ตามประสาคนอยากมีบ้านก็เข้ามาอ่านห้องชายคา ดูๆกระทู้ที่ตั้งถามจะกู้ผ่านมั้ย—-โอวว..เงินเดือนเยอะๆกันทั้งนั้นเลย อายุบางคนน้อยกว่าเราอีก อายุมากขนาดเราเงินเดือน 15K ยังไม่ถึงเลย แล้วอย่างนี้จะมีบ้านได้อย่างไร
คำค้นหา:
- ออมเงิน pantip
- ทํางานอะไรดี pantip
- ทํางานโฮมโปร pantip
- งานอะไรเงินเดือนเยอะ
- งานอะไร เงินเดือนเยอะ
- เงินเดือน pantip
- ประหยัดเงิน pantip
- เงินเดือนน้อยอยากมีบ้าน
- เงินเดือนสูง pantip
มีมากก็ซื้อหลังใหญ่ มีน้อยก็ซื้อหลังเล็ก
อยู่ที่ใจครับ
^
^
^
^
แต่เราว่ามันอยู่ที่เงินนะ อิอิ
ชินบีว่าทำงานอะไรก็ได้ ทำที่เราสบายใจและอยู่ได้นาน ๆ ค่ะ ก็จะดีเอง
ตอนที่ซื้อบ้าน เงินเดือนก็ไม่เยอะนะคะ แต่เป็นเพราะที่บริษัทมีสวัสดิการ
กับ ธอส. เลยกู้ได้ 100%
ถึงเราเงินเดือนน้อยก็ไม่เป็นไรค่ะ ค่อยๆเก็บหอมรอมริบไป
ใช่ว่าบ้านใหญ่บ้านสวยถึงจะเรียกว่ามีรสนิยม
"บ้านที่มีรสนิยมสูง คือบ้านที่เราอยู่แล้วมีความสุขค่ะ"
เราสิ ไม่มีงานทำ มีแต่ตึกแถวให้เช่า และมีคอนโดให้เช่า แบบส่วนตัวนะ ตึกฃแถว 1 ห้อง 7500 บาท /เดือน คอนโด 3 ห้อง รวมกันก็ได้ 6900 /เดือน คิดดูสิ ว่าได้เงินแค่นี้เอง แต่ก็ยังดีที่ซื้อบ้านได้ค่ะ
นกน้อยทำรังแต่พอตัวความสุขไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังเล็กหรือใหญ่แต่อยู่ที่วิธีคิดให้มีความสุขครับ
เงินน้อยก้อซื้อหลังเล็กๆ อยู่ไปก่อน พอมีเงินมากขึ้นค่ออยขยับขยาย สู้ๆๆ
น้องๆ รู้จักกัน เงินเดือน 6-7หมื่น อายุ 30 ปี ยังแข็งแรง อนาคตยาวไกล
อีกคนทำงานธนาคาร เงินเดือน 1แสนกว่าปลายๆ เกือบ 2แสน
เรียนเยอะค่ะ งานดี เงินดี (พอสมควร) แต่ก็ซื้อบ้านแค่ล้านกว่า ไม่ซื้อเต็มที่ตามที่ธนาคารเสนอ ยังอยากมีงบ entertain ไว้นวดหน้า ไปพ่อ แม่ ไปเที่ยวบ้าง
ซื้อบ้าน ซื้อรถ ด้วยเงินตัวเอง เพราะมรดกเก่าพ่อแม่ให้ได้แต่การศึกษาค่ะ
เงินเดือนไม่เยอะ อาศัยใช้จ่ายประหยัด รู้จักเก็บหอมรอมริบ เด่วก็มีเอง สำคัญว่า อยากมีหรือเปล่า
งานประจำ เงินรายได้ก็ประจำ
ถ้าทำการค้า-ธุรกิจเล็กๆ ด้วย ก็เป็นรายได้อีกทาง
ที่สำคัญ ใช้ให้น้อยกว่าที่หาได้ ยังงัยก็มีเหลือ เป็นทุน ละครับ
จขกท ไม่ต้องเศร้าไป มีคนบอกผมว่ามานอยุ่ที่ดวง
(ดวง) ไม่มีตัวตนและจับต้องไม่ได้ และมีคนบอกอีกว่า
เงินเดือนเยอะไม่สำคัญเท่าเหลือเท่าไหร่ (ก็น้อยจนไม่มีให้เหลือเก็บ)
