บ้านอยู่ใกล้เสาส่งสัญญาณไฟฟ้าแรงสูง

บ้านอยู่ใกล้สายส่งสัญญาณไฟฟ้าแรงสูงครับน่าจะประมาณ 230 Kv ถามการไฟฟ้าแล้วระยะบ้านห่างเกินค่ามาตรฐานแบบเผื่อ ๆ เลย ซ้ายขวาวัดจากกึ่งกลางเสาไฟข้างละ 35 เมตรถือว่าปลอดภัย  แต่นั่นคือระยะปลอดภัยที่คุณจะไม่โดนปัญหาเรื่องไฟดูดไฟช็อต  
       แต่คำถามคือเจ้าพวกคลื่นแม่เหล็กที่มันไหลไปตามสายไฟน่ะสิ วงรัศมีของคลื่นไปไกลแค่ไหนก็ตอบไม่ได้ เคยอ่านเจอตำราต่างประเทศเขาว่าการเดินทางของคลื่นไกลถึงขนาด 500-600 เมตรเลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยที่เป็นทางการว่าหากเราได้รับคลื่นทุกวันจะมีผลกับสุขภาพหรือไม่อย่างไร  
      ถ้าย้อนไปสมัยก่อน ก่อนที่มนุษย์จะพบว่าบุหรี่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอด มนุษย์ก็ต้องสังเวยชีวิตให้กับบุหรี่คนแล้วคนเล่า ถ้าคลื่นแม่เหล็กไม่ีมีปัญหาจริงทำไมนักวิทยาศาสตร์ยังคงวิจัยและมีผลรายงานถึงแนวโน้มว่าอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างต่อเนื่อง
        หลาย ๆ ประเทศที่พัฒนาแล้วมีกฏหมายเกี่ยวกับการตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูง หรือ เสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือในแหล่งชุมชนเป็นเรื่องเป็นราว หากมันไม่มีปัญหาต่อสุขภาพมนุษย์จริงทำไมประเทศเหล่านั้นต้องร่างกฏหมายนี้ขึ้นมา
       ผมเห็นหลาย ๆ ชุมชนก็มีเสาไฟฟ้าแรงสูง หรือ เสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือผ่านโครงการ เห็นแล้วก็ตกใจว่าทำไมความเจริญทางวัตถุถึงได้สวนทางกับความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน
       จริงอยู่การใช้โทรศัพท์มือถือก็มีคลื่นแม่เหล็กในขณะที่เรารับสายแต่เราก็ไม่ได้เจอมันทั้งวัน เพราะเราจะรับหรือไม่รับโทรศัพท์มันอยู่ที่เราแต่บ้านที่อยู่ใกล้สายส่งไฟฟ้าแรงสูง เราต้องนอนทุกวันจนเราแก่ (หรืออาจจะไม่ทันแ่ก่)
       ผมคิดมากไปเองหรือเปล่าผู้รู้ช่วยทีครับ

By: ซิริอุส
Since: 3 มิ.ย. 55 19:07:58

5 thoughts on “บ้านอยู่ใกล้เสาส่งสัญญาณไฟฟ้าแรงสูง

  1. admin Post author

    น่าจะมีการศึกษาวิจัยถึงผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่อยู่ใกล้แนววางสายส่งไฟฟ้าแรงสูงบ้างนะครับ  

    บ้านที่ผมกำลังซื้อก็ห่างจากแนวสายไฟฟ้าแรงสูงประมาณ 40-50 เมตร ครับ

    ตอนนี้ในบ้านหลังแรกผมก็เปิด Wi Fi เนตความเร็วสูงทั้งวัน

    เรียกได้ว่าอยู่กับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทั้งวันเลยครับ

    .

    By: กระท่อมน้อยริมบึง
    Since: 3 มิ.ย. 55 21:17:01

  2. admin Post author

    เสาส่งไฟฟ้าแรงสูง ไม่ใช่เสาส่งสัญญาณไฟฟ้าแรงสูง นะครับ

    ระยะ 35 เมตร นี่ใกล้ นิดเดียวเอง

    คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ได้ไหลไปตามสายส่ง
    กระแส ต่างหาก ที่ไหลไปตามส่ง
    เมื่อ มีกระแสไฟฟ้า ไหล ในตัวนำใดๆ ก็จะเกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
    ในสภาวะปกติ กระแสจะสูงในช่วง 6 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม
    ซึ่งทำให้สายส่งกระจายสนามแม่เหล็กออกมาสูงกว่าช่วงเวลาอื่น
    แต่ ไม่ได้มีกำลังสูง มากนัก (ต้องดูระดับกระแส ความเหนี่ยวในสาย ค่าประจุระหว่างสาย ความชื้น)

