พอดีว่าเมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ที่แล้ว ให้ผู้รับเหมามาทำกระจกค่ะ
เริ่มแรกคุยแบบกันว่าจะทำเป็นแบบเปลือย (ทำเป็นกระจกหน้าร้านน่ะค่ะ) แล้วราคาที่ตีมา ก็แจ้งว่าต้องใช้กระจกเทมเปอร์ืและตกลงกันว่าจะใข้เวลา 1 สัปดาห์ สามารถส่งงานได้ ตีราคามา 150,000 บาท ให้จ่ายก่อน 50,000 แรก
พอวันที่ขึ้นโครงอลูมิเนียม ไม่ได้ขึ้นตามแบบที่คุยกันค่ะ คือมีโครงหนามาก ไม่เหมือนทำกระจกเปลือย
เลยได้ทำการคุยกับช่าง แล้วรื้อโครงใหม่หมด ณ วันนี้ขอเพิ่มอีก 50,000 บาท เพราะบอกว่าต้องไปรับกระจก ทางเราก็โอนให้ค่ะ
หลังจากครบหนึ่งสัปดาห์ กำหนดส่งงาน แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า โทรแจ้งแค่ว่า กระจกเทมเปอร์ต้องรออบอีก 1 สัปดาห์ และสามารถส่งงานได้เมื่อถึงวันนั้น
อีก 1 สัปดาห์ต่อมา มีกระจกอบมาส่งที่ร้านค่ะ และเริ่มทำการติดกระจก แต่! กระจกไม่ครบ เลยบอกว่าพรุ่งนี้จะมาทำต่อ
อีก 1 วันต่อมา เรารอทั้งวัน แต่ไม่มีช่างเข้ามาทำค่ะ และสังเกตุเห็นเศษกระจก ที่พื้น แล้วไปเปิดถุงขยะพบเศษกระจกแตก 2 -3 ถุงได้ เลยคิดว่าเมื่อวาน ช่างน่าจะทำกระจกแตกไปค่ะ และแล้ว ประมาณ 2-3ทุ่ม ก็มีกระจกมาส่งค่ะ
แต่ กระจกที่มาส่งไม่มีสติ๊กเกอร์ติดเหมือนชุดแรก และ มีรอยบิ่นที่กระจก ซึ่งเรากังวลว่าจะไม่ใช่กระจกเทมเปอร์น่ะค่ะ ขอบกระจกก็ไม่มีการเจียมุมเหมือนกระจกชุดแรก
ตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ ค่าเช่าร้่านก็ต้องจ่าย ร้านก็เปิดไม่ได้ รบกวนช่วยชี้แนะด้วยนะคะ
มีคำถามเพิ่มเติมค่ะ
1. แบบกระจกเปลือยถ้าไม่ใช้กระจกเทมเปอร์จะเป็นอันตรายหรือไม่
2. มีวิธีการดูกระจกอย่างไรว่าเป็นกระจกเทมเปอร์หรือกระจกธรรมดา
3. ควรจะคุยกับช่างยังไงดีคะ พอดีช่างที่คุย ไม่ได้มีหน้าร้านของตัวเองค่ะ แต่มีคนแนะนำมาอีกที
รบกวนด้วยนะคะ เพิ่งเริ่มลงทุนทำร้านครั้งแรก ต้องมาเจอแบบนี้ เริ่มท้อใจแล้วค่ะ
By: plaalq
Since: 6 พ.ค. 55 22:45:03
ตอนนี้งานเสร็จหมดหรือยัง แล้วจ่ายเงินหมดหรือยัง
ถ้าหากงานติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เงินยังเหลืออยู่ เราก็ลองดูกระจกแผ่นที่คาดว่าจะมีปัญหา ว่ามีตราประทับมั้ย มันจะอยู่ที่มุมกระจกมุมใดมุมหนึ่ง (ลองดูแผ่นอื่น ๆ ที่ไม่มีปัญหาก็ได้ ประมาณนั้นแหละ)
ถ้าหากมีตราประทับ ก็คิดว่าคงเป็นกระจกเทมเปอร์แหละครับ
แต่ถ้าไม่มี อันนี้ สันนิษฐานได้ว่า เป็นกระจกธรรมดา
