ติดแอร์ใหม่ของไดกิ้น พึ่งเสร็จเมื่อซักครู่ทำไมยังเย็นไม่มากครับ

คือผมพึ่งติดแอร์ ยี่ห้อไดกิ้น FTE24NV2S ขนาด 22,500 BTU ติดเสร็จเมื่อซักครู่นี้เอง

แต่ทำไมเปิดตั้ง 20 องศา แล้วยังรู้สึกว่ายังเย็นไม่ถึงอุณหภูิมิซักทีครับ

ติดที่ร้านขายยา ความกว้างประมาณ สูง 3 เมตร กว้าง 3 เมตร ยาว 7 เมตร โดยประมาณ

ช่วยตอบทีครับ หรือเพราะว่าน้ำยามันยังเดินไม่เต็มที่เพราะพึ่งติดใหม่ แต่ถ้าเป็นอาการผิดปกติจะทำยังไงดีครับ

By: ซุปเปอร์เดปอร์
Since: 30 เม.ย. 55 19:33:15

22 thoughts on “ติดแอร์ใหม่ของไดกิ้น พึ่งเสร็จเมื่อซักครู่ทำไมยังเย็นไม่มากครับ

  1. admin Post author

    หากตั้ง 20 องศา รออีกนาน
    ทุกๆองศาที่ต่ำลงกว่า 25  ในขณะที่ข้างนอก ยัง37-38องศา
    คอมจะทำงานหนักมาก

    ตั้ง25 คอมตัดไหม หากตัดก็ปกติ

    ว่าแต่ เขาแว็กน้ำยาไหม ตอนติดตั้ง

    By: SuperCrazyBoy
    Since: 30 เม.ย. 55 19:52:42

  2. admin Post author

    ร้อนขนาดนี้ กว่าจะเย็นเป็นชั่วโมงแหละครับ แล้วก็ไม่มีทางทำถึง 20c

    ห้องนั่งเล่นผมกว้าง 38 ตรม. แอร์เท่าของคุณเลยเปิด 29c ถึงจะตัดครับ
    แต่ถ้าช่วงที่อากาศไม่ได้ร้อนแบบนี้เปิด 25-26c ก็ยังตัดครับ

    By: armkoichi
    Since: 30 เม.ย. 55 19:59:40

  3. admin Post author

    อากาศร้อน แอร์เลยแสดงประสิทธิภาพไม่เต็มที่
    อีกอย่างช่วงนี้ช่างแอร์งานชุกอาจเก็บงานไม่เรียบร้อย
    เจอมากับตัว

    By: ตีลังกา
    Since: 30 เม.ย. 55 20:01:13

  4. admin Post author

    จริงด้วยครับช่างงานชุก ต้องตามดูการติดตั้งทุกรายละเอียดเลย ไม่งั้นชุ่ยกว่านี้เยอะครับ

    เหมือนรีบไปติดให้คนอื่นต่อ เถ้าแก่ก็โทรตามตลอด

    ขอบคุณสำหรับคำตอบทุกท่านครับ สงสัยพรุ่งนี้ต้องลองปรับแอร์ลงมาซะแล้ว

    ***อีกนิดครับ ตอนนี้ตรงท่อคอม(อยู่ชั้น2) ลงมาที่แอร์(ในร้านค้าชั้นล่าง) ตรงข้อต่อมีน้ำหยดนิดๆ แ่ต่หยดถี่เหมือนกัน มันหมายความว่ายังไงครับเนี่ย เซ็งช่างก็คงจะตามยากอีกตามเคย

    By: ซุปเปอร์เดปอร์
    Since: 30 เม.ย. 55 20:32:51

  5. admin Post author

    ผมขอเชิญทุกท่านมาคุยเรื่องนี้กันดีไหมครับว่า ห้องพักอาศัยปรกติ เมื่อติดแอร์โดยผ่านการคำนวนแล้วควรเย็นต่ำสุดได้กี่องศาในการส่งมอบงาน … เพราะอาจเป็นข้อถกเถียงกันว่าทำไมแอร์ไม่เย็น …

    ผมเคยรับมอบงานแอร์ระบบชิลด์เลอร์ โดยผู้รับจ้างกำหนดว่าเย็นได้ถึง 22 องศา ซึ่งก็ทำได้จริง ๆ ดังนั้นแอร์แบบแยกส่วนทั่ว ๆ ไปนั้นควรเย็นได้เท่าไหร่ในการส่งมอบ … ผมเองก็ยังไม่เคยเจอโจทย์นี้เหมือนกันครับ