    แต่ในสภาวะ บางสภาวะ เช่น การกระโดดของกระแสไฟฟ้า เนื่องจากสายส่งเป็นรอย ไม่แน่น อาจจะก่อให้เกิดการสปากส์ ที่ความถี่สูง ที่เรียกว่า โคโรน่า (ไม่ใช่รุ่นรถ)
    ซึ่ง จะมีผลกระทบ
    1. การสูญเสียกำลังงานสายส่ง
    2. สัญญาณรบกวน ทางสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก
    3. เสียงรำคาญ
    4. เกิดแสง ทำให้เสียวเล่น
    5. เกิดการแตกตัวของประจุไฟฟ้า หรือ อิออน ซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม
    6. เกิดโอโซน ถ้าอยู่สูงดีต่อโลก แต่อยู่ใกล้ๆไม่ดีต่อสุขภาพถ้าได้รับประมาณสูงหรือต่อเนื่อง
    – ลดประสิทธิภาพการทำงานของปอด
    – อาจจะมีปัญหาหอบหืด
    – ระคายเคืองคอ ไอเรื้อรัง
    – แน่นหน้าอก
    – ปอดอักเสบ
    – ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
    เป็นต้น

    ซึ่งจะเห็นว่า เรื่องสนามแม่เหล็ก จิบๆ ไปเลย
    สิ่งที่ต้องระวังคือการเกิด โคโรน่า ใกล้ๆที่อยู่อาศัย
    คอยสังเกตุแสงและเสียง จี๊ดๆ ถ้าใกล้เราแนะนำให้แจ้งการไฟฟ้า ที่รับผิดชอบมาแก้ไข
    (มาไม่มา ไม่รู้ แต่ร้องเรียนไว้ก่อน)

    มาพูดถึง สนามแม่เหล็กไฟฟ้า ของอุปกรณ์โทรศัพย์เคลื่อนที่กันบ้าง
    สนามแม่เหล็กไฟฟ้า ที่กระจายออกมาจากสายส่ง เทียบไม่ได้ กับสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ที่กระจายออกมาจาก เสาส่งสัญญาณมือถือ
    เพราะมาจากสายส่ง ความถี่ อยู่ในช่วง 50Hz กำลังต่ำ อำนาจทะลุทะลวงต่ำ
    แต่จากระบบมือถือ ความถี่ อยู่ในช่วง 850 MHz ถึง 1.2 GHz อนาคตจะมี 2.4 GHz มาให้ใช้กันอีก
    (เตาไมโครเวฟ ก็ใช้ความถี่ ประมาณ 2.45 GHz)

    อันตรายยังไง ไม่ขอเอ่ยถึง เพราะยังพิสูจน์ ไม่แน่ชัด

    ความเข้าใจที่ว่า ไม่รับสาย โทรศัพย์ไม่ปล่อยคลื่น เป็นความเข้าใจที่ผิด
    ระบบมือถือ จะมีการตรวจสอบสถานะกันอยู่ตลอดเวลาเป็นช่วงๆ ขอให้เปิดเครื่องเถอะ
    แต่เสาส่งกระจายคลื่นออกมาตลอดเวลา ความแรงก็แล้วแต่ระยะห่าง และ สิ่งกีดขวาง จากเสาส่ง
    ในช่วงที่ มือถือ ส่งสัญญาณแรง คือ
    – ตอบกลับสถานีฐาน เพื่อทดสอบกำลังส่ง เช่น ตอนเปิดเครื่อง เพื่อคนหาโครงข่าย ขณะข้ามสถานีฐาน เป็นต้น
    – ในที่ไม่มีสัญญาณมือถือ เครื่องจะพยายามส่ง สัญญาณความแรงสูงสุด เพื่อค้นหาสถานีฐาน
    – ที่สัญญาณอ่อนมากๆ ยิ่งอ่อนยิ่งส่งแรง เพราะเดี๋ยวไม่ถึงสถานีฐาน สังเกตุง่ายๆ ถ้าเราคุยโทรศัพย์ในที่สัญญาณอ่อน แบตฯจะหมดเร็วกว่าปกติ

    สรุปง่ายๆ
    สนามแม่เหล็กไฟฟ้าน่ากังวล น้อยกว่า ปรากฏการณ์โคโรน่า

    By: อิทธิพงษ์
    Since: 3 มิ.ย. 55 21:50:38

  3. admin Post author

    สายเปล่าๆไม่ได้น่ากลัวละครับ

    ที่น่ากลัวจริงๆคือหม้อแปลงเพราะมีสนามแม่เหล็กมาก

    By: นายยศ
    Since: วันวิสาขบูชา 55 00:11:39

  4. admin Post author

    ถ้าความเข้มมากๆ  ก็เอาสายลวดทองแดงไปขดวงกลมให้เต็มหลังคา แล้วเอาไฟฟ้าที่เหนี่ยวนํามาใช้เลย น่าจะดีครับ

    By: GOLD MAN (renangkull)
    Since: วันวิสาขบูชา 55 07:16:30

  5. admin Post author

    ปัญหาส่วนใหญ่ที่เห็นก็คือ บ้านเดี่ยวหรือบ้านจัดสรรเองแหละ ที่เข้าใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูง บางทีเนื่องจากปัจจุบันสังคมเมืองได้ขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง…

    By: ZZCX
    Since: วันวิสาขบูชา 55 11:12:51

Leave a Reply