จะเลือกแอร์ที่เหมาะสมตามนี้ รบกวนแนะนำหน่อยครับ
ทำห้องต่อเติมทำใหม่ครับ เป็นอาคารชั้นเดียว ผนังเป็นมวลเบา ตัวผนังไม่โดนแดดเลย ฝ้าสูง 3 เมตรฉาบเรียบ หลังคา metal sheet พร้อมฟรอยกันร้อน และบนฝ้าปูฉนวนกันความร้อน 6 นิ้วอีกชั้น ระยะห่างของแปกับฝ้าราว 50-70 ซม ชายคาด้านนอก มีการทำช่องระบายอากาศได้ระดับหนึ่ง ห้องโดนแสงแดดเฉพาะลงบนหลังคา 70% ของพื้นที่ช่วงเวลา 11-15.00 น. ห้องหน้าหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีลมสบายพัดตลอดปี ลอดผ่านใต้ตันไม้ใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ด้านหน้าแผ่คลุมหลังคาบางส่วน ขนาดของห้อง 32 ตรม 8×4 เมตร ถูกแบ่งออกเป็นห้อง 4×4 เมตร 2 ห้อง โดยมีประตูสไลด์เป็นตัวกั้นระหว่าง 2 ห้อง เปิดออกทะลุถึงกันได้ยามต้องการความโล่ง สบาย คล้ายๆ one bed room ของคอนโดครับ
ห้องนึงแบ่งไว้เพื่อเลี้ยงเด็กอ่อน อีกห้องนึงให้คุณแม่นอนพักฟื้นหลังจากผ่าคลอด มี led ห้องละ 1 เครื่องและไม่มีตู้เย็นครับ ไฟเพดานเป็น led เช่นเดียวกัน
ถ้าจะเลือกแอร์ โดยคงเปิด ห้องละ 12 ชม. สลับกัน คือห้องเด็กอ่อนก็ 8.00-20.00 ส่วนห้องคุณแม่ก็ 19.00-08.00 ทุกวัน อุณหภูมิที่ใช้อยู่ในช่วง 23-26 องศาเท่านั้น ตำแหน่งของแอร์ focus ไปที่เตียงทั้ง 2 ห้อง
รบกวนถามว่า
1. ควรใช้แอร์ขนาดกี่ BTU ในแต่ละห้อง
2. ควรใช้ inverter หรือ ธรรมดาทั่วไป
3. ถ้าใช้ Inverter กี่ปีถึงจะคุ้มค่าส่วนต่างที่ต้องซื้อแอร์แพงกว่าจากการใช้งานแบบนี้
4. ในใจมี mitsubishi กับ Daikin ที่น่าจะเลือก ควรไปทางไหน หรือมีอะไรแนะนำโดย ให้ดีพอกันแต่ประหยัดค่าเครื่องกว่า
รบกวนแนะนำหน่อยครับ ขอบคุณมากครับ
By: ASA by BBS
Since: 29 ก.ย. 55 23:31:15
ขอตอบตามข้อนะครับ
1.แอร์แต่ละห้อง ใช้การคูณแบบร้านแอร์ทั่วไป 4*4*800 =12800BTU เนื่องจากพื้นที่มีต้นไม้ปกคลุมซึ่งตามหลักการวิจัยการปลูกจะช่วยลดอุณหภูมิของบ้านลงได้ครับ
2.แนะนำให้ใช้แอร์ inverter ครับ การทำงานของคอมเพรสเซอร์จะกินกระแสไฟฟ้าน้อยกว่าแบบธรรมดา และยังมีหลักการทางไฟฟ้าอีกนิดหน่อยในเรื่องของการควบคุมการใช้พลังงานไฟฟ้าและอุณหภูมิ รับประกันว่าดีกว่าแอร์แบบธรรมดาแน่นอนครับ
3.เปิดแอร์ทุกวัน ผมคิดว่าอย่ามองที่คุมทุนเลยครับ ดูที่เราสามารถประหยัดค่าใช้พลังงานไฟฟ้าได้ต่อปีดีกว่าครับ ดูจากฉลากที่ติดหน้าเครื่องครับ ปีของฉลาก และค่าประสิทธิภาพ ครับควรเกิน 11.6 มากกว่านี้ยิ่งดีครับ
