กู้ซื้อบ้านกับ ธอส. ค่ะ ราคาในสัญญากู้มา 1,400,000 บาท ราคาบ้าน 1,200,000 บาท ตอนนี้ส่งไปแล้ว 3 ปี เงินต้นลงไปประมาณ 100,000 บาท (ลดไปน้อยมาก) วันนี้ไปยื่นกู้เพิ่มส่วนต่างที่เราส่งไป แต่…ปรากฏว่า ตอนนั้นเค้าประเมินให้ 1,350,000 บาท ค่ะ อีก 50,000 บาท ให้เพิ่มเพื่อเป็นค่าเบี้ยประกัน งงค่ะ เพิ่งจะทราบก็วันนี้เองค่ะ กลายเป็นว่า เงินที่ส่งไปแล้ว 100,000 บาท เป็นค่าเบี้ยประกัน 50,000 บาท และเป็นค่าบ้าน 50,000 บาท ก็เลยกู้ได้แค่ 50,000 บาท เพราะตอนนั้นซื้อบ้านกับนายหน้า (หัวหมอ) โดยที่ไม่บอกราบละเอียดอะไรเลย ก็คิดว่า ค่าบ้าน 1,200,000 บาท ที่เหลืออีก 200,000 เป็นเงินที่เรานำมาจ่ายค่าเบี้ยประกันเอง แต่กลายเป็นแบบนี้ค่ะ
ในกรณีกู้บ้าน+ทำประกันชีวิต
ทุกธนาคารจะบวกเบี้ยประกันไปในวงเงินกู้อยู่แล้ว
ธนาคารได้ 2 ทาง ได้ยอดทำประกันชีวิต (เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงของวงเงินประกัน) + ดอกเบี้ยจากวงเงินทำประกัน
เดี๋ยวนี้ทำเรื่องกู้ยังต้องผ่านนายหน้าอีกเหรอ
ประกันชีวิตไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำเมื่อทำการกู้บ้าน แต่เจ้าหน้าที่ธนาคาร
ชอบแอบอ้างว่าต้องทำหรือแอบทำเนียนใส่เข้าไปในสัญญากู้
ลองค้นหากระทู้เก่าๆ ดู มีคนคุยกันเยอะ
Bank ไหนอ่ะค่ะ แล้วต้องทำประกันใหม่รึเปล่า ถ้าเป็นแบบนี้เรา Refinance ใหม่เลยไม่ดีกว่าเหรอค่ะ
ไม่คุ้มอย่างแรง
อย่าทำนะคะ คิดดูหนี้เพิ่ม1แสน
แต่ได้เงินมาแค่5หมื่นเอง
ยิ่งถ้ากูครั้งที่แล้ว ทำประกันไปแล้ว ครั้งนี้น่าจะไม่ต้องทำก็ได้
ลองคุยดู
รีไฟแนนท์ใหม่เถอะค่ะ
คือตอนนี้กำลังจะ Refinance บ้าน ส่งมาไม่ถึง 2 ปี ต้องโดนค่าปรับ ประมาณ 10,000 กว่าๆ แต่พอดีเข้าสวัสดิการบริษัทของแฟน บริษัทจะช่วยสมทบค่าดอกเบี้ย 1%
ตอนแรกเข้าสวัสดิการไม่ได้เพราะแฟนทำงานมาแค่ 10 เดือน
ตอนนี้ได้ดอกเบี้ย MLR-2% = 4.5%
แต่ถ้าเข้าสวัสดิการ ก็ได้ MLR-2% เหมือนเดิม -1% ที่บริษัทช่วยอีก เหลือ 3.5%
ยังคิดอยู่ว่าจะ Re ดีไหม ตอนนี้กำลังรอเอกสารรับรองสวัสดิการของแฟนอยู่ กะว่าจะลองไปคุยกับ Bank ก่อน ถ้าไม่คุ้มก็อาจจะไม่ Re
ธนาคารไม่บังคับให้ประกันชีวิตค่ะ เพียงแต่เป็นทางเลือกเพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า เรากู้ผ่านทั้ง 3 BANK ไม่ต้องทำประกันชีวิตเลย ผ่านหมดทั้ง 3 BANK ค่ะ