มีเงินเก็บเยอะ แต่มีปัญหากับการกู้แบงค์ (กระทู้ขอระบาย)

เราเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจค่ะ อายุงานประมาณ 5 ปี แต่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำที่กรุงเทพเมื่อต้นปี เราเองไม่มีประสบการณ์ในการกู้เงินซื้อบ้านเลย

ก็ค่อย ๆ มองหาบ้านไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถูกใจบ้านในโครงการหนึ่งและตกลงที่จะซื้อแล้ว เมื่อทำเรื่องกู้ถึงรู้ว่าเงินเก็บของเรากลายเป็นตัวสร้างปัญหาทำให้แบงค์ปล่อยวงเงินน้อยลง

เพราะเป็นเงินที่เราหักเข้าบัญชีเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ของบริษัทซึ่งมันจะหักตรงจากสลิปเงินเดือนเลย โดยที่เราหักเงินฝากค่อนข้างเยอะ

ประมาณครึ่งหนึ่งของเงินเดือนเลย สาเหตุที่เลือกฝากที่สหกรณ์เพราะความสะดวกในการหักบัญชีและดอกเบี้ยที่สูงกว่าแบงค์ทั่ว ๆ ไป

แต่ปรากฏว่าแบงค์ส่วนใหญ่มองว่าเงินตรงนี้เป็นรายจ่ายและดูแค่รายรับสุทธิในสลิป กลายเป็นว่าเค้าไม่ดูเลยว่าเรามีความสามารถในการเก็บเงินได้เท่าไหร่

บางแบงค์จะให้แฟกซ์ใบลาออกจากสหกรณ์ (แบบหลอก ๆ) ไปให้เค้าดู บางแบงค์ก็บอกให้ลดเงินที่ฝากลง ซึ่งจริง ๆ เราก็คงต้องทำแบบนั้นอยู่แล้วถ้าต้องผ่อนบ้าน

แต่การลดเงินฝากมันไม่สามารถทำได้ทันที ต้องรอเดือนถัดไปซึ่งไม่ทันยื่นกู้แน่นอน ก็เลยรู้สึกแปลกใจกับแนวคิดของแบงค์

คือถ้าเค้าจะให้วงเงินน้อยเพราะนับเฉพาะเงินเดือนจริง ๆ ไม่รวมโอที แบบนี้เรายอมรับได้นะคะ แต่นี่เค้าไม่ดูเลยว่าเงินที่หักจากสลิปคือค่าอะไรบ้าง

ถ้าเราเลือกที่จะฝากเงินกับแบงค์แทนก็คงจะไม่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นใช่มั้ยคะ แต่ที่เราเลือกฝากกับสหกรณ์ก็เพราะข้อดีที่บอกไปแล้วและไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นปัญหาในทีหลัง

ก็ได้แค่บ่นเฉย ๆ ค่ะ เพราะจริง ๆ เราก็มีทางออกอยู่แล้วคือเลือกแบงค์ที่ให้วงเงินจากรายรับทั้งหมด หรือไม่ก็กู้ร่วม เพียงแต่รู้สึกข้องใจนิดหน่อยว่าแบงค์เค้าคิดกันแบบนี้จริง ๆ เหรอ

เราก็พลาดเองด้วยที่ไม่ได้ศึกษาก่อนว่าการปล่อยวงเงินกู้เค้าพิจารณาจากอะไรบ้าง ถ้าศึกษามาก่อนก็คงจะแต่งบัญชีให้สวยกว่านี้ได้

แต่อีกใจก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการแต่งบัญชีเท่าไหร่เท่าไหร่เพราะรู้สึกเหมือนกับกำลังหลอกลวงธนาคารอยู่ แต่ดูเหมือนธนาคารจะชอบแบบนี้กันมากกว่าใช่มั้ยคะ

By: Noknoi
Since: 25 พ.ค. 55 17:32:55

23 thoughts on “มีเงินเก็บเยอะ แต่มีปัญหากับการกู้แบงค์ (กระทู้ขอระบาย)

  1. admin Post author

    ก็กู้สหกรณ์ซิครับ  บางแห่งดบ.ต่ำกว่าแบ็งก์อีก

    By: SuperCrazyBoy
    Since: 25 พ.ค. 55 17:56:03

  2. admin Post author

    เขาไม่สนว่าคุณมีเก็บเท่าไหร่หรอกครับ…

    เขาดูว่าแต่ละเดือนคุณมีเหลือ จ่ายให้เขาเท่าไหร่….

