นานๆจะแวะเวียนเข้ามาสักครั้ง วันนี้เราขอมาแชร์ประสบการณ์นะคะ
ก่อนที่เราจะซื้อบ้าน เราก็แวะเวียนเข้ามาหาความรู้ในห้องนี้นี่แหละค่ะ
จากที่ศึกษาดูแต่ละกระทู้ของคนที่มาปรึกษาเรื่องกู้ซื้อบ้าน เราเองคุณสมบัติไม่ผ่านยิ่งกว่าคนที่มาตั้งกระทู้ถามแล้วสมาชิกส่วนใหญ่บอกว่าไม่น่าจะผ่านเสียอีกค่ะ
แต่พอดีทางบ้านเราเขาอยากให้ซื้อบ้านได้แล้ว เพราะเช่าเขาอยู่มาหลายปีเงินก็จ่ายไปแต่เราไม่ได้สมบัติอะไรกลับมาเลย พอดีเรากับแฟนเพิ่งออกจากงากันทั้งคู่ กำลังจะนับ 1 กันใหม่ เลยคิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยเรื่องซื้อบ้านเนี่ย….แต่เพื่อไม่ให้ทางบ้านคิดว่าเราไม่ใส่ใจ เราเลยตระเวณดูบ้านและเลือกที่จะยื่นกู้ค่ะ ตอนนั้นในใจคิดแค่ว่า เอาเถอะ ผลออกมาที่บ้านรู้แล้วว่าไม่ผ่านเขาจะได้เลิกรบเร้า จะได้รู้ว่าเราไม่พร้อมทางด้านคุณสมบัติจริงๆไม่ใช่แค่อ้าง (ตอนนั้นที่บ้านคิดว่าเราไม่อยากซื้อบ้านค่ะ)
เราตั้งใจจะไปยื่นกับโครงการหนึ่งแถวรามอินทราค่ะ แต่ก่อนไปยื่นเรื่องเราอยู่บ้านญาติพอดีเลยแวะดูโครงการละแวกนั้นที่มักจะมีโบรชัวร์บ้านส่งมาให้ดูบ่อยๆ
ปรากฎว่าทุกคนในครอบครัวชอบ จากที่ตั้งใจยื่นกู้แถวรามอินทรา เราเปลี่ยนเป็นยื่นกู้ที่นี่ วางเงินจอง 5000 ก็เดินเรื่องเลยค่ะ
เราบอกเซลล์ตรงๆว่า ไม่คิดว่าจะผ่านเลยค่ะ จากคุณสมบัติที่มีตอนนี้ริบหรี่เหลือเกิน แต่เห็นว่าถ้ากู้ไม่ผ่านได้เงินจองคืน เลยลองยื่นดูเป็นประสบการณ์เพื่อเตรียมตัวในภายภาคหน้า
เซลล์แนะนำมาว่า "บอกคุณ…ที่ดูแลเรื่องนี้นะคะ บอกว่าเราอยากได้บ้านจริงๆเขาจะแนะนำเราเองค่ะ หากคุณ…แนะนำแล้วลูกค้าให้ความร่วมมือ ผ่านหมดค่ะ"
จากที่เราดูตารางการผ่อนจ่ายที่โครงการไกด์ไลน์คร่าวๆมา เรามั่นใจว่าเรทผ่อนบ้านเรทนี้เราไหวค่ะ ถ้าบ้านผ่านเราเต็มที่แน่นอน เพียงแต่คุณสมบัติที่ต้องใช้ยื่นกู้สิคะ เรามีปัญหาแน่ๆเพราะเพิ่งออกจากงานประจำ
เมื่อเซลล์ส่งเรื่องให้พนักงานที่ดูแลสินเชื่อ เราก็แจ้งไปตามที่เซลล์แนะนำทุกอย่างค่ะ เราอยากได้บ้านจริงๆนะ เราผ่อนไหว ทำยังไงก็ได้ให้บ้านผ่าน
ปรากฎว่าพนักงานก็ให้คำแนะนำดีมากค่ะ บอกเราตรงๆเลยว่าถ้ากู้ด้วยชื่อเรากับแฟนเรื่องผ่านยาก ถึงเงินรวมต่อเดือนจะพอ แต่ที่มาที่ไปของเงินมันช่างไม่มั่นคงเอาซะเลย ธุรกิจเล็กๆที่เพิ่งเริ่มก็เพิ่งเริ่มจริงๆยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง หากครอบครัวเรามั่นคงและเหนี่ยวแน่นกันพอ(อันนี้เค้าพูดเผื่อไว้ประมาณว่า ชื่อเจ้าของกับคนผ่อนคนละคนกัน สุดท้ายบ้านจะตกเป็นของชื่อคนกู้ไม่ใช่คนที่ผ่อน) ให้เอาชื่อพ่อกับน้องเรากู้ค่ะ เงินเดือนของพ่อกับน้องรวมกันน้อยกว่าเราและแฟน แต่ทั้งสองคนทำงานมั่นคง แถมตอนนั้นพ่อมีหนี้อยู่กับแบงค์หนึ่งในแบงค์ที่ยื่นเรื่อง ปรากฎว่าเรื่องผ่านค่ะ….ผ่านจริงๆนะ ผ่านแบงค์ที่พ่อเป็นหนี้อยู่นั่นแหละค่ะ