สรุป ทำใจยอมรับกับชีวิต ที่แสนเศร้าต่อไป
เงินเดือนแยะ แต่ถ้าไม่รู้จักใช้จ่าย สุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักเอาเงินไปต่อเงิน ก็ไม่มีประโยชน์
เงินเดือนน้อย แต่รู้จักอดออม ลงทุน ใช้จ่ายเป็น ดีกว่าแยะ
เราเงินเดือนไม่เยอะ
ซื้อบ้านหลังแรกก็อาศัยเงินเก็บตั้งแต่เรียน(เรียนด้วยทำงานเสริมด้วย+เงินพ่อแม่ให้ค่าขนม) รวมกับเงินเก็บตั้งแต่เข้าทำงาน
ซื้อบ้านแค่ล้านกว่าๆ ก็ต้องกู้ธนาคารมาอีกจึงจะซื้อได้
ตอนนี้เพิ่งโปะหนี้เดิมหมด กำลังมองหาบ้านหลังที่สอง
เพราะมาทำงานไกลบ้านที่ซื้อหลังแรก
ก็ใช้เงินเก็บ+เงินกู้เหมือนกัน
ใครบอกว่าเงินเดือนไม่เยอะจะมีบ้านเป็นของตัวเองไม่ได้
เพียงแต่อย่าสร้างหนี้ที่ไม่จำเป็นก็เท่านั้น และเงินออมนั่นแหละสำคัญ
มีเครดิตเท่าไหร่ก็สู้เงินออมของเราเองไม่ได้ค่ะ
เล็กๆ ผมทำนา อยู่กับตายาย ต้องขอทุนจากวัดบ้าง จาก รร.บ้าง เพื่อเรียนชั้นประถม โชคดีที่จนแต่ตัว สมองไม่ได้จนไปด้วย สอบได้ ลำดับแรกๆ มาเกือบตลอด เลยได้ทุนเรียนดีแต่ยากจน ช่วยค่าเล่าเรียนเรื่อยมา
สุดท้ายก็มาเรียนจบด้านวิศวกรรม … มีครอบครัว มีบ้าน …
ต้องถามตัวเองก่อนครับ ว่าจะมีไว้ใช้ หรือมีไว้โชว์
ถ้ามีไว้ใช้ บ้านขนาดไหน ก็อยู่ได้สบายใจ
ถ้ามีไว้โชว์ ก็คงซื้อรถยนต์ มือถือ หมดก่อน ที่จะเหลือเงินเก็บมาซื้อบ้าน
ฝากไว้ให้ครับ
ถ้าอยากรวย อยู่อย่างรวยจะไม่รวย
ไม่อยากจน อยู่อย่างจนจะไม่จน
เงินเดือนไม่เยอะค่ะ ทำงานเอกชน ก็เรทของเอกชน
มีบ้าน มีรถ ก็อาศัยอดออม วางแผนการเงินให้กับตัวเอง
ทางบ้านช่วยเหลือนิดหน่อย แต่ไม่ทั้งหมด
จะเงินเดือนมากหรือน้อยไม่สำคัญครับ ใช้ชีวิตให้มีความสุข
ถ้าเลือกเงินเดือนเยอะๆแต่ไม่มีเวลาให้ครอบครัว กับเงินเดือนน้อยกว่าแต่มีเวลางานก็ไม่เครียดมาก ผมว่าคุ้มนะ
แต่ถ้างานสบายเงินเดือนสูงๆ ก็น่าสน อันนี้ขึ้นอยู่กับดวงครับ
นั่นไง ดวงมาอีกละ
จังหวะชีวิตคนเรานี่มันไม่เหมือนกันซะจริง
บางคนเกิดมาพร้อม บางคนเกิดมาไม่มีอะไรเลย
บลาๆ อยากเก็บ เก็บแปลว่าเหลือใช้ จากปกติซึ่งก็ไม่ได้ใช้เงินฟุ่มเฟือยอะไร
จขกท อย่ามีเลยบ้านนะ เอาเงิินที่มีน้อยนิด ไปใช้ให้ชีวิตมีคุณภาพชีวิตที่ดีจะดีกว่า ดีกว่ามานั่งอดออมเพื่อ อะไรสักอย่าง