ซึ่งไม่ว่าเป็นแผ่นไหนก็อันตรายทั้งนั้นแหละครับ ดังนั้น ต้องให้เปลี่ยนอย่างเดียว โดยตัวประกันเป็นเงินที่ค้างอยู่ ไม่เปลี่ยนไม่จ่าย
แต่จริง ๆ ราคาเกือบสองแสนนี่ มันต้องเป็นชุดที่ใหญ่มากเลยนะครับ ดังนั้น อย่าเกรงใจช่าง เพราะต้องมีกำไรเยอะมากอยู่แล้ว ปกติชุดกั้นตึกแถวทั่วไป ประตูบานคู่ ก็ไม่ควรเกิน ห้าหมื่นอยู่แล้ว
ถ้าหากคุยกันแล้วตกลงไม่ได้ ผมว่า จขกท.ท้าทุบแตกดู ถ้าหากไม่ใช่เทมเปอร์ก็ให้ช่างเปลี่ยนใหม่ให้ แต่ถ้าใช่เราก็จะจ่ายค่ากระจกแผ่นใหม่ให้รวมค่าติดตั้ง
แต่ผมว่า มันจนด้วยหลักฐานอยู่แล้วแหละครับ มีเศษกระจกแตกเป็นเม็ดข้าวโพด แสดงว่าเทมเปอร์แตก ดังนั้นไม่มีทางที่จะได้กระจกแผ่นใหม่ในเวลาวันเดียวอยู่แล้ว แสดงว่า คงไม่ใช่เทมเปอร์
ปล.แต่ก็ไม่แน่นะครับ เรื่องว่าเป็นไปไม่ได้ว่าจะได้กระจกแผ่นใหม่ในเวลารวดเร็ว เพราะจริง ๆ มันก็ทำแป๊บเดียวแหละครับ ตัดห้านาที เจียรสิบนาที อบอีกสักชั่วโมง แต่ที่ต้องนัดเป็นอาทิตย์ ก็เพราะว่า คิวยาว ถ้ามีพาวเวอร์แทรกคิวได้ มันก็เป็นไปได้อยู่
By: Lpg_Horse
Since: 7 พ.ค. 55 00:47:03
"ควรจะคุยกับช่างยังไงดีคะ พอดีช่างที่คุย ไม่ได้มีหน้าร้านของตัวเองค่ะ แต่มีคนแนะนำมาอีกที"
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่มีหน้าร้านหรือไม่ (วิธีการคุย ไม่แตกต่าง) เพราะแม้เค้าจะไม่มีหน้าร้าน ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมาอ้างหรือเลี่ยงความรับผิดชอบได้ กรณีทำกระจกของเราแตก แล้วจะเอากระจกธรรมดามาชดใช้คืน
มีคนแนะนำมา ยิ่งควรจะคุยง่าย ก็ด่าไอคนที่แนะนำมาน่ะแหล่ะ
By: ม่วยถ่าว
Since: 7 พ.ค. 55 06:40:43
อยู่แถวไหนครับ พอดีผมถอดออกครับ
สนใจก็หลังไมค์ติดต่อมานะครับ
By: หน้าเลี่ยม
Since: 7 พ.ค. 55 07:05:17
ผมแค่ไม่เข้า ใจ ความเห็น ที่ 3 ก็เท่านั้นล่ะครับ
คนเขากำลังเดือนร้อน พี่ จะถอดอะไรให้เขานะครับ
ถอดงาน ถอดบาน หรือ รับ ติดตั้ง
เอากันหน้าไมค์ นี่ ล่ะครับ
ผมเห็นด้วย ตาม พี่ Lpg_Horse และคุณ ม่วยถ่าว ว่าไว้นะครับ
1. แบบกระจกเปลือยถ้าไม่ใช้กระจกเทมเปอร์จะเป็นอันตรายหรือไม่
จริงๆ มัน ขึ้นอยู่กับว่า บานนี้ ทำหน้าที่ เป็นบานอะไร มากกว่า นะครับ
ถ้าเป็นบานตาย แล้ว ไม่ มีเจาะ บากกอะไร ทำหน้า ที่ บาน ตายเฉยๆ
ถ้าด่วน จริงๆ มันก็ยังจะรับได้อยู่ครับ ถ้า รีบใช้งาน ในระยะยาว ถ้า มีอุบัติเหตุ จริงๆ
มันจะร้าวนะครบ แต่ไม่ถึง ขนาด หลุดมา บาดคอ แบบที่ ใครๆ เขากลัวกันนะครับ
มันจะร้าว และ ถูกยึดอยู่ ด้วย ซิลิโคน และยางที่เรา อัดไว้
