อยากจะเล่าเรื่องเพื่อนบ้านนะครับ
เห็นใครใครชอบบ่นเรื่องปัญหาเพื่อนบ้านกัน ผมเลยอยากขออนุญาตเล่าบ้าง
เรื่องมีอยู่ว่า…………
ผมสร้างบ้านผมในซอยเล็กเล็ก ที่แทบไม่มีคนอยู่เลย
จะมีก็แต่ด้านหลังบ้าน ที่มีคูนํ้าแคบๆกว้างประมาณสองเมตร กั้นอยู่
เพื่อนบ้านผมหลังนี้ เป็นบ้านค่อนข้างใหญ่
เขาอยู่ในซอยถัดไปจากซอยบ้านผม
ผมเดาว่าในซอยเขาคงมีแต่ญาติๆเขาอยู่
วัดจากขนาดบ้านเขาแล้ว ผมคิดว่าเขาน่าจะมีฐานะดีที่สุดในซอย
เพื่อนบ้านผมหลังนี้ อยู่กันหลายคน
เป็นครอบครัวใหญ่ ผมเรียนรู้ได้ไม่นานว่า เป็นครอบครัวที่รักดนตรีมากกกก
หลักฐานแรกคือลูกชายคนโต ชอบตีกลองตอนเช้าเช้า
เขาจะเปิดเพลงฟัง และตีกลองตามครับ
ไม่ว่าเพลงอะไรก็ตาม เฮียเขาจะตีจังหวะเดิม จบด้วยการตีฉาบทุกสิบวินาที
นอกจากนี้ บ้านนี้ชอบสังสรรค์เป็นที่สุด
เหล้า ยา ปลา ปิ้ง แกมีครบ
วันดีคืนดี เขาก็จะกินกันถึงตีสาม
พร้อมเปิดเพลงพงษ์พัฒน์ เคล้าสุรา
เนื่องจากผมมาอยู่ใหม่ ผมก็ทนทนไป
ด้วยไม่อยากมีปัญหา
จนมาวันหนึ่ง พี่แกจะแต่งงาน
จัดมันที่บ้านนี่ล่ะ
งานมีวันอาทิตย์ พอวันเสาร์ก็มีรถขนของ เข้าออก ทั้งวัน
ผมเริ่มเห็นลางไม่ดี ตรงที่มันมีรถขนลําโพงงานวัด เข้ามาด้วยนี่สิครับ……
ว่าแล้ว คนงานก็เริ่มติดตั้งลําโพงที่ขนมา
ขนาดของมัน กว้างประมาณสามเมตร สูงสี่เมตร หนาประมาณ หนึ่งเมตรกว่ากว่า
ผมแอบดูอยู่ เพราะได้ยินเสียงคนงานเอะอ่ะ
เริ่มคิดว่าทําไมมันใช้ลําโพงใหญ่นักว่ะ
ที่สําคัญ มันไม่ได้มีแค่อันเดียวเขาติดตั้งลําโพงยักษ์ที่ว่าถึงสองอัน
ซวยล่ะ
แน่นอนว่า เวลาเราคิดอะไรร้ายร้าย มันมักเป็นจริง
ลางร้ายเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ตรงที่คนงานยกลําโพงยักษ์มาตั้งที่ริมคลอง
ไม่พอ มันหันหน้าลําโพงเข้าหาบ้านผม
ต่อสายไฟเสร็จ มันไม่พูดพลํ่าทําเพลง เจ้าของบ้านผู้รักเสียงดนตรี สั่งลองเสียงทันที
บ้านผมเป็นบ้านโมเดิร์น หน้าต่างเป็นกระจกบานใหญ่
ด้วยพลังลําโพง สามคูณสี่เมตร หันหน้าตรงเข้าบ้าน
บ้านผมสั่นเหมือนโดนเขย่า
ผมไม่รอช้า เปิดหน้าต่างบอก
พี่ปิดเพลงด้วยครับ บ้านผมจะแตกแล้ว
มันเบาเสียงลงนิด เพื่อจะฟังว่าผมพูดอะไร
ผมบอกต่อว่า แล้วช่วยหันลําโพงออกจากบ้านผมด้วยครับ
เจ้าของบ้านมองผมแบบไม่พอใจ
แต่ผมคิดว่าเรื่องคงจบ
ที่สําคัญ ตอนนั้น ผมไม่รู้ว่างานมันจะมีเมื่อไร
คืนวันเสาร์ ผมออกไปสังสรรค์กับเพื่อน
กลับเข้าบ้านประมาณตีสอง
หลังบ้านผมเงียบกริบ ผมแอบดีใจ ว่างานมันเลิกเร็วโว้ย