4. แล้วแต่ใจรักครับในว่าชอบยี่ห้อไหน ติดตั้งตามใจผู้ใช้งานครับ ลองปรึกษาคนในครอบครัวครับ
การประหยัดค่าเครื่องกับการประหยัดค่าใช้พลังงานไฟฟ้าที่เราจ่ายทุกเดือนตลอดระยะเวลาอายุการใช้งานเครื่องผมคิดว่าน่าจะประหยัดพลังงานไฟฟ้าดีกว่าครับ ค่าเครื่องเราติดตังครั้งเดียวแล้วใช้สิบปี กับการจ่ายค่าไฟแพงตลอดสิบปีเพื่อติดตั้งเครื่องที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานต่ำ ประหยัดพลังงานไว้ให้ลูกหลานเราดีกว่าครับ เหมือนในโฆษณาครับ
By: electrical teacher (netpoly)
Since: 30 ก.ย. 55 00:14:18
ขอบคุณครับ
อธิบายจากข้อ 3. ส่วนต่างของค่าเครื่อง inverter กับค่าไฟฟ้าที่เราประหยัดได้เที่ยบกับการซื้อแอร์ econo ครับ เช่น ส่วนต่าง 15,000 แต่ประหยัดค่าไฟกว่าเดือนละ 500 ก็ 3 ปีคืน ประมาณนั้นครับ
ว่าแต่ถ้าจะใช้ 9000 btu ที่ Mitsu คุยว่า Err 16 นี่ไหวไหมครับ สำหรับทั้ง 2 ห้องเลย
By: ASA by BBS
Since: 30 ก.ย. 55 00:24:26
ทำห้องสุดยอดเลยครับ เก็บทุกรายละเอียด ใส่ใจมาก ๆ
1. ขนาดแอร์ 12800 แต่ลดได้ เพราะทำห้องดี ไม่ร้อน ได้ประมาณ 10000BTU ครับ
2-3 ขอผ่าน
4. ส่วนตัวเชียร์ Daikin ครับ
By: mkputon
Since: 30 ก.ย. 55 01:56:38
ถ้ามีการแบ่งห้องเป็นสองส่วน ก็ต้องติดแยกอิสระกันในแต่ละส่วน
ห้องขนาด 4×4 ตร.ม. ผมแนะนำให้ติดตั้งแอร์ขนาด 12000 – 13000 BTU ติดในส่วนห้องที่แบ่งส่วนละเครื่อง
ถ้าจะเอาแบบธรรมดา ที่แนะนำก็มี Daikin กับ Mitsubishi Electric
ถ้าให้เลือกสองตัวนี้ ผมแนะนำ Mitsubishi Electric Mr.slim รุ่น Econo Air ซึ่งเป็นรุ่นมาตรฐานที่ได้รับความนิยมสูง
วัสดุและการออกแแบบผ่านหมด ราคาก็สมเหตุสมผล ช่างในท้องตลาดมีความคุ้นเคยกับแอร์ตัวนี้มาก ตัวนี้ผมผ่านงานมาเยอะมาก เลยค่อนข้างมั่นใจ
ส่วน Daikin รุ่นธรรมาดา เคยเจอมาบ้าง โดยรวมก็ถือว่าค่อนข้างโอเค แต่เสียที่ว่าถาดรองน้ำทิ้งเป็นชิ้นเดียวกับฐาน ถอดแยกออกมาล้างไม่ได้(ไม่รู้ว่าปัจจุบันปรับปรุงยัง)
ถ้าจะเอาแอร์แบบ Inverter ก็มีข้อดีที่ประหยัดไฟ และการรักษาระดับอุณหภูมิที่คงที่ แต่ราคายังถือว่าค่อนข้างแพงไป
แอร์ Inverter ยอดนิยมก็จะเป็นของ Daikin Inverter แต่ตัวนี้ต้องระวังไว้นิดเรื่องแผงวงจรภายใน เจอมาหลายกรณีที่มีจิ้งจกเข้าไปในแผงวงจร แล้วถูกช็อตตาย ซึ่งก็พลอยทำให้แผงวงจรเสียหายไปด้วย ซึ่งถ้าแผงวงจรเสียหายก็ต้องเปลี่ยนใหม่ ราคาค่าตัวแผงวงจรก็หลายพันบาท