    By: c_keskaew@yahoo.co.th
    Since: 30 เม.ย. 55 20:49:28

  6. admin Post author

    ความเย็นก่อนส่งมอบงานต้องเอา เทอร์มิเตอร์มาวัด   อุณหภูมิลมออกต้องได้ 10 – 18 องศา ซึ่งถ้าอุณหภูมิห้อง 28 องศา ลมออกจะต้องได้ประมาณ 10 ต้น ๆ ถ้ายังสุงอยู่ต้องเช็คด้านลมเข้าว่าอุณหภมิเท่าไหร่ถ้า 30+ ก็ถือว่าปกติ

    By: ดวงอีเกิ้ง
    Since: 30 เม.ย. 55 21:22:15

  7. admin Post author

    เดือนนี้หนาวมากกว่า  เพราะค่าไฟขึ้น

    By: รถเต่า72
    Since: 30 เม.ย. 55 22:02:51

  8. admin Post author

    สวัสดีครับ ท่านดวงอีเกิ้ง คืออย่างนี้ครับ จากที่ท่านเจ้าของกระทู้ตั้งคำถามว่า ทำไมตั้งอุณหภูมิ 20 แล้วทำไมยังไม่เย็น … ก็เลยคิดว่า หลังจากติดแอร์แล้วอุณหภูมิในห้องควรเป็นเท่าไหร่

    จากที่เรารู้ ๆ กันมาคือ 1 ตันความเย็นจะเท่ากับ ปริมาณความร้อนที่สามารถทำให้น้ำแข็งหนัก 1 ตัน ละลายเป็นน้ำที่ 0 องศาหมดพอดีโดยใช้เวลา 24 ชม

    ดังนั้น ผมคิดเอาเองว่า ถ้าเราเปิดแอร์ 24 ชั่วโมงโดยเริ่มจากอุณหภูมิของห้อง แล้วไม่เพิ่มความร้อนก็น่าจะหมายความว่าห้องนั้นควรจะเย็น 0 องศาถูกไหมครับ ตรงนี้ผมคิดเอาเองนะ

    ตัวอย่างเช่นเราวางน้ำแข็ง 1 ตันไว้ในห้องหนึ่ง ต้องใช้ความร้อนมาละลายมันจนกลายเป็นน้ำหมดพอดีที่ 0 องศาภายใน 24 ชั่วโมง ต้องใช้ความร้อนเท่ากับ 288000 BTU

    ดังนั้นถ้าเรานำความร้อนออกห้องนั้นได้ชั่วโมงละ 12000 BTU และคุมความร้อนไม่ให้เพิ่ม เมื่อเราปิดแอร์นาน 24 ชั่วโมง ห้องนั้นควรเย็น 0 องศาจะถูกต้องไหมครับ เหมือนตู้เย็นประมาณนั้นครับ

    แต่ในทางปฏิบัติมันเป็นไปไม่ได้กับห้องพักอาศัยทั่ว ๆ ไป เมื่อเราควบคุมความร้อนไม่ค่อยได้ ห้องนั้นควรจะเย็นเท่าไหร่ในการส่งมอบงานครับ … เพราะถ้าเป็นผมไปติดแอร์แล้วลูกค้าบอกว่า เย็นได้ไม่ถึง 20 องศา จะทำอย่างไร .. บอกตรง ๆ ผมก็จนปัญญาครับ …. ถ้าสมุมติว่าเราพยายามปิดประตูห้องให้มิดชิดแล้วเทียบแบบ บัญญัติไตรยางค์ได้ไหมครับว่า จากสมมุติฐานข้างต้นว่า ภายใน 24 ชมเราทำได้ 0 องศา แล้วถ้าเราเปิดกี่ชั่วโมงก็ลดหลั่นกันไป แบบนี้จะถูกต้องหรือเปล่าครับ เช่นถ้าเราเทียบอุณหภูมิห้อง 30 องศา ห้องขนาด 15 ต.ร.ม มีค่าความร้อนเท่ากับ 288000 ดังนั้นเมื่อเราสามารถลดค่าความร้อนลงได้ชั่วโมงละ 12000 BTU ก็ควรเย็นเท่ากับ 12000*30/288000 ได้เท่ากับ 1.25 องศา ดังนั้น ห้องความเย็นอยู่ราว ๆ 28.75 องศาใช่ไหมครับ และควรลดลงขั่วโมงละ 1.25 องศา ไปตลอดถ้าความร้อนไม่เพิ่มขึ้น หรือเปล่าครับ … ไม่อย่างนั้นลูกค้าไม่รับงานช่างแอร์ตายเลย …. อิอิอิอิ … เป็นสมมุติฐานยะครับ … อย่าซีเรียส อยากแลกเปลี่ยนมุมมองมากกว่าครับ เพราะผมเองก็อยากรู้ว่าห้องควรจะเย็นเท่าไหร่ครับ

