ความรู้สึกเมื่อต้องติดสินบนผิดหรือถูก

เหตุมันเกิดมานานหลายเดือนแล้ว
แต่..ยังรู้สึกค้างคาในใจ
ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันผิดในความรู้สึก
หากจะต่อว่าในกระทู้นี้ก็ยอมรับความคิดเห็นค่ะ
แต่..เบาๆสักหน่อยนะคะ พอกระเทือนใจสักหน่อยก็พอ
มันคาใจ คาใจ

เรื่องมันเกิดจาก
ตอนไปซื้อเครื่องเล่นดีวีดีพกพา
จะเอาไว้ให้เด็กๆดูในรถค่ะ
ก็ไปเจอยี่ห้อ น.น.ก็แล้วกันราคาย่อมเยาดี
ให้เด็กๆดูกำลังซนไม่อยากซื้อของแพงมากนัก
ก็อย่างที่ทราบ คุณภาพสมกับราคาอย่างแรง
ใช้ไปได้ไม่ถึง2เดือนดี ก็เกิดอาการจอดับ
มิได้เกิดจากการถูกยึดสถานี หรือว่าเกิดเพลิงไหม้แต่อย่างใด
มีแต่เสียง มิมีภาพ
ก็เป็นอันต้องนำไปส่งซ่อมเคลมไปตามเรื่องราว
อันว่าทีนี้ มันก็มีเวลาต้องรอคอยการส่งซ่อมอย่างยาวนานขึ้นชื่อทีเดียว
ทั้งโทรตาม ทั้งfaxเอกสาร สิริรวมเวลาก็เกือบๆ3เดือน
อิชั้นถึงได้รับการติดต่อให้ไปรับเครื่องคืนมา

14 thoughts on “ความรู้สึกเมื่อต้องติดสินบนผิดหรือถูก

  1. littlelion13

    ขอแยกคห.ออกนะคะ เดียวอ่านยาวๆจะเบื่อซะก่อน
    ก็ได้เดินทางไปรับเครื่องตามปกติค่ะ
    สิ่งที่เห็นคือ ไม่ได้รับเครื่องที่ส่งซ่อมค่ะ
    เป็นการเปลี่ยนเครื่องให้มาใหม่
    ซึ่งไม่ใช่เครื่องใหม่จริงๆ
    มีสภาพพอดูออกว่ามีการใช้งานมาบ้าง
    น่าจะเป็นเครื่องโชว์ประมาณนั้น
    แต่ก็ยังดี มันก็ดูใหม่กว่าเครื่องเดิมที่เคยมีอยู่ค่ะ
    พอรับได้ แจ้งเจ้าหน้าที่ไปว่า นี่ไม่ใช่เครื่องเดิมนี่คะ
    ก็ได้รับคำตอบว่า
    ทางเราใส่ใจเรื่องคุณภาพสินค้า ถึงได้จัดการเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้
    คุณพี่จะได้ไม่มีปัญหาอีก เอาเครื่องใหม่เลยดีกว่าครับ
    หรืออีกนัยนึง
    เครื่องมันเห่ยย มันซ่อมไม่ได้คร๊าบ
    หรืออออ เราไม่มีช่างซ่อมจริงๆคร๊าบ
    เสียมาก็เปลี่ยนอย่างเดียวเลย
    แล้วก็ให้อีชั้นรอเปลี่ยนเครื่องเฉยๆ เกือบ3เดือน ฮือๆๆๆ