สมัยก่อน ตอนผมจบมาทำงานใหม่ๆ ผมมีลูกน้องอยู่คนนึง เงินเดือนเค้าค่อนข้างน้อยมาก ประมาณแค่สี่พันกว่าบาท แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากลูกน้องผมคนอื่นๆที่ได้เงินเดือนrateเดียวกันคือพนักงานโรงงานคนนั้น มีเงินเก็บ และรู้สึกว่าจะไม่น้อยเสียด้วย … โดยส่วนตัวผมเก็บเรื่องของลูกน้องผมคนนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์นับแต่นั้นมา … หลายปีต่อมา มีอยู่วันนึงผมนั่งคุยกับหัวหน้าผม ณ บริษัทแห่งใหม่ หัวหน้าผมคนนั้นเปรยๆกับผมว่า ค่าใช้จ่ายเยอะ พี่ทำงานเงินเดือนไม่ค่อยพอใช้ ไม่ค่อยมีเงินเก็บเลยว่ะ (ทั้งที่เงินเดือนของเค้าอยู่ที่ประมาณสองแสนกว่าบาท) ตอนนั้นผมฟังอยู่แล้วอดนึกถึงเรื่องของลูกน้องผมที่บริษัทเก่าไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้แกฟัง ….
โดยส่วนตัวผมคิดว่า คนเราควรกินอยู่ให้สมเหตุสมผลหรือถ้าจะให้ดีก็ live below your means ไม่งั้นก็ยากจะมีเงินเก็บไปซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือเก็บสำรองไว้ยามฉุกเฉิน …. เงินมันไม่มีชีวิต แต่ถ้าลองไปศึกษาเรื่องเศรษฐศาสตร์การเงินเบื้องต้น การลงทุน การออมเงินอย่างเป็นระบบ ดูก็อาจพบว่าบางทีมันก็เหมือนมีเเขนขา หรือ งอกเงยขึ้นได้ถ้าเราวางมันให้ถูกที่ถูกเวลา
ผมเชื่ออย่างนึงว่าชีวิตคนเรามันจะดีขึ้นเรื่อยๆนะ ถ้าเราตั้งใจทำงาน ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท รู้จักวางแผนการเงิน และก็ห่างๆพวกอบายมุขเอาไว้
และสุดท้ายก็อาจไม่สำคัญเท่าไหร่ว่าคุณจะทำงาน ทำอาชีพอะไร ขอให้มันสุจริต รับผิดชอบครอบครัวได้จะสำคัญที่สุด เพราะนั่นคือเกียรติ์ของคุณ
ขอ แย้งกับ คห ข้างบนนี้นิดหน่อยนะครับ พอดีผมรู้จักคนๆนึงทำงานราชการ
แกเป็นคนขยันพยายามแสดงตัวว่าทำงานเก่งทำงานดี และอาสาทำงาน
พอถึงเวลาพิจารณาเลือนแท่งเงินเดือน ปรากฎว่า แกได้น้อยมาก มากกว่าทุกคน มากกว่าคนที่ไม่ค่อยจะทำงาน สักแต่ทำไปงั้นๆ มันก็เลยค่อยข้างจะส่งผลทางด้านจิตใจพอสมควรอ่ะครับ เราก็เลยปลงเลยว่า จะขยันไปทำไมในเมื่อผลลัพธ์ก็เป็นอย่างทีเห็น เฮ้อ ระเหี่ยใจกับงาน เงิน อนาคต
คนจนนี่จะทำอะไรก็ลำบากเนอะว่าม่ะ
ชะตาชีวิตคนเราบางทีก็ไม่เหมือนกัน … นิ้วมือของเราเอง ก็ยังสั้นยาวไม่เท่ากันสักนิ้ว … แต่ทุกอย่างล้วนเกิดจากกรรม …
แต่จะท้อใจไปใย … ในเมื่อไม่ว่าจะเกิดมาเป็นสิงโตหรือกวาง สุดท้ายสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันก็คือ "วิ่ง" ไม่งั้นก็อด ….
