บ้านราคา2.7ล้านผ่อน30ปีต้องจ่ายทั้งหมด6.5ล้าน

คือทุกคนซื้อบ้านภูมิใจกันแบงคให้ผ่านจะได้เป็นหนี้ก้อนโตแต่พวกเราเราเคยมาดีดตัวเลขกันมั้ยครับไม่น่าเชื่อครับดอกเบี้ยจะอลังการงานสร้างขนาดนี้ซื้อบ้านเงินสดได้สองหลังกว่าๆเลยนะว่ามั้ยครับ

By: saengphaa
Since: วันแม่แห่งชาติ 55 20:03:33

39 thoughts on “บ้านราคา2.7ล้านผ่อน30ปีต้องจ่ายทั้งหมด6.5ล้าน

  1. admin Post author

    หากเกิดปัญหาดอกเบี้ยสูง จะแพงขึ้นไปอีก

    แล้วพอจะขาย ราคาที่ขายได้ เห็นว่าแพงกว่าราคาตอนซื้อ แต่ถ้าคิดรวมดอกเบี้ยที่จ่ายธนาคาร และ ค่าเสียโอกาสของเงินที่ผ่อนให้ธนาคาร คิดแล้วปวดใจ

    มีกูรูทางการเงิน บอกว่า ไม่ควรซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย ควรคิดซื้อเมื่อจะใช้ทำธุรกิจ เขาบอกว่า เช่าอยู่จะดีกว่า

    By: KittySP
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 20:14:41

  2. admin Post author

    ถ้าไม่โปะ ก็ไม่ถึง 30 ปี ครับ ช่วงแรกต้นน้อยดอกเยอะ ช่วงท้ายดอกน้อยต้นเยอะ กลับกัน

    By: Dior Homme
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 20:20:11

  3. admin Post author

    เงิน 6.5 ล้าน อีก 30 ปีข้างหน้า มันก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ
    เงินมูลค่า 6.5 ล้านในอีก 30 ปี อาจได้แค่ ทาวน์เฮาส์ หรือ คอนโด

    By: Lyuk!
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 20:21:11

  4. admin Post author

    เรากู้ 2.5 ล้าน
    ผ่อนไปโปะไป 3ปีกว่าๆหมด จ่ายดอกเบี้ยไป 225,xxx บาท
    X แบบนั้นไม่ถูกต้องหรอกค่ะ. จริงๆแล้วแม้คุณผ่อนขั้นต่่ำ ก็ไม่ถึง 30 ปีหรอกค่ะ

    By: Pat_Girl
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 20:23:02

  5. admin Post author

    ถ้าจะผ่อนยาวๆ ขนาดนั้น ก็คงประมาณนี้ แต่ในความเป็นจริงก็จะหมดก่อน

    ปล สงสัยนิดหนึ่ง ปัจจุบันกูรูด้านการเงินท่านนั้น ยังเช่าบ้านอยู่ป่าวครับ

    By: Che_Eng
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 20:25:39

  6. admin Post author

    ก็คุ้มกับความเสี่ยงและค่าเงินที่จะลดลงเรื่อยๆ ค่ะ
    เพราะถ้ามีเงินสด 2.7 เราคงเลือกไปลงทุนให้งอกเงย
    มากกว่าจะจ่ายทั้งหมดเพื่อซื้อบ้าน 🙂

    By: Kim-Ha
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 20:35:17

  7. admin Post author

    ^
    ^
    ความเห็นที่ 5
    นั่นซิ เราก็สงสัยเหมือนกัน
    ปกตินี่ ลงทุนในอสังหา, ที่ดิน และทองนี่ น่าจะโอเคแล้วนะ

    จขกท.
    ถ้าตั้งใจผ่อน ตั้งใจโปะจริงๆ
    ไม่มีใครจ่ายดอกเบี้ยเยอะขนาดนั้นหรอกค่ะ
    ส่วนมากจะไม่ยอมให้ถึงสามสิบปีกันหรอก