    ปกติของแบงค์ครับ…

    By: 555
    Since: 25 พ.ค. 55 18:05:13

  3. admin Post author

    ประเด็นที่เราบ่นคือ เค้าน่าจะดูหน่อยว่าเงินที่หักไปจากสลิปเงินเดือนมันเป็นค่าอะไรบ้าง ส่วนที่หักไปเข้าบัญชีเงินฝากสหกรณ์เราสามารถยกเลิกและเอามาจ่ายแบงค์ได้ไม่ใช่เหรอคะ ไม่ได้เป็นรายจ่ายทีี่ตายตัวซะหน่อย

    ก็ได้แต่บ่นล่ะค่ะ เพราะยังไงก็ต้องยอมรับในกติกาของเค้าซึ่งแต่ละแบงค์ก็ตั้งไว้แตกต่างกันไป แบงค์ที่ปล่อยวงเงินให้เราแบบเต็ม ๆ ก็ยังมีซึ่งเราก็มีสิทธิ์เลือก แต่คงต้องมาพิจารณาเรื่องดอกเบี้ยกันอีกที

    By: Noknoi
    Since: 25 พ.ค. 55 18:19:48

  4. admin Post author

    ใจเย็นๆๆคะ สรุปว่า "ต้องรอเดือนถัดไปซึ่งไม่ทันยื่นกู้แน่นอน" แล้วทำไมรอเดือนถัดไปไม่ได้ละคะ รับส่งมอบบ้านไปแล้วหรอคะ….

    By: Lugchit (Lugchit2524)
    Since: 25 พ.ค. 55 18:35:38

  5. admin Post author

    นั่นซิครับ ทำไมไม่กู้สหกรณ์เอาล่ะครับ ผมว่า น่าจะมีเงื่อนไขที่ดีกว่าบางธนาคารด้วยซ้ำ

    อย่างพวกสหกรณ์ออมทรัพย์ครู เห็นข่าวเมื่อหลายเดือนก่อน โดนโกงแชร์ล็อตเตอรี่กัน สหกรณ์นึงหลายสิบล้าน หรือเป็นร้อยล้านเลยมั้ง

    ยังไงสหกรณ์รับฝากเงิน ก็ต้องหาทางหารายได้มาเป็นดอกเบี้ยเงินฝากอยู่แล้ว น่าจะลองคุยดูนะครับ

    By: Lpg_Horse
    Since: 25 พ.ค. 55 18:38:03

  6. admin Post author

    ที่บอกว่ารอเดือนถัดไปหมายถึงว่าต้องรอสลิปเงินเดือนเดือนหน้าซึ่งก็คือปลายเดือนหน้านู่นเลยค่ะ คาดว่าโครงการคงไม่รอเรานานขนาดนั้นแน่

    ส่วนที่ว่าทำไมไม่กู้สหกรณ์ไปเลยก็เพราะต้องการเปรียบเทียบหลาย ๆ ที่และเลือกที่ที่ดีที่สุดให้ตัวเองค่ะ ถึงได้ลองยื่นกับแบงค์ต่าง ๆ ดูด้วย แต่สุดท้ายแล้วจะเลือกที่ไหนก็ต้องดูข้อเสนอขอแต่ละที่เปรียบเทียบกันอีกทีค่ะ