วันนี้ผมเลยเข้านอนอย่างมีความสุข
แน่นอนว่าผมคิดผิด
เพียงสี่ชั่วโมงหลังจากนั้น สักหกโมงเช้าของวันอาทิตย์อันเงียบสงบ
ผมต้องสะดุ้งสุดตัวเนื่องจากบ้านสั่นอย่างรุนแรง
มันรู้สึกเหมือนแผ่นดินไหว แต่ไม่ใช่
ผมรู้เพราะมันมีเสียงประกอบว่าหนู เอาแคเราะ มาฝากกกกกอยากให้เธอ ได้กิง
หกโมงเช้า วันอาทิตย์กับเพลง หนู เอาแคเราะ มาฝาก
รังสรรค์ด้วย ลําโพงยักษ์สองตัว ที่วางหันหน้าเข้าบ้านผมห่างไปแค่สามสี่เมตร
ผมสุดสุด กับความใจกว้างของเพื่อนบ้านเปิดหน้าต่างไปด่าทันที
บรรดาญาติโกโหติกา แกกําลังเตรียมอาหารอย่างขมักเขม้น
มองผมอย่างงงงง แล้าตะโกนกลับมาว่า
เช้าแล้ว จะเปิดเพลงยังไงก็ได้
ผมทนต่ออีกครึ่งชั่วโมง
แต่มันไม่ไหวจริงจริง หน้าต่างมันกระเพื่อมไปหมด
สุดท้าย ผมโทรแจ้งตํารวจ
ได้ผล เพลงหยุดลงผมเลยนอนต่อ
ไม่จบครับ เก้าโมงเช้าเป๊ะ มันเปิดเพลงปลุกผมตรงเวลามาก
เดาว่าตํารวจคงต่อรองให้เปิดเพลงตอนสายหน่อย
ผมไม่รอช้า หยิบกุญแจรถ ขับตรงไปซอยข้างข้างทันที
จอดรถเสร็จ หาทางเข้ามันไม่เจอ
ถามลุงที่มางานว่าไปทางไหน
ลุงแกนึกว่าผมเป็นแขก บอกให้นั่งมอเตอร์ไซค์ ไปด้วยกัน
ผมเลี่ยงแกไป เดี๋ยวแกจะตกใจที่พาศัตรูมาส่ง
ถึงบ้านคู่กรณี ผมถามทันที
เจ้าภาพอยู่ไหนครับ
ลุงลุงป้าป้า พร้อมใจกันชี้ไปที่ป้าคนนึง ที่นั่งยิ้มหน้าบานอยู่ที่ลูกชายมือกลองจะเป็นฝั่งเป็นฝา
ผมเดินไปไหว้แก บอกยินดีด้วยครับป้า
ป้าแกรับไหว้ ยังไม่ทันหุบยิ้ม
ผมต่อทันที
(มรึง) ช่วยหันลําโพงกลับมาบ้านป้าได้ไหมครับ
บ้านผมจะแตกแล้วครับ
ตอนนี้แขกเหรื่อ เริ่มตกใจล่ะ เพราะหน้่าผมเอาจริง
ลุงลุงรีบเข้ามาบอก ไหนไหนได้สิ เดี๋ยวหันให้พ่อหนุ่มเลย
ผมสังเกตได้ว่าที่มันหันลําโพง เข้าบ้านผม
เพราะมันไม่อยากให้แขกมันรู้สึก จุกหน้าอก
ที่นี้ พองานมันอยู่ด้านหลังลําโพงเสียงมันก็อู้อี้
มันก็เลยยิ่งเปิดดังดังยิ่งขึ้น
พอมันหันกลับเข้าบ้านมัน มันก็ทนไม่ได้ล่ะทีนี้
เปิดเบาลงไปเยอะ
สุดท้ายเรื่องของผมก็จบลงอย่างสงบครับ
ตอนนั้น ยังรู้สึกดีว่าโชคดีนะ ที่เราไม่มีปืนในบ้าน
ใครจะรู้ว่าหกโมงเช้า วันอาทิตย์ กับ ลําโพงยักษ์ และ หนู เอาแคเราะมาฝาก
อาจทําให้ คนดีดี กลายเป็นฆาตกรได้ โดยไม่รู้ตัวครับ
เห็นใจค่ะ
แถวบ้านเป็นเหมือนกัน
เราก็บุกเดี่ยวตอนตี 2 ไปตะโกนว่าแบบนี้แหละ
พ่อแม่รู้ตกใจใหญ่ บอกไปได้ไงผู้หญิงคนเดียว
จริงครับ การไม่มีอาวุธร้ายแรงอยู่ในครอบครอง
ก็ทำให้เราผ่านความยุ่งยากมาได้แบบ……….ง่ายๆได้ในบางครั้ง
..