  2. littlelion13

    มาคราวนี้หลังจากได้เครื่อง(เกือบ)ใหม่มาใช้ต่อ
    ระยะเวลาซัก3เดือนได้
    เอ๊ะ  ทนกว่าคราวก่อนแฮะ
    หนนี้ เป็นฝีมือ ลูกลิงแสนซนของอีชั้นเอง
    ตรงฝาเปิดใส่แผ่นซีดี หักค่ะ
    คงจะรุนแรงไปหน่อย หรือมีตำหนิก็มิอาจทราบได้
    มันคงสมราคาจริงๆ
    ก็เลยได้เวลาส่งซ่อมอีกครั้งนึง
    ลองดู มันยังอยู่ในประกัน1ปีนี่นา
    ณ.เคาน์เตอร์บริการลูกค้าเช่นเดิม
    ส่งเครื่องให้พนักงาน พร้อมเปรยๆนิดหน่อย
    ว่าทำไมมันไม่ค่อยทนเลย
    พนักงานก็คีย์ข้อมูลก๊อกๆแก๊กๆนิดนึง
    แล้วก็แจ้งว่า
    กรณีนี่นี้ คงมิอาจเคลมได้ครับ
    เพราะเกิดจากการใช้งานของลูกค้าเอง
    มิใช่ของไม่ดีว่างั้นเหอะ
    เราเองก็คงต้องยอมรับ(มั๊ง)ว่าของดี ดันใช้ไม่ดีเอง
    คุณพี่จะส่งซ่อมหรือเปล่าครับ
    สิ้นคำถามนี้ ประสบการณ์เก่ามาเยือนเลย
    รอนานนนนมากกก ตามแล้วตามอีก
    ส่งเอกสารใบรับประกันเอย ใบเสร็จเอยอีก
    ชักจะหลอน
    พนักงานแจ้งว่าคชจ.เบื้องต้นน่าจะประมาณ500บาท
    ไม่รวมค่าของที่ต้องเปลี่ยน

  3. littlelion13

    เลยถามพนักงานไปว่า
    มันจะซ่อมได้เร็วกว่านี้หรือเปล่า
    เคยรอนานมาก
    พนักงานก็แจ้งว่าที่นี่ไม่มีช่างซ่อมครับ
    หากคุณพี่ไปอีกสาขานึง(ไกลเลยคราวนี้)จะมีช่างซ่อมอยู่ประจำครับ
    สามารถแจ้งคชจ.ได้เลยแต่ยังไงคงไม่ต่ำกว่า500บาท(ย้ำ)
    แล้วก็คงจะต้องรอซักประมาณ อย่างเร็ว1อาทิตย์
    เอ่อออ   ระหว่างที่เราอยู่ระหว่างอึ้ง รอตัดสินใจจะเอาไงดี
    พนักงานก็บอกว่า
    หรือคุณพี่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่เลยครับ
    เหอ……..งงงงงง เปลี่ยนได้เหรอ เปลี่ยนยังไง
    ระหว่างที่งง พนักงานก็พูดต่อ
    ถ้าพี่อยากเปลี่ยนเครื่องใหม่
    เดี๋ยวพี่คุยกับเซลล์ น.น.เลยก็แล้วกันครับ
    แล้วก็ตะโกนเรียกเซลล์ยี่ห้อนั้นมาหาเราที่เคาน์เตอร์บริการลูกค้า
    เซลล์เดินมาก็ถามว่า
    พี่อยากเปลี่ยนเครื่องเลยหรือว่าอยากซ่อมหล่ะครับ
    เราก็เลยย้ำถามว่า เปลี่ยนเครื่องได้ด้วยเหรอ
    ได้ครับ เปลี่ยนแล้วได้เครื่องเมื่อไหร่
    ได้เดี๋ยวนี้เลยครับ
    แต่เดี๋ยวเชิญพี่ไปที่เคาน์เตอร์ผมดีกว่าครับ
    ก็เลยเดินตามกลับมาที่เคาน์เตอร์ที่เป็นตู้ขายเครื่องดีวีดีทั้งหลายค่ะ