    By: Lovely Creature
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 20:37:14

  8. admin Post author

    ทราบค่ะ คำนวณตั้งแต่ตอนซื้อแล้ว
    ของตัวเอง  บ้าน 3.6 ล้าน 30 ปี ก็ 8 ล้านกว่า
    แต่ถ้าไม่ซื้อวันนี้ แล้วอนาคตอีก 10 ปี มันจะมีบ้านที่ต้องการในราคานี้มั้ยคะ

    หลายสิบปีก่อน พ่อเราไม่ยอมซื้ออะไรที่เป็นเงินผ่อน มันก็ดี แต่มันไม่ใช่
    มันทำให้แม่เราเซ็งมาก เพราะไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง
    ในขณะที่เพื่อนพ่อแม่เริ่มผ่อนบ้านหมดแล้วในระยะเวลา 10-15 ปี เพราะเงินเดือนมากขึ้นไปตามเวลา
    แต่พ่อแม่เพิ่งได้สร้างบ้านตัวเองตอนอายุ 45 ปี จ่ายเป็นเงินก้อนไปทั้งหมด ตึงมาก และต้องเริ่มต้นเก็บใหม่
    แม่เราบอกว่ามันคนละความรู้สึกกันกับเพื่อนแม่ ที่จ่ายไปเรื่อยๆเป็นรายเดือนมันไม่เหนื่อยมาก เพราะค่าเงินลดลง

    ตอนหนุ่มสาวของพ่อแม่เราที่ผ่อนได้บ้านเดี่ยวราคาไม่ถึงล้าน
    แต่พอจะสร้างบ้านตามที่ต้องการในอีกช่วงเวลา
    ต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่าสามล้านถึงจะได้บ้านหนึ่งล้านเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว

    เราเห็นอารมน์ และประสปการณ์ี่ผ่านมาค่ะ
    พอมีเงินและมีโอกาสสร้างครอบครัวใหม่ เลยหาอสังหาผ่อนไว้ดีกว่า
    ตอนนี้บ้านที่เราผ่อนอยู่ 3.6 ล้าน ให้หกล้านก็ยังไม่ขายเลยค่ะ
    เพราะอีกเฟสหนึ่งในผืนเดียวกัน บ้านเล็กกว่าเรา ทำเลแย่กว่าเยอะ
    เวลาสร้างห่างกันสองปี บริษัทขายแต่ละหลังไม่ต่ำกว่าห้าล้านค่ะ

    By: flower over the moon
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 21:00:30

  9. admin Post author

    เคยมีเพื่อนในห้องชายคาเอา ไฟล์excel ที่คำนวณมาให้
    ซึ่งจะคำนวณออกมาให้เลย จากเงินต้น. อัตราดอกเบื้ย. ยอดชำระ. และระยะเวลา
    แม้อาจจะไม่เปะ. แต่เราว่าดีมากเลยนะคะ
    เพราะช่วยให้เราสามารถวางแผนการชำระเงินได้ดีเลยทีเดียว

    ลองหาดูนะคะ

    By: MRN_DA
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 21:08:19

  10. admin Post author

    ก็เพราะไม่มีใครคิดจะผ่อนกัน30ปีไงล่ะคะ

    เชื่อว่าทุกคนก่อนกู้ ต้องเคยคำนวนแน่ๆ

    ว่าแต่ จขกท.เพิ่งเคยคำนวนหรอคะ?