    By: Noknoi
    Since: 25 พ.ค. 55 18:54:58

  7. admin Post author

    ไปธนาคารอิสลามดูครับ

    หรือไม่ก็ธนาคารไทยเครดิตครับ แต่ดอกเบี้ยโหดหน่อยนะ

    ธนาคารส่วนใหญ่มองที่รายได้ ณ ปัจจุบันเท่านั้นครับ

    By: คุณวองก้า
    Since: 25 พ.ค. 55 19:25:21

  8. admin Post author

    สรุปว่าคุณจขกท.เสียเซลฟ์ เพราะตัวเองโปรไฟล์ดี เงินเก็บเยอะ ยังถูกธนาคารบางแห่งปฏิเสธ
    จะบอกว่าเรื่องปกติค่ะ ตอนที่บ้านกู้ บางธนาคารแค่คุยจนท.สินเชื่อยังไม่อยากชายตาแล หาว่าเงินเดือนน้อย แม้จะกู้ร่วม
    แต่รู้มั้ยบางธนาคาร ผจก.สินเชื่อมาบริการเอง คุยดี้ดี บริการทุกอย่าง ไม่ว่างไปธนาคาร ก็มาคุยรายละเอียดถึงที่ทำงาน
    ทั้งที่กู้ไม่เยอะมาก เงินงวดเข้าธนาคาร(กู้สร้างบ้าน) ก็โทรศัพท์บอกทุกครั้ง

    เราแล้วแต่ดวงจะไปเจอจนท.สินเชื่อ มีจิตใจพร้อมบริการลูกค้ามั้ย

    By: simiach
    Since: 25 พ.ค. 55 19:44:58

  9. admin Post author

    ประมาณนั้นแหละค่ะคุณ simiach จริง ๆ ก็เป็นเพราะเราเตรียมตัวได้ไม่ดีพอด้วย น่าจะศึกษาให้มากกว่านี้ว่าถ้าจะกู้เงินซื้อบ้านต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง เพราะบางทีคนที่ให้สินเชื่อเค้าก็คิดไม่เหมือนเรา บางอย่างทีืเราว่าดีแล้วเค้าอาจจะมองคนละมุมก็ได้

    By: Noknoi
    Since: 25 พ.ค. 55 19:53:31

  10. admin Post author

    เป็นมุมมองที่แปลกดี รึอาจไม่อยากได้ลูกค้า

    By: เขียนบน iPhone (not defendant)
    Since: 25 พ.ค. 55 20:40:14

  11. admin Post author

    ผมกำลัง สงสัยว่า เงินเก็บเยอะที่ว่านี่ประมาณเท่าไรครับ และขอซื้อบ้านวงเงินเท่าไรครับ

    ถ้าเงินเ้ก็บเยอะมากๆ เรื่องกูซื้อบ้านไม่น่ามีปัญหานะครับ เงินเก็บเยอะก็กู้น้อยๆ

    ทางออกตอนนี้ก็คือต้องคุยหลายๆ แบ็งค์ครับ อย่างผมทำงานอิสระ สลิปเงินเดือนไม่มี แต่มีเงินเข้าเงินออกบัญชีตลอด บางแบ็งค์บอกทางเราไม่รับพิจารณาค่ะ แต่บางแบ็งค์ก็ทำเรื่องจนผมกู้ซื้อบ้านได้ครับ

    By: แสดงว่าโลกยังไม่แตก
    Since: 25 พ.ค. 55 20:53:32

  12. admin Post author

    เงินเก็บ (ของตัวเอง) จริง ๆ ยังไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ เพราะเริ่มเก็บได้ไม่กี่ปี หลักแสน เพียงแต่มันหักจากเงินเดือนในอัตราที่เยอะ (เดือนละ 20000) ทำให้เงินเหลือในสลิปเงินเดือนน้อย (ตอนแรก ๆ ก็หักแค่เดือนละไม่กี่พัน แต่พอรายได้เพิ่มเราก็เลยให้หักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ) และยอดที่หักไปส่วนหนึ่งเป็นค่าหุ้นสหกรณ์ด้วยค่ะ ซึ่งส่วนนี้ก็สามารถปรับลดได้เหมือนกัน

    เพื่อนที่ทำงานอาชีพเดียวกัน เงินเดือนเท่า ๆ กัน เค้ากู้ได้ตั้งแต่ 3.5-4 ล้านเลยขึ้นอยู่กับราคาบ้าน ส่วนของเราถ้าคิดจากยอดที่เหลือในสลิปจริง ๆ คงได้แค่ล้านกว่า ๆ เองมั้งคะ

