คือกำลังจะ Built คอนโด แล้วติดต่ออินทีเรียคนนึงจากเพื่อนที่รู้จักันทางเน็ตนี่แหละครับ แต่ไม่ได้สนิทอะไรมากมาย แล้วเขาให้จ่ายเงินก่อนแสนนึง แล้วจ่ายอีกแสนนึงตอนเริ่มติดตั้ง เราควรทำอย่างไรบ้างครับเพราะบ.เขาเราก็ไม่เคยไป เคยนัดคุยกันแต่ข้างนอกอะคับ
คือกำลังจะ Built คอนโด แล้วติดต่ออินทีเรียคนนึงจากเพื่อนที่รู้จักันทางเน็ตนี่แหละครับ แต่ไม่ได้สนิทอะไรมากมาย แล้วเขาให้จ่ายเงินก่อนแสนนึง แล้วจ่ายอีกแสนนึงตอนเริ่มติดตั้ง เราควรทำอย่างไรบ้างครับเพราะบ.เขาเราก็ไม่เคยไป เคยนัดคุยกันแต่ข้างนอกอะคับ
ตรวจดูสัญญาเอกสารการว่าจ้างก่อนครับว่ามีข้อตกลงกันอย่างไร
โดยมากก็จะมีการเรียกเก็บเป็นงวดๆไปเช่น
– งวดเซ็นต์สัญญา XX %
– งวดส่งแบบร่าง XX %
– งวดส่งแบบก่อสร้าง XX %
– งวดส่งมอบงานก่อสร้าง / ระหว่างงานก่อสร้าง XX %
อาจจะต้องขอดู profile / portfolio ของผู้ออกแบบประกอบการตัดสินใจด้วยว่า มีความน่าไว้วางใจมากน้อยขนาดไหน (อันนี้แล้วแต่เจ้าของจะพิจารณาตัดสินใจเองครับ)
ขอให้งานผ่านไปได้ด้วยดีครับ
มีใบ ประกอบวิชาชีพ หรือไม่
ไม่รู้จักหน้า ก็ต้องรู้จักงานและการทำงานของอินทีเรีย พิจารณาจาก
ผลงานที่ผ่านมา
การรับบรีฟและเสนอไอเดีย
สัญญา & งวดการชำระเงิน
แบบละเอียด
ทำไมไปจ่ายเป็นสองงวดละครับ ค่าแบบ ค่าสมองให้จ่ายครึ่งนึงเกินไปมังครับ
แบบจบแล้วจ่าย
เข้างานแล้วจ่าย
งานก้าวหน้าแล้วจ่าย
งานเหลือ เก็บงานแล้วจ่าย
จบงานแล้วจ่าย
ลองพิจารณากับเงินที่จ่ายไปครับ
กรุณาทำสัญญา และเอกสารแนบท้ายให้ครบ ก่อนจ่ายเงิน
จ่ายเงินให้ทำเอกสารการรับเงินทุกครั้ง
เงินไม่เข้าใครออกใคร ระมัดระวังไว้ น่าจะดีกว่านะครับ
ใช้ครับ รอบคอบไว้ก่อนดีที่สุด ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ
มูลค่างานเท่าไรครับ เบิกล่วงหน้าถึงแสนบาท แถมพอเริ่มยังเบิกต่ออีกแสน บิวท์คอนโด หรือสร้างบ้านเนี่ย
เป็นข้อเสนอที่บอกได้คำเดียวว่า "เลอะเทอะ" มากครับ … ถ้าเป็นผม ผมไม่เสี่ยงครับ เบิกเงินก่อนครึ่งนึงโดยไม่แจกแจงว่า ค่าออกแบบเท่าไหร่ ค่าของเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายอื่นๆเท่าไหร่ …
กรณีแบบมันอาจเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อ งานของคุณเป็นงานspacialจริงๆ แบบที่ทั้งโลกมีคนทำได้ไม่กี่คน หรือคุณเจาะจงว่าต้องเป็นอินทีเรียคนนั้น คนนี้ เท่านั้นที่คุณต้องการให้มาทำงานนี้ให้ คนอื่นไม่เอา …
แต่อยู่ๆถ้ามาแบบกำปั้นทุบดิน ว่าจ่ายมาก่อนแสนนึง ทำเสร็จแล้วค่อยจ่ายอีกแสนนึง (*แก้ไขเป็น หรือ จ่ายอีกอีกแสนนึงตอนเริ่มติดตั้ง)