    By: c_keskaew@yahoo.co.th
    Since: 30 เม.ย. 55 22:10:51

  9. admin Post author

    บ้านผมติดแคเรีย X Power Invertor ม่ายเย็นเลยครับ เปิด 21 C แล้วเนี่ย ไม่ถึงปี เซ็งเหมือนกัน

    By: peach.kase
    Since: 30 เม.ย. 55 23:49:03

  10. admin Post author

    เข้ามาเก็บความรู้ค่ะ เราก็คำนวนแอร์ไม่เป็นเหมือนกัน

    By: เขียนบน iPhone (ก้านชบา)
    Since: วันแรงงาน 55 00:40:11

  11. admin Post author

    5555 เครียดเลย ผมปรับ temp แค่ 26-27 เองครับ แค่นี้ก็สบายแล้ว

    By: หมูอวบ
    Since: วันแรงงาน 55 06:45:29

  12. admin Post author

    ที่ไซต์ออฟฟิสผม ห้องขนาด 4×4 ลูกพี่ผมสั่งไป 30,000 BTU 5นาทีเย็นเจี๊ยบเลยครับ
    ที่ติดขนาดนี้เพราะว่าตัวห้องรับแสงทั้งวันครับและเป็นผนังกระจกรอบด้านเลยด้วย เลยฝากให้คิดด้วยครับถ้าเปิดกลางวันน่าจะคิดถึงความร้อนภายนอกด้วยครับ

    By: เอบ
    Since: วันแรงงาน 55 11:07:26

  13. admin Post author

    เวลาติดแอร์ ต้องคำนวณ 2 เรื่องหลักๆ

    1. ขนาดพื้นที่

    2. แหล่งทำความร้อน

    ขนาดพื้นที่เท่าไร จะได้ขนาด BTU พื้นฐานออกมา

    ส่วนแหล่งทำความร้อน ก็คือ ตัวคน ผนัง เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ

    ถ้ามีมาก ก็ต้องบวก BTU เผื่อเพิ่มเข้าไป

    เช่น ห้องรับแขก อาจต้องติด BTU สูงกว่าปกติ

    กลับเข้าเรื่อง จขกท

    ที่ไม่เย็น แนะนำให้เอา ที่วัดอุณหภูมิไปวัด ลมออก กับลมเข้า ดังที่ท่านข้างบนแนะนำ

    ถ้าลมเย็น ก็จบ แสดงว่าแอร์มันเย็น ไม่ได้เสียอะไร

    แต่ที่ห้องไม่เย็น เพราะ ปัจจัยของ 2 คือ แหล่งทำความร้อน ที่ร้านมีอะไรทำความร้อนสูงหรือเปล่า ต้องคำนวณเพิ่มเติม

    บ้านผมชั้นล่าง ผมติด 24,000 BTU ตัวเดียว

    พื้นที่ขนาด 70 ตร.ม. เพดานสูง 3 เมตร ไม่กั้นอะไรระหว่างบันไดด้วย

    ก็ยังทำให้บ้านเย็นสบาย แต่ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 29 ยังไม่เคยตัดเลย ตอนกลางวัน

    แสดงว่า ทำไม่ถึง 29 ซะที

    ปล. อย่า งง ครับ ว่าทำไมผมติด 24,000 พอดีแอร์มันเหลือที่บ้านเก่า 555 ก็ติดไปก่อน ไม่พอค่อยเพิ่ม แต่มันดันพอ แม้ว่าห้องจะใหญ่มากก็ตาม ส่วนหนึ่งเพราะปัจจัยข้อ 2 คือแหล่งความร้อน มันน้อย เลยไม่ต้องสู้ความร้อนมาก (แต่เวลาคนมาเยี่ยมบ้านเยอะๆ ก็จะรู้สึกได้ว่าต้องเปิดพัดลมเพิ่มเติม)