2. มีวิธีการดูกระจกอย่างไรว่าเป็นกระจกเทมเปอร์หรือกระจกธรรมดา
กระจกนิรภัยเทมเปอร์
ลักษณะผลิตภัณฑ์
กระจกนิรภัยเทมเปอร์(Tempered Glass) ผลิตจากการนำกระจกแผ่นธรรมดาเข้ากระบวนการแปรรูปให้เป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ โดยการแปรรูปเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์จะต้องเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนนำไปใช้งาน เพราะกระจกนิรภัยเทมเปอร์จะมีสภาพเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งแผ่น กล่าวคือกระจกจะมีเส้นแรงล้อมรอบกระจกทั้งแผ่น ยกเว้นบริเวณขอบกระจกที่เส้นแรงจะไปไม่ถึง และมีแรงภายในเนื้อกระจกดันออกภายนอกอย่างสมดุลกับเส้นแรงที่ล้อมรอบกระจก ทำให้กระจกทนต่อการกระทำทั้งหลายต่อกระจก ทั้งแรงกด แรงกระแทก หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงของความร้อนความเย็น กระจกจะแตกก็ต่อเมื่อเส้นแรงถูกทำลาย และเมื่อเส้นแรงถูกทำลาย แรงภายในจะทำให้กระจกแตกเป็นชิ้นเล็กๆทั้งแผ่น
กระบวนการผลิตกระจกนิรภัยเทมเปอร์ เริ่มด้วยการนำกระจกธรรมดาอบด้วยความร้อนจนมีความร้อนประมาณ 650ºC แล้วเป่าด้วยลมให้เย็นลงอย่างรวดเร็วทันที ผิวนอกของกระจกจะแข็งก่อนกระจกที่อยู่ภายใน ทำให้เกิดความแตกต่างของการเรียงตัวของโมเลกุลกระจก และเกิดความเครียดในเนื้อกระจก ผลของความเครียดนี้ทำให้เกิดเส้นแรงสองชนิด โดยชนิดแรกเป็นเส้นแรงที่ล้อมรอบกระจกทั้งแผ่น ชนิดที่สองเป็นแรงภายในเนื้อกระจกที่ดันออกภายนอก ทำให้กระจกมีคุณสมบัติพิเศษดังกล่าว
กระจกที่สามารถนำมาผลิตเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์คือกระจกแผ่นเรียบเกือบทุกชนิดไม่ว่ากระจกนั้นจะผลิตด้วยกระบวนการเพลท(Plate Process) ชีท(Sheet Process) หรือโฟลท(Float Process) แต่กระจกนั้นต้องมีส่วนประกอบของวัตถุดิบที่เหมาะสม เช่น ไม่มีส่วนประกอบของแร่เงินมากเกินไป เป็นต้น กระจกที่ผลิตจากกระบวนการดังกล่าวมีทั้ง กระจกใส(Clear Glass) กระจกใสพิเศษ(Super Clear Glass) กระจกทิ้น(Tinted Glass) เช่น กระจกสีชาอ่อน(Grey Tinted Glass) กระจกสีชาเข้ม(Dark Grey Tinted Glass) กระจกสีเขียว(Green Tinted Glass) กระจกสีบรอนซ์(Bronze Tinted Glass) กระจกสีฟ้า(Blue Tinted Glass) เป็นต้น สำหรับกระจกลวดลาย(Pattern Glass) หากมีด้านหนึ่งของกระจกเรียบพอที่จะไม่ทำอันตรายต่อลูกกลิ้งเซรามิคในเตาอบกระจกนิรภัยเทมเปอร์ ก็สามารถผลิตเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ได้เช่นกัน (เนื่องด้วยกระจกทั่วไปเกือบทั้งหมด ยกเว้นกระจกลวดลาย ผลิตด้วยกระบวนการโฟลท ดังน้นกระจกธรรมดาที่กล่าวถึงต่อไปนี้จะเป็นกระจกที่ผลิตด้วยกระบวนการโฟลทเป็นหลัก)
