ผมก็เป็นลูกหนี้คนหนึ่งของ ธอส นะครับ ซึ่งผมก็ยื่นเรื่องทัน soft loan ทันในวงเงิน 9000 ล้านบาทแรก
แต่ยังรอเรียกไปทำสัญญาอยู่ครับ
เห็นมีหลายคนบ่นทำ ธอส หมดไวจัง เหตุผลเพราะ จำนวนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ เทียบกับวงเงิน มันไม่สมดุลกันไงครับ
เอาข้อมูลมาแชร์ครับ
ธอส มีลูกค้าที่ขอรับความช่วยเหลือจากน้ำท่วม 55,000 ราย (พักหนี้ 6 เดือน)เทียบกับวงเงิน soft loan ประมาณ 29,000 ล้านบาท
สมมุติมีคนที่จะได้ soft loan แค่ 10,000 คน
ยังไม่นับลูกค้าใหม่ + ลูกค้ามีเส้น (เช่น พนักงานธนาคารเอง,ญาติพนักงาน, อื่นๆ) คุณจะได้ soft loan คุณยังต้องเป็น 18 คนแรกจากคน 100 คนเลยครับ
พอร์ตสินเชื่อบ้าน
ธอส 680,000 ล้านบาท
ไทยพาณิชย์ 320,000 ล้านบาท
กรุงไทย 190,000 ล้านบาท
กสิกรไทย 185,000 ล้านบาท
ออมสิน 158,000 ล้านบาท
อันนี้คือข้อมูลที่ bot จัดสรร soft loan ให้ เรียงจากมากไปน้อย(เป็นข้อมูลที่ผมหาได้จาก Internet อาจไม่ถูกต้อง 100 % นะครับ)
1. กสิกรไทย 60,000 ล้านบาท
2. กรุงเทพ ไม่ระบุตัวเลขที่ชัดเจนว่าได้จำนวนเท่าไหร่
3. ไทยพาณิชย์ 55,000 ล้านบาท
4. กรุงศรีอยุธยา 25,000 ล้านบาท
5. ธอส 6000+14000 = 20,000 ล้าน + ของ ธอส 3000+6000 = 29,000 ล้านบาท
6. ออมสิน 15,000 ล้านบาท
7. กรุงไทย 10,000 ล้านบาท
คุณเห็นอะไรไหมครับ
ถ้าโครงการนี้ต้องการช่วยเหลือ ภาคประชาชน ที่ผ่อนบ้านอย่างเรา ควรจะจัดสรร ตามพอร์ตสินเชื่อบ้าน
ซึ่ง ธอส ควรจะได้ ไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท ถ้าเทียบกับพอร์ตสินเชื่อบ้าน แต่ทำไม ไทยพาณิชย์,กรุงเทพ,กสิกร
ถึงได้รับอนุมัติวงเงินตั้งแต่ 5.5 – 6 หมื่นล้านบาท
ลองหาข้อมูลใน net ดูครับ เคยอ่านเจอว่าวงเงิน 60,000 ล้านบาท ของกสิกรแยกเป็น 40000 สำหรับภาคธุรกิจ(SME วงเงินรายละ 30 ล้าน)
20000 สำหรับสินเชื่อบ้าน
นั่นแสดงว่า จุดประสงค์หลัก ของโครงการนี้ก็เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ ไม่ใช่ประชาชนที่ผ่อนบ้านอย่างเราๆ
ถามว่าผมเห็นด้วยไหม ผมเห็นด้วย 100% ครับ เพราะหากภาคธุกิจล้มถึงคนที่ผ่อนบ้าน ได้ดอกเบี้ย 0 % หากไม่มีงานทำจะเอาเงินที่ไหนไปส่งละครับ
ประมาณว่าถ้าภาคธรกิจยังดำเนินการได้ เราก็ยังมีเงินไปจ่ายค่าบ้านอยู่ประมาณนั้นครับ
By: PheakEngi
Since: 23 ส.ค. 55 20:53:57
bot เขาตั้งใจช่วยผู้เดือดร้อน
แต่มีผู้ไม่เดือดร้อน
อยากได้ดอกเบี้ยถูกๆ
มีแต่คนที่มุ่งแต่จะเอาผลประโยชน์
นี่ละครับพวกเรา
By: จำปาไฟ
Since: 23 ส.ค. 55 22:02:13