    By: IsThisIt?
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 21:17:03

  11. admin Post author

    บ้านที่อยู่สมัยแม่ซื้อมา 2แสนเมื่อ30ปีที่แล้ว พอขายขายได้2.5ล้าน
    มูลค่าเพิ่มประมาณ 10เท่าครับ

    ของคุณ 2.7ล้าน อีก30ปีข้างหน้า บ้านคุณก็น่าจะราคา 27ล้าน โอ….กำไรจะตาย
    ให้แบงค์ไป6.5ล้าน ที่เหลือกำไรนะครับ

    By: NN
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 21:24:57

  12. admin Post author

    ผมซื้อบ้านไปเมือปลายปีที่แล้ว ตอนนี้ จ่ายดอกไม่ยังไม่ถึงแสน บ้าราคาขึ้นไป สามแสนแล้ว ไม่รู้จะคุ้มหรือป่าว

    By: บองหลา
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 21:26:38

  13. admin Post author

    ของผม 30 ปีคูณต่อเดือนแล้วเยอะกว่า จขกท อีก แต่ก็นั่นแหละครับ ผมไม่มีเงินก้อนโตๆขนาดที่จะเอาไปซื้อสดเลยอ่ะครับ

    By: Meng_Thachalom
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 21:26:48

  14. admin Post author

    เงิน 6.5 ล้าน ในอีก 30 ปีข้างหน้า
    เทียบอะไรไม่ได้กับ เงิน 2.7 ล้านในวันนี้หรอกค่ะ

    ต้องดูด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อ ขึ้นปีละเท่าไหร่
    อย่างราคาทองคำ
    เมื่อสิบปีที่แล้ว มีเงิน 6000 บาทก็ซื้อทองได้ 1 บาททอง
    เดี๋ยวนี้ ขึ้นไปเป็น บาทละ 25000 แล้วค่ะ

    By: Sirinut
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 21:36:18

  15. admin Post author

    เหมือน จขกท จะเพิ่งรู้น่ะครับ ผมว่าถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่ต้องกู้แล้วครับรอเก็บเงินสดเลยดีกว่า ถามว่า คุณผ่อนรถก็เจอแบบเดียวกันแต่ทำไมยังผ่อน ธนาคารได้ดอก เราได้ทรัพย์สินก็ วินๆๆ น่ะ ผมภูมิใจครับที่กู้ธนาคารผ่าน คุณ จขกท จะภูมิใจหรือเปล่าไม่รู้ แต่ถามคำเดียวว่าคุณกู้บ้านผ่านหรือยัง ได้ภูมิใจเมหือนพวกเรายังครับ

    By: นาโนแมน (นาโนแมน)
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 21:47:31

  16. admin Post author

    ดีกว่าเช่าเค้าอยู่ เอาเงินให้ช่วยเค้าผ่อนแบงค์ไปแต่ละเดือนๆ นะคะ แต่ตัวเรายังไม่มีอะไร

    เป็นหนี้ มีบ้านของตัวเอง น่าภูมิใจนะคะ แม้จะเสียดอกให้แบงค์ ก็ยังไม่น่าเสียดายดีกว่าเสียค่าเช่าให้เค้าไปทุกเดือนๆนะ

    เราก็เพิ่งเป็นหนี้ ภูมิใจที่สุด แปลกนะ เป็นหนี้อย่างอื่นทุกข์ขนาด ไม่อยากจะเป็นหนี้เลย แต่กับเป็นหนี้แบงค์ แล้วมีบ้าน สุขใจสุดๆๆ

    By: tatana
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 22:02:39

  17. admin Post author

    ก็เก็บเงินให้ได้ 2.7 ล้านแล้วค่อยซื้อสิครับ

    By: หมึกสด
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 22:40:21

  18. admin Post author

    ถ้าคุณมีกำลังผ่อนบ้าน 2.7 ล้าน หมดใน 30 ปี คุณก็ซื้อบ้านราคา 1.7 ล้านและผ่อนเท่าๆกับราคาผ่อนบ้าน 2.7 ล้านซะสิครับ จะได้หมดเร็วๆ