นอกจากนี้กระจกที่ผลิตด้วยกระบวนการดังกล่าวทุกชนิดสามารถนำมาเข้ากระบวนการต่างๆ เพื่อผลิตเป็นกระจกพิเศษอื่นๆ ซึ่งกระจกเหล่านี้มีทั้งที่สามารถนำมาผลิตเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ในภายหลังได้และไม่สามารถผลิตเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ภายหลังจากผ่านกระบวนการผลิตเป็นกระจกชนิดนั้นๆได้
กระจกที่สามารถเข้ากระบวนการผลิตเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ได้ในภายหลังได้ เช่น กระจกกัดกรด(Satin Glass) กระจกพ่นทราย(Sandblast Glass) กระจกเคลือบสีเซรามิค(Ceramic Coated Glass) เป็นต้น
สำหรับกระจกพิเศษเหล่านี้ คือ กระจกสะท้อนแสง(Reflective Glass) กระจก Low-E กระจกทำความสะอาดตัวเอง(Self Cleaning Glass) กระจกกันการเกาะของน้ำ(Hydrophobic Glass) กระจกลดการสะท้อนแสง(Aiti-Reflective Glass) มีทั้งที่สามารถเข้ากระบวนการผลิตเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ได้และไม่ได้ ให้ตรวจสอบกับผู้ผลิตก่อน
ส่วนกระจกต่อไปนี้ไม่สามารถผลิตเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ในภายหลังได้ คือ กระจกเงา(Mirror) กระจกเคลือบสีธรรมดา(Color Coated Glass) หากต้องการกระจกเหล่านี้เป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ ต้องทำให้กระจกเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ก่อนเข้ากระบวนการผลิตเป็นกระจกเงา หรือกระจกเคลือบสีธรรมดา
ลักษณะเด่น
1. มีความแข็งแรงกว่ากระจกโฟลท 4-5 เท่า ทำให้สามารถรับแรงกระแทก แรงกด แรงบีบ ได้ดี
2. ทนความร้อนได้สูงถึง 290 ºC โดยกระจกไม่แตก
3. ทนการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างฉับพลันได้ถึง 150 ºC
4. เมื่อกระจกแตก จะแตกเป็นชิ้นเล็กๆคล้ายเม็ดข้าวโพดทั่วทั้งแผ่น ไม่เป็นปากฉลามแบบเดียวกับการแตกของกระจกธรรมดา ทำให้เป็นอันตรายน้อยกว่าการแตกของกระจกธรรมดา
ลักษณะด้อย
1. กระจกนิรภัยเทมเปอร์ไม่สามารถตัด เจีย เจาะ บาก ได้
