แอร์ไดกิ้นค่ะ มันไม่เย็นฉ่ำๆ เหมือนแรกๆ ก่อนน้ำท่วมอ่ะค่ะ
เลยให้ช่างแอร์ข้างคอนโดมาดู ใช้มาจะ1ปีแระ
ไม่เคยทำอะไรเลย
ช่างบอกต้องล้างแอร์ และเติมน้ำยา
ช่างบอกตอนนี้น้ำยาเหลือแค่40ปอนด์ จาก80 ปอนด์
น้ำยาปอนด์ละ15บาท (15×40=600บาท)
ค่าล้างแอร์ 300 บาท พอรับได้
แต่งงตรงน้ำยาแอร์ค่ะ เพราะลองหาในกูเกิ้ล
เห็นบอกว่าน้ำยาแอร์ไม่ใช่80ปอนด์
บ้างก็บอกว่า ช่างแอร์ไม่ได้เติมน้ำยาให้หรอก แค่เป่าๆ
ปกติแอร์ยังเย็นอยู่ค่ะ แต่หลังจากน้ำท่วมไป2เดือน
กลับมาก็ไม่ค่อยเย็นฉ่ำ ตอนนี้อากาศร้อนๆ
ก็เลยอยากให้เย็นๆ กว่านี้ค่ะ
ก็เลยไม่แน่ใจค่ะ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ
นัดช่างเย็นนี้แล้ว ไม่อยากโดนค่าโง่ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
By: oneple31
Since: 22 เม.ย. 55 11:38:03
ให้ล้างอย่างเดียวคับ อย่าให้ไปยุ่งกับ ระบบน้ำยา ยืนเฝ้าไว้เลย
By: XP NEVERDIE
Since: 22 เม.ย. 55 12:07:31
ก็ให้เขาวัดดูครับ แล้วก็ยืนดูเกจวัดเขาด้วย ถามเขาเลย ปกติต้องให้เข็มชี้ที่เท่าไหร่ แล้วตอนนี้มันลดลงไปเท่าไหร่ เติมเท่าไหร่
เพราะไม่แน่ครับ แผงที่คอมฯแอร์อาจจะมีการรั่วซึมจริงๆก็ได้ ไม่ใช่ว่าน้ำยาจะอยู่ได้ตลอดไป
ผมเองก็ยืนดูเขาทำประจำ แกล้งถามทุกครั้ง ถ้าไม่ใช่ช่างประจำ
By: Rendezvous
Since: 22 เม.ย. 55 12:45:26
อากาศร้อนอย่างนี้ไม่ีมีทางฉ่ำ หรอ น้ำยาไม่หมด แต่อากาศมันร้อนมากไป
น้ำยาไม่ใช่เติมมากจะดี น้ำยาเกินขนาด แอร์ก็เย็นน้อยลง
By: คนปากช่อง (super yellow bird)
Since: 22 เม.ย. 55 14:12:29
ถ้าแอร์ยังเย็นฉ่ำตามอุดมคติของคุณ บอกช่างว่าไม่ต้องไปยุ่งเรื่องน้ำยามันเลย
แต่ถ้ารู้สึกได้ชัดเจนว่าแอร์ไม่เย็น เหมือนแต่ก่อน ลองให้ช่างตรวจระดับแรงดันน้ำยาดูก่อนก็ได้ครับ
ซึ่งแอร์ทั่วไปที่ใช้น้ำยา R-22 แรงดันน้ำยาด้านท่อทางดูด ในระดับที่ปกติ แรงดันจะอยู่ที่ 68-75 PSIG
ซึ่งแรงดันที่วัดได้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้(ไม่แน่นอน) ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิแวดล้อม
และความสกปรกของแอร์ ก็มีส่วนครับ ประสิทธิภาพในการถ่ายเทความร้อนที่ทำได้ไม่ดีก็มีส่วน ในเรื่องค่าแรงดันที่วัดได้
จริงอยู่ที่ว่าระบบแอร์มันเป็นระบบปิด แต่ก็ใช่ว่าไม่มีโอกาสที่น้ำยาบางส่วนหายไปเองจากระบบ
มีหลายเคสที่เคยเจอ แอร์ไม่ได้รั่วแต่ไม่ได้เปิดใช้งานนานๆ ตอนที่ติดตั้งแรงดันน้ำยามีอยู่เต็มระบบ
แต่พอตั้งทิ้งไว้นานมากๆ ไม่ได้ใช้งาน มาเปิดอีกทีแอร์ไม่ค่อยเย็น ตรวจสอบดูก็พบว่าแรงดันน้ำยาลดลงกว่าปกติมาก
เทสดูตามจุดต่อ ก็ไม่พบรอยรั่ว
ในเคสกรณีประมาณนี้ บางครั้งมันก็ดูเหมือนน้ำยาหายไปอย่างปริศนา ไร้คำอธิบาย
ก็ได้แต่วิเคราะห์กันไปต่างๆนาๆ ว่าแอร์รุ่นปัจจุบันมีการใช้จุดต่อแบบขันแฟร์ในหลายๆจุด อาจเกิดการรั่วซึมออกไปในบางช่วง