ตัวยอดนิยมถัดมาก็จะเป็นแอร์ Inverter จากค่าย Mitsubishi Electric แต่ราคาค่าตัวของแอร์ Inverter แบรนด์นี้ แพงไปนะผมว่า
แอร์ Inverter แบรนด์อื่นๆที่น่าสนใจก็ยังมี เช่นของ Toshiba หรือไม่ก็เป็นแอร์ Inverter ราคาย่อมเยาจากค่าย Samsung มีอยู่รุ่นหนึ่งขนาด 13000 BTU ราคาไม่ถึงสองหมื่น(ประมาณ 17XXX – 18XXX)
ส่วนเรื่องความคุ้มค่าของแอร์แบบธรรมดา กับ Inverter ผมอยากให้มองเรื่องการใช้ง่นเป็นหลัก ถ้าเปิดใช้งานเป็นประจำทุกๆวัน แบบ Inverter ก็จะให้ความคุ้มค่าเรื่องการประหยัดพลังงาน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าแอร์ Inverter ก็ย่อมมีค่าบำรุงรักษาที่แพงกว่าแบบธรรมดา
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล และ ความสะดวกที่จะจ่ายเงินแพงกว่าตอนที่ซื้อ
เรื่องความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับอายุการใช้งาน ผมว่าแอร์ในปัจจุบันนี้ ทำงานอย่างปกติได้ราบรื่นในระยะเวลา 10 – 12 ปี ก็ถือว่าคุ้มแล้ว เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาก้าวหน้าทุกๆวัน สิบปีข้างหน้าอาจจะมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 6 หรือ 7 ก็ได้(ใครจะไปรู้) และแอร์ในปัจจุบันก็มีราคาถูกลงมากเมื่อเทียบกับแอร์สมัยก่อน
และแอร์ในปัจจุบัน เหมือนกับว่ามันไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานได้คงกระพันเหมือนกับแอร์สมัยก่อน ที่บางเครื่องก็ใช้งานได้นานกว่าสามสิบปีก็มีครับ
By: KanichiKoong
Since: 30 ก.ย. 55 03:45:11
ถ้าคำนวณแล้วพบว่าinverter 3ปี คืนทุน แนะนำเอาส่วนต่างซื้อเครื่องฟอกอากาศไว้ในแต่ละห้องเพิ่มดีกว่า สมัยนี้มลภาวะเยอะ แม้อยู่ในที่สภาวะเหมือนธรรมชาติก็ตาม เพราะมลภาวะไปตามสายลม การทำสายลมให้สะอาดวิธีหนึ่งคือใช้เครื่องฟอกครับ
By: BirdMMM10
Since: 30 ก.ย. 55 14:43:34
inverter ถ้ารับได้กับการค่อยๆเย็นเรื่อยๆ ไม่เฉียบ ไม่ทันทีก็ถือว่าเหมาะมาก
อย่าไปคิดถึงจุดคุ้มทุน ซึ่งมันบ่งบอกถึงความเห็นแก่ตัวครับ เราต้องช่วยลดการใช้พลังงาน ถ้าเรามามัวคิดว่า
ถ้าต้องซื้อของแพงขึ้นเพื่อลดการใช้พลังงาน มาคิดถึงความคุ้ม โลกเราคงร้อนขึ้นเรื่อยๆแหละครับ
เหมือนห้องรัชดาเถียงกันเรื่องติดแก้ซ ติด e85 ยอมรับติดแก๊สประหยัดกว่าเยอะมาก แต่มันก็ใช้เชื้อเพลิงฟอซซิลใต้โลก
ที่กำลังจะหมดไปอยู่ดี แต่ใช้แอลกอฮอล์ที่สกัดจากพืชได้ ปลูกใหม่ทดแทนได้ แต่ไม่ประหยัดเงินเท่าไร
By: ชาติ 4300
Since: 30 ก.ย. 55 22:46:00