2. เนื่องด้วยกระจกนิรภัยเทมเปอร์เป็นกระจกที่ผ่านกระบวนการความร้อนสูงขนาดที่กระจกนิ่ม จึงมีความระมัดระวังการเคลื่อนที่ของกระจกในเตาอบเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามกระจกก็ยังเป็นคลื่นและมีการโก่งตัวของกระจกเล็กน้อย หากต้องการความเรียบไม่มีคลื่นเลย เช่น กระจกเครื่องถ่ายเอกสาร ต้องใช้กระจกชนิดอื่น
3. กระจกนิรภัยเทมเปอร์มีโอกาสแตกด้วยตัวเอง หากกระจกที่เป็นวัตถุดิบมีการปนเปื้อนสารประกอบนิเกิ้ลซัลไฟล์(NiS) ในกระบวนการผลิตกระจกโฟลท โดยมีอัตราการแตกด้วยตัวเองเฉลี่ย 8 แผ่นใน 1,000 แผ่น (หากที่ใดพบว่ามีการแตกด้วยตัวเอง จะมีการแตกด้วยตัวเองมากกว่า 8 แผ่นใน 1,000 แผ่น แต่ที่ใดไม่มีการแตกด้วยตัวเอง ก็จะไม่มีการแตกด้วยตัวเองเลย) สามารถสังเกตว่ากระจกแตกด้วยตัวเองหรือไม่ โดยดูที่จุดศูนย์กลางการแตกว่ามีกระจก 2 ชิ้น ติดกันที่ใหญ่กว่าชิ้นอื่นๆโดยรอบ ทำให้ดูคล้ายปีกผีเสื้อหรือไม่ หากมีลักษณะดังกล่าวแสดงว่า กระจกแตกด้วยตัวเอง
การนำไปใช้งาน
เนื่องด้วยกระจกนิรภัยเทมเปอร์มีความทนทานต่อแรงกระแทก แรงกด แรงอัด และเมื่อแตกจะมีอันตรายน้อยกว่ากระจกธรรมดา กระจกนิรภัยเทมเปอร์จึงจำเป็นสำหรับกระจกที่ต้องใช้อุปกรณ์จับยึดต่างๆ(Fitting) เช่น ชุดประตูบานเปลือย กระจกตู้อาบน้ำ(Shower Door) ราวกันตกที่ยึดด้วยฟิตติ้ง แผงกระจกที่ยึดด้วยฟิตติ้ง เป็นต้น สำหรับบริเวณที่ต้องรับแรงกระแทกสูงและ/หรือรับแรงลมสูง จำเป็นต้องใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์เช่นกัน เช่น ห้องเล่นสค็อช(Squash Room) ผนังกันระหว่างผู้ชมกับสนามแข่งกีฬาต่างๆ เช่น สนามบาสเกตบอล สนามฮ็อคกี้น้ำแข็ง ลานสเก็ตน้ำแข็ง เป็นต้น สำหรับบริเวณที่มีประชาชนเดินผ่านไปมาเยอะๆและมีโอกาสเกิดการกระแทกกระจก กฎหมายกำหนดให้ใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์ด้วย เช่น ศูนย์การค้าต่างๆ ธนาคาร โชว์รูมรถ เป็นต้น
สำหรับคุณสมบัติเรื่องการทนความร้อนถึง 290 ºC และทนการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิถึง 150 ºC จึงสามารถใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์สำหรับโคมไฟสปอร์ตไลท์ กั้นบริเวณใกล้เตาไฟ ใช้เป็นฐานของเตาแก๊ส ใช้รองหม้อร้อน แต่กระจกนิรภัยเทมเปอร์ไม่ใช่กระจกทนไฟ จึงไม่สามารถใช้เป็นช่องส่องมองในเตาที่มีความร้อนสูงกว่า 290 ºC ได้ รวมทั้งไม่สามารถใช้กันไฟในกรณีเกิดเพลิงไหม้ได้
ขนาดและความหนา
ความหนาที่สามารถผลิตได้ คือ 4, 5, 6, 8, 10, 12, 15, 19 มิลลิเมตร
ขนาดเล็กสุดที่สามารถผลิตได้ คือ 180 X 180 มิลลิเมตร
ขนาดใหญ่สุดที่สามารถผลิตได้ คือ 2,438 X 5,100 มิลลิเมตร