ผมอยากถามว่า อินทีเรียคนนั้นทำไมดู"ร้อนเงิน" จังเลยครับ แต่ถ้าไม่ใช่มันก็แย่อีก เพราะเหมือนดูถูกลูกค้า ว่ากลัวลูกค้าไม่มีเงินจ่าย …
นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ชอบใจใครก็ต้องขออภัย …
ของเราติดต่ออินทีเรียที่เพื่อนเคยจ้างทำบิ้วอินคอนโดมาก่อน
อินทีเรียขอค่าออกแบบก่อน แล้วแต่ว่าอยากได้เป็น drawing or 3D เพราะราคาไม่เท่ากัน เราเลือก drawing เพราะถูกกว่า
หลังจากนั้นก็ตัดสินใจว่าราคาที่ให้มากับแบบที่เลือกโอเคมั้ย ถ้าโอเคก็ทำสัญญา
วันทำสัญญาเราจ่ายเป็นเช็ค 30%
หลังจากเริ่มเอาไม้กับอุปกรณ์มาติดตั้งเราก็จ่ายอีก 20%
พองานเสร็จตรวจงานเรียบร้อยเราถึงจะจ่ายอีก 50% ที่เหลือ
เงินเราอยู่ในกระเป๋าเราก็ยังเป็นของเรา
"รัดกุม"ให้ทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้อง"เร่งรีบ"
ทำบ้านเพื่ออยู่ไปทั้งชีวิต "อย่ารีบ"
ทั้งหมด คือ ความเห็นส่วนตัวผมครับ
เสี่ยงมากๆครับ คุณไว้ใจคนที่ไม่รู้จักง่ายจัง ผมว่าคุณลอง search หาข้อมูลเก่าๆในชายคาดูก่อนครับ มีรายการหลอกลวงให้ดูพอจะเป็นความรู้ที่จะหาทางหนีทีไล่ได้ถูก ไม่ต้องเสียเงินและมาเจ็บใจภายหลังแถมงานก็ทำก็ต้องแก้ ข้อแนะนำจากผม คุณต้องปรึกษาเพื่อนผู้รู้ที่อยู่ในวงการนี้ และไปติดต่อทำกับบริษัทที่น่าเชื่อถือมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จ่ายเงินต้องเป็น step ตามสมควร ยังไม่มีผลงานเรียกเกินเหตุ อันตรายครับ ขอให้โชคดีใจเย็นๆครับ
เจรจาให้ซอยงวดให้ละเอียดกว่านี้ ลดเงินครั้งแรกครับ
ถ้าไม่ได้ ไม่ต้องเอาครับ
ถ้ามีแค่ 2 งวด
งวดแรก 50% ก่อนทำงาน = 100,000
ยังไม่มีเนื้องานเลย รับไปครึ่งหนึ่ง
งวดสอง 50% ก่อนติดตั้ง = 100,000
แค่เริ่มติดตั้ง รับเงินจบงานเลย…
งวดงานในฝันเลยนะนี่ ได้เงินก้อนไปกอดสบายๆเลย…
งวดงานมันควรจะไปตามเนื้องานครับ
อาจจะมีงวดแรกที่เบิกก่อน5-10%
ที่เหลือก็ซอยงวดหลายๆครั้งหน่อย
เก็บตามเนื้องานการส่งแบบร่าง แบบก่อสร้าง เริ่มสร้าง
และควรจะกันงวดสุดท้ายไว้สัก 5-15%(แล้วแต่ต่อรอง)
เพราะงวดสุดท้ายนี่คืออำนาจในมือ
ที่คุณจะมั่นใจได้ว่าเขาจะมาช่วยดูแลคุณจนจบงานครับ
จขกท พิจารณาแบบนี้นะคะ
#8 ขนาดเค้าอ่านที่จขกทโพสต์มาไม่ได้ศัพท์ เค้าเข้าใจว่า
"จ่ายมาก่อนแสนนึง ทำเสร็จแล้วค่อยจ่ายอีกแสนนึง" เค้ายังบอกว่า "เลอะเทอะ" แล้วนี่ จขกทจะ "จ่ายเงินก่อนแสนนึง แล้วจ่ายอีกแสนนึงตอนเริ่มติดตั้ง"
นี่มันไม่ยิ่งกว่าเลอะเทอะหรอกเหรอ?