    By: avatayos
    Since: วันแรงงาน 55 11:58:48

  14. admin Post author

    ขอแชร์ด้วยนะครับ

    ความคิดผม ผมมองเป็น 2 อย่าง

    1.เครื่อง(แอร์)ทำงานเป็นปกติหรือไม่ เจ้าของอาจทดสอบด้วยตัวเองง่ายๆ โดยวัดอุณหภมิลมก่อนเข้าแผงคอล์ยเย็น กับอุณหภูมิลมที่ออกจากคอล์ยเย็น เปรียบเทียบกันดู ความแตกต่างควรมีซัก 12 ถึง 14 องศาซ.หรือมากกว่า รวมถึงต้องวัดแรงลมที่ออกจากคอล์ยยเ็นด้วย เพราะถ้าแผงคอล์ยเย็นสกปรกจะทำให้เครื่อง แลกเปลี่ยนความร้อนไม่ค่อยดีนั่นหมายถึง เครื่องทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ
    ถ้าเกิดปัญหาจากข้อนี้ ก็ต้องดูว่าเกิดจากเครื่องหรือการติดตั้ง

    2.องค์ประกอบอื่นๆ เช่น พื้นที่ห้อง โหลดความร้อนของห้อง ฯลฯ

    ส่วนเรื่องที่ คคห.9 บอกมานั้นก็จริงอยู่ครับ แต่เรื่องการควบคุมความร้อนของห้องเนี่ยในทางปฏิบัติมันทำได้ยากครับ เพราะมันต้องมองไปถึง วัสดุที่ทำผนังห้อง ประตู หน้าต่างด้วยครับ

    By: อดีตช่างแอร์คนนึง
    Since: วันแรงงาน 55 13:24:21

  15. admin Post author

    ผมสนใจกระทู้นี้เป็นพิเศษครับ … เป็นการตั้งคำถามที่ดีมาก ๆ ทำให้ผมไปค้นหาข้อมูลมากมาย แต่ก็ไม่ได้อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันมากนัก ส่วนใหญ่ก็มาจากหนังสือเล่มเดียวกันทั้งนั้นครับ แต่มีอยู่บทความหนึ่งครับน่าสนใจทีเดียวเขาแนะนำให้เรากำหนดค่ามาตราฐานขึ้นมาหนึ่งค่าคือ พื้นที่จะเท่าไหร่ก็ตามควรมีอุณหภูมิห้องเท่ากับ 32 องศาเป็นค่ามาตราฐาน (ผมเขียนจากการตีความด้วยความเข้าใจของผมเองครับ) เพราะบางสถานที่ ความร้อนก็ไม่เท่ากันตัวอย่างเช่นบ้านชั้นสอง กับชั้นล่างพื้นที่เท่ากันแต่มีความ ร้อน , เย็นต่างกัน … คังนั้นผมก็จับมาเทียบบัญญัติไตรยางค์อีก … อิอิอิ คือถ้าห้อง 15 ต.ร.ม ร้อน 32 องศาเท่ากับ 288000 BTU แล้วถ้าห้องเท่ากันมันร้อน 37 องศาหละ จะเท่ากับกี่ BTU .. ดังนั้นก็ได้ 37*288000/32 เราจะได้ค่าความร้อนเท่ากับ 333000 BTU เอามาหาร 24 ชั่วโมง ก็จะได้ 13875 BTU/ชั่วโมง แทนที่จะเป็น 12000 BTU/ต่อชั่วโมงอย่างที่เราเคยคำนวนกัน … จะมีใครเอาไปลองใช้ดูไหมครับ แต่ผมคิดว่าผมจะเอาไปใช้แน่น ๆ เลย ที่นี้ช่างแอร์ก็จะมาคิดกันแบบคร่าว ๆ กันไม่ได้แล้ว มีตัวคูณอะไรต้องจับมาคำนวนให้หมด หลอดไฟกี่หลอด คนกี่คน มีขวดน้ำกี่ขวด … อิอิอิ … เกิดลูกค้าไม่รับงาน … ช่างแอร์ตายแน่ … อิอิอิอิอิ … สมมุติฐานของผมจบแล้ว อยากฟังท่านอื่น ๆ บ้างครับ ..

