น้องชายค่ะ…ติดแบล็คลิส
อิออน10,000-
พาวเวอรบาย8,000-
อีซี่บาย6,000
เมิ่อ2ปีก่อน..ตอนนั้นฐานนะการเงินไม่ค่อยดี…ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว
ตอนนี้กำลังจะแต่งงานอยากซิ้อบ้านค่ะ
อยากรู้ค่ะว่า…ถ้าวันนี้ไปจ่าย…เครียทั้งหมดแล้วอาทิตยหน้าจะยิ่นกู้ซิ้อบ้านได้รึเปล่าค่ะ
ไปปิดให้หมด แล้วขอหนังสือการปิดบัญชีมา เอาไปยื่นกับศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติครับ ส่วนเรื่อง ได้ไม่ได้ก็เป็นดุลพินิจของแบ็งค์อีกที
ต้องรออย่างน้อย 1 ปีนี้ครับ ประวัติถึงจะหายไป
ถ้ากู้ไม่เยอะและวางงานดาวน์ สูงหน่อย คิดว่าบางธนาคารน่าจะปล่อยกู้ครับผม
ไม่ทราบครับ แต่ว่าถ้าไม่คิดจะซื้อบ้านนี่จะไม่จ่ายเหรอครับ
คงต้องรออีกซะ 2-3 ปีครับ ถ้าผมเป็นแบงก์คงมองว่าจะปิดหนี้เพื่อมาซื้อบ้าน
แล้วผ่อนบ้านจะไปรอดไหม แต่ยังไงก็ต้องไปปิดก่อนครับแล้วขอหนังสือ
รับรองมา blacklist ต่อให้ปิดประวัติที่ทำมาก็ยังคงอยู่ต่อไปครับ คงไม่โดน
หมายหัวไว้เท่านั้นเอง แต่ก็ขึ้นกับดุลยพินิจของแบงก์ด้วยครับ
ถ้าจะซื้อเลยต้องลองไปที่ธนาคารไทยเครดิตครับ แต่ได้ข่าวว่าดอกแพงมาก
เท่าที่รู้มา ต่อให้จ่ายหมด ก็ต้องรออย่างต่ำ 1-2 ปี เค้าถึงจะเคลียร์แบคลิส
ให้อ่ะค่ะ ถึงตอนนี้เอาไปจ่าย ชื่อก็ยังมีอยู่ ต้องรอสักหน่อย
ผมติดเงินธนาคาร ศาลฯ ตัดสินยกฟ้อง เนื่องจากขาดอายุความ แต่ก็ติด blacklist เหมือนกันเกือบ 10 ปีแล้ว แบบนี้ผมจะถูกถอนออกจาก blacklist หรือเปล่าครับ
ลองยื่นได้2ที่ค่ะ
ไทยเครดิต กับธ.อิสลาม
ที่อื่นคงจะปฏิเสธหมด
ดูจากยอดเงินที่เคยติด มันไม่เยอะยังไม่เคลียร์เลย
แล้วจะกู้ยอดเยอะๆคงยากแทบทุกแบงค์ค่ะ
ก็ต้องยอมรับอดีตที่เคยพลาดค่ะ
ดบ.ทั้ง2แบงค์ก็คงต้องสูงกว่าทุกเจ้าตามความเสี่ยงลูกหนี้
ดีกว่ากู้ไม่ได้เลยนะคะ
อย่าใช้คำว่า blacklist เลย มันไม่มีหรอกครับ blacklist น่ะ
มันเป็นประวัติการเป็นหนี้และชำระเงิน
พอมียอดค้างมันก็โชว์อยู่ในประวัติว่านายคนนี้เป็นหนี้แล้วค้างชำระเกินกำหนด
ประวัติเขาดูย้อนหลัง 3 ปี เพราะฉะนั้นวันนี้เอาไปจ่ายแล้ว มันก็ยังจะโชว์อยู่ว่าในอดีตเคยมีประวัติยังไง
รอจนเกิน 3 ปีมันถึงจะหายไป
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าภายใน 3 ปีนี้จะกู้ใครไม่ได้เลย ไปจ่ายซะก็ยังพอมีหวัง
เวลายื่นกู้ก็แนบหลักฐานการจ่ายหนี้ไปด้วย แต่จะได้ไม่ได้ก็อยู่ที่หลักเกณฑ์ของธนาคารเขาล่ะครับ ต้องลองดู
ตอนสมัยกู้แรกๆ ยังไม่มี Blacklist น่ะค่ะ หมายถึงการจัดเก็บข้อมูลของเครดิตบูโร
เท่าที่เคยทำข้อมูลส่งไปประมาณหลังปี 2544 ถึงเริ่มมีขึ้นมาค่ะ
การติด Blacklist จะมีอยู่ 3 ปี ก่อนจะถูกลบ ออกจากสถาบันที่เก็บข้อมูล มีอยู่ 2 แห่งแล้วแต่ว่าข้อมูลคุณอยู่ที่ไหน
แต่ธนาคารที่เราทำธุรกรรม จะเก็บข้อมูลว่าคุณเคยมีปัญหาทางการเงินอยู่
แบงค์จะมองเป็น มีพฤติกรรมไม่ยอมชำระหนี้
ลูกค้าแบบนี้แบงค์ไม่อยากได้
ถึงจะร่ำรวยขึ้นมาก็ตาม
.
แม้จะลบ blacklist ออกแล้ว ก็อย่าง คห.ที่ 10 ว่าแหล่ะครับ ข้อมูลเหล่านี้
ยังเก็บไว้ที่ธนาคารอยู่ บูโรลบ แต่ธนาคารไม่ลบ สุดท้ายก็กู้ไม่ผ่านอยู่ดี
คิดว่าคงยากค่ะ ถึงแม้ไปปิดบัญชีแล้วก็ตาม
เวลาขอ approve ให้ทีไร ส่วนมาก bank จะปฏิเสธลูกค้าประเภทนี้ แทบทุกครั้งค่ะ
(ที่บ้านขายรถยนต์ ต้องทำเรื่องขอเครดิตให้ลูกค้าบ่อยๆค่ะ)
ที่ว่าติด คือ เคยค้างตอนนี้ทะยอยจ่ายแล้วผ่อนจ่ายยังไม่หมด หรือ ค้างไม่จ่ายเลยคะ
ยังไงก็ตามขอให้ไปปิดก่อน ขอเอกสารว่าปิดบัญชีด้วย แล้วยื่นหลาย ๆ ที่ แต่ละแบงค์มีรายละเอียดในการพิจารณาที่แตกต่างกันบางจุดอยู่บ้าง อย่าเพิ่งถอดใจนะคะ เอาใจช่วย คนเคยติดหนี้ไม่ได้แปลว่าชีวิตนี้ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่นะ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนแล้วสู้ให้สุดแรงก่อน