สำหรับเรา ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่แพทเทิร์นการจ่ายเงิน
แต่การจ่ายเงินก่อนโดยยังไม่มีข้อมูลใดๆ ที่แสดงถึงการมีตัวตนของผู้ขายหรือบริษัทของผู้ขาย (นามบัตรไม่นับนะ), หรือข้อมูลใดๆเกี่ยวกับงานหรือบริการที่จะว่าจ้าง
เงื่อนไขแบบนี้มันมีแต่ในธุรกิจเรียกค่าไถ่ หรือขู่กรรโชกทรัพย์ เท่านั้น
เคยเจอเจ้าของบ้านจ้างทำงานตกแต่งประมาณ 1 ล้านบาท แนะนำกันมาแบบคนรู้จักนี่แหละครับ ขอเบิกก่อน 3 แสน(ผมไม่รู้) เข้างานทำได้นิดหน่อยขอเบิกอีกสามแสน เจ้าของบ้านมาถามผม ผมจึงแนะนำว่าไม่ควร พี่ท่านไม่สามารถทำงานต่อได้ เพราะไม่มีเงินหมุน (แล้วสามแสนนั่นหายไปไหน)
ตอนนี้สามแสนนั้น หักงานที่ทำไปแล้ว เหลือสองแสน แล้วเปลี่ยน ผรม. สองแสนที่ค้างอยู่ ต้องตามฟ้องเอาภายหลัง
สมัยนี้คนมันหน้าด้าน ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรแล้ว ทำยังไงก็ได้ให้ได้เงิน โดยไม่ต้องมีคุณธรรม
เบิกไปทำอะไรตั้ง 100,000 บาท
ราคารวมทั้งหมดเท่าไร
งานทุกช้นควรระบุประเภท สเปคด้วยนะครับ
เคยมี เช่นตู้ไม้สัก เจ้าของบ้านเข้าใจเนื้อไม้สักทุกชิ้น ก็ราคาไม้สักนี่
แตที่นำมาติดตั้ง คือ ข้างในทุกชิ้นเป็นไม้อัด ด้านหน้าที่มองเห็นแปะด้วยไม้อัดสัก ควายจริงๆ
…
ค่าแบบสองแสน งบตกแต่งคงสักสองล้านขึ้นไป
สัญญาว่าจ้างออกแบบตกแต่ง
ที่ระบุรายละเอียดสโคปการทำงานก็ไม่มี
ไม่มีรายละเอียดแบ่งจ่ายเป็นงวดตามสเตปงานที่ทำให้อีกด้วย
ขอล่วงหน้าตั้งแสน
คุณพี่ลูกค้าใจดีครับ ถ้าคุณพี่จะกรุณา
เปลี่ยนมาจ้างผม ผมขอห้าหมื่นก็พอครับ
ขำ ขำนะครับ แต่เอาแบบไม่ขำ ก็หาใหม่เถอะครับ
ยังไม่ทันทำอะไรก็เริ่มส่อแววเอาเปรียบลูกค้าแล้วนะเนี่ย
ทางที่ดี แบ่งจ้างทีละส่วน เพื่อจะได้ไม่ต้องมัดจำมากเกินไป บอกขอดูผลงานก่อน แล้วถึงจ้างส่วนต่อไป เราเองก็จ้างจากเว็บเหมือนกัน ก็ทำแบบนี้ ยังเล่นเอาเหนื่อย และเครียดเลย แต่สุดท้ายก็จบได้ เอาอดทนมากๆ เพื่อไม่ให้เขาทิ้งงาน ตอนแรกก็กล้ว
… เข้ามาดู
อะไรกัน รับจ้างทำบิวอิน ไม่มีเงินสดเป็นของตนเองในการลงทุนบ้างเลยหรือ
ดูแปลกๆนะ เป็นผมไม่ทำ
มันก็พากันเสียหมดตรงนี้ละครับ พวกที่คอยจ้องจะคดโกงชาวบ้าน ทำให้ผมทำงานลำบากขึ้นมากจริงๆ ในปัจจุบัน