ข้อควรระวังในการใช้งาน
1. กระจกนิรภัยเทมเปอร์ไม่สามารถตัด เจาะ เจีย บาก ได้ หลังการผลิตเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ ดังนั้นการวัดพื้นที่ จำเป็นต้องวัดอย่างระมัดระวัง และควรใช้หน่วยมิลลิเมตรในการวัดเพื่อความแม่นยำ การเผื่อหลวมจะช่วยให้การติดตั้งง่ายขึ้น แต่ต้องไม่หลวมจนกระจกหลุดจากคิ้ว
2. ไม่ควรใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์เดี่ยวๆ เป็นหลังคา เป็นผนังภายนอกอาคารบริเวณชั้นสูงๆ เพราะหากกระจกแตก กระจกจะร่วงลงมาโดนคนที่อยู่ข้างใต้ได้
3. ไม่ควรใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์เดี่ยวๆ เป็นพื้นอาคาร เป็นพื้นสำหรับเดิน หรือเป็นขั้นบันได เพราะหากกระจกแตก ผู้เดินอยู่จะพลัดตกลงมาได้ รวมทั้งอาจเกิดอันตรายต่อผู้อยู่ด้านล่างเช่นกัน
4. ห้ามใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์ทดแทนกระจกกันไฟ เพราะกระจกนิรภัยเทมเปอร์ไม่สามารถกันไฟเพื่อความปลอดภัยต่อผู้อาศัย ตามข้อกำหนดของการกันไฟได้
การตรวจสอบว่ากระจกเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์
เนื่องด้วยกระจกนิรภัยเทมเปอร์ และกระจกธรรมดาแทบไม่มีข้อแตกต่างในการมอง การสังเกตคลื่นแยกได้ในกรณีวัตถุดิบเป็นกระจกโฟลท แต่ไม่สามารถแยกได้เมื่อวัตถุดิบเป็นกระจกเพลท และกระจกชีท จึงเป็นการยากที่ผู้ซื้อจะทราบได้ว่ากระจกที่ได้ไปเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์หรือไม่
การตรวจสอบที่แน่นอนโดยทั่วไปคือการทุบให้กระจกแตก เพื่อดูว่ากระจกแตกเป็นเม็ดเล็กหรือไม่ แต่เราจะเสียกระจกแผ่นนั้นไป หากไม่ทุบกระจกอาจใช้กล้องเลเซอร์ชนิดพิเศษส่องดูความเครียดของกระจกว่าเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์หรือไม่ แต่กล้องดังกล่าวมีราคาแพง จึงมีไว้เพื่อการตรวจสอบภายในโรงงานเท่านั้น
มีเครื่องมือธรรมดาที่สามารถหาได้ตามร้านขายเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ทั่วๆไปชนิดหนึ่ง อาจใช้ตรวจสอบว่ากระจกนั้นผ่านกระบวนการอบด้วยความร้อนหรือไม่ คือ ฟิล์มโพลาลอยด์ วิธีการตรวจสอบคือ นำฟิล์มโพลาลอยด์แผ่นหนึ่งวางที่กระจกด้านหลังบริเวณติดขอบ(อาจมีส่วนหนึ่งของฟิล์มอยู่นอกกระจก) แล้วนำฟิล์มโพลาลอยด์อีกแผ่นวางด้านหน้ากระจก เพื่อมองกระจกผ่านไปยังฟิล์มโพลาลอยด์ด้านหลัง หากหมุนฟิล์มโพลาลอยด์ด้านหน้ากระจก จะเห็นกระจกจากความสว่างน้อยไปจนถึงไม่เห็นกระจกเลย(เพราะฟิล์มโพลาลอยด์ด้านหลังตัดคลื่นแสงออกไประนาบหนึ่ง