ผ่านจนต้องย้อนกลับไปนึกถึงคำพูดของพนักงานดูแลสินเชื่อเลยค่ะว่า "บ้านถ้าจะเป็นของเราก็ต้องเป็นของเราค่ะ เราเลือกบ้าน บ้านก็เลือกเจ้าของเช่นกัน"
จากวันยื่นเอกสาร เราใช้เวลา 10 วันในการโอน วันที่โอนเราจ่ายเงินแค่ไม่กี่พันบาทในส่วนของประกันอัคคีภัยของแบงค์ที่เรากู้ค่ะ เพราะตอนนั้นเราได้โปรโมชั่น ฟรีโอน ฟรีจดจำนอง และถ้าไม่ได้โปรอยู่ฟรี 1 ปี โครงการลดเงินให้ 30000
ตอนนั้นเราได้ส่วนลดนี้มาเพราะแบงค์ที่เรายื่นกู้ไม่เข้าร่วมโปรโมชั่นอยู่ฟรี 1 ปีน่ะค่ะ
เราอยู่ไปสักระยะนึง เพื่อนเราก็มองหาบ้านอยู่พอดี และเกิดชอบใจบ้านในหมู่บ้านเดียวกับเรา ปัญหาเกิดค่ะ เพื่อนเราอยู่ระหว่างรอยต่อเปลี่ยนงานใหม่พอดี งานใหม่เงินเดือนดีมาก สวัสดิการดีมาก แต่ปัญหาคือยังไม่ได้เริ่มงาน ส่วนที่เก่าก็ลาออกมาแล้ว เส้นทางริบหรี่เหมือนเราตอนแรกๆเลยค่ะ แต่เพราะเรามีประสบการณ์มาก่อน เราเลยพาเพื่อนเข้าหาเซลล์คนเดิม รีเควสคนเดินเรื่องสินเชื่อคนเดิม สุดท้าย เพื่อนเราก็ผ่านไปอีกคนค่ะ (เราได้เว๊าช์เชอร์ค่าแนะนำเพื่อนมาซื้อด้วยนะ..แบบว่าลาภลอยเลยค่ะ)
ที่เอามาบอกเล่าในครั้งนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เชียร์ หรืออวยหมู่บ้านตัวเอง แบรนด์ คนเดินเรื่องสินเชื่อ หรือเซลล์แต่อย่างใดนะคะ ณ วันนี้จะครบปีที่เราซื้อบ้านแล้ว หมู่บ้านเราก็ขายหมดแล้ว(มั้งนะ) (สองร้อยกว่ายูนิตเองค่ะ) แต่อยากมาให้กำลังใจคนที่มองหาบ้านเป็นของตัวเองอยู่ค่ะ การที่เราได้อยู่บ้านที่เรียกได้ว่า "บ้านเรา" มันมีความสุข มีกำลังใจถึงแม้จะเป็นหนี้จริงๆนะคะ
เราค่อนข้างมั่นใจว่า
"บ้านถ้าจะเป็นของเราก็ต้องเป็นของเราค่ะ เราเลือกบ้าน บ้านก็เลือกเจ้าของเช่นกัน"
ขอให้ทุกคนโชคดี นะคะ
เส้นทางในการฝ่าฟันอาจแตกต่างกัน แต่บทสรุปจะจบลงที่ "สุข" เหมือนๆกันค่ะ
By: T_Romance
Since: 26 พ.ค. 55 00:49:58
ยาวเกิน สรุปให้ฟ้งหน่อย
By: ถั่วต้มแล้วฮา
Since: 26 พ.ค. 55 02:50:56
เราก็เชื่อเรื่อง บ้านเลือกเรา เราเลือกบ้านค่ะ … เราว่าใช้ได้กับทั้งคอนโดและที่ดินเลยแหละ
By: ซอด้วง
Since: 26 พ.ค. 55 07:16:17
พนักงานยื่นเรื่องก็มีส่วนจริงครับ
กรณีนี้ผมเดาว่าธนาคารดูแล้วรายได้น่าจะถึงเกณท์ครับ
แต่คุณสมบัติน่าจะหมิ่นเหม่
By: BEETONG
Since: 26 พ.ค. 55 09:41:00
ในฐานะเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่อยุ่อาศัย จาก จนกท เล่ามานั้นยังมีข้อปลีกย่อยที่ต้องเข้าเกณฑ์แบงค์มิเช่นนั้นก็ไม่ผ่านครับ ไม่อยากให้ท่านอื่นที่คิดว่าตัวเองหมิ่นเหม่ แล้วจะกู้ได้เหมือนกัน
By: หม่ำ บ่อนไก่ (suanplu)
Since: 27 พ.ค. 55 12:39:43