เอาเป็นว่าในฐานะนักออกแบบ และเจ้าของบริษัท เวลาผมจะแนะนำลูกค้าในการชำระเงิน แบ่งออกเป็นดังนี้นะครับ
ก่อนจะทำการจ่ายเงินใดๆ ทั้งสิ้น ควรจะรู้ที่มาที่ไปของผู้รับจ้าง บริษัท ที่ตั้ง ผลงานที่เคยผ่านมือมา และคุณภาพของตัวผู้รับจ้าง
สัญญาควรจะระบุให้ละเอียดจริงๆ ว่า เนื้องานเป็นยังไง มีขั้นตอนอย่างไร ตั้งแต่ออกแบบ จนถึงทำแบบ และไปถึงก่อสร้าง
มีงานอะไรบ้าง ในราคาเท่าไหร่ แล้วแบ่งจ่ายให้ชัดเจน เป็นงวดๆ ตามมาตราฐานแล้ว ถ้าราคาประมาณ 5 แสนบาท จะแบ่งจ่ายดังนี้
หลังเซ็นสัญญา 10%
หลังทำแบบเสร็จ 30%
งานก่อสร้างเสร็จไปแล้ว 30% อีก 30%
งานก่อสร้างเสร็จไปแล้ว 70% อีก 20%
ส่งงานอีก 10%
ทุกวันนี้ลูกค้าจะจ่ายเงินก็ต้องพิจารณาดีสักหน่อย แต่ไม่ใช่จนระแวงเกินไป จนทำให้อึดอัดทั้งสองฝ่าย
ควรจะให้ผู้รับจ้าง บอกถึงวัสดุที่จะใช้ กับหน้างาน และดูว่ามาคุ้มกับเงินที่จ่ายไปไหมเบื้องต้น (แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่อง ก็อาจจะต้องถามปรึกษาจากผู้รับจ้าง และเอาไปตรวจสอบอีกที ว่าผู้รับจ้างบอกความจริงกี่เปอร์เซนต์
แต่สำหรับผม ผมบอกได้คร่าวๆ ครับ เพราะวัสดุปัจจุบันมีเป็นล้านๆ สิ่ง เลือกใช้ได้หลากหลาย ตั้งแต่มาตราฐาน จนถึงแพงหูดับ)
ราคาแต่ละที่ ตกแต่งถึงราคาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าครับ
แต่พิจารณาตามนี้เบื้องต้น ถ้าผู้รับจ้าง ชี้แจ้งได้ละเอียด ก็ไม่น่าห่วงมากครับ
ปล. อย่าระแวงมากจนเกินไป เพราะว่าจะลำบากใจทั้งสองฝ่าย ถ้าเขาอธิบายดีแล้ว น่าเชื่อถือแล้ว ก็ให้โอกาสเขาแต่อย่าปล่อยเลย ผู้ว่าจ้างที่ดี จะต้องพยายามอยู่ใกล้ๆ ได้เสมอ ติดต่อได้เสมอในเวลางานครับ
ส่วนของผม นโยบายคือ ลูกค้าคือเพื่อน ธุรกิจที่ไปได้ดี เพราะเราไม่ได้คิดว่าเราทำธุรกิจอยู่ แต่อยากทำให้ผลงานออกมาดีที่สุดครับ
สุดท้าย มาจากห้องก้นครัวเน้อ
ขอบคุณที่แย้งครับ ผมขอแก้ไข ลงตัวเลขผิดครับ
หลังเซ็นสัญญา 10%
หลังทำแบบเสร็จ 30%
งานก่อสร้างเสร็จไปแล้ว 30% อีก 30%
งานก่อสร้างเสร็จไปแล้ว 70% อีก 30%
ส่งงานอีก 10%
(ทำไมทั้งหมดมันกลายเป็น 110% หรือเป็นค่าออกแบบ)