  4. littlelion13

    หนนี้ มีเซลล์ที่คุยกับเรา
    แล้วก็เซลล์อีกคน ไม่รู้ของเคาน์เตอร์ไหน
    สรุปว่ามาคุยกับเรา2คน
    เริ่มต้นก็คุยเหมือนที่เคาน์เตอร์บริการลูกค้า
    ว่าส่งซ่อมต้องรอนาน ต้องมีคชจ.อย่างต่ำ500(ย้ำ)
    หากคุณพี่จะเปลี่ยนเครื่องแทนมีคชจ.เท่ากันครับ
    แต่คุณพี่จะได้เครื่องใหม่เลย
    รุ่นใหม่กว่ารุ่นนี้ ราคาแพงกว่านิดหน่อย
    แล้วเดี๋ยวพี่รอรับเครื่องได้เลย
    ถ้าจะเอาแบบนี้เดี๋ยวผมขอเช็คเครื่องแป๊ปนึงครับ
    ก็เดินหายไปด้านหลังให้รอซักพักก็ออกมา
    แล้วก็บอกว่ามีเครื่องเปลี่ยนได้เลยครับ
    พี่จะเปลี่ยนเลยมั๊ย
    อารมณ์นั้นก็โอเค เลย ได้เครื่องเลย ได้เครื่องใหม่
    จ่าย500 ถูกกว่าส่งซ่อมอีก
    แถมเซลล์ยังบอกว่า เดี๋ยวผมเขียนใบรับประกันให้ใหม่ครับ
    ลงวันที่ย้อนหลังไปซัก2เดือนนะครับ
    คุณพี่ก็จะได้เครื่องใหม่ รุ่นใหม่ ระยะเวลารับประกันก็ยืดไปอีกด้วย
    เหอๆๆ เอาสิคะ คุณน้อง
    งั้นเดี๋ยวพี่ไปเดินซื้อของแป๊ปนึงเดี๋ยวกลับมานะ
    ได้ครับ ผมจะได้ทำเอกสารไว้ให้เลย

  5. littlelion13

    เรื่องยาวจัง
    จะมีใครอ่านจนจบมั๊ยนี่
    ซื้อของเสร็จเราก็เลยเดินกลับมาที่เดิม
    เรียบร้อย มีเครื่องใหม่เอี่ยมวางรอเราอยู่แล้ว
    เซลล์ก็อธิบายวิธีใช้เครื่องยืดยาวไปตามปกติ
    เตรียมเครื่องใส่ถุงให้ ก็เรียบร้อย
    เลยควักกระเป๋าเตรียมจ่ายตังค์
    หยิบแบงค์500ออกมาวาง
    พี่ครับ พี่อย่าวางบนเคาน์เตอร์ครับเดี๋ยวกล้องเห็น
    ก็ เอ๊า งั้นวางแอบๆเอากระเป๋าบังไว้ให้แล้วกัน
    ก็แอบๆหยิบไป ขอบคุณครับ
    หากเครื่องมีปัญหาอีก เอามาเคลมได้ตามปกติเลยนะครับ
    ความรู้สึกตอนที่ออกมาจากห้างนั้นแล้ว
    มันคิดหลายอย่าง เอ  มันผิดนะ
    แต่มันก็วิน วิน ทั้งเราทั้งเซลล์
    จ่าย500ได้เครื่องใหม่ ไม่ต้องรอส่งซ่อมแถมต้องเสียมากกว่า500
    ทั้งค่าซ่อมค่าเดินทาง เสียเวลารออีก
    แต่มันก็สนับสนุนให้นอกลู่นอกทาง
    มีทางหากินอีกแบบนึงเกิดขึ้น
    เอ๊ะ หรือว่ามันเกิดมีขึ้นตั้งนานแล้ว ดิฉันไม่รู้เอง
    เลยพาลให้คิดต่อว่า
    แล้วขั้นตอนพนักงานทำกันอย่างไร
    เจ้าของสินค้า หรือเจ้าของห้างรู้วิธีเหล่านี้หรือไม่
    หากเราเป็นผู้ประกอบการ เราจะถึงกับขาดทุนกับเรื่องแบบนี้หรือเปล่า
    หรือจริงๆแล้ว เรื่องแบบนี้มันจิ๊บๆ กำไรที่ได้เยอะกว่าเสียอีก
    คิดแทนเจ้าของสินค้าไปหมด
    นึกหาช่องโหว่ของเรื่องนี้
    ก็เลยคิดเอาเอง คิดเองนะคะ
    ว่าเซลล์ คงทำเรื่องเครื่องเก่าของดิฉันเป็นเครื่องโชว์
    แล้วมีการชำรุด ประมาณนั้นได้มั๊ย
    แล้วก็ส่งคืนห้าง หรือส่งคืนบริษัทไป
    เครื่องใหม่ก็ราคาเท่ากัน ทำเป็นการขายปกติ
    หรือมีวิธีแบบไหน ถึงทำเช่นนี้ได้
    คิดไปก็ปวดหัว
    แต่สรุปว่าทำลงไปแล้ว จ่ายตังค์ไปแล้ว
    ได้เครื่องใหม่มาใช้แล้ว ดีกว่าเดิมหรือเปล่ายังไม่รู้
    แต่ก็ได้มาใช้สัก3เดือนแล้วยังปกติดีอยู่
    วิธีคิดคงจะผิด แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า
    มันคงจะเป็นวิธีที่ดีทีสุดแล้วที่อารมณ์ขณะนั้น
    หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่านค่ะ

  6. ple-ck.