มีแต่เงินไม่มีสมองนะครับ เดี๋ยวนี้คนพวกนี้มีมาก ไม่รู้รวยมาแต่ใหน ค้ายาหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ
ไม่โดนส่องสวนกลับมาถือว่าโชคดีครับ……
ถ้าไปช่วงที่มีวัยรุ่นขี้เมา…เมากระแช่กันได้ที่นะ…..คุณเอ๋ยย
เข้าใจเช่นกันค่ะ… =_=;;
คนพวกนี้… ทำไมถึงมีนํ้าใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ได้ขนาดนี้… ส๊าาาาาธุ
ข้างบ้านเราเปิดเพลงคาราโอเกะกันเสียงดัง ขนาดปิดกระจกยังมีเสียงเบสดังเข้ามาดุ๊บๆในหัวใจ
พอเปิดเพลงแข่งก็ดันปิดประตูกระจกอีกเรา(ไม่อยากเปิด) หนวกหูตัวเองจนต้องเบาเหมือนเดิม
บางทีก็ตะโกนโหวกเหวกโวยวายในบ้านตัวเองระบายอารมณ์แทน ไม่งั้นคงออกไปฆ่าใครซะก่อน =_=…
ถ้ามันกินเหล้า อย่าเข้าไปด่านะคะ อันตรายเปล่าๆค่าาา -*-
(ดีนะ จขกท ไปตอนเขากำลังจัดเตรียมงาน55)
ดีแล้วครับจบลงด้วยดี ไม่มีบาดเจ็บ
เล่าเรื่องได้สนุกดีครับ
โชคดีมากกกกกกกกกกกกกกก
ที่ไม่ได้รับ สหบาทา แถมกลับบ้าน
ใจถึงจริง ๆ
โชคดีที่….
1. งานเช้า ยังไม่เมา…พวกเมาก็ยังไม่สร่าง
2. งานมงคล มีฤกษ์มียาม มีลางมีความเชื่อ ไม่มีใครอยากให้เกิดปัญหา
3. จขกท. ไปเดี่ยวๆ ไปตัวเปล่าๆ
4. ไปคุยกับผู้รับผิดชอบโดยตรงต่อหน้าเพื่อนฝูง…แน่นอนไม่มีใครอยากเสียหน้า
คราวหน้าก็ต้องระวัง….ถ้าองค์ประกอบไม่ครบ…อาจจบแย่กว่านี้นะครับ
แจ้งตำรวจจับเลย ถ้ามันยังไม่เลิก ถ่ายแล้วส่งไปออกทีวีเลย
โชคดีที่เค้ายังมีความเกรงใจ(บ้าง) เพียงแต่ทำคนอื่นไม่รู้ตัวแค่นั้นเอง
ประเภทหนักกว่านี้คือ มารวมตัวกันตอนเที่ยงคืนถึงตี2 -__-”
เย็นและบ่ายยังไง สายก็บรรเลง
พอนอนหลับละเมอ เพ้อก็เป็นเพลง……….บลา บลา
มาต่อเพลง
จขกท.เล่าเรื่องสนุกมากเลยค่ะ
เรื่องซีเรียส กลายเป็นตลกไปเลย
อวยพรให้ไม่เกิดปัญหาในอนาคตนะคะ
เบื่อคนพวกนี้ แถวบ้านก็มีอยู่ เค้าจอดรถหน้าบ้านแล้วเปิดเพลงดัง ตึบๆๆๆ เราตะโกนบอกให้เบา (มัน) ก็ไม่ได้ยิน แม่เราทนไม่ไหวเดินไปบอกเอง เค้าก็เบาเสียงให้นะ เดี๋ยวนี้ไม่เปิดดังแล้ว แต่หลังจากละความสนใจจากเสียงดนตรีเดี๋ยวนี้สวมวิญญาณนักซิ่งขับรถเข้าซอยแล้ว อยากให้มันขับทะลุกำแพงท้ายซอยจัง เฮ้อ