คุณจำปาไฟ ครับ อยากทราบว่าผู้ที่ไม่เดือดร้อนนี้ หมายถึงผู้ที่ไม่เข้าข่ายเป็นผู้ประสบภัย แล้วได้ soft Loan ใช่หรือไม่ หากใช่ กรุณาช่วยยกตัวอย่างมาให้หน่อยได้่มั๊ยครับ ผมจะได้ไปร้องเรียน bot เพื่อให้เพิกถอนสิืืทธิ์ ครับ เพราะมีคนไม่ได้อีกหลาย คน
By: บองหลา
Since: 24 ส.ค. 55 05:43:28
ที่คุณจำปาไฟว่าอาจหมายถึงผู้ที่ไม่ประสพภัยจริงแล้วมีสิทธ์ครับ บางคนได้ง่ายเหลือเชื่อ บางคนทำยังไงก็ดูเหมือนจะไม่มีทางได้รับอนุมัติ Thailand Only
By: V39
Since: 24 ส.ค. 55 07:00:18
ถ้าอยากให้ประเทศเราพัฒนา รู้เห็นใครละเมิดสิทธิ์ของเราก็ควรแจ้่งความไปเลย เพื่อจะได้ลงโทษคนพวกนั้นครับ ความเป็นทำจะได้เกิด หากกล่าวลอยๆ ไม่มีที่มาที่ไป มีแต่ทำให้ประเทศเสียหายมากขึ้นครับ ไ่ม่เป็นผลดีอะไรเลย
ส่วนที่บางคนได้ง่าย นั่นเปนเพราะปัจจัยหลายอย่าง รวมไปถึงการให้บริการของแต่ละธนาคารด้วยครับ ตัวผมเองก็ได้มาแบบง่ายมากๆ ใช้เวลา 20 นาที รอ 2 สัปดาห์ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ ผมต้องคิดและเช็คข้อมูลกันเป็นอย่างดี ตั้งแต่แรก โดยมมองไปถึงธนาคาร การประกอบการะนาคาร บุคลากร ทางสินเชื่อ รวมกันแล้ว จึงเืลือกออมสิืนและก็ไม่ผิดหวังครับ
By: บองหลา
Since: 24 ส.ค. 55 08:44:42
คุณ บองหลา ครับ ผมขอตอบในความเห็นของผมนะครับ
โครงการนี้ออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
โดยมีเงื่อนไขหลักๆ บ้าน หรือ ที่ทำงานน้ำท่วม
1. ผู้กู้รายเก่า ที่ประสบปัญหา
2. คนที่ refinance จาก bank อื่น
3. ผู้กู้รายใหม่
ที่ผมข้องใจคือ ผู้กู้รายใหม่ครับ แยกเป็น 2 ส่วนคือ
1. ผู้กู้รายใหม่ ที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ประสบภัย อันนี้ผมเห็นด้วย เพราะบ้านอาจเสียหายหนัก หรือ ซ่อมแล้วไม่คุ้ม
แต่ขอให้ตรวจสอบหลักฐาณให้ละเอียดเป็นคนที่ได้รับความเดือดร้อนจริงไหม มีเหตุผลพอไหมที่ต้องซื้อบ้านใหม่
2. ผู้กู้รายใหม่ เข้าหลักเกณฑ์ ที่ทำงานน้ำท่วม แต่ภูมิลำเนาไม่ได้อยู่ในเขตที่ประกาศเป็นเขตน้ำท่วม
แต่มาซื้อบ้านใหม่ แล้วมาใช้โครงการนี้
ยกตัวอย่าง นาย ก ที่ทำงาน เช่าอยูหอพักแต่ที่ทำงานน้ำท่วม พอโครงการนี้ออกมา นาย ก ไปซื้อบ้านใหม่เพื่อเข้าโครงการนี้
ซึ่ง case นี้นาย ก ไม่สมควรจะใช้โครงการนี้ได้นะครับ ถึงแม้ที่ทำงานน้ำจะท่วม แต่การสร้างภาระหนี้สินโดยการซื้อบ้าน
ได้ ควรใช้เรตปรกติของธนาคารต่างๆ
เงินส่วนนี้ควรจัดสรรให้เฉพาะคนที่มีภาระอยู่แล้ว หรือ ผู้กู้ใหม่ ที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่
บ้านเดิมเสียหายหนักมากประมาณว่าซ่อมไม่คุ้ม
ส่วนคนที่อยู่หอพักบ้านเช่าแล้วถือโอกาสใช้ ดอกเบี้ยตัวนี้ผมไม่เห็นด้วยครับ
By: PheakEngi
Since: 24 ส.ค. 55 08:47:44
Soft Loan ไม่ได้ปล่อยแต่สินเชื่อบ้านนะครับ เท่าที่ทราบมา
