สวัสดีครับ
เรื่องราวคือ พ่อตาอดีตข้าราชการ กู้เงินกับธนาคารหนึ่ง ในสัญญาบอกว่า "กู้เพื่อการบริโภค" ซึ่งจริงๆ คือนำเงินมาสร้างบ้านในที่ดิน ยอดเงินกู้ 530,000 เมื่อปี 46
จนโดนฟ้อง แล้วไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความ
เป็นยอดหนี้ 318,000 นับจาก วันที่ 2 เมษายน 2553 เพราะ ธนาคารจ่ายเงินเป็นงวดซึ่งงวดสุดท้าย ธนาคารไม่ได้จ่ายทำให้ได้เงินมาแค่ 318,000 เท่านั้นคือยอดหนี้จริง แล้วแก ก็ไม่ชำระ เงินกับธนาคาร เนื่องจากไม่มีรายได้อะไร จนผมก็มาอาศัยอยู่จนทราบเรื่องแล้ว ไปติดต่อชำระเงินกับทางธนาคาร คือผ่อนต่อน่ะแหละครับ ก็โดนค่าปรับล่าช้า + ดอกเบี้ย ตามระเบียบ
โดยตอนไปจ่ายครั้งแรก ธนาคาร เพราะไม่ทราบยอดเลยเข้าไปหาธนาคาร ธนาคารแจ้งว่า มีค่างวดเดือนละ 3,000 บาท แต่ตอนนี้ มีดอกเบี้ย ฯลฯ อีกเยอะ ดังนี้ ครับ
ครั้ง ที่ 1 ต้นเดือน 6/10/54 ธนาคาร บอก มียอดหนี้
312,546.02 ดอก 14% 9,831.48 ผมพกไป 5000 เลยจ่ายไปก่อน 5,000 บาท
ครั้งที่ 2 กลางเดือน 14/10/54 เข้าไป ธนาคาร ให้จ่าย อีก
จากยอด 309,019.78 ดอก 14 % ในใบลง 0.00 บาท ธนาคารให้ชำระ 16,600
แบ่งไปจ่ายต้น 3,526.24 ดอก 13,073.76 บาท
ตอนนี้คิดว่า ระบบ คงจะทันแล้ว ผมจะได้ชำระเป็นรายเดือน 3,000 บาท ตามที่ตกลงประนอนหนี้
ก็นำเงินเข้า บ/ช ให้ธนาคารหัก ทุกๆ เดือนมาตลอด มีความสุขดี
จนมาวันนี้ ก็กลุ้มใจเพื่อ พ่อตายังมีหนี้ ที่กู้ส่วนตัว อีก สาขาหนึ่ง ธนาคารเดียวกัน ก็เลยคิดว่า เกิดผ่อนๆ ไปจน หมด แล้ว เอาหนี้ที่อื่นๆ มาบังคับคดี ขายบ้านเราทอดตลาดอีกทำไง ก็เลยคิดว่าจะไปยืมญาคิพี่น้องมาปิดบัญชี สัก 4 แสน คนพอเพราะหนี้ที่เข้าใจ ตั้งแต่ต้น เมื่อครั้งแรกที่เข้าไปหาธนาคาร คือ สามแสนหนึ่ง กว่าๆ เท่านั้นเอง
ปรากฏว่า วันนี้เข้าไป ธนาคารบอกว่า ถ้าจะปิดต้อง 5 แสนนิดๆ เพราะมี ดอกเบี้ย ที่ ค้างชำระไว้ด้วย รวมทั้ง ถึงจะปิดบัญชีนี้ที่ 5 แสนแล้ว ก็ต้องปิดบัญชีหนี้อีกสาขานึงด้วยเพราะ หนี้อีกทีเค้าก็ฟ้องบังคับคดี อยู่เค้าจะไม่ปล่อยโฉนดที่ดินคืนให้ ผมก็เครียตเลย
พิมพ์มาตั้งนาน คำถามดีกว่าครับเข้าประเด็น