บ้านเราเป็นบ้านเดี่ยวในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งย่านชานเมือง อยู่กันอย่างเงียบสงบ เพราะคนส่วนใหญ่มีแต่คนเกษียรทั้งนั้น จนมาวันหนึ่งมีเด็กนักศึกษามาเช่าอยู่บ้านข้างๆ บ้านเรา กลุ่มใหญ่มาก กินเหล้า เคล้านารี เปิดเพลงเสียงดังไป 3 ซอย มีอยู่คืนหนึ่งเวลาจะตี 2 แล้ว มันก็ยังไม่หยุด เราเลยแจ้งตำรวจ พอตำรวจมามันก็ไม่เงียบ ทำอะไรมันไม่ได้ ตำรวจบอกว่า คุณครับดึกแล้วเงียบ ๆ หน่อยครับ เกรงใจคนอื่นบ้าง มันสวนกลับตำรวจว่า นี่บ้านมัน มันจะทำอะไรก็ได้ ตำรวจได้ฟังดังนั้นก็ขับรถกลับไป (เวงกำ)
ตัวเราก็ต้องทนต่อไป เพราะบ้านเรามีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น จนผ่านไปสัก 2 – 3 เดือน พวกมันไม่มีค่าเช่าจ่าย เจ้าของเลยไล่ออกไป เฮ้อออ
บ้านเราอยู่กลางสวนมีบ้านอยู่ ไม่เยอะ
เพื่อนบ้านน่ารักค่ะ 6 โมงเช้าเปิดเพลง ลูกทุ่งแบบฟังเพลินๆ ให้ฟังทุกเช้า
ถ้าเราไม่คิดมากก็เพราะดีค่ะ
แต่ขนาดของ คุณ จขกท. นี่ก็เกินไปค่ะ
แต่แถวบ้านนะคะ อยู่กันแบบพี่น้อง เวลาจะมีงานจะเดินบอกค่ะว่าจะจัดงาน
อาจเสียงดังหน่อยนะคะประมาณนี้
พูดถึงเค้าก้ไม่น่าจะหันลำพงไปทางอื่นเลยเนอะ หวังว่าหลังจากแต่งกันไปแล้วก็คงไม่มีไรมากมายเนอะ อยู่ใกล้ๆกันดีๆกันไว้ก่อน คิคิ
หึ หึ ทำมัยเหตุการณ์แบบนี้มันช่างเหมือนกันเสียจริง ของเราเป็นแฟลตที่พัก ถ้าอาทิตย์ไหนที่เราไม่กลับบ้าน ก็จะมีผู้ใจบุญเปิดเพลง(ที่ไม่ได้ขอ)ตั้งแต่เช้าจนเย็น ลำโพงไว้หน้าห้องทั้งหมด 4 ตัว เวลาแกเปิดตัวแกเองอยู่ในห้องแล้วปิดประตู บางที่ก็ครวญตามเสียงเพลงสมัยที่แกยังหนุ่ม กระจกตามแต่ละห้องสะเทือนยังกะแผ่นดินไหว (โค..ตระ จะเบื่อ)
บ้านตัวเองมีงาน อยากให้คนในงานรื่นเรง เปิดเพลงคึกคัก
แต่ไม่ยักกะหันลำโพงเข้าบ้านตัวเอง
คนอื่นเขาไม่ได้อยากฟังด้วยซักหน่อย
แย่ค่ะแบบนี้
จริงๆ ด้วย พวกที่ชอบเปิดเพลงดังๆ กับพวกร้องคาราโอเกะ ชอบหันลำโพงออกนอกบ้าน ไม่ยักหันใส่บ้านตัวเอง แถวบ้านเราก็มีเหมือนกัน ทั้งๆ ที่บ้านตัวเองมีลูกเล็กนะ ก็ยังชอบแหกปากร้องเพลง เรารอจังหวะอยู่เหมือนกัน แต่เค้าดันมีมารยาทเพราะ ๔ ทุ่มก็เลิก เพราะถ้าดึกกว่านั้น เจอกันแน่