แสงที่ผ่านมาได้จะโดนฟิล์มโพลาลอยด์ด้านหน้าตัดออกไปอีก หากระนาบของแสงที่โดนตัดออกเป็นระนาบที่ตั้งฉากกัน แสงจะไม่ผ่านมาเลย) ในขณะที่หมุนฟิล์มโพลาลอยด์จะเห็นเส้นสีดำออกน้ำตาลขนานกับขอบกระจก กระจกบางจะมีเส้นขนานใกล้ขอบกระจกมากกว่ากระจกหนา สำหรับกระจกความมหนาเดียวกันหากเส้นขนานนี้ใกล้ขอบกระจกมากกว่าแสดงว่ากระจกมีความเครียดมากกว่า แต่วิธีนี้ไม่สามารถบอกได้ว่ากระจกเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์หรือกระจกฮีทสเตรงค์เท่น
เป็นข้อมูลที่ผมเคยโฟสไว้นะครับ
3. ควรจะคุยกับช่างยังไงดีคะ พอดีช่างที่คุย ไม่ได้มีหน้าร้านของตัวเองค่ะ แต่มีคนแนะนำมาอีกที
ก็คุย ตามปกติครับ แต่ ที่ยอมไม่ได้ คือ เรื่อง ลักไก่ผิดสเปคนี่ล่ะครับ
คุยเป็นเทมเปอร์ คึดราคาเป็นเทมเปอร์ ก็ต้อง ตามนั้น จะมาหากินกับความไม่รู้ ของลูกค้าไม่ได้นะครับ
ถ้า คุยไม่ได้ เดี๋ยว เป็น คนกลาง คุยให้ก็ได้ครับ
ผมว่าห้องเรานะเข็มแข็ง และมี พลังมากพอที่จะรวมกลุ่มกัน เพื่อผมประโยชน์
ของเราๆและพี่ๆเอง ในนี้ ก้มีผู้ เชียวชาญอยู่หลายท่าน ที่พร้อมจะทำจิตอาสาอยู่แล้วนะครับ ทางผมก็ยินดี หากทางพี่เดือดร้อน เราในห้องชายคายินดีช่วยกันอยู่แล้วครับ
By: systemdoor
Since: 7 พ.ค. 55 10:59:30
ขอบคุณมากนะคะ ตอนนี้เครียดมากจริงๆ เดี๋ยววันนี้จะลองคุยกับช่างดูก่อน ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงค่ะ เมื่อวานโทรไปไม่ยอมรับโทรศัพท์เลยทั้งวัน มีแต่ส่งเด็กเข้ามาติดกระจก แต่มันดึกมากค่ะ เกือบ 5 ทุ่มยังไม่ได้ติดกระจกที่มาเพิ่มเลย แต่เด็กบอกว่าต้องเสร็จภายในคืนนี้ (เมื่อคืนที่ผ่านมาน่ะค่ะ) เราเลยกลับก่อน เพิ่มเติมนะคะ คือเราไม่ได้ทำแค่กระจกอย่างเดียวค่ะ คือสั่งทำตู้กระจกสำหรับแขวนผ้าด้วย ซึ่งเค้าจะทำโครงด้านในและกระจกตู้เป็นรูปตัว u มาฉีดซิลิโคนติดกับกระจกด้านนอกอีกที แต่ตัวตู้ด้านในก็ยังไม่เสร็จดีเหมือนกัน และที่ห่วงคือ ถ้ากระจกตู้ด้านในไปฉีดซิลิโคนต่อกับกระจกหน้าร้านที่ไม่ใช่กระจกเทมเปอร์ อันนี้จะอันตรายมากขึ้นรึป่าวคะ
ยังไงเดี๋ยวจะลองพยายามติดต่อไปที่ช่างก่อนนะคะ อ่อตอนนี้เราเหลืออีก 50,000 บาทสุดท้าย ที่ต้องจ่ายหลังรับงานเสร็จน่ะค่ะ
By: plaalq
Since: 7 พ.ค. 55 11:51:29
สั่งหยุดทำแล้วเช็คดูให้ชัวร์ก่อนดีกว่า ดูผู้รับเหมาทำงานแล้วไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าไหร่
By: dlite
Since: 8 พ.ค. 55 10:58:39