1.หนี้ ที่อื่น ที่เป็นหนี้อีก 80,000 แปดหมื่น โดน ดอก อีก 70,000 เจ็ดหมื่น รวมเป็น แสนห้ากว่าๆ เค้าสามารถ มาบังคับ อีกหนี้หนึงได้ไหมครับ คือถ้าผมนำเงินไปปิดแล้ว ตามที่เจ้าหน้าที่ธนาคารบอก
2.ดอกเบี้ยมหาโหด แบบนี้ ถูกต้องไหมครับ เพราะ ผมงงกับการคิดหนี้ คิดดอกมาก ตอนไปติดต่อทีแรก ทำไมไม่บอกว่ายอด 5 แสน จะได้ตั้งหลักก่อน บอกยอด 3 แสน ให้ผมดีใจผ่อน พอจะหาเงินไปปิด บอกต้องจ่ายดอกที่ค้างเก่าก่อน ประนีประนอมด้วย
3. มีโครงการอะไรบ้างไหมครับ ที่จะช่วยเหลือบ้าง เช่น โครงการลดดอกเบี้ย พักหนี้ หรือ ต้องพึ่งศาล
ขอบคุณครับ
By: mangkhud
Since: 31 ก.ค. 55 19:41:18
หนี้เป็นของ พ่อตา ต่อให้คุณจ่ายหนี้ 5 แสนหมด เหลืออีก แสนกว่าๆ (อีกที) เขาก็บังคับคดีเหมือนกัน
ก็เข้าสู้ขั้นตอนประนอมหนี้ เหมือนก้อนแรก คือจะคิดจะลดดอกกันยังไงก็ว่ากันอีกที
แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ เขาก็มีสิทธิ์ ที่จะยึดทรัพย์สินขายทอดตลาด
ตอนนี้คุณมีสามทางเลือก
………………….
1. ใช้หนี้ ทั้งสองก้อน แต่อาจจะลองขอเจรจากับแบงค์ดูว่าถ้าหาเงินมาปิดได้ทั้งสองก้อน ต้องใช้เงินเท่าไร ลองเอาตรงนี้ไปต่อรองดูครับ
2. คือหยุดจ่าย ไม่ต้องจ่ายอะไรเลย คอยแบงค์มันขายทอดตลาด ตอนนั้นคุณคอยหาเงินไปซื้อคืนดู อาจจะได้ถูกกว่าหรือแพงกว่าหนี้ ก็ได้
3 คือผ่อนจ่ายเฉพาะก้อน 5 แสนก่อน แล้วคอยดูว่าก้อน 1 แสนนั้น พอประนอมหนี้แล้วจะลดได้เหลือเท่าไร
แต่ข้อ 3 มันจะมีข้อเสียคือ คนต้องจ่ายไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้คำตอบว่า ประนอมหนี้แล้วจะเหลือเท่าไร ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน เว้นแต่คุณจะเดินเข้าไปคุยเองเลย (อย่างในข้อ 1 ที่ว่าไว้ครับ) ตรงนั้นอาจจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าจะเอาไง
ถ้าเป็นผม ผมจะบอกพ่อตา ให้โอนทรัพย์สินที่เป็นชื่อพ่อตา ไปให้คนอื่นให้หมด แล้วก็คอยมันฟ้อง ล้มละลาย ตอนนั้นคอยเอาเงินไปซื้อคืนครับ
เพราะพ่อตา แก่มากแล้ว คงไม่กระทบเท่าไร หากต้องล้มละลาย ส่วนคุณก็เก็บเงินไว้ คอยไปซื้อทรัพย์คืน เวลา ธ. เขาประกาศขาย นะครับ
By: Miracle Boy
Since: 31 ก.ค. 55 20:21:41
สวัสดีครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับ ทางออก