    อย่างนี้เค้าเรียกว่า…
       สมรู้ร่วมคิด
       ตกกระไดพลอย(โจร)
    แต่ว่า………

    เป็นเราเราก็เอานะ…อิอิ

  7. แบนแล้วแบนอีก จนแบนแต๊ดแต๋

    ผิดอยู่แหงๆ

    แต่คนเราก็มักจะเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น

    อยากจะได้ของฟรี ของถูก จนมาถึงการกระทำที่ผิดกฎหมาย

    อย่างเคสนี้ก็ว่าผิดกฎหมายก็ใช่ ที่ดูเหมือนเป็นการสมรู้ร่วมคิด

    แต่มาในลักษณะที่กึ่งๆเป็นการคอรัปชั้่นในบริษัท

    ที่คุณก็ได้ของใหม่ แต่จ่ายในราคาถูกกว่า

    พนงก็ได้เงินใช้ฟรีๆ

    ถ้าเป็นผมๆก็เอาแหละ แต่จะตลบหลังแจ้งเตือนไปยังบริษัทว่ามีการกระทำในลักษณะนี้ขอให้กวดขันดูแล

    ทำใจยากนะครับ เราอยากให้บ้านเราปราศจากการฉ้อโกง อยากให้ประเทศชาติเจริญแต่ก็ทำได้ยากเพราะเราเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ

  8. อริยะ (ลายเส้น สีน้ำ)

    อย่าคิดมากเลยครับ คุณพี่   ผลที่เกิดมันไม่ถึงขั้นเปลี่ยนสังคมได้หรอกครับ  อีกอย่างโลกเราใกล้จะแตกแล้วหละครับ อิอิ ไม่รุ้จะแตกด้วยตัวมันเองหรือแตกในจิตใจของคนเรา

    แต่สำหรับเรื่องนี้ในความเห็นของผมคือ  การที่เราเอื้อช่องให้พนักงานทุจริตแล้ว  พนักงานเหล่านั้นก็จะคอยมองแต่ช่องทางเพื่อทุจริต  ทำให้บริการและการทำธุรกิจไม่เป็นไปในทางของมัน  แต่ถ้าคุณพี่คาใจคราวหน้าก็ลองซื้อของคุณภาพกลางๆสมเหตุสมผล  อาจจะแพงกว่าเดิมนิดนึง  หรือไม่ก็ทำตามกติกาครับ  แต่คงเป็นเรื่องที่เหนื่อยใจอย่างมาก หุหุ

    แต่เชื่อไหมครับเกิน50% ผมว่าเลือกทำอย่างที่คุณพี่ทำในตอนแรก( ผมก็อาจจะเป็น1ในนั้น  อิอิ)

  9. ตอนนี้ไม่ต้องมาเอาอะไรแล้วนะ (IDEAL ENGINEER)