    By: Rapter
    Since: วันแม่แห่งชาติ 55 23:21:11

  19. admin Post author

    พี่คนรู้จักกันเมื่อเดือนตุลาบ้านเขาน้ำท่วมถึงเอว บ้านเดี่ยว 60 ตรว. ซื้อมาเมื่อ 4-5ปีที่แล้ว 1.6 ล้าน พี่เขาบอกขาย เพราะย้ายไปรับตำแหน่งหน้าที่ราชการที่ต่างจังหวัด
    ตอนที่พี่เขาเอาโฉนดมาฝาก เขาบอกว่าอยากขาย 2.4 ล้าน เด็กเกาะก็ทำหน้าแหยๆ เพราะเห็นว่าบ้านเขาน้ำท่วม พี่เขายืนยันว่าไม่มีสภาพความเสียหายเลย ตอนนี้ขายได้แล้ว 2.5 ล้าน กำไร 9แสน

    By: กำไรอยู่ฟรีด้วยแค่4-5ปีเอง (เด็กเกาะสมุย)
    Since: 13 ส.ค. 55 00:16:20

  20. admin Post author

    ที่ต้องกู้ ก็เพราะ ไม่มีเงินสดพอจะซื้อ ก็กู้ไปไงครับ

    อนาคตมีเงินมีรายได้มากขึ้น ก็โปะ

    By: webkit
    Since: 13 ส.ค. 55 01:47:44

  21. admin Post author

    เอาอัตราเงินเฟ้อคิดกลับด้วยครับ

    By: ราชันย์ทิวา
    Since: 13 ส.ค. 55 03:21:22

  22. admin Post author

    มีแต่คนภูมิใจกับการเป็นหนี้เยอะจริง ๆ …

    เหตุผลเพียบ!!!

    แต่เป็นเหตุผลที่เอามาปลอบใจตัวเองทั้งนั้นแหละ

    ตาม คห 18 น่ะ ถูกต้องแล้ว

    มีปัญญาแค่ไหนก็ซื้อแค่นั้น

    ไม่ใช่ว่า เอะอ่ะ ก็จะเอาแต่ตัว Top หรือ จะซื้อทั้งทีเอาให้ดี ๆ ไปเลย
    ความคิดนี้เป็นความคิดที่ถูก ….

    แต่ส่วนมาก "ดีๆ" น่ะ … มันเกินตัวทั้งนั้น

    ………………………

    เคยลองคิดกันบ้างหรือ
    ส่วนมาก เวลาขอวงเงิน (กู้) จากธนาคารน่ะ
    ขอกันแบบ "เกิน" max ทั้งนั้น!!

    ไม่ใช่ ขอ "เต็ม" max นะ … อ่านดี ๆ

    บางคน profile แบบนี้ …
    ธนาคารบอก… ให้กู้ได้แค่ 2 ล้าน…

    แต่ส่วนมาก อยากได้ 3 ล้านมั่ง 4 ล้านมั่ง
    คือ ต้อง "เกิน" max เสมอ

    เคยคิดหรือเปล่า ธนาคาร เขามีสูตรในการคำนวณ
    คำนวณว่า …สถานะแบบคุณ มี "ปัญญา" เท่าไร…

    แต่พวกเราก็จะขอแบบ "เอาอีก ๆ ๆ ๆ" ….

    ใครที่ทำงานในธนาคารจะรู้ว่า …
    ปัจจุบัน หนี้เสีย ของอสังหาน่ะ ..
    เยอะมาก ….

    แต่หนี้กู้รถกลับไม่เสียนะ … (แปลกดี)

    ……………………………………….

    คอมเม้นท์ นี้รับรองว่า ..
    จะมีแต่คนด่า … เพราะคนอยากเป็นหนี้กันจนตัวสั่นน่ะ
    มีเยอะมาก …

    เป็นหนี้น่ะ … ไม่เป็นไรหรอก
    แต่ส่วนมาก "เป็นหนี้เกินตัว" กันเสียมากกว่า….