1. กู้ซื้อบ้าน+รีไฟแนนซ์ วงเงินสูงสุด 3 ล้าน
2. กู้อเนกประสงค์(ต่อเติม+ซ่อมแซม)
3. SME วงเงินสูงสุด 10ล้าน
พวกนี้กู้ Soft Loan ได้
By: DustzySeouL`
Since: 24 ส.ค. 55 10:25:23
เคยเค้าไปตรวจสอบรายชื่อพื้นที่ประสบอุทกภัยในเว็ปของ TMB
บางพื้นที่เราว่าน้ำไม่ได้ท่วมเลยนะคะ
By: porvie
Since: 24 ส.ค. 55 10:55:47
คุณPheakEngi "ส่วนคนที่อยู่หอพักบ้านเช่าแล้วถือโอกาสใช้ ดอกเบี้ยตัวนี้ผมไม่เห็นด้วยครับ" ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ กับข้อนี้ เพราะผู้ที่เช่า บ้านแล้วโดนน้ำท่วม แล้วได้สิทธิ์ Soft Loan เพื่อไปซื้อบ้านใหม่ ดูแล้ว คนกลุ่มนี้ เดือดร้อนน้อยกว่าคนที่มีบ้านและโดนน้ำท่วมครับ ผู้เช่าเสียหายก็แค่ทรัพย์สินในบ้านเช่า ซึ่งพิสูจน์ทราบได้ กับค่าที่ต้องไปหาที่เช่าใหม่ ซึ่งก็ ไม่น่าเกิน 3 เดือน จริงแล้วตรงนี้ทางการน่าจะชดเชยตรงๆไปเลย จะได้ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกับซอฟโลน
แต่จากที่ดูๆ ผู้เช่ากว่า 80 % ไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านเข้าไปยังบ้านเช่าครับ จึงไม่ค่อยได้ใช้สิทธิ์นี้ครับ
By: บองหลา
Since: 24 ส.ค. 55 11:31:24
พื้นที่น้ำท่วม ขึ้นอยู่กับว่าประกาศเป็นเขตภัยพิบัตหรือไม่
ถ้าอยู่ในเขตที่ประกาศถือว่า เข้าข่ายครับ สามารถขอกู้ได้ แม้น้ำจะไม่ท่วม
รวมถึง ที่ทำงานและหรือสถานประกอบการ
แม้บ้านไม่อยู่ในเขตฯ แต่ ที่ทำงานหรือสถานประกอบการอยู่ในเขตฯ
ก็เข้าข่ายที่ขอกู้ได้ด้วยครับ
By: หมูน้อยเบอร์7
Since: 24 ส.ค. 55 13:51:29
ผมว่า พวก Refinance มากกว่าคนใช้สิทธิเพื่อซื้อบ้านใหม่อีกนะ ทั้งๆที่บ้านก็อาจจะไม่ท่วมก็ได้ แต่อยู่ในเขตภัยพิบัติพอดี
เพราะดอกเบี้ยมันถูกกว่า ก็เลยมาเอา softloan เวลานี้ใครเค้าจะซื้อบ้านใหม่ในเขตน้ำท่วมกันหล่ะ
ถ้าออกหลักเกณฑ์หยุมหยิมมาก การขออนุมัติก็จะล่าช้ามาก เพราะจนท. จะกลัวว่ามันไม่เข้าหลักเกณฑ์ต้ัองพิจารณาอย่างละเอียด
แล้วก็จะมีกระทู้ทำนองว่า ขอ softloan มาขอกู้นะ ไม่ได้มาขอทาน ทำไมมันนานขนาดนี้
คงต้องมองทั้งสองทางด้วยครับ
By: jutapit
Since: 24 ส.ค. 55 15:37:44
ผมกำลังบอกว่าคนกลุ่มไหนน่าจะเดือดร้อกว่ากันนะครับ
ระหว่าง คนที่เป็นหนี้อยู่แล้ว กับคนกำลังจะเป็นหนี้ น ครับ
By: PheakEngi
Since: 24 ส.ค. 55 18:34:55
เขาน่าจะให้สิทธิ์คนที่เคยผ่อนชำระหนี้เอาไว้ก่อนนะ เพราะว่าจำเป็นจริง ๆ อยากเอาส่วนต่างไปซ่อมบ้าน ตอนนี้ส่งอยู่ที่ 7.25 % ถ้าได้ 3 % สัก 5 ปีจะเอาส่วนต่างนี้ไปซ่อมบ้านที่เสียหาย ส่วนผู้กู้รายใหม่ก็น่าจะแยกออกจากส่วนนี้ คนละส่วนกัน จริงไหม
By: น้องนาง
Since: 28 ส.ค. 55 12:44:27