ชี้แจงนิดนึงนะครับ งานตกแต่งภายใน อาจจะแยกได้เป็น
– งานก่อสร้าง
– เฟอร์นิเจอร์บิลด์อิน
ตัวเลขชุดนี้ ไม่ใช้กันในวงการก่อสร้าง แต่อาจจะใช้ในเรื่องบิลด์อินหรือเปล่า ถึงใช้ก็ต้องเป็นบริษัทที่เชื่อถือได้ ทั้งตัวบุคคล ผลงาน และสถานที่
และมีข้อสังเกตุอีกนิด ตามตัวเลขชุดนี้ ถ้ามีปัญหากัน ผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิต่อรองอะไรเลย ไพ่อยู่ในมือ ผรม. เต็มๆ
สำหรับการดีลงานกับช่างบิลด์อินกะโปโล มีรถกระบะคันเดียว จะปล่อยเงินออกไปแบบนี้ไม่ได้ครับ
หรือบางครั้ง งานพ่วงกันทั้งก่อสร้างและบิลด์อิน ผรม.บิลด์อินถือโอกาสมั่วนิ่ม ใช้ความเคยชินของงานบิลด์อิน คลุมทั้งส่วนก่อสร้างไปเลย ผมแนะนำให้แยกงานก่อสร้างกับบิลด์อินออก ในส่วนงานก่อสร้างจะได้ไม่ต้องจ่ายล่วงหน้าเยอะ (สาเหตุที่ต้องจ่ายล่วงหน้าสำหรับงานบิลด์อินเพราะทำโครงสำเร็จมาบางส่วน แต่งานก่อสร้างจะทำกันหน้างาน)
ไม่ได้แย้งคุณ Diselse แต่หมายเหตุไว้ เพราะเดี๋ยวนี้พวกเลวๆมีเยอะ ดีๆมีน้อย
ตัวเลขการแบ่งจ่ายของคุณ Diselse ใช้ ผมว่าเป็นตัวเลขทั่วไป
ในการออกแบบ และตกแต่งภายในทั่วไปครับ เพื่อให้เกิดความสบายใจแก่ทางผู้ว่าจ้างครับผม ซึ่งเป็นในแบบกรณีที่ทางผู้ว่าจ้างต้องการให้
ทางบริษัทออกแบบ ได้ทำทั้งในส่วนของงานออกแบบ และตกแต่งรวมกันครับ
ทั้งนี้ก่อนจะเริ่มจ่ายเงินแก่ทางผู้รับจ้าง คงต้องมีการคุยรายละเอียด
และทางนักออกแบบต้องมีการแชร์ไอเดียการออกแบบตกแต่ง
ให้กับผู้ว่าจ้างก่อนบ้างครับ จากนั้นเซ็นต์สัญญาและทำภาพ 3D มาให้พิจารณา รวมถึงลงสเปควัสดุต่างๆ ครับผม
ไม่ทราบว่าก่อสร้างหมายถึงอะไรบ้างครับ แต่ของผมเป็นคอนโดที่จะบิ้วอินอะคับ มูลค่างานทั้งหมดสองแสน เพราะคอนโดบิ้วตู้เสื้อผ้ามาให้แล้ว เหลือเป็นพวก โต๊ะคอม ตู้ติดแอลซีดีสองที่ ตู้รองเท้า ผ้าม่าน ที่วางไมโครเวฟ พวกนี้อะครับ แล้วก็มีกิฟวอชเชอร์ 7 หมื่น ไว้ซื้อ เตียงกับโซฟา
คือก็ไม่ได้อยากจะระแวงหรือคิดมาก แต่ลองเอาที่อยู่ในนามบัตรมา google ดูทำไมเป็นบ.ขายน้ำไม่รู้
เอาไงดีหว่าหนักใจจัง ถ้าเราถามเขาตรงๆจะน่าเกลียดมั้ยคับ
เด๋วจะหาวางไม่วางใจกัน