    By: การเวก
    Since: 13 ส.ค. 55 07:26:36

  23. admin Post author

    ถ้าคิดแยกระหว่างที่ดินกับสิ่งปลูกสร้าง

    ผมซื้อบ้านและที่ดินเมื่อปี ๓๕ ราคาประเมินที่ดิน ตร.วาละ ๕๐๐๐ บาท

    สัปดาห์ที่แล้ว บ.ประเมิน แจ้งผลราคาประเมินที่ดินมาว่า ที่ดิน ตร.วาละ ๓๐๐๐๐ บาท ตัวบ้านเหลือ ๐.๙ ล้าน

    ดีตรงที่กัดฟันซื้อบ้านโดยเลือกที่ดินแปลงที่ใหญ่ที่สุดในบ้านรุ่นที่ทำขาย

    แล้วถ้าซื้อทาวน์เฮาส์ หรือ คอนโดล่ะ

    By: KittySP
    Since: 13 ส.ค. 55 08:24:22

  24. admin Post author

    ถ้ากลัวเสียดอกเบี้ย จะไม่กู้ก็ได้
    แต่ต้องเก็บเงินไปอีก 20-30 ปี ถึงจะมีเงินเท่านั้น
    กว่าจะถึงเวลานั้น ต้องเสียเงินเช่าบ้านไปกี่ตัง
    และจะมีบ้านราคาเท่านั้นให้ซื้ออยู่หรือเปล่า
    นั่นแหละปัญหา

    การได้กู้มันเป็นเรื่องของการซื้อโอกาสซื้อเวลา
    ลองชั่งน้ำหนักดูว่าได้คุ้มกับเสียหรือไม่ แล้วค่อยตัดสินใจ
    เพราะไม่มีใครบังคับให้เรากู้เงินแบงค์อยู่แล้ว

    By: Kingdom of Heaven
    Since: 13 ส.ค. 55 08:47:09

  25. admin Post author

    ต่อให้ซื้อสด  ก็อดคิดไม่ได้อยู่ดีว่า  ถ้าไม่เอาเงินไปซื้อบ้าน  เอาไปลงทุนอย่างอื่นจะได้ผลตอบแทนเท่าไหร่  
        ผมว่าแยกคิดดีกว่าครับ  การลงทุนกับความพอใจ  ถ้าคิดว่าเป็นการลงทุน  ต้องคิดให้ละเอียดเลย  ซื้อตอนนี้ราคาเท่าไหร่  ถ้าเช่าต้องเสียค่าเช่าเท่าไหร่  ได้ประโยชน์อะไรบ้าง  ค้าขายได้ไหม  ผลตอบแทนเท่าไหร่    และถ้าซื้อในอนาคตราคาจะขึ้นประมาณเท่าไหร่   อันนี้คิดแบบลงทุนนะครับ   แต่ถ้าคิดแบบพอใจ  บ้านเราพอใจก็ซื้อเลย  ความพอใจตีค่าเป็นเงินไม่ได้หรอกครับ

    By: marupong
    Since: 13 ส.ค. 55 09:58:27

  26. admin Post author

    คุณก็เก็บเงินให้ได้ 2.5 ล้านแล้วไปซื้อบ้านสิครับ
    คุณคิดว่าคุณใช้เวลากี่ปี กว่าจะเก็บครบ 2.5 ล้าน พอเก็บเงินครบ ราคาบ้านคงเกิน 3 ล้าน ก็ต่อเก็บอีก ชาตินี้จะมีบ้านอยู่หรือไม่ ส่วนตัวผมถึงแหม่จะผ่อนผมก็มีความสุขเพราะผมมีบ้านอยู่ และก็ผ่อนได้ไม่เดือนร้อน มีเวลาอยู่กับบ้านอยู่เรา 40-50 ก่อนจะตาย ดีกว่าเก็บเงินซื้อบ้านเงินสด แล้วมีเวลาอยู่กับบ้านแบบมีความสุข 10-20 ปีแล้วก็ตาย