คนสมัยนี้ชอบซื้อเครื่องเสียงเสียงดังๆ
แต่แปลกจังไม่ฟังเองเปิดให้ชาวบ้านฟังซะงั้น
5555 ขอหัวเราะก่อนนะค่ะอ่านแล้วมันนึกภาพออกเลย
คุณเขียนมาเนี่ยรู้เลยว่ามันทรมาน แต่ภาษาที่เขียนมันแฝงความตลกด้วย
เลยอยากชมค่ะ
คูณโชคดีนะที่บุกไปคนเดียว ไม่กลัวว่าทางโน้นจะยำคุณเละหรือป่าว
ใจกล้าน่าดู แตถ้าเป้นตัวเราเจอะเองคงเซ็งห่านน่าดู
แล้วจากวันนั้น
ยังมีเสียงกลองอีกป่าวคะ
จะได้หาข้อมูล เตรียมรับมือ
เพราะเพื่อนบ้านในอนาคต
มาบอกว่า ลูกชายเป็นนักดนตรี
ชอบพาเพื่อนมาซ้อม สนุกเชียว!!!
แล้ว(มัน) ป้าแกก็จัดต่อห้องโรงรถ เป็นห้องซ้อม
แถมไม่บุผนังกันเสียงด้วย
ที่สำคัญ ติดห้องนอนพ่อ-แม่ด้วย
กะว่าแก่แล้ว ไม่ต้องขึ้นบันได
เซ็งเลย
เออเนอะ อยากฟังดังๆ ไม่หันเข้าบ้านตัวเอง
แถวบ้านผมมีวีออสสีดำคันหนึ่ง เปิดท้ายมาบริเวณที่ชาวบ้านเค้าใช้ติดตั้งถังแก๊ส แต่คันนี้กลับติดลำโพงงานวัดมองผ่านๆแล้วเป็นของอย่างดีเลยแถมขนาดนี่กินขาดพวกรถกระบะหาเสียงหรือขายผลไม้เลย ช่วงเย็นนี่สะท้านซอยมากเอามาจอดกลางซอยเปิดหลังแล้วใส่เต็มที่เลยหมาแมวยังหลบให้ เพลงมีครบทุกแนวทุกเชื้อชาติ ตั๊กแตน หมอรำ โปงลาง โปเตโต้ น้ำชา ลูกทุ่ง สตริง สากล ไทยสากล เอ็นริเก้ อิเกลเซียสที่ผมรู้จักอยู่แค่เพลงสองเพลงก็ยังเคยผ่านหูมาแล้ว เรียกได้ว่าเอาใจคนทั้งซอยได้เพราะมีครบหมดทุกแนว
ไม่รู้เดินผ่านนี่เข้าไปขอเพลงไ้ด้รึเปล่า เฮ้อ
อ่านไปลุ้นไป เข้าใจอารมณ์ และความรู้สึก เลยว่าเป็นอย่างไร
จขกท ได้ใจมาก ๆ ค่ะ แต่ระวังนะค่ะ เจอรุมแล้วจะไม่คุ้มกันค่ะ
หันลำโพงเข้าบ้าน เด๊วไมค์มันจะหอนมั้งค่ะ ร้องคาราโอเกะไม่ได้ เลยต้องหันหน้าออก ข้างบ้านก้อซวยไป
แต่เราว่าที่ จขกท โมโห เพราะไม่เขาเชิญแน่ๆ อิอิ
ถ้าจะให้ดีชวนป้าแกคุยเรื่องอื่นก่อนก็ได้ครับ
แล้วค่อยๆทยอยบอกความในใจ
Hey pocco. I hear you buddy. When they’ll learn how to respect the other ppl’s rights? Been reading many posts here and seemed we are on the same boat. However,that’s very bold move but don’t try to do it by yourself again. At least bring some companies.