หรือการซึมออกที่วาล์วลูกศร เหมือนรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้นานๆ ยางไม่ได้รั่ว แต่ทำไมลมยางถึงอ่อนลงกว่าเดิม
และบางกรณี เป็นแอร์รุ่นเก่าๆ จุดต่อต่างๆใช้วิธีการเชื่อมท่อทองแดง บางเครื่องใช้งานมาโดยตลอด
ผ่านมายี่สิบกว่าปี ตั้งแต่ติดตั้งใช้มาจนลูกบวช ไม่เคยเติมน้ำยาเพิ่มสักครั้งก็มีครับ
สรุป…จากประสบการณ์ที่ได้เห็นมา มีครับ…กรณีที่น้ำยาบางส่วนหายไปจากระบบ แต่ไม่ถึงขั้นหายออกไปหมด
แต่เรื่องการขูดรีดค่าน้ำยาแอร์แบบไม่เป็นธรรมจากผู้บริโภค ปัจจุบันพวกช่างแอร์ที่ไม่มีจรรยาบรรณชอบทำกัน
ดังนั้น เวลาล้างแอร์ ลองมองหาร้านใกล้บ้านหรือร้านที่รู้จัก ที่ไว้ใจได้
จำไว้ครับว่าระดับแรงดันน้ำยาที่วัดจากด้านท่อทางดูด ปกติจะอยู่ที่ 68-75 PSIG
ถ้าอยู่ในระดับเกินกว่านี้
ต้องนำค่ากระแสไฟฟ้าที่วัดได้เข้ามาดูด้วย หากแอร์ไม่กินกระแสมากกว่าที่แผ่นป้ายข้างตัวเครื่องกำหนด
แรงดันที่วัดได้ จะอยู่ที่ 80-85 PSIG ก็ช่างมันไม่ต้องให้ช่างปล่อยทิ้ง
ในระหว่างที่ช่างทำการล้างหรือตรวจซ่อมแอร์ โดยเฉพาะขั้นตอนการวัดแรงดันน้ำยา ถ้าไม่มั่นใจให้ไปยืนดูการทำงานของช่าง
แล้วสอบถามค่าแรงดันที่วัดได้(ควรให้เครื่องเดินแล้ว 3-5 นาทีเพื่อให้ค่าแรงดันน้ำยาที่อ่านได้อยู่ในระดับคงที่)
ถามค่ากระแสที่วัดได้ด้วยก็จะเป็นการดีครับ
โดยส่วนตัว ผมคิดว่าการคิดค่าเติมน้ำยา โดยการเรียกเป็นปอนด์ ซึ่งอ้างอิงตามค่าที่เกจวัดได้ ดูไม่ยุติธรรมต่อผู้บริโภค
เพราะมันเป็นค่าแรงดัน ปอนด์/ตารางนิ้ว (PSIG) เป็นค่าของแรงดัน ไม่ใช่ค่าของปริมาตร
ทางที่ดีต้องใช้วิธีการชั่งน้ำหนักสารทำความเย็นที่เติม จึงจะดูสมเหตุสมผลที่สุด
By: KanichiKoong
Since: 22 เม.ย. 55 14:16:26
Eer 3.3 ควรทิ้งไป
By: ควนโส
Since: 22 เม.ย. 55 14:47:18
น้ำยาแอร์
By: ต้นโพธิ์ต้นไทร
Since: 22 เม.ย. 55 15:11:09
ป้ายถาวรอีกเวอร์ชั่น
By: ต้นโพธิ์ต้นไทร
Since: 22 เม.ย. 55 15:11:51
ระดับแรงดันน้ำยาเกณฑ์ปกติจะอยู่ประมาณ 60 – 75 PSI หรือ ปอนด์/ตารางนิ้ว
ซึ่งแบรนด์ญี่ปุ่นบางครั้งนิยมใช้หน่วยเป็น Mpa ( กรณีที่มีระบุไว้ในคู่มือหรือฉลากที่แปะกับตัวเครื่อง ) ส่วนจะขึ้นไปถึง 80 PSI หรือไม่ ส่วนใหญ่มักเป็นการ Run เครื่องในครั้งแรกๆ หลังจากนั้นด้วยหลายๆปัจจัยมักจะไม่ขึ้นไปสูงถึงขนาดนั้น
กรณีของ จขกท.อาจเกิดจาก
1.แอร์อาจจะปกติดี เพียงแต่สภาพแวดล้อม และภูมิอากาศในช่วงก่อนหน้านี้และปัจจุบันค่อนข้างแตกต่าง
2.แอร์อาจจะสกปรก ต้องทำการล้าง พร้อมตรวจวัดระดับแรงดันน้ำยา โดยใช้วิธีเฝ้าสังเกตการทำงานของช่าง สังเกตเข็มที่เกจทางด้าน Lo หรือหัวสีน้ำเงิน โดยให้ช่างทำการตรวจวัดก่อนล้าง แล้วจดบันทึก พอล้างเสร็จ ก็ให้ตรวจวัดอีกครั้ง ถ้าการวัดทั้งสองครั้ง ไม่มีความแตกต่าง หรือใกล้เคียง ( ค่าบวก-ลบไม่เกิน 10 ) และได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน ( 60 – 75 PSI ) นั่นแสดงว่าไม่ได้เกิดรอยรั่ว แอร์ปกติดี
By: ดาราเดช
Since: 22 เม.ย. 55 17:18:55