เคยอ่านเรื่องพระมหาชนกหรือเปล่าครับ ที่ตั้งใจว่ายน้ำไป แม้ว่าจะยังมองไม่เห็นฝั่ง ด้วยมีคติในใจที่ว่า ต่อให้ต้องจมน้ำไปก่อนถึงฝั่ง ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เพราะสุดท้ายก็สามารถบอกกับตัวเองได้ว่า ได้ทำเต็มทีอย่างดีที่สุดแล้ว …
เรื่องแบบนี้ ผิดถูกไม่มี มีแต่ความจริง … เพราะเราจะเลือกทางเดินของเราอย่างไร ขอเพียงแค่ไม่เบียดเบียนคนรอบข้างที่อยู่กับเรา ก็คงไม่เป็นปัญหา …
ส่วนที่บอกว่าคนจนนี่ทำอะไรก็ลำบาก ผมคงไม่มีความเห็นขัดแย้ง เพราะส่วนตัวก็เคยผ่านมาบ้างในวัยเด็ก แต่ถ้าเราไม่คิดว่ามันเป็น "ปัญหา" ทุกอย่างก็จบ …
ภูเขาลูกเดียวกัน บางคนมองเห็นเป็นอุปสรรคขวางกั้น บางคนเห็นเป็นทางที่จะสามารถปีนขึ้นไปสู่ที่สูง …
ขงจื้อกล่าวไว้
" เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย
เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส
เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย
ดังนี้แล้ว ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน "
อย่าเพิ่งน้อยใจไปครับ ของอย่างนี้มันอยู่ที่สิ่งที่เราทำมา-โอกาส-ช่วงเวลา-ความขนขวาย-ความมานะอุตสาหะ และอีกมากมาย
ณ วันนี้เราอยากให้มันดีขึ้นเราก็พยายามมากขึ้นครับ ผมเชื่อว่าหลายๆคนกว่าจะได้ขนาดนี้ก็ฝ่าฟันมาเยอะครับ
สู้ๆนะครับจขกท.
เรารับราชการค่ะ เรียนมาเยอะ งานดี (มั้ง) แต่เงินไม่ยักกะดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบ้านได้ค่ะ ซื้อบ้านครั้งแรกอายุ 25 ตอนนี้เพิ่งซื้ออีกหลัง ค่อยๆผ่อนไปทั้งสองหลังนั่นแหละ เดี๋ยวก็หมดเอง (อาจจะแก่พอดี) 55555
ข้อสำคัญอยู่ที่ต้องรู้จักประมาณตัวเองค่ะ ว่าเรามีกำลังแค่ไหน อย่ามองคนอื่น ทำตามคนอื่น คนเราจะมีบ้านใหญ่โตแค่ไหน เวลานอนก็ใช้พื้นที่ไม่เกิน 2 ตารางเมตร เวลาเข้าห้องน้ำก็ใช้พื้นที่แค่โถส้วมกะที่อาบน้ำแปรงฟัน ห้องใหญ่ๆ บ้านกว้างๆ ก็เป็นแค่เปลือกน่ะค่ะ มีก็ดี แต่ถึงไม่มีก็มีความสุขได้ ^_^
เงินเดือนเยอะ …. ก็ใช้เยอะครับ (ทำนองฟุ่มเฟือยมากกว่า)
ดังนั้น … การประหยัดจะเป็น factor ที่สำคัญในการเก็บออมครับ