ผมก็โดนครับ โครตเซ็ง คืนนั้นกลับบ้านตี 3 วันรุ่งขึ้นข้างบ้านจะทำบุญบ้าน
เราก็ไม่ว่ากันเข้าใจ แต่ไม่คิดว่าจะเปิดเพลงซะเช้าขนาดนี้ เลยตื่น เกือบ 7 โมง และก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปข้างนอก แวะเอาซองทำบุญไปให้แค่นั้น เค้าก็ขอบคุณ(แต่ก็ไม่ได้มีของอะไรมาให้สักอย่าง น้ำสักแก้วยังไม่มีเลย)และบอกว่าเดี๋ยวบ่ายๆก็ไม่มีอะไรแล้ว เราก็ดีใจจะได้กลับมาแล้วสงบสุข เค้าบอกบ่ายๆไม่มีอะไรแล้ว เรากลับมา 2 ทุ่มกว่า ยังนั่งกินเหล้ากันเปิดเพลงอยู่เลยครับ นั่งกินเหลือโต๊ะตัวเดียว ก็มาตั้งอยู่หน้าบ้านผม บ้านตัวเองทำไมไม่ไปตั้งก็ไม่เข้าใจ โครตเซ็ง กับคนไม่มีจิตสำนึก เฮ้อ เซ็ง ทำไงกับคนพวกนี้ดี
แล้วมีอีกหลายเรื่องที่ทำให้ผมเสียความรู้สึก เช่น ต่อเติมหลังบ้านแล้วไม่มาเก็บงานสีให้ฝั่งบ้านเรา เชื่อมเหล็กก็ไม่เอาอะไรมาบัง สะเก็ดไฟหล่นมาโดนพื้นกระเบื้องบ้านผมเสียหมด ต่อเติมโรงจอดรถก็มาเลอะบ้านผม ทั้งหมดผมก็ไม่ได้ไปต่อว่าเค้านะ แค่คิดว่ายวนๆไป จนทำให้คิดแล้วเสียความรู็สึกจริงๆ เค้ามาอยู่หลังผมเกือบครึ่งปี มาใหม่ๆผมก็ผูกมิตรซื้อนู้นซื้อนี้ให้กิน จนวันนี้ผมยังไม่เคยได้อะไรกับข้างบ้านผมแม้แต่อย่างเดียว จนวันนี้ผมไม่อยากยุ่งเลยครับ เสียความรู้สึกกับคนเห็นแก่ตัวแค่นี้ก็พอรู้แล้ว
อัดคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน หลายๆ เหตุการณ์เพื่อยืนยันว่าเป็นอาจิณ ข้างบ้านผมซึ่งต่างก็เป็นบ้านเดี่ยว กว้างใหญ่เป็น 500-600 ตร.วา ก็จัดงานวันหยุดสุดสัปดาห์ กัน เปิดร้องเพลงคาราโอเกะ จากสนามหญ้าบ้านเขา มาถึงห้องนอนบ้านเรา ทนมานาน ก็หาวิธีแก้เผ็ด โดยจะทำสิ่งประดิษฐ์ รับเสียงเพลงจากบ้านเขาที่ดังรบกวนมาบ้านเรา แล้วยิงกลับไปด้วยลำโพงดังขนาดเท่าๆ กัน แต่ให้จังหวะหน่วงไปหน่อย เพื่อเป็นการทำลายบรรยากาศของเพลง ให้น่ารำคาญ หากต้นเสียงค่อยลง สัญญาณอ่อนลง เสียงของเราที่ยิงกลับไปก็อ่อนตาม เป็นการบอกเขาว่า ถ้าไม่อยากรำคาญ ก็ลดเสียงของเขาลงเท่านั้น มีใครทำเครื่องแบบนี้ขาย หรือให้เช่า กันหรือยัง