    ก็คงต้่องรอดูแต่ละแบงค์ติดต่อมาล่ะค่ะว่าจะปล่อยให้เท่าไหร่บ้าง (ตอนนี้มีอยู่แบงค์นึงให้วงเงินมา 4.2 ล้าน ส่วนแบงค์อื่น ๆ ที่คิดจะยื่นพอเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ทำเรื่องลาออกจากสหกรณ์บ้าง ลดหุ้นบ้าง เราเห็นว่ายุ่งยากไปก็เลยคิดว่าคงไม่ยื่นแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นแบงค์ที่ดอกเบี้ยดีจริง ๆ ก็จะพิจารณากู้ร่วม

    By: Noknoi
    Since: 25 พ.ค. 55 21:08:51

  13. admin Post author

    เรื่องกู้เงินซื้อบ้าน ผมก็ไม่แน่ใจว่า หลักการประเมินของธนาคารจริง ๆ คิดแบบไหน

    เพราะเคยมีคนที่จะช่วยพนักงานแบงก์ ขอให้ช่วยกู้หน่อย ก็เลยว่าจะกู้ซื้อบ้าน โดยอาศัยเงินฝากประจำค้ำประกันเงินกู้ สมมติกู้สามล้าน ก็มีเงินฝากประจำ สามล้านเป็นหลักทรัพย์

    ขั้นตอนยังยุ่งยากอย่างไม่อยากให้กู้อยู่ดี ทั้ง ๆ ที่กรณีนี้ เงินก็ฝากอยู่ตรงนั้น ถึงแม้อยากโกงก็คงถอนไม่ได้ ยังไงก็ได้ดอกเบี้ยส่วนต่างอยู่แล้ว

    สุดท้ายเลยจากอยากช่วย ก็ไม่ต้องช่วย เอาเงินสดที่ฝากนั่นแหละ ไปซื้อเลย

    ธนาคารเลยเสียทั้งยอดเงินกู้ แล้วก็ยอดเงินฝากด้วยเหลย

    By: Lpg_Horse
    Since: 25 พ.ค. 55 21:14:49

  14. admin Post author

    ก่อนซื้อบ้าน เราเอายอดสหกรณ์ออกจากสลิปเงินเดือน แล้วส่งเงินสดเองทุกเดือน ไม่ได้ลาออก

    ทำไปสักสามเดือน แล้วค่อยยื่นกู้

    By: Zunma (Zunma)
    Since: 25 พ.ค. 55 21:46:10

  15. admin Post author

    เวลาขอกู้ เราว่าธนาคารเค้าดูความสามารถใน "การผ่อนชำระคืน" ไม่ได้ดูความสามารถใน "การออม" นะคะ …

    และการหักเงินเดือนเพื่อสหกรณ์มีหลายวัตถุประสงค์ ตั้งแต่ หักค่าหุ้น หักเพื่อเป็นเงินฝาก หักเพื่อใช้หนี้…

    เราว่าธนาคารก็ต้องดูรายได้สุทธิจริงๆ บรรดทัดสุดท้ายที่หักอะไรสารพัดที่เป็นภาระไปหมดแล้วน่ะค่ะ….
    ซึ่งถ้าที่ผ่านมาเก็บเงินเก่ง ไว้อีกที่นึง เราก็ขอกู้เค้าน้อยอยู่ดี ก็จะไปกันได้กับเงินสุทธิที่เหลือ(น้อย)

    ปล. จขกท หักเยอะสะใจจริงๆ เมื่อไหร่เราจะมีปัญญาเก็บเงินได้เดือนละเป็นหมื่นๆ บ้างน้า อิจฉาๆ