งง เรื่อง โอนทรัพย์ ที่เป็นชื่อพ่อตาน่ะครับ เพราะ โฉนด ก็อยู่กับธนาคาร ตอนแรก ผมจะให้แฟนไปซื้อโดยการปิดยอด บ้าน 5 แสนกก่อน เพราะเป็นคนละนามสกุล แต่ธนาคาร ก็บอกว่าปิดบัญชี ธนาคารก็ไม่ให้โฉนด อยู่ดี ออกมาโอน ไม่ได้อีก.. ติดขัดไปหมด
ก็เลยคิดว่า จะเอาไงดี ตอนนี้ มองไปที่ ข้อ 1 หรือ 3 อยู่ครับ
ขอบคุณครับ
By: มังคุด (mangkhud)
Since: 31 ก.ค. 55 20:37:11
ซึ่งในกรณี ผมนำเงินไปปิด เค้ามีสิทธิ์ไม่คืน โฉนด ผมด้วยเหรอครับ เพราะหนี้ ก็คนละส่วน ฟ้องหรือยังก็ไม่ทราบ ฟ้องแล้วศาลว่าไงก็ไม่ทราบ บังคับได้หรือป่าวก็ไม่ทราบ
ผมเพียงแต่เข้าไปสอบถามเพื่อปิดยอดบ้าน เพราะกลัวจะพันตูกันไปหมด
ขอบคุณครับ
By: มังคุด (mangkhud)
Since: 31 ก.ค. 55 20:39:37
ถ้ามีเงินในมือที่จะชำระเงินต้นของหนี้ทั้งหมดได้ ก็ให้หาทนายสู้คดีครับ พอถึงชั้นศาลจริงๆพวก ดบ ที่เขาคิดบวกทบต้นทบดอก เเละทบดอกอีกที มันนะถูกลดลงมาตาม กม ตอนนี้อย่าเพิ่งจ่าย
By: 2475
Since: 31 ก.ค. 55 20:57:19
ตามที่คุณ Miracle Boy ( คห.1 ) ว่าให้โอนทรัพย์สิน อื่นๆ ที่เป็นชื่อพ่อตา เช่น รถ บ้าน ที่ดินที่อื่นๆ ไปให้คนอื่นให้หมด แล้วให้ฟ้องล้มละลายครับ
ส่วนบ้านและที่ดินผืนนี้ ค่อยไปซื้อทรัพย์คืน เวลา ธ. เขาประกาศขาย นะครับ
ถ้าพ่อตาไม่มีทรัพย์สินอื่นๆ ก็ง่ายตามที่คุณ Miracle Boy ( คห.1 ) จะเลือกทำ
By: sunchai.ph
Since: 31 ก.ค. 55 21:18:27
ขอบพระคุณทุกท่านมากนะครับ
บ้านพร้อม ที่ดิน ผมคิดว่าราคาสูงอยู่ครับ เพราะเป็นบ้านไม้สักทั้งหลัง แล้วก็ใหญ่ 2 ชั้น ปลูกอยู่ ที่ดิน 4 ไร่ ที่ติดถนนใหญ่
ถ้าจะปล่อยให้ฟ้องแล้วประกาศขาย เราไปซื้อคืน ยังไงครับ แบบว่าเค้าจะประกาศขายให้เท่ากับยอดหนี้ เลยรึเปล่า กลัวจะเหมือนที่เค้าบอกๆ กันว่า เค้าจะแกล้งเอาคนมาซื้อถูกๆ แล้วต้องเป็นหนี้อีก บ้านก็เสียไป
พรุ่งนี้จะเข้าไปคุยกับเค้าดูอีกที ว่าเอาไง
By: มังคุด (mangkhud)
Since: 31 ก.ค. 55 22:03:15
ถ้าราคาทรัพย์มูลค่าสูงกว่าหนี้เยอะ เราว่า ไปคุยขอยอดจ่ายกับทางแบงค์โดยขอเป็นยอดหนี้จริงกับดอกเบี้ย หักพวกค่าธรรมเนียมต่างๆ จะดีกว่าค่ะ หากปล่อยหลุดแล้ว เราคิดว่า เวลาเขาประมูลซื้อ อาจจะมีคนแย่งกันเยอะจนราคามันไปไกลก็ได้ค่ะ (เพราะมูลค่าทรัพย์ในตลาด มันสูงมาก)