รายได้เยอะก็มีรายจ่ายเยอะครับ ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ผ่อนแฟน ไม่ค่อยมีเหลือเก็บเหมือนกันครับ แล้วก็ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด ยังอิจฉาเพื่อนที่รายได้น้อยกว่าแต่มีวันพักผ่อนไปเที่ยวกับครอบครัวได้
ผมอยากซื้อบ้านตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ เพิ่งได้มาซื้อตอนอายุ 47 เชื่อว่าสักวันคุณก็ต้องได้บ้านอยู่อย่างมีความสุข เป็นกำลังใจให้ครับ
ผมรายได้ก็ไม่เยอะ แต่อยากมีบ้านเหมือนกันครับ
เป็นกำลังใจด้วยคนครับ
ส่วนใหญ่คนที่ถามก็จะเป็นแบบไม่มั่นใจว่าจะกู้ผ่านไหม ผ่อนไหวไหม ไรทำนองนี้มากกว่า เพราะคนที่ถามก็จะรายได้มันก้ำๆ กึ่งๆ เช่น รายได้รวม 1 แสน บ้าน 4-5 ล้าน ไม่ก็บ้าน 1-2 ล้าน รายได้ 3-4 หมื่น คือจะไม่เคยเจอว่ารายได้ 3 แสน บ้าน 2 ล้าน ไรทำนองนี้เลย
เงินเดือนเยอะหรือน้อยก็เป็นปัจจัยหนึ่ง
แต่ที่สำคัญกว่าคือการรู้จักประหยัดอดออมและรู้จักใช้จ่ายค่ะ
ถ้าเงินเดือนน้อยแต่อยากมีบ้านจริงๆ นอกจากจะใช้จ่้ายเงินให้เป็นแล้ว ควรจะหารายได้เสริมด้วยนะคะ อย่ามัวแต่รอเงินเดือนจากงานประจำอย่างเดียว เพราะไม่อย่างนั้นเกิดฉุกเฉินขึ้นมาจะลำบากได้ค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้คนที่อยากมีบ้านทุกๆคนค่ะ
อ่าน คห.อื่นๆ ก็เศร้า เพราะเราก็เงินเดือนน้อยเหมอน จขกท. แถมให้เงินครอบครัว ตัวเองไม่มีเหลือเก็บ แอ๊ย ทำไงดี อยากมีบ้านบ้างจัง
เราเองมีบ้านตั้งแต่อายุ 23 เพราะเรียนจบแล้วแต่งงานเลย โชคดีที่ได้สามีน่ารัก สามีทำธุรกิจส่วนตัวเป็นของที่บ้าน…..ตอนแต่งงานไม่ได้มีสินสอดอะไร นอกจากบ้านและรถที่บ้านสามารถซื้อให้ ทำให้ไม่มีภาระที่ต้องการผ่อน….ผ่านมา 2 ปีแล้วมีความสุขมาก ตอนนี้ตั้งใจจะมีตัวเล็กๆ เลยเก็บเงินเพื่อเค้าอย่างเดียวเลยคะ (เงินเดือนเรากับสามีรวมกันเดือนละ 70,000 บาท) แต่เราเลี้ยงแม่และน้องชายให้เค้าใช้เดือนละ 20,000 เราคิดว่าที่เราโชคดีและไม่ลำบากเพราะความกตัญญูนี่แหละคะ…
ผมไม่มีเงินเดือนมาหลายปีแล้ว
ยิ่งอ่านยิ่งเศร้าเนอะ ชีวิตแต่ละคน
จะเครียดกะมันทำไม บ้านนะ
มานั่งดูบ้านคนอื่นในห้องชายคานี่แหละ
เงินก็เอาไปใช้ให้เกิดความสุขกะตัวเอง
ชิวๆๆ
มาชูจักกะแร้สองข้างเห็นด้วยกับคุณ IDEAL ENGINEER
ทั้งเรื่องมุมองกับความคิด…ใกล้เคียงเลยคะ
อย่างบางท่านที่บอกว่าเงินเดือนน้อย…