    By: PethaiSS
    Since: 13 ส.ค. 55 10:47:36

  27. admin Post author

    อ่านมาถึงตอนนี้ งั้น จขกท ก็เอาครึ่งทางซิ เพราะมีข้อดีเสียทั้งสองทางแตกต่างกัน

    ถ้า บ้าน 5 ล้าน ก็ใช้เงินสด 2.5 แล้วกู้ธนาคาร อีก 2.5 ยังงี้ก็โอนะ

    เป็นการบริหารความเสี่ยง รูปแบบหนึ่ง อิอิ 🙂

    แต่สำหรับผมเองนะ ถ้าไม่มีเงินก็กู้ซื้อไปเลยครับ ไม่คิดมาก เพราะ ซื้อตอนนี้ก็ได้อยู่ตั้งแต่ปีนี้ มีบ้านให้ตกแต่งตั้งแต่ปีนี้ มีความสุขที่ได้อยู่ในบ้านแบบที่ต้องการตั้งแต่ปีนี้ ไม่ต้องรออีก 30 ปี การกู้ซื้อบ้าน แม้จะเสียดอกเบี้ย แต่ก็ได้รับความสุขอย่างอื่นจากการเป็นเจ้าของบ้านตั้งมากมายนะครับ โดยเฉพาะอยู่กับครอบครัวในบ้านของเราเอง 🙂

    By: นักลุ้น
    Since: 13 ส.ค. 55 11:08:35

  28. admin Post author

    จขกท.  แค่บอกว่า ดอกเบี้ยที่เสียให้ธนาคาร เราสามารถซื้อบ้านได้อีก หนึ่งหลัง    ไม่ใช่เหรอครับ

    หรือว่า ผมอ่านผิด

    By: petepoo
    Since: 13 ส.ค. 55 12:23:36

  29. admin Post author

    เคยตกใจเหมือนกับเจ้าของกระทู้ค่ะ เครียดไปเลยเหมือนกัน พอลองหาข้อมูลและคำนวณออกมาอย่างละเอียดแล้วจะทำให้เรามีความเข้าใจมากขึ้นนะคะ  และสามารถวางแผนการผ่อนให้เหมาะกับรายรับของเราค่ะ ลองหาข้อมูลดูนะคะ เป็นกำลังใจให้คนอยากมีบ้านค่ะ

    By: เต่าตัวน้อย กินน๊านนาน
    Since: 13 ส.ค. 55 12:30:57

  30. admin Post author

    สมมติว่าเก็บเงินได้ 2.7 ล้าน ตามนั้นแล้วจริงๆ
    จ่ายสดดีกว่าจริงๆ หรือ?
    ก็ไม่เสมอไปนะ

    หากว่าจ่ายสด ก็มีข้อดีคือ สบายใจ ไม่ได้ชื่อว่าเป็นหนี้ ได้โฉนด สามารถนำไปใช้กู้เงินลงทุนต่อไปได้

    อีกแบบ คือ ลองคิดง่าย ๆ สมมติ เงิน 2.7 ล้าน สามารถทำให้ออกดอก 5% ต่อปี
    เมือครบ 30 ปี เงินก้อนนี้จะเพิ่มเป็น 2.7 ล้าน + 2700000*.05*30 = 6.75 ล้าน (คิดคร่าว ๆ นะ)  
    แล้วถ้าเราทำให้ออกดอกมากกว่านี้อีกล่ะ ???

    หมายความว่า เมื่อครบ 30 ปี เราจะได้บ้าน + ผลกำไรจากเงินก้อน + การได้อยู่บ้านมาตั้ง 30 ปี

    สรุปว่า หากเรามีเงินก้อน ตราบใดที่เราสามารถทำให้เงินก้อนนั้นงอกเงยได้มากกว่าอัตราดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายหนี้
                 เราก็ควรนำเงินก้อนนั้นมาทำให้งอกเงย  

    อันนี้แนวคิดเรานะ แต่ก็แล้วแต่คนนะ บางคนชอบความสบายใจ ก็จัดสดไปเลย

    By: koonniwan
    Since: 13 ส.ค. 55 14:06:53

  31. admin Post author

    อ่านดู …. มีแต่คนคิดว่า..