By: saengchot
Since: 31 ก.ค. 55 22:49:06
คุยกับแบงก์ทีเดียวเลยครับ ว่ามีหนี้ทั้งหมดเท่าไหร่ ตัดยอดกันทีเดียว ลดได้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็เงินต้นเต็ม 100% กับดอกเบี้ยอีกส่วนหนึ่ง จะมากจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับราคาประเมินหลักประกันแล้วครับ
พอปิดบัญชี ก็โอนบ้านเป็นชื่อคนอื่นเลย จะเป็นใครในครอบครัว ก็ดูนิดนึงว่าเค้ามีหนี้ด้วยป่าว ไม่งั้น จะโดนยึดอีกรอบ
ส่วนกรณีที่แบงก์เอาหนี้ 2 วงเงินมารวมกัน ทั้งที่บ้านค้ำประกันหนี้วงเดียวกัน รู้สึกว่าสัญญาจำนอง มันจะมีบันทึกต่อท้าย บอกว่า ให้เอาไปค้ำประกันหนี้อื่น ๆ ด้วยน่ะครับ ลองอ่านดูดี ๆ
ถึงแม้ไม่มี เค้าเอาหนี้อื่นมายึดก็ยังได้อยู่น่ะครับ ตามกฎหมาย ทำได้ครับ
รีบ ๆ เคลียร์เถอะครับ พ่อตาคุณเล่นขยันกู้เงินแบบนี้ สักวัน คงโดนยึดแน่นอน
By: philly
Since: 31 ก.ค. 55 23:29:08
ลดหนี้ปิดบัญชี เป็นหลักการสินเชื่อท่ัวไป
ส่วนจะได้มากหรือน้อยขึ้นกับการเจรจาต่อรอง
หรือหลักประกัน ถ้าหลักทรัพย์คุ้มหนี้มากเจ้าหนี้มักจะเฉย ๆ
รอขายเมื่อไรก็กำไรได้ต้นได้ดอกเบี้ยคืนเต็ม ๆ
แต่ถ้าหลักทรัพย์เสื่อมค่ามาก มักจะรีบดำเนินการ
ประเภทกำของเหลวไว้ในมือ ดีกว่ากำสายลม
ส่วนหนี้ต่างสาขาแต่มีเจ้าหนี้คนเดียวกัน
เป็นหนี้ผูกพันหรือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ให้อ่านจากสัญญากู้หรือสัญญาบัตรเครดิตให้ละเอียดจะมีข้อความแบบนี้
บางแห่งจะระบุว่า เป็นประกันหนี้ทุกชนิด ที่มีอยู่แล้วและ/หรือจะมีขึ้นต่อไปในภายหน้า
การค้นหาลูกหนี้ต่างสาขา เดี๋ยวนี้ง่ายมาก ใช้เลขบัตรประชาชนค้นหาเอา
เพราะการเก็บข้อมูลตอนนี้ง่ายมาก ใช้รหัสบัตรประชาชนเป็นฐานข้อมูล
ขอเสนอทางเลือก
1. ติดต่อเจ้าหนี้ขอยอดรวมหนี้ทั้งหมด เพื่อขอไถ่ถอนจำนอง
แล้วโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อ/ผู้กู้รายใหม่
ทำสัญญากู้ใหม่ ลูกหนี้รายใหม่่ อัตราดอกเบี้ยจะลดลงท้นที
จะทำให้สามารถผ่อนชำระหนี้ได้
2. กรณีได้ข้อมูลจากข้อ 1 แล้ว ลองหาเจ้าหนี้รายใหม่