ไม่มีเงินเก็บ เพราะได้น้อย ไม่พอใช้
ได้มองการใช้เงิน การใช้ชีวิตของตัวเองหรือยังคะ
เราเคยนะคะ เงินเดือน start ป.ตรี เมื่อ 7-8 ปีก่อน…
ไม่ถึงหมื่น…เริ่มงานโรงงานต่างจังหวัด ยังได้น้อยกว่าพนักงานรายวันเลย
แต่ประหยัดเอาคะ กินก็กินข้าวแกงปกติ ค่าเช่าห้อง ซื้อของ เสื้อผ้า
ก็ตลาดนัดเนี้ยแหละ แต่ไม่ขี้เหร่นะคะ รู้จักเลือกให้เข้ากับบุคลิกของตัวเอง
สรุปปีแรก…มีเงินเก็บเกือบแสน จากเงินเดือนล้วนๆไม่มีโอที
หลังจากนั้นฮึดคะ…คิดเสมอ..เก็บก่อนใช้
ปัจจุบัน โอเคแล้ว มีรกสอง บ้านหนึ่งหลัง จากน้ำพักน้ำแรงเรากะสามีคะ
เพราะฉะนั้น..ใครบอกว่าเงินเดือนน้อยจะเอาอะไรมาเก็บ
เราไม่เชื่อคะ..มันอยู่ที่เรา…จะทำ..หรือไม่ แค่นั้น
เงินเดือนเราไม่ต้องเสียภาษี เพราะรวมทั้งปี แล้วหักลดหย่อนได้คืนหมดทุกปีค่ะ
จากท่าน ว.วชิรเมธี ครับ
ใจที่เป็นสุขคือใจที่พอเพียงครับ
ก็แค่งานที่ทำ ถูกใจเจ้านายตลอด ได้คำชมตลอด สร้างรายได้ลดต้นทุน
เงินเดือนมันก็เพิ่มเอาๆๆ ครับ
อยากสร้างบ้านหลังใหม่ ราคาสักล้าน ไม่ทราบว่าความฝันจะไกลเกินเอื้อมหรือเปล่า
พอใจในสิ่งที่มี
มีเงินเยอะ ก็ใช้จ่ายเยอะ ก็เป็นทุกข์
มีน้อย ใช้จ่ายน้อย อยู่แบบพอเพียง ประหยัด กลับมีความสุขกว่า
คนที่เป็นทุกข์มักเป็นคนที่ชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น อยากได้อยากมีแบบที่คนอื่นเขามี ไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ คนเราเกิดมามีต้นทุนที่ต่างกันทั้งในด้านสติปัญญา ฐานะและรูปร่าง ซึ่งเราเชื่อว่ามันมาจากกรรมที่เราได้ทำไปแล้วส่งผลเช่นนั้น และเราก็เชื่อว่าถ้าเราทำความดี เราก็จะได้รับผลดีนั้นเอง ตอนนี้คุณอาจจะไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน เราขอให้คุณขยันและอดทน หมั่นทำแต่ความดี คุณก็จะได้ในสิ่งที่คุณอยากได้ในที่สุด แต่มันอาจมาช้าหน่อย ไม่ทันใจคุณเท่านั้นเองค่ะ
อยู่ที่การ วางแผน
แม่ผม เป็น แม่ค้าในตลาดสด ขายของชำแผงแค่ 1.5*2 เมตร รายได้ไม่แน่นอน
แต่เพราะเป็นคนขยัน หยุดร้านแค่วันพระ รู้จักเก็บ แม่สามารถ ซื้อ บ้าน ราคา 2.4แสน ด้วย เงินสด สมัย 20 ปีที่แล้วได้
จริงๆ แล้วส่วนตัวคิดว่ามันขึ้นอยุ่กับว่าเราเก็บได้เท่าไหร่มากกว่า ครับ