    By: c_keskaew@yahoo.co.th
    Since: วันแรงงาน 55 16:52:50

  16. admin Post author

    โหท่าน c_keskaew@yahoo.co.th   อธิบายมาซะยาวเลย ผมเป้นแคช่างบ้าน ๆ ไม่ได้จบวิศวะทางด้าน HVAC มา  อ่าน ๆ แล้ว มันก็น่าคิดนะครับ ถ้าเจอลุกค้าเรื่องมาก แต่ผมก็เคยเจอครับบ่อยมาก ๆ ผมก็ใช้หลักการ   เอาเทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิตอล วัดอุณหภุมิภายนอก  ถายในห้อง  ลมเข้า ลมออก  แล้วสรุปผล ให้ลูกค้าฟัง  ส่วนเรื่องเย็นฉ่ำไม่มีในตำราครับไม่สามารถอธิบายได้

    By: ดวงอีเกิ้ง
    Since: วันแรงงาน 55 21:29:48

  17. admin Post author

    เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ผมได้หาข้อมูลเกี่ยวกับ super heat calculation ก็ได้พบกับบทความของต่างประเทศที่น่าสนใจ เนื้อหาเกี่ยวกับการหาจุดที่เหมาะสมในการเติมน้ำยา ไม่ให้มากไปหรือน้อยไป …. ผมยังไม่ได้แปล ดังนั้นท่านใดที่สนใจก็สามารถหาอ่านได้ในหัวข้อข้างต้น ส่วนท่านใดอยากได้ชุดเดียวกับที่ผมกำลังจะแปล ก็เมล์มาหาผมได้ครับ ผมจะส่งให้ แต่ไม่แปลให้นะครับ เพราะความรู้ของผมยังไม่อยู่ในระดับที่แปลแล้วท่านจะอ่านเข้าใจได้ง่าย ๆ ครับ

    By: c_keksaew@yahoo.co.th
    Since: 2 พ.ค. 55 01:20:38

  18. admin Post author

    คห 19  อยากรู้เรื่อง super heat อ่าน 2 กระทู้นี้แล้วทำตาม รับรองว่าแอร์จะเย็นสุดๆเต็มความสามารถของมัน

    http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2008/05/R6624027/R6624027.html

    http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2008/05/R6632766/R6632766.html

    ถ้าช่างคนไหนยอมเติมน้ำยาแบบที่ผมทำในกระทู้ทั้ง 2 นะ รับรองแอร์เย็นมากๆๆๆๆ

    By: คนปากช่อง (super yellow bird)
    Since: 2 พ.ค. 55 09:12:38

  19. admin Post author

    ขอบคุณครับท่าน คนปากช่อง (super yellow bird) … ผมจะรีบอ่านเลยครับ ขอบคุณอีกครั้งที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้กันครับ …

    By: c_keskaew@yahoo.co.th
    Since: 2 พ.ค. 55 16:30:25

  20. admin Post author

    สุดยอดมากครับท่าน คนปากช่อง (super yellow bird) และผมได้อ่านกระทู้เก่าของท่านย้อนหลังอีกด้วย … เปิดโลกให้ผมได้อีกเยอะเลย ต่อไปการตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องเครื่องปรับอากาศโดยส่วนตัวผมก็ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น เพราะสิ่งที่เราเคยคิดว่าถูกต้อง มันไม่ใช่เสียแล้วครับ เกรงว่าจะนำไปใช้กันผิด ๆ เสียเปล่า ๆ … ถ้าสามารถส่งผ่านความรู้เหล่านี้ลงไปยังผู้ประกอบการได้ผมว่า ผู้บริโภคได้ประโยชน์สูงสุดครับ ….. กระทู้นี้ดีจริง ๆ เลย ครับ เปิดประเด็นได้ดี จนทำให้ผมพยายามหาคำตอบ แล้วนำไปสู่แหล่งความรู้ใหม่อีกเยอะแยะเลยครับ … ขอบพระคุณมากครับที่แนะนำสิ่งดี ๆ ให้ได้รู้ครับ

    By: c_keskaew@yahoo.co.th
    Since: 2 พ.ค. 55 23:42:25

Leave a Reply