    ดาวน์บ้านไปก่อน ค่อย ๆ ผ่อน
    แล้วเอาเงินส่วนที่เหลือไปลงทุน

    แต่ทำไมมีแต่คนคิดว่า จะได้ผลตอบแทน เท่านั้น เปอร์เซ็นต์ เท่านี้ เปอร์เซ็นต์!!???!?

    ไม่มีใคร มองทาง "ธุรกิจจะเจ๊ง หรือ เสมอตัว" เลย!!!

    วิกฤตฟองสบู่ทั้งหลาย ก็เกิดจากความคิดแบบนี้แหละครับ

    ไม่ได้มาแย้ง การกู้ หรือ การลงทุน

    แต่จะมากระตุกเรื่องการ "มองโลก" มากกว่า….
    อย่ามองแต่ด้านได้อย่างเดียว

    …เดี๋ยวจะเป็นเหมือนผม … อิอิ

    By: การเวก
    Since: 13 ส.ค. 55 14:36:52

  32. admin Post author

    จะมาเพิ่มนิดนึง

    เคยได้คุยกับนายแบงค์ (ธรรมดา ๆ ) คนนึงในโต๊ะกินข้าว
    แต่น้าเขาให้ข้อคิดเล็ก ๆ อันนึง

    เพื่อนในกลุ่มคนนึง มีความภาคภูมิใจว่า "ตัวเองมีบ้าน"
    บอกว่าภูมิใจมากที่มีบ้าน ตั้งแต่อายุน้อย ๆ ให้พี่น้องได้อยู่อาศัย ฯลฯ

    น้าธนาคารคนนี้ก็ถามเรื่อง รายได้ และ ยอดที่เป็นหนี้

    แล้วก็ได้แต่สั่นหัว … แล้วบอกว่า
    "เอ็งเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า บ้านที่เอ็งบอกว่าซื้อน่ะ … ที่จริงแล้ว
    มันเป็นบ้านที่เอ็งเช่า ต่างหาก …. เช่ากับธนาคาร ด้วยโปรโมชั่น เท่านั้นปี เท่านี้ปี
    หรือ จ่ายค่าเช่าต่อเดือนเพิ่มขึ้นเท่านั้น เท่านี้ แล้วธนาคารถึงจะยกบ้านให้" …

    ตอนนั้นฟังแล้ว คิดว่า น้าเขาคงหมั่นไส้ เลยบลัฟ …

    แต่หลังจากนั้น เจอยุคพี่จิ๋วเราเข้าไป
    โดนไล่ออกจากงาน ตกงาน เกือบสองปี
    ต้องขายบ้านแบบขาดทุน ฯลฯ

    ทุกวันนี้ เพื่อนคนนี้ ก็เช่าบ้าน (เช่าจริง ๆ ไม่ใช่ซื้อแล้วผ่อน)

    เห็นแล้วก็เสียดาย … เพราะถ้าตอนนั้นเพื่อนเราคนนี้ยอม
    ลดสเปคบ้านลงมา (อาจจะต้องทำใจหน่อย)
    แต่อย่างน้อย ทุกวันนี้ก็คงจะมีบ้าน กระจอก ๆ อยู่
    แต่เป็นของตัวเอง "ที่ไม่มีใครมาไล่" …

    เล่าให้ฟัง … ถ้าคิดว่าค้านกับความรู้สึกของคนอยากเป็นหนี้ (ก้อนใหญ่มาก ๆ) จนตัวสั่น
    ก็ขออภัยด้วย

    By: การเวก
    Since: 13 ส.ค. 55 14:53:48

  33. admin Post author

    ใครใคร่คิด คิดค่ะ
    ใครใคร่ซื้อ ซื้อค่ะ
    ใครไม่ใคร่ซื้อ ก็ไม่ต้องซื้อค่ะ

    ชีวิตเป็นของเรา ตัดสินใจในอันที่จะทำให้ชีวิตตัวเองมีความสุข
    (โดยไม่เบียดเบียนคนอื่น เป็นใช้ได้)
    เราว่าอ่ะนะ