    By: ซอด้วง
    Since: 25 พ.ค. 55 22:21:50

  16. admin Post author

    เป็นผมเงิน เยอะ ผมถอนจะสหกรณ์ ออกมาซื้อบ้านเลย

    ยังไงๆ เงินสหกรณ์ ดอกเบี้ย ก็ไม่น่าจะสูงกว่าดอกเบี้ยบ้าน

    By: อิทธิพงษ์
    Since: 25 พ.ค. 55 23:49:22

  17. admin Post author

    เพิ่มเติมอีกเสียงไม่รู้ว่าสหกรณ์แต่ละที่เหมือนกันไม่อยากให้ตัดทางเลือกสหกรณ์ไป  ลองไปคุยดูค่ะ ว่ารายละเอียดยังไง ของเราเลือกกู้สหกรณ์ เพราะสิ้นปีมีปันผลดอกเบี้ยเงินกู้ แล้วดอกเบี้ยถูกกว่าธนาคารนิดหน่อย แต่ในปริมาณต้นที่เยอะดอกหายไป1%ก็เยอะนะ  กู้ข้างในไม่ต้องเสียสิทธิ์จากสหกรณ์ด้วยนะคะ  มีหุ้นเยอะก็ลดบ้าง  เงินเก็บก็ลดได้  ความเห็นเราตามนี้ค่ะ

    By: namisari
    Since: 26 พ.ค. 55 07:32:00

  18. admin Post author

    เงินเก็บมันยังไม่เยอะขนาดที่จะซื้อบ้านได้น่ะค่ะ เพราะเราเพิ่งจะเริ่มต้นเก็บตอนที่ทำงานแล้ว ประเด็นไม่ได้อยูที่เงินเก็บเราเยอะหรือไม่ แต่อยู่ที่ทำไมเราถึงกู้เงินได้น้อยกว่าคนอื่นเพียงเพราะเราหักเงินเดือนเข้าบัญชีเงินฝากสหกรณ์เยอะ คือที่ตั้งใจเก็บเงินนี่ก็เพื่อเตรียมจะซื้อบ้านนี่แหละค่ะ พอมาเจอแบบนี้ก็เลยรู้สึกเซ็ง

    ส่วนเรื่องสหกรณ์ที่เห็นแนะนำกันหลายคน เราไม่ได้บอกว่าจะไม่กู้สหกรณ์นะคะ สหกรณ์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่เราก็ไม่ควรปิดโอกาสตัวเองไว้กับสหกรณ์ที่เดียวใช่มั้ยล่ะคะ เราถึงได้ลองยื่นกับแบงค์อื่นด้วยเผื่อว่าจะมีที่อื่นให้ดอกเบี้ยถูกกว่า และเมื่อยื่นกับแบงค์แล้วก็ได้คำตอบตามนี้ จึงเป็นที่มาของการตั้งกระทู้บ่นนี้ค่ะ

    By: Noknoi
    Since: 26 พ.ค. 55 09:07:19

  19. admin Post author

    คุณก็เอาเงินที่เก็บได้ไปดาวน์สิครับ
    ผมว่ายอดสุดท้ายมันก็ควรจะเท่ากันหรือใกล้เคียงกันครับ

    คุณเงินเก็บเยอะ = กู้ได้น้อย
    เพื่อนคุณเงินเก็บน้อย = กู้ได้เยอะ

    หมายถึงเงินเก็บในสหกรณ์ของคุณนะครับ
    คุณเองก็บอกว่าเก็บเงินกับสหกรณ์เพื่อซื้อบ้าน ก็เอาเงินส่วนที่เก็บไปดาวน์ก็หมดเรื่องครับ

    ปล. ดบ.กู้แบงค์มากกว่าดบ.เงินฝาก 2 เท่าขึ้นไปนะครับ

    By: khanchang
    Since: 26 พ.ค. 55 09:49:16

  20. admin Post author

    ไม่ได้บอกว่าจะเก็บเงินฝากไว้เฉย ๆ โดยไม่เอาไปดาวน์นะคะ ยังไงเงินก้อนนี้ต้องเอาออกมาใช้อยู่แล้ว ทราบค่ะว่าดอกเบี้ยเงินกู้มากกว่าเงินฝาก เพียงแต่เงินก้อนนี้มันไม่ได้มากพอที่จะเอามาดาวน์ในส่วนที่เหลือทั้งหมด ก็เลยต้องอาศัยเงินกู้ด้วย ซึ่งพอพบว่าเราอาจกู้ได้แค่ล้านกว่า ในขณะที่ถ้าไม่หักสหกรณ์เยอะขนาดนี้สามารถกู้ได้ถึง 3-4 ล้านเลย ก็เลยเซ็งเป็นธรรมดา

