจะได้ภาระจำยอมในการผ่านทางของคุณโดยอายุความ แต่ความเสี่ยงน้อยเพราะมีการให้ความยินยอมในการผ่าน (หลักเดียวกับครอบครองปรปักษ์) ดังนั้น ที่ดินของคุณมีความเสี่ยงมากที่สุดคือต้องเปิดทางจำเป็นให้เขาเพราะเขาเป็นที่ตาบอดที่ดินข้างเคียงจำต้องเปิดทางจำเป็นให้ (แต่เขาต้องให้เงินคุณเป็นค่าผ่านทางด้วยค่ะ) เว้นแต่คุณจะพิสูจน์ได้ว่าเขาสามารถเข้าออกที่ดินทางอื่นได้ง่ายและสะดวกกว่า
ทางที่ดีคุยกันก่อนเถอะค่ะ อาจจะหาทนายมาอธิบายให้เขาเข้าใจว่าเขาไม่มีทางครอบครองปรปักษ์ได้ ถ้ายังอยากผ่านเข้าออกต่อไปก็มาเจรจากัน เรื่องนี้เป็นบทเรียนของท่านผู้ใจดีทั้งหลายที่ต้องมาพบเจอคนที่ไม่ดีค่ะ
คุณหนิงได้ไปทำการล้อมรั้วไว้เมื่อปีก่อน เพื่อนบ้านไม่สามารถครอบครองโดยปรปักษ์ได้ ยิ่งถ้าคุณหนิงมีการเสียภาษีโรงเรือนหรือภาษีที่ดินก็ไม่ต้องกลัวค่ะ
ของผมก็คล้ายๆแบบนี้ ต้องแบ่งที่ดินเพื่อเป็นทางเข้าบ้านให้เขา แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะมันเกิดขึ้นมานานมากแล้ว
คงต้อง ยอมเป็น ภาระจำยอมแหละ ถ้าเขาไม่มีทางออกจริง
อันนี้ ขึ้นกับการคุยกัน
การได้มาซึ่งสิทธิในการครอบครองปรปักษ์
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒ บัญญัติไว้ว่า บุคคลใด ครอบครอง ทรัพย์สิน ของผู้อื่นไว้ โดยสงบ และ โดยเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็น อสังหาริมทรัพย์ ได้ครอบครอง ติดต่อกัน เป็นเวลา สิบปี ถ้าเป็น สังหาริมทรัพย์ ได้ครอบครอง ติดต่อกันเป็นเวลา ห้าปี ไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้น ได้ กรรมสิทธิ์
สรุป กรณี ของคุณ ไม่สามารถ ครอบครองปรปักษ์ได้ครับ
เนื่องจากไม่ได้มีการ เข้ามาทำประโยชน์
และ หากยิ่งมีหลักฐานการเสียภาษีที่ดินอยู่ด้วยแล้ว
ยิ่ง ทำไม่ได้ครับ
แต่ การฟ้องร้องอาจะทำได้ในกรณีที่ เป็นการ แบ่งเป็นทางออกให้ครับ
ผมเสนอว่า ควรขาย เป็นทางออกให้เขาครับ พูดในหลักมนุษย์ธรรมนะครับ
แต่ถ้ากวนประสาท มากก็ปิดไปครับ แล้วให้เขาไปฟ้องเอา
อย่ามากก็ได้แค่ ทางเดินเล็กๆออกไปครับ เพราะ เรามีรั้วรอบขอบชิดชัดเจน
""" แต่ถ้ากวนประสาท มากก็ปิดไปครับ แล้วให้เขาไปฟ้องเอา """
แจ่ม
ตามความเห็นที่ 6 เลยค่ะ แต่มองอีกแง่นะคะ ถ้าคุณปิดทางซะหมดเค้าก็ไม่มีทางออก ถ้าที่ดินของคุณเป็นอย่างนั้นบ้าง คุณจะร้สึกยังไงคะ ทางที่ดีเรียกมาตกลงกันดีๆน่าจะดีกว่า อาจจะให้เค้าซื้อที่ดินของคุณเพื่อเป็นทางออก ให้เค้าจ่ายค่าใช้ทางให้แก่คุณ หรือว่าคุณอาจจะยอมกันส่วนเล็กน้อยให้เค้าได้ใช้ผ่านเข้าออกได้ไม่เดือดร้อน การให้ทางเนี่ยว่ากันว่าได้กุศลแรงนะคะ เจ้านายใหญ่โตสมัยก่อนท่านยังสร้างสะพาน สร้างถนน ให้ผู้คนได้ใช้เป็นสาธารณะ ได้บุญมากโขนะคะ
เคสลักษณะนี้ ถ้าผู้ที่จำเป็นต้องผ่าน ไม่เล่นแง่ ทางเจ้าของที่ก็จะน่าอลุ่มอล่วย ให้เดินผ่านได้โดยไม่ติดใจ
แต่หากมีจิตคิดจะเอาที่ตรงนี้เป็นของตนเองแล้ว คงเป็นประเด็นแน่ๆ
แต่ลึกๆ ผมว่าเค้าคงไม่ได้ต้องการเอาที่ตรงนี้มาครอบครอง เค้าอาจจะทำเพื่อแน่ใจว่า ไม่โดนปิดทางเข้าบ้านล่ะครับ
คุยกันดีๆ ผมว่าไม่น่าเป็นปัญหานะครับ แต่ยังไง ที่ดินตรงนี้ คงไปปิดทางเค้าเลยไม่ได้หรอก เพราะว่ายังไงถ้าเรื่องถึงศาลก็ต้องโดนให้เปิดเป็น ทางจำเป็นอยู่ดีครับ แต่เราอาจจะเรียกเก็บค่าผ่านได้เท่านั้นเอง
โล่งใจแทยเลย
รีบไปเล่าให้ปู้ฟังน่ะ จะได้สบายใจ
ทำตาม#12เลยก็ได้ครับ
เขาคงจะได้ยินกฏหมายครอบครองปรปักษ์มาผิวเผิน เลยมาทำเป็นหัวหมอ ไม่สำนึกถึงบุญคุณก็จัดให้เขาตามที่#12บอกก็ได้ครับ
ถ้าเป็นคนดี ก็น่าให้ผ่านครับ แต่พูดจากแบบนี้ก็จัดไป 1 ดอกครับ