    By: Lovely Creature
    Since: 13 ส.ค. 55 15:47:14

  34. admin Post author

    ชีวิตมันไม่ใช่การลงทุนทุกเรื่อง มัวแต่มาคิดว่า ถ้าเอาเงินไปลงทุน… จะได้…  คนเราบางทีมันก็ไม่ได้ลงทุนเป็นกันทุกคน ส่วนใหญ่ได้มาก็เข้าธนาคารไม่ก็ซื้ิอนู่นนซื้อนี่ เที่ยวนู่นเที่ยวนี่ บางครั้งการจะซื้อไรซักอย่างมันก็เป็นการซื้อเพื่อสนอง NEED โปรดอย่าได้คิดเยอะกับชีวิตที่แสนสั้นนี้เลย มีปัญญาซื้อแล้วไม่เดือดร้อนก็จัดไป

    By: Che_Eng
    Since: 13 ส.ค. 55 20:08:54

  35. admin Post author

    ตารางตัวคูณเงินเฟ้อที่สมมติให้อัตราเงินเฟ้อเป็น 3% ต่อปี
    จำนวนปี     ตัวคูณเงินเฟ้อ
    5                1.16
    10              1.34
    15              1.56
    20              1.81
    25              2.09
    30              2.43

    เงิน 2.7 ล้านบาทตอนนี้มีค่าเท่ากับเงินกี่บาทใน 30 ปีข้างหน้า
    =2.7X2.43
    =6.56 ล้านบาท
    สบายใจขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ
    ปล จะนำไปคูณตรงๆแบบนี้ไม่ได้นะคะ เพราะเรามีทะยอยจ่ายเงินไปทุกๆเดือนเป็นค่าผ่อน ตัวเลขที่จะนำมาคูณจะไม่ใช่ 2.43 ค่ะ จะเป็น 1 กว่าๆ

    By: Sinan
    Since: 13 ส.ค. 55 20:13:56

  36. admin Post author

    ไม่ได้มีใครบังคับให้กู้ครับ สมัครใจอยากเป็นหนี้เองกันทั้งนั้น หรือว่าไม่จริง

    By: mhaque
    Since: 14 ส.ค. 55 07:12:32

  37. admin Post author

    กู้บ้าน  ถ้าจ่ายแค่ขั้นต่ำ มี จุกอกตาย

    ต้อง จ่ายต้นให้มากที่สุด เพื่อ ลดดอกให้มากๆ

    ซื้อบ้าน ซื้อด้วย กำลังที่มากที่สุด ดีแล้ว เพราะ เดี่ยว หน้าที่การงานก็ ดีขึ้น ตามอายุ ราคาก็ ดีดตัวตามเงินเฟ้อ

    เมื่อ ยี่สิบปีก่อน  แม่ ซื้อบ้าน ราคา 2.4 แสนด้วย เงินสด เดี่ยวนี้ ราคายัง ทะลุล้านบาทไปแล้ว  ถ้า สมัยนั้น ซื้อบ้าน ราคา 1 ล้านบาทไว้ ตอนนี้คง ราคาไม่น้อย

    By: ก้นกบ
    Since: 14 ส.ค. 55 16:13:41

  38. admin Post author

    การซื้อของเงินผ่อน ก็คือการลงทุนชนิดหนึ่งครับ

    และก็แน่นอนว่าการลงทุนมีความเสี่ยง เสี่ยงมากเสี่ยงน้อย คงอยู่กับความมั่นคงของรายได้ของแต่ละคนเป็นหลัก

    By: RadiS
    Since: 14 ส.ค. 55 20:37:31

  39. admin Post author

    คิดยังงันไม่ได้นะครับ บ้านพ่อผม จาก 4 แสนกว่าๆเป็น เกือบ 10 ล้านนะครับ ใช้เวลา 17 ปีครับ  ราคาล่าสุด

    By: lyonheartz
    Since: 15 ส.ค. 55 00:05:19

Leave a Reply