    ถ้าทำผิด แล้วยอมรับว่าผิด ก็ยังดีกว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับมันเลย
    แต่ทุกอย่างมันก็น่าจะมีผลของมัน เป็นกรรมตามตัว อย่างน้อยก็คือ ความไม่สบายใจที่ยังติดตัวคุณอยู่มาถึง ณ ตอนนี้ที่กระทู้ถูกโพสต์
    หลายปีก่อน ผมเคยเก็บโทรศัพท์มือถือเก่าๆเครื่องนึงได้ ที่ศาลาพักในปั๊มน้ำมันJET สภาพถลอกปอกเปิก ไม่มีซิมการ์ด เหมือนถูกโยนทิ้งมา
    ผมหยิบขึ้นถามคนแถวนั้นว่ามีใครทำโทรศัพท์หายหรือเปล่า ก็ไม่มีใครแสดงตน ก็เลยคิดว่าบางทีเจ้าของเครื่องนั้นอาจจะทะเลาะกับแฟน แล้วจงใจเขวี้ยงมันทิ้งไว้ตรงนั้นเอง หรือถ้าจะเอาไปฝากไว้กับ เด็กปั๊มหรือแม่บ้าน ก็เกรงว่าอาจไม่ถึงมือเจ้าของอยู่ดี (ความคิดเวลาโดนความโลภครอบงำ แล้วมันก็มักจะคิดแต่เอาประโยชน์เข้าตัว) ผมก็เลยเก็บกลับมา แล้วนับตั้งแต่ขับรถออกมาจากปั๊ม ไม่เคยมีวันไหนเลยที่มองมือถือเครื่องนั้นแล้วผมรู้สึกเป็นปกติสุข  ประหนึ่งเหมือนเป็นโทรศัพท์ผีสิงคอยทำให้เราไม่สบายใจ อยากคืนเจ้าของแต่ไม่รู้จะคืนยังไงเพราะไม่มี sim card …
    เลยตัดสินใจว่า ถ้าขับรถผ่านไปเส้นนั้นอีกจะเอาไปวางไว้ที่เดิม … เวลาผ่านไปวันเเล้ววันเล่า จนประมาณสองเดือน ผมก็ไม่ได้มีโอกาสขับรถไปถนนเส้นนั้นอีก … พอเข้าเดือนที่สาม ผมต้องไปทำงาน ตจว.ตามปกติแล้วต้องนอนพักค้างที่บ้านพักใกล้ๆsiteงานนั้น … กรรมคงตามทัน … ตื่นเช้ามาพบว่าหน้าต่างห้องเปิดอยู่ และโทรศัพท์สามเครื่องที่ผมพกอยู่หายไป
    ผมเองไม่รู้สึกเสียดายอะไรมากมาย เพราะทุกเครื่องที่ใช้เป็นเครื่องราคาถูก แต่ก็นึกอยู่ในใจว่า เออ … สมน้ำหน้า … อยากเอาของคนอื่นมาดีนัก สูญซะบ้าง จะได้เจ๊ากัน …

  10. แม่ถ้วยฟูฯ

    คิดเหมือนความเห็น ๗ ค่ะ ไม่ควรปล่อยให้คนแบบนี้ลอยนวล อย่าคิดว่าธุระไม่ใช่ ไหนๆคุณก็ได้ของใหม่มาแล้ว

  11. เคราครึ้ม

    ก่อนจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ย่อมต้องมีก้าวเล็กๆมาก่อน

    เช่นเดียวกัน ก่อนจะเป็น ขุนโจร ต้องเคยเป็นนักเลงกระจอกมาก่อน

    คุณจะจำบทเรียนวันนี้ไว้ เพื่อปฎิญาณตนว่าจะไม่เดินทางนี้อีก หรือจะจำเรื่องราวไว้ พื่อหาช่องทางลองวิธีนี้อีกในรูปแบบที่เป็นมูลค่าสูงขึ้นไปอีก

    ทางเลือกอยู่ที่คุณ

  12. cat_on_a_hot_tin_roof_

    เซลล์คงรีบหาเงินไปสังสรรค์ ^^ เรื่องแบบนี้อย่าได้มองเป็นเรื่องธรรมดาไปเลยค่ะ ถึงเวลาที่จะต้องปฎิรูปความคิดกันซะที^^

  13. littlelion13

    ตอนแรกก็คิดจะแจ้งทางห้างนะคะ
    เพียงแต่ว่าคนที่แนะนำให้เราไปคุยกับเซลล์เอง
    ก็เป็นหัวหน้างานที่นั่นเอง
    คิดว่านะคะ
    เพราะเป็นคนที่พนักงานให้คุยเรื่องการแก้ปัญหาเครื่อง
    ปัญหาการเคลม ก็น่าจะเป็นหัวหน้างานแล้วนะ
    แล้วก็กลายเป็นว่าหัวหน้างานเอง
    ที่ส่งให้เราไปคุยกับเซลล์ซะเอง
    เออ..แล้วควรจะโทรไปแจ้งเรื่องนี้กับใครดีหล่ะ
    หากหัวหน้างานที่นั่นก็ทราบเรื่องดีว่ามีการทำแบบนี้
    call centre ก็ไม่รู้ว่ามีมั๊ย
    หรือเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของที่นี่มั๊ง

Comments are closed.