กู้หนี้ก้อนใหม่ไปปิดบัญชีหนี้ก้อนเก่า ด้วยการลดหนี้ปิดบัญชีไปเลย
แล้วเป็นลูกหนี้เจ้าหนี้รายใหม่ ผ่อนชำระตามปกติต่อไป
การรอซื้อที่ดินกลับตอนขายทอดตลาดมีความเสี่ยง
ถ้าเจ้าหนี้ดึงเวลา หรือทำเรื่องบังคับคดีล่าช้ามาก
ด้านยอดหนี้เงินต้นไม่วิ่ง แต่ดอกเบี้ยก็จะวิ่งไปเรื่อย ๆ
ผลสุดท้ายยอดหนี้รวมจะกระทบกับราคาประมูลในที่สุด
แปลงดีดีงามงาม เห็นหลุดมือไปต่อหน้าต่อตาหลายรายแล้ว
แม้ว่าครอบครัวเจ้าของเดิมจะไปขอร้อง
เพราะคนซ้ือขายต่อมองเห็นกำไรแน่นอน จึงเข้าไปซื้อแข่งขัน
ถ้าขอซื้อกลับคืนก็ต้องเพิ่มราคาให้ด้วย
แถมยังเสี่ยงกับการสืบทรัพย์ชำระหนี้อีกกรณีหนึ่ง
ที่แสบกว่านั้น บางสถาบันการเงินจะซื้อไว้ขายต่อทำกำไรเอง
ด้วยการเข้าไปประมูลแข่งขันราคาในตลาดขายทอดตลาด
หรือบางรายยอมเป็นนอมินนี ลูกค้าบังเกิดเกล้า
เข้าไปประมูลซื้อเพื่อโอนกรรมสิทธิ์เป็นของสถาบันการเงิน
แล้วค่อยขายต่อให้ลูกค้าบังเกิดเกล้า
ที่เป็นประเภทลูกค้าไม่อยากออกหน้าออกตา
หรือไปเสี่ยงประมูลแข่งขันกับรายอื่น ๆ
เพราะถ้าสถาบันการเงินแข่งขันแล้ว
โอกาสชนะมีน้อยกว่าน้อยมาก
หมายเหตุ แก้ไขคำผิด+เพิ่มเติม
By: เขียนบน iPhone (ravio)
Since: 1 ส.ค. 55 12:27:23
ส่วนการรอให้พ่อตาถูกฟ้องล้มละลาย
ต้องมียอดหนี้หนึ่งล้านบาท
และครบเงื่อนไขตามกฎหมายจึงจะฟ้องได้
คงต้องรอกันอีกหลายปี
เพราะตามข้อมูลท่ีแจ้งไว้
สันนิษฐานว่า หลักประกันเกินคฺ้มมูลหน้ี
เจ้าหนี้จึงไม่รีบร้อนทำอะไรมากนัก
By: เขียนบน iPhone (ravio)
Since: 1 ส.ค. 55 13:05:27
^^ จะฟ้องล้มละลายได้ต้องมีหนี้เกิน 1 ล้าน
ส่วนถ้าปิด บช 1 แล้วแต่ยังอีก บช 1 และเอาโฉนดออกมาไม่ได้ สงสัยโดนฟ้องอาณัติโฉนดไว้ ซึ่งถ้า แบงเดียวกัน แต่คนละสาขา ก็สามารถทำได้ จนกว่าจะชำระหนี้หมด
ทางที่ดีลองเข้าไปประนอมหนี้ และขอลดดอกเบี้ยดู อาจจะได้ลดไม่มากก็น้อย (บอกไปว่าไม่ค่อยมีรายได้มากมายอะไร ) ส่วนใหญ่เขาก็จะลดให้นะ
แต่ถ้า ธ. ประเมินแล้วว่า ทรพย์สินที่บังคับอยู่ มีราคา สูงกว่าหนี้มาก ก็จะอยู่เฉยๆ รอกินดอกไปเรื่อยๆ แล้วค่อยบังคับขายทอดตลาด
By: ออ
Since: 1 ส.ค. 55 16:49:50
ขอบพระคุณทุกท่านมากครับ
By: มังคุด (mangkhud)
Since: 1 ส.ค. 55 23:42:50