เมื่อตอนเรียนจบมาใหม่ ๆ จบโททางด้านกฏหมายจากอังกฤษ
ทำงานบริษัทกฏหมายระหว่างประเทศ ได้เงินเดือนเริ่มต้น ๙ หมื่นบาท
ใช้เต็มที่ มีรถสองคัน เที่ยวยับ พออยากซื้อบ้าน ไม่ไหวจริง ๆ เงินไม่ค่อยพอใช้ เลยซื้อคอนโดอายุ ๑๕ ปีไว้ซุกหัวนอน
ทำอยู่ได้ ๓ ปี เงินเดือน ๑.๖ แสน ผ่อนบ้านหมด แต่ไม่ชอบระบบการทำงานอย่างแรง
เนื่องจากใช้ช่องว่างทางกฏหมายเอาเปรียบคนอื่น
เปลี่ยนใจมาสอบรับราชการ ใช้วุฒิตรี สอบ ติดยศร้อยตรี เงินเดือน เกือบ ๆ หมื่น
ย้ายทำงานหลายที ทั้งในหน่วยงานและนอกหน่วยงาน
ปัจจุบันติดยศ ร้อยโท หลังจากรับราชการมา แปดปี มีความสุขมาก ก ก ก ก ก
ทุกวันที่ออกจากบ้าน ภูมิใจในตัวเอง สุด ๆ
พึ่งซื้อบ้านใหม่ กู้ผ่านสวัสดิการ ต้องผ่อนบ้านค่อนข้างเยอะ แต่ดีที่มีงานพิเศษบ้าง เลยไม่เดือดร้อน
คิดไว้ว่าจะค่อยๆ ผ่อนบ้านให้หมด และตั้งใจทำงานเต็มที่
ปัจจุบัน เงินเดือน ๑.๘ หมื่น บวกเงินประจำตำแหน่ง ๑ หมื่นบาท
ไม่เที่ยว ไม่บ้ารถ มีเงินเก็บมากกว่าตอนที่ทำงานเอกชนอีก
เลยอยากจะบอกว่า จริง ๆ แล้ว เงินเดือนเยอะน้อยไม่สำคัญ ขึ้นกับว่าเราใช้เท่าไหร่มากกว่า ครับ
เป็นความลับที่คนรอบข้าง ไม่ถึง 10 คน ที่รู้ว่าชีวิตของผม ที่เป็นผู้จัดการ วัย 36 เงินเดือนประมาณ 60 K. ชีวิตเริ่มต้นติดลบ จบ ป.6 แม่ไม่มีเงินส่งเรียนต่อ ต้องไปเป็นเด็กฝึกงานร้านซ่อม มอเตอร์ไซด์ ได้เงินเดือน @ 300 บาท ขี่มอไซด์รับจ้าง อยู่เป็น 10 ปี
มาถึงวันนี้ที่เรียน จบ.ป โท มีลูกน่ารัก มีบ้าน มีรถ มีทุกอย่างที่ทุกคนอยากมี
ซึ่งเราก็นั่งวิเคราะห์ตัวเอง ว่าเรามาถึงวันนี้ได้อย่างไร
ซึ่งคำตอบที่ได้คือ "การศึกษานั่นเอง"
เรียน จบ ป.6 ตอนขี้มอไซด์รัรบจ้างก็เรียน กศน. จบ ต่อ ปวส. ภาคค่ำ มีงานทำงาน ก็เรียน ป.ตรีเสาร์อาทิตย์ พอจบอีกก็ต่อ ป.โท เลิกงานเรียนภาษา มีเวลาว่างก็อ่านหนังสือ
ทำตัวเหมือนถังน้ำมันรถ (น้ำมันเหมือนความรู้ เมื่อมันหมด ต้องเติมใหม่)
การศึกษาก็ทำให้มีปัญญา เมื่อมีปัญญาก็ทำให้รู้ว่าควรจะซื้ออะไรก่อน อะไรหลัง ควรจะใช้เงินอย่างไรให้มันงอกเงย มั่นคง
วันนี้รู้แล้วว่าความสุขไม่ได้อยู่ที่ปริมาณ (มีเงินเยอะๆ) แต่อยู่ที่คุณภาพ (ความสุขที่ชีวิตมั่นคง )