    ที่ตั้งกระทู้นี้แค่เพื่อต้องการบ่นกับหลักเกณฑ์ของธนาคารเท่านั้นแหละค่ะ ส่วนที่ว่าจะทำยังไงต่อไปนั้นเราก็มีทางออกอยู่แล้ว แบงค์ที่ปล่อยให้เต็มก็ยังมี แบงค์มีสิทธิ์เลือกลูกค้า และเราก็มีสิทธิ์เลือกแบงค์ด้วยเช่นกัน

    สงสัยเราจะตั้งหัวข้อกระทู้ผิดไปหน่อย น่าจะบอกว่าหักเงินเก็บเยอะ คนจะได้เข้าใจว่าเงินเก็บเราไม่ได้เยอะมาก ถ้าเงินเก็บเยอะจริง ๆ คงไม่มีกระทู้นี้หรอกค่ะ เราก็เอาเงินไปดาวน์เยอะ ๆ ตามคำแนะนำของทุกคนอยู่แล้ว เพราะใคร ๆ ก็อยากกู้ให้น้อยที่สุดทั้งนั้นจะได้ไม่ต้องเสียดอกเยอะ

    By: Noknoi
    Since: 26 พ.ค. 55 10:07:48

  21. admin Post author

    ธนาคารเขาไม่มาสนใจเงินเก็บ ที่มาหักจากบัญชี หรือพวกประกัน เพราะพวกนี้ถือเป็นรายจ่ายต่อเดือน   แล้วเงินฝากอยู่กับสหกรณ์ ตามข่าวก็เคยเจอ หนี ล้ม ซึ่งพวกนี้มาความเสี่ยงมากกว่าเงินที่ฝากอยู่กับธนาคาร

    เราต้องการเงินเขา ตรรกะอาจไม่ตรงใจเรา แต่เราก็ต้องเคารพกติกาที่เขากำหนด คิดว่าถ้าต้องการกู้ให้ได้เยอะก็ไปปรับลดตรงที่ต้องส่งสหกรณ์น่าจะดีกว่าจ๊ะ

    แนะนำเพิ่มเติมหากมีรายชื่ออยู่ในเขตภัยภิบัติ ช่วงนี้หลายธนาคารจะมีโปร 3 ล้านดอกเบี้ยคงที่ 3 % จำนวน 5 ปี ออกมา ลองหากระทู้อ่านดูในเว็บนี้แหละจ้า น่าจะเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าโปรปกติทุกธนาคาร

    เอาใจช่วยให้่ได้บ้านจ๊ะ

    By: kotkotkot
    Since: 26 พ.ค. 55 12:26:15

  22. admin Post author

    จริงๆน่าจะคล้ายกันทุกแบงค์นะ ส่วนใหญ่เค้าดูยอดสุทธิ
    อีกอย่างธนาคารเค้าคงไม่ทราบว่ายอดเข้าสหกรณ์มันปรับขึ้นลงได้
    พูดง่ายๆเค้าคิดว่าเงินเดือน40000บาท หักสหกรณ์20000 บาท หักค่าผ่อนบ้าน20000สรุปไม่เหลือเงินกินข้าวนะเค้าก็คงต้องลดเงินกู้ลงนะถูกแล้วนะ

    By: เขียนบน iPhone (LittleNemoInBigWorld)
    Since: 26 พ.ค. 55 12:47:31

  23. admin Post author

    ถ้าเป็นคนทำงานมีเงินเดือน เค้าดูจากสลิปเงินเดือนและหนี้ที่มีในระบบครับ

    ที่พนักงานบอก คือเค้าจะพยายามช่วยนะครับ ถ้าทำตามอาจจะกู้ผ่านก็ได้ ดีกว่าเค้าไม่ช่วยเลยนะ

    ถึงจะดูผิดศีลธรรมไปบ้าง แต่ถ้ากู้ผ่าน คุณไม่มีปัญหาในการผ่อน

    อย่าไปคิดมากเลย

    By: SkyTrekker
    Since: 26 พ.ค. 55 23:55:18

Leave a Reply