คหที่ 41 เหมือนเราเลย แม่เราจบป 4 หรือเปล่าก็ไม่รู้ เป็นสาวฉันทนาตั้งแต่วัยสะรุ่น พ่อเราเขียนได้แต่ชื่อกับนามสกุล เป็นพนักงานขับรถ แต่ขอบอก มีเงินเก็บเป็นล้านไม่รวมบ้าน+ ที่ดินที่ทิ้งไว้ให้ ตอนนี้เลยกำลังเดินตามรอยไม่รู้ว่าจะทำได้เหมือนหรือเปล่า
เงินเดือนเท่าไร่ไม่สำคัญ สำคัญว่าแต่ละเดือนเหลือเท่าไร่
พอเพียงครับพอสอนไว้ อย่าทำไรเกินตัว มีน้อยค่อยๆเก็บ ก็มากกว่าคนเงินเดือนเยอะครับ
ตามความคิดของเรานะ เราว่าการจะมีเงินเก็บเยอะต้องมาจากรายได้เยอะด้วย (ความคิดเห็นส่วนตัว) เพราะอย่างพี่เราทำงานตั้งแต่จบจนจะ 30 ปี ได้ประมาณ 15000 บาท แต่มีความสุขกับการทำงาน
ส่วนเราเข้า ๆ ออก ๆ เพราะไม่ชอบที่ทำงานจนตอนหลังมาได้บริษัทหนึ่ง ซึ่งมีเงินเดือน + ค่าคอม ทำให้พอมีเงินเก็บและอยู่มานานจนบริษัทปิดหนีไป 2 แห่งก็ย้ายมาอยู่กับคู่แข่งแทน หลังจากที่ทำงานที่นี่เรามีความสุขกับการทำงาน (ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรายได้) เพราะบรรยากาศดี เพื่อนก็ดี
สรุป เราว่าถ้าคนทำงานเงินเดือน ไม่ได้เงินเดือนมาก จะเก็บเงินได้น้อย นอกจากมีค่าคอม (เงินเดือนจะขึ้นๆ ลง ๆ) หรือทำธุรกิจส่วนตัวถ้ารายได้ดีเราว่าเก็บเงินได้เยอะกว่านะ
หมายถึงลองเทียบกับจำนวนปีของการทำงานนะ
ยังไงก็สู้ ๆ นะคะ เพราะโอกาสมีมาเสมอ
ผ่อนบ้านหมดแล้ว ไม่อยากผ่อนอะไรอีกแล้ว ว่าจะขอเงินน้องมาสร้างบ้าน
เราว่าเงินเดือนเท่าไหร่ไม่สำคัญนะคะ อยู่ที่ว่ามีเงินเก็บเท่าไหร่มากกว่า
เราอายุ 29 ปี เงินเดือน 160K
แฟน เงินเดือน 220K
เป็นมนุษย์เงินเดือนทั้งคู่ค่ะ ไม่มีกิจการส่วนตัว
เรามีรถ มีบ้าน แต่ไมมีเงินเก็บเลยนะคะ
มีน้อยใช้น้อย มีเยอะใช้เยอะ
ตอนนี้อยากเริ่มเก็บเงินแล้วค่ะ เพราะกำลังมีตัวน้อยมาร่วมชีวิตอีกคน
ขอถามประดับความรู้ค่ะ คุณมิสเจียทำงานอะไรคะ เงินเดือนเยอะจัง อายุก็นิดเดียว แอบชื่นชมค่ะ
คุณมิสเจีย ยังมีตำแหน่งว่างไหมครับ ผมทำได้ทุกตำแหน่ง
จขกท.ก็บ้านเื้อื้ออาทรสิครับผ่อนเดือนละ3-3500น่าจะไหวนะครับ
ถ้ารู้จักมีวินัยนะครับ
คุณ beutylover : เราเป็นหมออ่ะค่ะ ทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์
วันละ 9 ชม.
ส่วนคุณแฟนเป็น Expat ค่ะ
พ่อน้องอิคคิว : อาชีพแพทย์กำลังขาดแคลนเลยค่ะ ยินดีนะคะ 🙂
สู้ ๆ เป็น กำลังใจให้ จขกท